‘วายุคลั่ง’ของปักษาวายุยังคงไม่สามารถฆ่าหลิงเฉินได้อารมณ์ของมันเริ่มดุเดือดขึ้น หลังจากหยุดร่างที่กระเด็นออกไปโดยเกล็ดวารี์มันก็ส่งเสียงร้องรุนแรงออกมาในฉับพลัน...
เมื่อเสียงแผดร้องดังขึ้นทั่วทั้งร่างของหลิงเฉินที่อยู่ใต้น้ำพลันกระตุก แก้วหูของเขาแทบจะะเิเขาเตรียมพร้อมในทันที และหยุดว่ายน้ำโดยพลันพร้อมกับเตรียมดาบแห่งจิตไว้ในมือของเขา
จิ๊บ~
เสียงร้องที่ยาวนานสร้างระลอกของคลื่น แม้กระทั่งในส่วนลึกของน้ำร่างของหลิงเฉินแข็งทื่อ เขาสูญเสียความรู้สึกในทันที แต่ในเวลาเดียวกันนั้นดาบแห่งจิตในมือของเขาพลันวาบแสงสีขาวขึ้นความรู้สึกสับสนในหัวของหลิงเฉินหายไปจนหมดสิ้น เขารวบรวมความคิดก่อนจะเก็บดาบแห่งจิตเข้าที่ และว่ายไปข้างหน้าเรื่อยๆ ตามการไหลของน้ำ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเผชิญหน้ากับคางคกั์แห่งความละโมบ ดาบแห่งจิตมีบทบาทสำคัญอย่างมากโดยช่วยให้หลิงเฉินต้านทานต่อสกิลสับสนแบบเป็วงกว้างของมันปักษาวายุก็มีสกิลแบบเป็วงกว้างซึ่งเพิ่มสถานะ ‘สับสน’ เช่นเดียวกัน และยังคงเป็ดาบแห่งจิตที่ช่วยเขาไว้ มิเช่นนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็คางคกั์แห่งความละโมบหรือปักษาวายุ หากเขาติดสถานะสับสนและไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองได้ ใน่เวลาที่ติดสถานะสับสนนี้เขาจะตายอย่างง่ายดาย
ร่างของเขาอยู่ในน้ำตลอดเวลาและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องตามการไหลของน้ำ ส่วนเสี่ยวฮุยก็ตามมาด้านหลังเขาต้อยๆการเคลื่อนไหวของมันอิสระเสรีราวกับเดินอยู่บนพื้นดิน ทุกๆ 12 วินาที หลิงเฉินต้องโผล่ขึ้นมาจากน้ำเพื่อหายใจและใน่เวลานี้เองที่ปักษาวายุจะล็อกเป้ามาที่เขาอีกครั้ง แต่การทำซ้ำๆครั้งแล้วครั้งเล่า ปักษาวายุที่ไม่สามารถว่ายน้ำได้ก็ทำอะไรหลิงเฉินไม่ได้เลยในระหว่างนั้น มันปลดปล่อยเขี้ยววายุเหมันต์ วายุคลั่งและร่ำร้องโหยหวนออกมาหลายต่อหลายครั้ง ทว่าพวกมันทั้งหมดไร้ผลกระแสน้ำไหลในหุบเหวนี้กลายเป็ที่กำบังป้องกันอันสมบูรณ์แบบของหลิงเฉิน
ปักษาวายุไม่สามารถทำอันตรายเขาได้ และในทำนองเดียวกันหลิงเฉินก็ไม่สามารถหนีไปจากกรงเล็บของมันเช่นกันนับั้แ่ต้นจวบจนบัดนี้ มันไม่เคยเลิกไล่ตามเขาเลยความกังวลในใจของเขาเพิ่มมากขึ้น เพราะปักษาวายุมีเวลาให้เสียเปล่า แต่เขาไม่มีทุกครั้งที่เขาโผล่ขึ้นมาจากน้ำเพื่อหายใจ เขาต้องดื่มยาเหลืองทันทีเป็อันดับแรกเพื่อฟื้นฟู HP ของเขาให้กลับมาเต็มและดื่มพวกมันขวดแล้วขวดเล่า ก่อนเข้าสู่การทดสอบนี้ เขาได้ซื้อยาเหลืองทั้งหมด 200 ขวด ภายใต้การไล่ล่าของปักษาวายุ ในเวลาเพียงแค่ 20 นาทีกว่าๆ เขาได้ใช้มันไปแล้วเกือบ 100 ขวด ถ้าเขาใช้ยาเหลืองจนหมด เช่นนั้น...เส้นทางเดียวที่เหลืออยู่คือความตายเท่านั้นแม้แต่การหนีจากกรงเล็บของปักษาวายุก็เป็สิ่งที่เป็ไปไม่ได้
นอกจากนั้น ใน่เวลาที่ผ่านมาเขาถูกแม่น้ำพาไปเป็ระยะทางทางทั้งหมดราว 10 กิโลเมตร แต่เขาค่อยๆสังเกตเห็นว่าเขาได้เคลื่อนที่ไปตามแม่น้ำเป็เวลานานแล้ว ทว่าตลอดเวลาทิวทัศน์รอบๆ กลับเปลี่ยนแปลงไปน้อยมาก
ความคิดหนึ่งก่อตัวขึ้นภายในจิตใจของเขาอย่างช้าๆหรือแท้ที่จริงแล้วทิวทัศน์นี้วนซ้ำไปมาไม่มีที่สิ้นสุด? มิฉะนั้น ทำไมหลังจากถูกพามาไกลถึง 10 กิโลเมตรเรายังไปไม่ถึงจุดสิ้นสุดหรือแนวพรมแดนของแผนที่ทดสอบซึ่งไม่น่าจะใหญ่มากนัก!
ถ้าหากมันเป็เช่นนี้จริงๆงั้นที่เรียกว่าจุดเปลี่ยนทางภูมิศาสตร์ก็จะไม่ปรากฏขึ้น หากสิ่งต่างๆดำเนินต่อไปแบบนี้ ไม่นานนักหลังจากนี้ เขาจะตาย!
เขาจะให้เป็แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้แล้ว!
หลิงเฉินว่ายไปตามกระแสน้ำเรื่อยๆทว่าสายตาของเขาไม่ได้มองไปข้างหน้าอีกแล้ว แต่กลับค้นหารอบๆตัวเพื่อหาสิ่งที่สามารถช่วยเขาได้
อีกครั้งที่เขาโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำและสูดหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่โดยไม่ต้องสงสัย เมื่อเขาทำให้ HPกลับมาเต็มดวงตาสีเขียวของปักษาวายุก็ได้ล็อกเป้ามาที่เขาแล้วมันบินมาหาเขาพร้อมกับเสียงของกระแสลม หลิงเฉินพ่นลมหายใจออกมาในตอนที่เขากำลังจะดำลงไปในน้ำอีกครั้ง เขาพลันมองเห็นว่าบนผนังูเา 24 เมตรเบื้องหน้า ตรงตำแหน่งที่ใกล้ๆ กับผิวน้ำนั้นมีเงาสะท้อนขนาดประมาณมนุษย์คนหนึ่งอยู่
นั่นคือ...
หลิงเฉินดำลงไปในน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อหลบการพุ่งโจมตีของปักษาวายุและว่ายไปข้างหน้าเรื่อยๆ ตามกระแสน้ำแต่สายตาของเขานั้นเพ่งมองไปยังทิศทางของเงาที่เขาเห็นก่อนหน้านี้
ว่ายตามกระแสน้ำเข้าไปใกล้ขึ้นๆ เมื่อเขาเข้าไปอยู่ใกล้ๆแล้ว ในที่สุดเขาก็ยืนยันได้ว่า มันคือถ้ำที่ตั้งอยู่ในผนังของูเาจริงๆพิจารณาจากความหนาของเงา ถ้ำนี้น่าจะค่อนข้างลึก ทันใดนั้นเขากลั้นหายใจและว่ายไปยังตำแหน่งที่ใกล้กับผนังของูเาอย่างรวดเร็วจากนั้นเหยียบขึ้นไปบนหินที่ยื่นออกมาใต้น้ำ และะโขึ้นมาจากน้ำ
ตำแหน่งนี้อยู่ห่างจากปักษาวายุเพียงแค่ไม่กี่สิบเมตรเท่านั้นด้วยความเร็วในการบินของปักษาวายุ นี่เป็ระยะที่อันตรายอย่างมากแน่นอนว่าตอนที่เขาะโขึ้นมาจากน้ำกลิ่นอายของปักษาวายุได้ล็อกเป้ามาที่เขาแล้ว พร้อมกับลมพายุรุนแรงบินมาหาเขาระยะทางสั้นลงในชั่วพริบตา
หลิงเฉินที่ะโขึ้นมาจากน้ำจับก้อนหินที่อยู่ตรงหน้าไว้แน่จากนั้นออกแรงอีกครั้งและะโ เขาะโขึ้นมาจากน้ำและลงตรงขอบของถ้ำด้านหลังของเขา กลิ่นอายที่อันตรายใกล้เข้ามา เขาไม่ได้หันกลับไปด้วยความเร็วของปักษาวายุ เขาไม่สามารถหลบหลีกได้จึงใช้เกล็ดวารี์ป้องกันด้านหลังของเขาในทันที
ตูม!
ปักษาวายุกระเด็นออกไปโดยเกล็ดวารี์ส่วนหลิงเฉินถูกกระแทกไปด้านหน้า ฝีเท้าของเขาสะดุดและพุ่งเข้าไปในถ้ำที่มืดมิด
หลังจากเข้าไปในถ้ำ หลิงเฉินถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความโล่งอก เพราะไม่ว่าจะเป็ขนาดหรือความลึกของถ้ำนี้มันก็ล้วนแล้วแต่เป็สิ่งที่เขาหวังจะได้เห็นมากที่สุด ความสูงและความกว้างประมาณ 2 เมตร เพียงพอสำหรับเขาเข้าไปและเคลื่อนไหวแต่ปักษาวายุไม่สามารถเข้ามาได้ หลิงเฉินเดินเข้าไปด้านในถ้ำอย่างรวดเร็วถ้ำนี้น่าจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ รูปร่างภายในเป็ตะปุ่มตะป่ำหลังจากเดินไปได้ประมาณสิบก้าว หลิงเฉินก็ไปถึงสุดสิ้นสุดแล้ว ถ้ำนี้ไม่ได้ตรงดิ่งแต่กลับมีทางโค้งขนาดใหญ่เล็กน้อย นี่หมายความว่าแม้ปักษาวายุจะปลดปล่อยเขี้ยววายุเหมันต์ตรงทางเข้าทั้งหมดที่เขาต้องทำคือการซ่อนอยู่ในตำแหน่งหลังทางโค้งและเขาก็จะไม่ถูกโจมตีจากมัน
น่าจะปลอดภัยอย่างมาก หลิงเฉินผ่อนคลายลงพิงหลังกับกำแพงหินที่เปียกชื้นด้วยความอ่อนล้าการอยู่ในน้ำเป็เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง และในเวลาเดียวกันนี้ต้องอยู่ในสภาวะตึงเครียดสูงอย่างต่อเนื่องนี่เป็การสูบเอาพลังใจของเขาไปมากพอสมควร เสียงร้องของปักษาวายุที่ใกล้หรือไกลออกไป ดังเข้าหูของเขาอย่างไม่หยุดยั้ง ปักษาวายุไม่ได้จากไปไหนแต่เห็นได้ชัดว่ามันรู้ตัวว่าไม่สามารถเข้ามาในถ้ำได้ มันทำได้เพียงบินวนอยู่รอบๆถ้ำอย่างจำใจ
“โฮ่งๆ”
ข้างเท้าของเขาเกิดความรู้สึกของการถูเบาๆหลิงเฉินลืมตาขึ้น พร้อมกับก้มลง มือของเขาวางลงบนหัวของเสี่ยวฮุยอย่างแ่เบาและพูดอย่างหมดหนทางว่า “นอกจากการหลบซ่อนอยู่ที่นี่พวกเราก็ไม่มีวิธีอื่นใดอีกแล้ว”
“หงิงๆ”เสี่ยวฮุยเบิกตากลมโตของมันไม่รู้ว่าจะโต้ตอบเ้านายของมันอย่างไร หลิงเฉินถูกไล่ล่าจากปักษาวายุมาโดยตลอดและั้แ่เริ่มจวบจนบัดนี้ ปักษาวายุก็ทำกับเสี่ยวฮุยราวกับว่ามันไม่มีตัวตนมันไม่เคยปลดปล่อยการโจมตีใดๆ ใส่เสี่ยวฮุยเลยพร์ของมันที่ไม่ดึงดูดความโกรธนั้นไม่ใช่เื่โกหกเลย
หลิงเฉินยืนนิ่งอยู่ในส่วนลึกสุดของถ้ำและไม่ทำอะไรทั้งนั้น เขากำลังรอ...รอให้ปักษาวายุจากไปเองหลังจากที่มันหมดความอดทน ถึงแม้เขาจะรู้แก่ใจว่าความเป็ไปได้นี้มีไม่มากนัก
แต่ก็ไม่มีโชคใดๆ 10 นาที...20นาที...หลังจากเวลาครึ่งชั่วโมงผ่านไปหลิงเฉินยังคงรู้สึกถึงการคงอยู่ของปักษาวายุที่ด้านนอกของถ้ำและเขายังคงได้ยินเสียงร้องของมัน หลิงเฉินมองดูเวลาอย่างช่วยไม่ได้ มันเป็เวลา 6 โมงเช้าแล้ว ณ เวลานี้ ใน่หน้าร้อนท้องฟ้าของโลกแห่งความเป็จริงสว่างเรียบร้อยแล้วและยังใกล้จะได้เวลาที่เขาต้องเตรียมอาหารเช้าให้กับหลิงสุ่ยรั่วด้วย
หลังจากคิดถึงสิ่งต่างๆ แล้วสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะออกจากเกมชั่วคราว
“หวังว่าเราจะล็อกเอ้าท์จากแผนที่นี้ได้อย่างอิสระ...หวังว่าจะเป็อย่างนั้นนะ”
หลิงเฉินพูดกับตัวเองเงียบๆ และออกคำสั่งล็อกเอ้าท์
“ดริ๊ง…ตอนนี้คุณอยู่ใน ‘พื้นที่ทดสอบของเทพา’ หลังจากล็อกเอ้าท์ออกจากเกมคุณจะถูกส่งออกไปจากพื้นที่ทดสอบ ไม่สามารถเข้ามาได้อีกคุณแน่ใจหรือไม่ว่า้าออกจากเกม?”
หลิงเฉิน “...”
หลิงเฉินไม่ได้ประหลาดใจกับผลลัพธ์นี้ผู้พิทักษ์ของหอิญญาวีรชนก็ได้กล่าวไว้เช่นกันว่าคนคนหนึ่งสามารถเข้าสู่แผนที่นี้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นถ้าเขาเลือกที่จะออกไปในเวลานี้ เขาจะออกไปจากพื้นที่ทดสอบนี้ในทันทีและไม่สามารถเข้ามาได้อีก ในเวลาเดียวกัน เขาจะสูญเสียโอกาสในหอิญญาวีรชนทั้งหมด
แต่เทียบกับการไล่ล่าอย่างดื้อดึงของปักษาวายุเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดเช่นกัน อย่างน้อยที่สุด หลังจากล็อกเอ้าท์และถูกส่งออกไป สิ่งที่เขาสูญเสียก็คือโอกาส แต่ไม่ใช่ชีวิตของเขาผลลัพธ์นี้ดีกว่ามากหากเทียบกับการตายที่นี่
แน่นอนว่าการทดสอบที่ทำให้เหล่าหกอัจฉริยะไร้ผู้เทียบเทียมของทวีปหลงลืมเสียชีวิตนั้นยากเย็นแสนเข็ญ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งหลิงเฉินก็ยกเลิกคำสั่งล็อกเอ้าท์ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและสวมใส่ดาบทรายกับทะยานเมฆาไว้ในมือของเขาโดยพร้อมกัน
เสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์กับนกโง่ๆ ตัวนี้นานสองนานแต่กลับมาโดยไม่ได้ผลลัพธ์ใดๆ เลย ก่อนออกจากเกม...เขาจะไม่มอบของขวัญชิ้นใหญ่ๆสักชิ้นให้กับมันได้อย่างไร!
สายตาของเขาเปลี่ยนเป็เ็าหลิงเฉินพุ่งตรงไปยังทางออกของถ้ำในพริบตา และปรากฏตัวกลางแสงแดด ทันทีที่เขาปรากฏตัวปักษาวายุที่บินวนอยู่บนท้องฟ้าก็พบเขา ด้วยเสียงร้องแหลมแสบแก้วหูมันพุ่งตรงเข้ามาหาเขาพร้อมกับกระแสลมหวีดหวิว
กระแสลมอันรุนแรงที่เกิดจากท่าจู่โจมกลางนภาทำให้หลิงเฉินแทบจะยืนได้ไม่มั่นคงอย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หลบหลีก แต่เขากลับต้อนรับร่างของปักษาวายุ โดยค่อยๆยกมือขวาของเขาขึ้น!
“เงาจันทร์!”
แสงของจันทร์ต้องสาปสว่างวาบขึ้นดึงเงาขนาดใหญ่ของปักษาวายุออกมาและตรึงปักษาวายุที่เกือบจะโดนร่างของหลิงเฉินเอาไว้ตรงเบื้องหน้าของเขาพอดีหลิงเฉินก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ และ ‘สังเวยิญญา’ เปิดใช้งานพร้อมกันอาวุธคู่ของเขาโจมตีอย่างฉับพลันด้วยท่าจู่โจมเต็มกำลัง
Miss, Miss, Miss, Miss, Miss, Miss,Miss, Miss
หลิงเฉิน “...”
โจมตี 8 ครั้ง ไม่โดนสักครั้ง อย่างไรก็ดีนี่เป็ไปตามการคาดเดาของหลิงเฉินทั้งหมด เขาก้าวถอยหลัง สายตาของเขาเพ่งมองแล้วขว้าง ‘พุ่งทะยานเมฆา’ ไปที่ปักษาวายุก่อนที่เขาจะออกจากเกม ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องทำให้มันได้รับาเ็สักครั้ง!
ตูม!
-4,698!
พลังป้องกันของปักษาวายุที่จริงแล้วไม่ได้สูงมากนักเทียบกับปักษาวายุทั่วไป มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนักทันทีที่ทะยานเมฆาทะลวงผ่านเข้าไปในร่างของมัน ก็ลดพลังชีวิตของมันไปเกือบ 1 ใน 40 หลังจากพลังของมันหมดลงทะยานเมฆาที่ถูกขว้างออกไปก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้า และตกลงสู่น้ำไหล ในเวลานี้ปักษาวายุได้ฟื้นจากการถูกตรึงแล้วทว่าหลิงเฉินได้วิ่งกลับเข้าไปในถ้ำอย่างรวดเร็วแล้วเช่นกันและพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่สุดแม้พุ่งทะยานเมฆาที่อยู่ภายใต้สถานะสูงสุดของเขาจะสร้างความเสียหายได้พอสมควรต่อปักษาวายุแต่ใน่เวลาไม่นาน มันจะฟื้นฟูพลังชีวิตทั้งหมดที่เสียไปโดยอัตโนมัติและทำให้สิ่งที่หลิงเฉินได้ทำไปไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
“เสี่ยวฮุย ไปเอาทะยานเมฆากลับมาหน่อย!” หลิงเฉินะโไปหาเสี่ยวฮุย
เสี่ยวฮุยรับคำสั่ง ร่างของมันเกิดเงาสีเทาก่อนจะพุ่งออกไปจากถ้ำ และะโลงไปในน้ำ มันตรงไปยังทิศทางของทะยานเมฆาแล้วคาบทะยานเมฆาไว้ในปากของมัน มันกำลังจะวกกลับมาพอดีแต่ทันใดนั้นที่ปลายเขาบนหัวของมันก็เริ่มสว่างวาบแสงสีเทาที่บางครั้งเข้มบางคราอ่อน ร่างของเสี่ยวฮุยหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีมันก็หมุนตัวกลับมา เมื่อมันหมุนกลับมา แสงที่เปล่งออกมาบนเขาของมันก็หายไป
เสี่ยวฮุยกลับมาที่ถ้ำ และวางทะยานเมฆาตรงหน้าของหลิงเฉินหลิงเฉินกำลังจะชมเชยมันแต่เขากลับเห็นเสี่ยวฮุยวิ่งออกไปจากเบื้องหน้าเขาอย่างรวดเร็วแล้วะโออกจากปากทางเข้าถ้ำลงไปในน้ำ และพุ่งไปตามทิศทางของแม่น้ำอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวฮุย เ้ากำลังจะไปที่ไหน!”
หลิงเฉินขมวดคิ้วเขายอมเสี่ยงอันตรายจากการโดนปักษาวายุโจมตี และพุ่งออกไปด้านนอกถ้ำ อย่างไรก็ตามเขาพบว่าเสี่ยวฮุยได้ห่างออกไปกว่าสิบเมตรแล้ว จากนั้นมันดำลงไปในน้ำและหายไปจากสายตา ทันทีที่มันหายไป ดูเหมือนหลิงเฉินจะมองเห็นรังสีของแสงสีเทา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้