ถังชิงหรูโบกมือไล่พวกนางออกไป
คนผู้นี้เชี่ยวชาญการใช้พิษ ส่วนตนเองก็ยังเป็มนุษย์พิษ สตรีอ่อนแอเช่นพวกนางสองคนรั้งอยู่ไปจะมีประโยชน์อันใด
หวนเอ๋อร์กระตุกชายเสื้อของจิ่นเอ๋อร์ กระซิบบอกว่า "พวกเราอย่าไปรบกวนคุณชายดีกว่า"
"แต่ว่า..." จนแล้วจนรอดจิ่นเอ๋อร์ก็ยังไม่อาจวางใจ
"คุณชายรู้หนักเบาหรอกน่า พวกเราอยู่ไปก็เป็ตัวถ่วงเปล่าๆ" หวนเอ๋อร์ลากจิ่นเอ๋อร์ออกไปเรือนด้านหลัง
ภายในห้องจึงเหลือพวกเขาเพียงแค่สองคน ถังชิงหรูยืนขึ้น มองพิจารณาบุรุษตรงหน้าั้แ่หัวจรดเท้า
ชายผู้นี้ดูเหมือนคนอายุยี่สิบกว่าปี ยังไม่แก่มาก เพียงแต่เป็คนที่ให้ความรู้สึกอึมครึม แววตาของเขาคล้ายสัตว์จำพวกอสรพิษ ทั้งเ็าและไร้อารมณ์ความรู้สึก ทว่าเคลือบแฝงไปด้วยสัญชาตญาณพร้อมโจมตี คนแบบนี้ยากจะคาดเดาความคิด และไม่สามารถประเมินเขาด้วยมุมมองแบบคนปรกติทั่วไป ดังนั้น หาก้ายาถอนพิษจากเขา ย่อมมิอาจบอกไปตามตรง
ถังชิงหรูใคร่ครวญในใจอยู่นาน ถึงเอ่ยปากว่า "หลังจากท่านมาปรากฏตัว ท่านวางยาพิษข้าสามชนิด หนึ่งวางในอากาศ มีแต่คนที่ััสมุนไพรเป็ประจำถึงจะต้องพิษชนิดนี้ ดังนั้นคนที่ต้องพิษเมื่อครู่จึงมีสามคน นั่นก็คือข้ากับสาวใช้ทั้งสองของข้า ชนิดที่สองวางอยู่ที่มือของท่าน แค่ข้าััข้อมือของท่านก็ถูกพิษแล้ว ชนิดที่สามวางใส่บนเส้นผมของข้า เมื่อครู่ยามที่ท่านหงายฝ่ามือ แกล้งทำเป็ลูบจมูก แต่แท้จริงแล้วเป็การสาดผงพิษใส่ข้า ยามนี้ที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหว คงกำลังรอข้าพิษกำเริบอยู่กระมัง"
ดวงตาของหลีซูเผยแววประหลาดใจ หมอเทวดาน้อยที่อยู่ตรงข้ามกล่าวไม่พลาดแม้แต่คำเดียว เขาวางยาพิษสามชนิดจริง และกำลังรอให้อีกฝ่ายพิษกำเริบ เมื่อเขาสังเกตได้ทั้งหมด ก็แสดงว่าตนเองถูกเปิดโปงแล้ว ดูท่าเขาน่าจะเป็ผู้มีพร์และพรแสวงอย่างแท้จริง
"เยี่ยม นับว่าเ้ามีความสามารถ" หลีซูยิ้มหยัน "หากเ้าสามารถแก้พิษในร่างกายของข้าได้ ข้าจะยอมรับว่าทักษะพิษของเ้าเป็หนึ่งในใต้หล้า"
ถังชิงหรูเคยรู้จักกับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ตลอดชีวิตของเขาล้วนทุ่มเทให้กับการศึกษา เพื่องานวิจัยของตนเอง แม้แต่ภรรยากับลูกยังไม่ใส่ใจ หมอพิษผู้นี้กับนักวิทยาศาสตร์คนนั้นมีความคล้ายคลึงกันมาก เป็พวกคลั่งไคล้อย่างสุดโต่งเหมือนกัน ต่างกันแค่สิ่งที่ยึดติดเท่านั้น
"ข้าไม่สนใจการเป็หนึ่งในใต้หล้า" ถังชิงหรูเอ่ยเสียงเรียบ "พิษร้ายในร่างกายท่านมีความซับซ้อน มิอาจแก้ได้ภายในวันเดียวคืนเดียว ต่อให้วิชาแพทย์กับทักษะพิษของข้าจะดีอย่างไร ก็ยังไม่ถึงขั้นก้าวะโ แต่ข้ายินดีทดลองแก้พิษในร่างกายของท่าน เพียงแต่ท่านต้องรับปากข้าเงื่อนไขหนึ่ง"
"เงื่อนไขอันใด" แววตาของหลีซูสว่างวาบ
ยังไม่เคยมีใครกล้ารับปากแก้พิษร้ายในร่างกายของเขามาก่อน แต่หมอเทวดาผู้นี้กลับรับปาก ไม่ว่าเขาจะทำได้หรือไม่ อย่างน้อยแค่อาศัยความกล้าหาญส่วนนี้ก็เพียงพอให้เขามองอีกฝ่ายสูงขึ้น
"ข้ารู้จักสหายคนหนึ่ง นางต้องพิษชนิดหนึ่ง พิษชนิดนี้หลังจากเข้าสู่ร่างกายครึ่งปีถึงกำเริบ มีอาการท้องเสียและอาเจียน ข้าช่วยนางตรวจสอบแล้ว แต่องค์ประกอบของพิษซับซ้อนเกินไป ไม่อาจปรุงยาถอนพิษออกมาในระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าเพียงแค่ตามหาผู้คิดค้นพิษชนิดนั้นพบถึงจะได้ยาถอนพิษมา" ถังชิงหรูมองหลีซู "ผู้คิดค้นพิษชนิดนี้คงเป็ท่านกระมัง? ท่านสามารถมอบยาถอนพิษให้ข้าได้หรือไม่"
"เผ่าอิงกู?" ความกระจ่างวาบผ่านแววตาของหลีซู "ครานี้มีคนเล่าลือกันว่านอกจากเ้าจะมีวิชาแพทย์ล้ำเลิศ ทักษะพิษก็ไม่เป็สองรองใคร ถ้อยคำเ่าั้คงเป็เ้าเองกระมังที่ปล่อยข่าวลือเพื่อล่อข้าออกมา หลังจากนั้นก็ขอยาถอนพิษ?"
"ใช่" ถังชิงหรูจ้องตาหลีซู "ท่านให้ข้าได้ไหมล่ะ"
"สตรีชาวอิงกูทำร้ายศิษย์น้องของข้า ก่อนเขาจะจากไปได้ขโมยยาพิษไปจากข้า หลังจากนั้นก็วางใส่แหล่งน้ำ เื่นี้ข้ารู้มานานแล้ว" หลีซูกล่าวอย่างเฉยเมย "ทว่าความเป็ความตายของพวกเขาไม่เกี่ยวกับข้าเสียหน่อย ทำไมข้าต้องช่วยเหลือพวกเขาด้วย"
"นี่เป็ข้อตกลงระหว่างข้ากับท่าน หากท้ายที่สุดข้าไม่อาจช่วยท่านแก้พิษ ท่านก็วางยาพิษสังหารข้าได้เลย" ถังชิงหรูมองบุรุษตรงหน้ากล่าวต่อไปว่า "ในเผ่าอิงกูยังมีทารกแรกเกิด แม้กระทั่งพวกเขาศิษย์น้องของท่านก็ยังไม่ละเว้น วิธีการเช่นนี้มิอำมหิตไปหน่อยหรือ"
"แบบนี้ก็นับว่าอำมหิตแล้วหรือ นั่นเพราะเ้าไม่เคยเห็นทารกที่เพิ่งคลอดออกมาก็ต้องกลายเป็มนุษย์ลองยาน่ะสิ ก่อนอื่นเริ่มจากหล่อเลี้ยงร่างกายเขาด้วยพิษนานาชนิด แล้วค่อยกรีดเนื้อเอามาทำโอสถ สูบโลหิตมาเลี้ยงอสรพิษ เขามีชีวิตอยู่ท่ามกลางสัตว์มีพิษหลากชนิดั้แ่เล็ก แม้แต่งูพิษหรือแมงป่องต่างมองว่าเขาเป็พวกเดียวกัน หากเ้าได้พบคนผู้นั้น ก็คงไม่รู้สึกว่าว่ามีสิ่งไหนอำมหิตมากไปกว่านี้อีกแล้ว" แววตาของหลีซูเต็มไปด้วยความเ็า ยามที่ได้ยินคำว่าอำมหิตเกินไปจากปากของถังชิงหรู ความดุดันร้ายกาจจากดวงตาคู่นั้นก็วาวโรจน์ดุจคมมีด แทงเข้ามาในหัวใจของนาง
หรือว่าสิ่งที่เขาเอ่ยถึงคือเื่ของตนเอง? เป็ไปไม่ได้ หากถูกกระทำทารุณเยี่ยงนั้น เขาจะมีชีวิตรอดมาถึงวันนี้ได้อย่างไร คนที่โดนขนาดนั้นอยู่ได้ไม่นานนักหรอก
"บอกข้ามาตามตรง ท่านจะรับปากหรือไม่" ถังชิงหรูถามอีกครา
หลีซูมองการตกแต่งภายในโรงหมอสุขสราญ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมืองชิ่งก็มีหมอเทวดาผู้ประเสริฐเยี่ยงพระโพธิสัตว์มาปรากฏตัว เพียงไม่นานก็ได้รับการยกย่องสรรเสริญจากผู้คนทั้งหลาย เขาไม่เชื่อว่าจะมีคนดีเช่นนี้ในใต้หล้า คนดีเกินไปโดยมากมักเป็พวกใฝ่หาชื่อเสียงเกียรติยศด้วยวิธีการอันมิชอบ
ร่างกายนี้ผุพังเน่าเปื่อยมานานแล้ว แต่ละวันเขาต้องทนกับการดื่มพิษที่มีกลิ่นเหม็นสะอิดสะเอียนเ่าั้ แม้ว่าชีวิตจะน่าเบื่อ แต่เขาก็ไม่ตาย เพราะว่ายังตายมิได้
"หากเ้าแก้พิษให้ข้าไม่ได้ ข้าจะเปลี่ยนเ้าให้กลายเป็ข้าคนที่สอง" หลีซูข่มขู่นางอย่างเืเย็น แต่ภายในใจกลับกล่าวเสริมอีกประโยค ถ้าได้เช่นนั้น ดีชั่วอย่างไรก็มีคนอยู่เป็เพื่อน
ใต้หล้านี้มีเพียงตนเองที่เป็ตัวประหลาด ใช้ชีวิตเหมือนซากศพเดินได้ หากมีคนอยู่เป็เพื่อน ทั้งยังเป็ตัวประหลาดเหมือนๆ กัน ก็อาจพอต่อชีวิตให้ยืนยาวออกไปได้อีกหลายปีหน่อย
ถังชิงหรูได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายตกลงแล้ว นางยิ้มอย่างโล่งอก กล่าวว่า "ตกลง เพื่อศึกษาพิษในร่างกายของท่าน ท่านมาอยู่บ้านข้าแล้วกัน"
"หืม?" ดวงตาของซูหลีฉายแววตกตะลึง "อยู่บ้านเ้า?"
"แล้วบ้านท่านอยู่ที่ไหนเล่า ข้าไปหาท่านที่บ้านก็ได้นะ"
ถังชิงหรูรู้สึกสนใจพิษในร่างกายของบุรุษผู้นี้เป็พิเศษ แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะความหล่อเหลา นางถึงไม่พะวงตัวตนที่น่ากลัวของอีกฝ่าย แต่เป็เพราะว่า... เสี่ยวอีส่งสัญญาณรบกวนสมองของนางไม่หยุด บังคับให้ตอบตกลง สาเหตุเพราะคนผู้นี้มีความชั่วร้ายในตัวเยอะเกินไป หากสามารถถอนพิษในร่างกายของเขาออกไปได้ ความเลวร้ายของเขาก็จะเบาลงไปด้วย การที่นางชักนำคนโฉดให้มาสู่หนทางที่ถูกต้อง นับเป็การช่วยชีวิตคนจำนวนมากให้พ้นจากการถูกเขาสังหาร ดังนั้นจิตพิสัยจรรยาแพทย์ที่ได้รับย่อมเป็สิ่งที่ถังชิงหรูมิอาจจินตนาการได้
"นี่คือยาถอนพิษ" หลีซูส่งขวดใบหนึ่งให้ถังชิงหรู "ใส่ลงในน้ำให้พวกเขาดื่มก็พอ"
"ข้าจะไปหาท่านได้ที่ไหน ท่านยังไม่บอกข้าเลย" พอเห็นเขาหมุนกายจากไป ถังชิงหรูก็ร้องถาม
หลีซูหยุดที่หน้าประตู หันหลังพูดกับนาง "หุบเขาิญญา"
"หุบเขาิญญา..." ถังชิงหรูหน้าง้ำ "ตามคำบอกเล่าที่นั่นเป็หุบเขาซึ่งถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกหนาแน่น แค่ขึ้นเขาก็จะพบสัตว์มีพิษนับไม่ถ้วน ที่แท้ท่านก็อยู่ในสถานที่แบบนั้น ข้าขอถอนคำพูดเมื่อครู่ได้หรือไม่ สถานที่แบบนั้น คนธรรมดาใครจะอยากเข้าไป"
จิ่นเอ๋อร์กับหวนเอ๋อร์แอบอยู่หลังม่านลูกปัดมาั้แ่ต้น ยามนี้เห็นบุรุษผู้นั้นจากไปแล้ว ทั้งสองถึงเดินออกมาเอ่ยว่า "แม่นาง คนผู้นั้นน่ากลัวจังเลย ท่านจะถอนพิษให้เขาจริงหรือเ้าคะ"
"เมื่อครู่ท่านบอกว่าพิษของเขาซับซ้อนมาก แล้วถ้าหากต้องไปหา ไปคลุกคลีกับคนเช่นนั้นทุกวัน ท่านไม่กลัวหรือ" หวนเอ๋อร์แลบลิ้นพลางเอ่ยวาจา
ถังชิงหรูคลึงหน้าผาก ตอบกลับไปด้วยความจนใจ "ข้าขึ้นขี่หลังเสือแล้วลงไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์คับขัน มีแต่เงื่อนไขแบบนี้ถึงจะดึงดูดเขาได้ มิเช่นนั้นจะขอยาถอนพิษจากเขามาได้อย่างไร ดังนั้นจำเป็ต้องใส่ยาแรงหน่อย"
"เช่นนั้น... ตอนนี้จะส่งยาถอนพิษไปให้ท่านอ๋องหรือไม่" จิ่นเอ๋อร์ถามขึ้น
"ข้าจะไปดูเอง หากมิได้เห็นพวกเขาฟื้นขึ้นมา ข้าคงวางใจไม่ลง พวกเขาเกือบถูกสังหารล้างชนเผ่า ทั้งคนทำยังเป็คนเมืองชิ่งของพวกเรา ถ้ามีการติดตามตรวจสอบขึ้นมา ไม่แน่ว่าอาจกลายเป็เป้าที่แคว้นอื่นนำมาใช้โจมตี ยามนี้ความสัมพันธ์ของแต่ละแว่นแคว้นกำลังตึงเครียด มิอาจละเลยแม้แต่ครึ่งส่วน"
ถังชิงหรูกล่าวจบก็นำขวดโอสถไปจากโรงหมอ นางขี่อาชาไปจวนชิ่งอ๋อง
อาชาตัวนั้นอิงฉีมอบให้นาง ปรกติแล้วอาชาของเผ่าอิงกูมีไว้ใช้เองเท่านั้น แต่ไรมามิเคยส่งขายภายนอก และไม่มอบให้ผู้ใด ครานี้ถังชิงหรูกับเฉินินับว่าได้รับความเชื่อถือจากเผ่าอิงกู อิงฉีซาบซึ้งใจในความช่วยเหลือของพวกเขา จึงมอบอาชาเหงื่อโลหิตที่ดีที่สุดให้แก่พวกเขา
"ท่านหมอเทวดา..." พ่อบ้านหลินเห็นถังชิงหรูเข้ามาก็รีบออกมาต้อนรับ "ในที่สุดท่านก็มาเสียที ั้แ่กลับมาท่านอ๋องก็เอาแต่เหม่อลอยอยู่ในห้องหนังสือ ไม่พูดไม่จา ไม่กินอะไรเลย แม้แต่น้ำยังไม่ดื่ม เดินวนไปเวียนมาอยู่ตลอดเวลา ดูจากท่าทางแล้วน่าจะกำลังร้อนใจอย่างมาก"
"เขากังวลเื่ชาวเผ่าอิงกูน่ะ แต่ตอนนี้ข้าได้ยาถอนพิษมาแล้ว อาการร้อนใจของเขาเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง" ถังชิงหรูเอ่ยพลางชูขวดโอสถขึ้น
"เช่นนั้นก็ประเสริฐ แค่ท่านหมอมาปรากฏตัว อาการเจ็บป่วยของท่านอ๋องก็หายขาด ไม่ว่าจะร่างกายหรือจิตใจล้วนดีขึ้น" พ่อบ้านหลินลูบเคราพลางหัวเราะเสียงดัง
ถังชิงหรูเหลือบมองพ่อบ้านหลินอย่างไม่สบอารมณ์นัก แค่นเสียงหึ กล่าวว่า "อย่านึกว่าเอ่ยวาจาดีๆ แค่สองสามประโยค แล้วจะทำให้ข้ามาบ่อยๆ เพื่อเป็โล่กำบังเกาทัณฑ์ให้หรอกนะ"
พ่อบ้านหลินมองนางด้วยแววตาใสซื่อ ประหนึ่งกำลังบอกว่าใช่ที่ไหนกัน
ถังชิงหรูไม่มีเวลาไร้สาระกับพ่อบ้านหลิน นางเข้าไปในห้องหนังสือบอกกับเฉินิว่า "ของได้มาแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ"
เฉินิได้ยินเสียงถังชิงหรูนานแล้ว เดิมทีอยากจะวิ่งออกมาั้แ่ต้น แต่พอนึกดู ทุกครั้งมีแต่ตนเองที่เป็ฝ่ายตั้งหน้าตั้งตารอนาง สตรีคนนี้มักจะเฉยชาอยู่เป็ประจำ ครั้นแล้วจึงข่มใจไว้ รอให้นางเป็ฝ่ายมาเรียก ยามนี้พอนางเอ่ยปาก เขาก็เปิดประตูเดินออกมาทันที
"ยังไม่รีบไปอีก?" เฉินิกระชากตัวถังชิงหรูออกมา จนนางซวนเซ เกือบล้มหน้าคะมำ ถังชิงหรูสะบัดมือเขาออกอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนพลิกกายขึ้นอาชา
พ่อบ้านเรียกบ่าวไพร่ให้ไปจูงอาชาของเฉินิออกมา อาชาของพวกเขาสองคนล้วนเป็ของเผ่าอิงกู เป็อาชาสีขาวเหมือนกัน ส่วนขนตรงแผงคอเป็สีแดง พวกมันดูเหมือนจะเป็คู่กัน อาชาตัวนี้ได้รับการเอาใจใส่อย่างดีที่สุด ทุกคนในจวนต่างรู้ว่าต่อไปมันต้องกลายเป็ม้าตัวโปรดของท่านอ๋องเป็แน่ จึงไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาควบอาชามุ่งหน้าไปยังเผ่าอิงกู ยามนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว อิงฉีไม่นึกว่าพวกเขาจะกลับมา แต่พอได้ยินฝีเท้าอาชา นางกับจางหลินก็ออกมารอรับแต่ไกล ดวงตาสองคู่เปี่ยมไปด้วยความหวังยามเห็นพวกเขา พอเห็นทั้งสองผงกศีรษะ สีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
"เอาของสิ่งนี้ใส่ลงไปในน้ำ แล้วให้พวกเขาทุกคนดื่ม มันมีแค่นิดเดียว แต่ต้องดื่มให้ครบทุกคน มิเช่นนั้น ข้าก็ไม่รู้จะหายาถอนพิษมาอีกได้หรือไม่" ถังชิงหรูกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
"วางใจเถอะ พวกเราจะจัดการอย่างรอบคอบ" อิงฉีถือขวดโอสถอย่างระมัดระวัง ประหนึ่งประคับประคองชีวิตของทุกคนในเผ่าเอาไว้ในฝ่ามือ
ถังชิงหรูกับจางหลินช่วยอิงฉีป้อนโอสถ พวกเขาต้มน้ำหลายถังแล้วเทโอสถขวดนั้นลงไปผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นก็แบ่งให้ได้หนึ่งพันถ้วย จากฟ้าสว่างจนฟ้ามืด ผ่านไปหลายชั่วยาม กว่าจะป้อนยาครบก็ทำเอาแต่ละคนเมื่อยเอวปวดหลังไปตามๆ กัน
เฉินิมิอาจแตะต้องสตรี ดังนั้นจึงไม่กล้าเข้าใกล้พวกนาง เขาได้แต่ยืนมองถังชิงหรูเหน็ดเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด ความรู้สึกปวดใจวาบผ่านแววตา
"รู้อย่างนี้... เปิ่นหวางส่งบริวารตามมาด้วยก็คงดี" เฉินิบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้