“เ้าเดินไปก่อนเถอะ ข้าขอตัวไปปล่อยเบาสักครู่”
ศิษย์สองคนของตระกูลมู่ที่กำลังเดินถือโคมไฟเพื่อตรวจตราความเรียบร้อยภายในจวนนั้น อยู่ๆ ศิษย์ผู้หนึ่งก็กล่าวขึ้นมาอย่างกะทันทัน จากนั้นเขาก็เดินไปทางต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง ก่อนจะปล่อยเบาออกมา
สหายอีกคนของเขาจึงถือโคมไฟเดินตรวจตราต่อ
ฉัวะ!
แต่ฉับพลันนั้นประกายแสงสีขาวสว่างวาบก็ปรากฏขึ้นในพริบตา ศิษย์ตระกูลมู่ที่กำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อยถูกมีดบินเล่มหนึ่งปัดเข้าที่ลำคออย่างจัง ดวงตาของเขาเบิกโพลงขณะยกมือขึ้นปิดลำคอ เืสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากาแ จากนั้นร่างของเขาก็ฟุบลงบนพื้นในทันที
ทันใดนั้นชายชุดดำคนหนึ่งก็ะโออกมาจากความมืดและอุ้มศพนั้นไปไว้ยังมุมลับตามุมหนึ่ง
ศิษย์อีกคนที่กำลังทำธุระส่วนตัวใต้เงาของต้นไม้จ้องมองเหตุการณ์นั้นด้วยความใ มือของเขาเกิดอาการสั่นเทาเล็กน้อย เขารีบหยิบนกหวีดออกมาและเป่าลมเข้าไปสุดแรง
ปี๊ด!
เสียงนกหวีดเสียดหูดังก้องไปทั่วจวนตระกูลมู่ในทันที
บรรดาศิษย์ตระกูลมู่ทั้งหลายที่ทำหน้าที่เดินตรวจตราความเรียบร้อยยามค่ำคืนต่างก็ส่งข่าวต่อกันไปอย่างรวดเร็ว “เกิดเื่แล้ว!”
“ช่างน่าตายนัก!”
ชายชุดดำผู้นั้นหันไปทางศิษย์ตระกูลมู่อีกคนที่อยู่ในระยะไกล ในมือของเขาถือดาบเหล็กสีดำเล่มยาวเอาไว้ เขาไม่รอช้ารีบทะยานร่างเข้าหาศิษย์ตระกูลมู่ผู้นั้นในทันที
“มีมือสังหาร!”
ศิษย์ตระกูลมู่ผู้นั้นส่งเสียงะโออกมาดังลั่น จากนั้นเขาก็ชักดาบออกมาและพุ่งตัวเข้าหาชายชุดสีดำผู้นั้นเช่นกัน
ดาบทั้งสองเล่มพุ่งเข้าปะทะห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด แต่หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่กระบวนท่า ศิษย์ตระกูลมู่ผู้นั้นก็ถูกอีกฝ่ายใช้ดาบแทงทะลุอกและสิ้นใจตายในทันที
“ในเมื่อเราถูกพบแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็ต้องหลบซ่อนตัวอีก สำหรับคนตระกูลมู่จะปล่อยให้มีใครรอดไปไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะมู่เฟิงผู้นั้น”
หัวหน้าหน่วยลับจางกล่าวอย่างเ็าหลังจากเขาได้ยินเสียงนกหวีด
“รับทราบ!”
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
กลุ่มคนหลายสิบคนตอบรับคำสั่งในทันที จากนั้นเงาร่างของพวกเขาก็กระจายตัวหายไปราวกับภูตผี โดยเป้าหมายคือบรรดาเรือนพักในจวนตระกูลมู่ พวกเขาแต่ละคนไม่มีใครมีวรยุทธ์ต่ำกว่าระดับจื่อฝู่เลยสักคน ทุกคนล้วนเป็ยอดฝีมือที่มีวรยุทธ์ระดับจื่อฝู่ขึ้นไปทั้งนั้น
“ปัง!”
ประตูเรือนพักแห่งหนึ่งถูกถีบออก จากนั้นชายชุดสีดำจำนวนสามคนก็พุ่งตัวเข้าไปในเรือนพักอย่างรวดเร็ว
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับหยาดเืที่สาดกระเซ็นไปบนกำแพง คู่รักคู่หนึ่งของตระกูลมู่ถูกจ้วงแทงจนตายคาเตียง
ชายชุดดำกลุ่มนี้บุกเข้ามาในเรือนพัก และลงมือสังหารทุกคนที่พวกเขาพบเห็น ไม่ว่าจะเป็คนชรา เด็กหรือแม้แต่สตรีก็ไม่มีใครถูกปล่อยให้รอดชีวิตไปได้เลยสักคน
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลังจากมู่ไห่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว เขาก็รีบรุดออกมาจากเรือนพักของตนทันที ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“รายงานท่านผู้นำตระกูล แย่แล้วขอรับ มีกลุ่มมือสังหารบุกเข้ามายังจวนตระกูลมู่ ไม่ว่ามันพบเห็นผู้ใดก็ล้วนสังหารหมดเลยขอรับ”
ศิษย์ตระกูลมู่ผู้หนึ่งรีบเข้ามารายงาน
“มือสังหาร”
สีหน้าของมู่ไห่พลันเปลี่ยนไปทันที จากนั้นเขาก็ะโขึ้นมาว่า “รีบเรียกยอดฝีมือในตระกูลมาช่วยกันปกป้องคนในตระกูลเร็วเข้า!”
“ขอรับ!”
เวลานี้ภายในจวนตระกูลมู่ได้มีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังสลับกับเสียงอุทานด้วยความใดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง บรรดาศิษย์ตระกูลมู่รีบจับกลุ่มรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
“ฆ่ามัน…!”
ศิษย์หลายคนของตระกูลมู่ยกดาบในมือขึ้นและพุ่งกระโจนเข้าหาหัวหน้าหน่วยลับจางพร้อมกัน แต่อีกฝ่ายทำเพียงแค่สะบัดมือปลดปล่อยปราณฝ่ามือสีเหลืองสายหนึ่งออกมา โดยปราณฝ่ามือนี้ถูกอัดแน่นไว้ด้วยพลังอันน่าพรั่นพรึงอย่างยิ่งเอาไว้
อานุภาพพลังของมันทำให้บรรดาศิษย์ตระกูลมู่หลายคนถึงกับตกตะลึง
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
เกิดเสียงะเิพลังดังขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน ทันใดนั้นศิษย์ตระกูลมู่หลายคนก็ถูกพลังจากปราณฝ่ามือนี้กระแทกร่างจนตาย ร่างของพวกเขาถูกบดขยี้ไม่เหลือแม้แต่ศพให้เห็น พลังอำนาจของพลังฝ่ามือนี้เป็สิ่งที่ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้
หัวหน้าหน่วยลับจางไพล่มือข้างหนึ่งเอาไว้ด้านหลังและเคลื่อนไหวด้วยมือเพียงข้างเดียว เพียงการโจมตีเดียวของเขาก็สามารถสังหารศิษย์ตระกูลมู่ได้หลายคน ภาพนี้ทำให้ไม่มีใครกล้าพุ่งเข้าไปโจมตีเขาอีก ทำได้เพียงมองอีกฝ่ายด้วยสายตาหวาดหวั่นเท่านั้น
“ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหยวนตาน!”
มู่ไห่กัดฟันกรอด เขาเดินมาพร้อมกับผู้าุโหลายคนของตระกูลมู่ สายตาอันเย็นะเืของเขาจดจ้องไปยังหัวหน้าหน่วยลับจางขณะกล่าวเสียงเย็น
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ในเมื่อเ้ารู้แล้วว่าข้าคือผู้ฝึกยุทธ์ระดับหยวนตาน แล้วเ้ายังคิดจะต่อต้านอีกหรือ?”
หัวหน้าหน่วยลับจางกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มอันน่าสะพรึงกลัว
ถูกต้องแล้ว เขาคือยอดฝีมือระดับหยวนตานขั้นหนึ่ง การที่หนานหาวส่งยอดฝีมือระดับนี้มาเพื่อจัดการกับมู่เฟิง เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับมู่เฟิงมากเพียงใด เขาไม่อาจปล่อยเมล็ดพันธุ์ที่มีพร์ระดับกระดูกิญญาให้เติบโตขึ้นมาได้ ไม่อย่างนั้นเด็กหนุ่มจะต้องย้อนกลับมาแก้แค้นเขาอย่างแน่นอน
“ผู้าุโ ข้าไม่รู้ว่าตระกูลมู่ของข้าทำสิ่งใดให้ผู้าุโขุ่นเคืองใจ เหตุใดจึงต้องลงมือเข่นฆ่าคนในตระกูลมู่ของข้าเช่นนี้”
มู่ไห่กล่าวด้วยใบหน้ามืดครึ้ม
“พวกเ้าไม่ได้ทำสิ่งใดให้ข้าขุ่นเคืองใจ และพวกเ้าก็ไม่ใช่ศัตรูของข้า เพียงแต่พวกเ้าดันเก็บซ่อนคนที่ไม่ควรซ่อนเอาไว้ รีบส่งตัวมู่เฟิงมา ไม่อย่างนั้นคืนนี้ผู้คนที่อยู่ในตระกูลมู่จะต้องถูกสังหารทิ้งทั้งหมด”
หัวหน้าหน่วยลับจางกล่าวอย่างเ็า
“คุณชายเฟิง พวกเ้าเป็คนของหนานหาว?”
สีหน้าของมู่ไห่พลันเปลี่ยนไปในทันที น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็ตกตะลึง
“หึ นึกไม่ถึงว่าเ้าจะบังอาจกล่าวเรียกพระนามจริงของท่านอ๋อง รนหาที่ตายนัก”
สีหน้าของหัวหน้าหน่วยลับจางดูเฉยเมยราวกับไม่แยแส ฉับพลันนั้นร่างของเขาก็เคลื่อนกายเข้าไปหามู่ไห่อย่างรวดเร็วจนเห็นเป็เพียงลำแสงสีเหลืองเท่านั้น
“ขวางเขาไว้!”
มู่ไห่คำรามออกมาด้วยความโกรธ เหล่าผู้าุโหลายคนที่มีวรยุทธ์ระดับหนิงกังต่างก็รีบเข้าไปขวางหัวหน้าหน่วยลับจางพร้อมกับมู่ไห่ทันที
ส่วนบรรดาศิษย์ตระกูลมู่ที่เหลือต่างก็กระโจนเข้าต่อสู้กับกลุ่มคนชุดดำที่เหลือ
เนื่องจากเสียงอึกทึกครึกโครม ทำให้มู่เฟิง มู่ขวงและไป๋จื่อเยว่เดินออกมาดูสถานการณ์ภายนอก
“พี่เฟิง นี่มันเื่อะไรกัน เกิดอะไรขึ้น?”
ไป๋จื่อเยว่ถามอย่างประหลาดใจ
“ดูเหมือนว่าจะมีมือสังหารบุกเข้ามา ท่านอาจงได้ออกไปช่วยอีกแรงแล้ว”
มู่เฟิงกล่าวด้วยใบหน้ามืดครึ้ม
ทันใดนั้นก็มีมือสังหารชุดดำผู้หนึ่งบุกเข้ามาถึงเรือนพักของมู่เฟิง เมื่อเขาสังเกตเห็นเด็กหนุ่มทั้งสาม เขาก็จดจำมู่เฟิงได้ในทันที
“เร็วเข้า เป้าหมายอยู่ทางนี้!”
ชายชุดดำพลันะโเรียกพวกพ้องของตน เมื่อสิ้นเสียงมือสังหารอีกห้าหกคนก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าๆ เป้าหมายจริงด้วย คราวนี้พวกเราได้รวยแน่ พี่น้องทั้งหลาย สังหารมัน”
มือสังหารชุดดำะโออกมาอย่างตื่นเต้น ใครก็ตามที่สามารถสังหารมู่เฟิงได้ หนานหาวจะมอบเงินจำนวนหนึ่งหมื่นเหรียญตำลึงทองเป็รางวัลให้แก่คนผู้นั้น
“ฆ่ามัน!”
ทันใดนั้น เหล่ามือสังหารก็พุ่งกระโจนเข้าหาพวกมู่เฟิงในทันที
“ฆ่ามัน!”
มู่เฟิงตวาดกร้าว ฉับพลันนั้นดาบเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาง้างดาบสังหารศัตรูตรงหน้าในทันที
มู่ขวงและไป๋จื่อเยว่ต่างก็กระชับอาวุธในมือเอาไว้แน่น จากนั้นพวกเขาก็ร่วมสังหารศัตรูไปด้วยกัน
มู่เฟิงรวบรวมพลังปราณไว้ที่มือข้างหนึ่ง เขางอนิ้วเล็กน้อยก่อนจะสะบัดปลายนิ้วและปลดปล่อยลำแสงพลังออกมา
ฉึก!
มือสังหารที่พุ่งกระโจนเข้ามาผู้หนึ่งถูกสำแสงจากปลายนิ้วของเด็กหนุ่มพุ่งทะลวงผ่านศีรษะไปโดยที่เขาไม่ทันระวังตัว เมื่อหัวกะโหลกถูกเจาะจนเป็รู ร่างของเขาก็ล้มลงเสียชีวิตในทันที
พรึ่บ! พรึ่บ!
มือสังหารอีกสองคนตวัดดาบเพื่อปลดปล่อยปราณดาบสองสายให้กวาดมาทางมู่เฟิง มู่เฟิงเบี่ยงตัวออก ก่อนจะบิดฝ่าเท้าเพื่อหลบหลีกการโจมตีอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นเด็กหนุ่มก็ะเิพลังปราณไปที่ฝ่าเท้าและพุ่งตัวออกไปเบื้องหน้าอย่างว่องไวราวกับลูกศรที่ถูกปล่อยจากคันธนู
“วิชาดาบพยัคฆ์หาญ พยัคฆ์คำราม!”
มู่เฟิงคำรามออกมาอย่างดุดัน เขาเหวี่ยงดาบออกไปอย่างรวดเร็ว คมดาบพลันเปล่งแสงสีทองออกมาพร้อมกับเสียงคำรามของพยัคฆ์ ปราณดาบสีทองที่ปรากฏออกมานี้มีความยาวถึงสามเมตร อีกทั้งกลิ่นอายของมันก็ยังน่าสะพรึงเป็อย่างยิ่ง
มือสังหารผู้หนึ่งพยายามใช้ดาบต้านการโจมตีนี้เอาไว้ แต่ไม่นานเขาก็พบว่าดาบของเขาถูกตัดผ่านไปได้อย่างง่ายดาย จากนั้นปราณดาบสีทองก็พุ่งใส่ร่างของเขาโดยตรง
ฉัวะ!
ชายผู้นั้นถูกปราณดาบสีทองตัดผ่าร่างจนร่างเกือบจะขาดเป็สองท่อน ร่างของเขาฟุบลงบนพื้นและเสียชีวิตในทันที
“พยัคฆ์กระโจน"
มู่เฟิงงอตัวลงเล็กน้อย การเคลื่อนไหวของเขาดูราวกับพยัคฆ์ร้ายที่พุ่งกระโจนเข้าหาเหยื่อ มันทั้งรวดเร็วและดุดัน เพียงแค่เขาเคลื่อนกายก็สามารถตะครุบเหยื่อให้ตายคามือได้ในทันที
ฉึก!
คมดาบแทงทะลุท้องน้อยของมือสังหารผู้หนึ่ง มู่เฟิงบิดดาบก่อนจะดึงมันออกมา มือสังหารผู้นั้นฟุบลงบนพื้นและนอนกุมท้องตัวเอง ลำไส้ของเขากำลังไหลทะลักออกมา
อีกด้านหนึ่งมู่ขวงและไป๋จื่อเยว่ก็กำลังต่อสู้กับมือสังหารอีกสองคนอย่างดุเดือด มู่เฟิงรีบเข้าไปช่วยพวกเขาสังหารคู่ต่อสู้ในทันที
เวลานี้ทุกคนในตระกูลมู่ต่างก็ต่อสู้ติดพัน เสียงการปะทะกันของโลหะและเสียงการฆ่าฟันยังคงดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง
“คุณชาย!”
ทันใดนั้นศิษย์ผู้หนึ่งของตระกูลมู่ก็ถือดาบวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยความกระวนกระวายว่า “คุณชาย ท่านผู้นำตระกูลบอกให้ท่านรีบหนีไปขอรับ คนที่มาล้วนเป็คนของหนานหาว พวกเขามาที่นี่เพื่อสังหารท่าน รีบหนีไปเร็วเข้าขอรับ!”
“เป็คนของหนานหาวขอรับ!”
เมื่อมู่เฟิงได้ยินดังนั้น ดวงตาของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำ เส้นเืบริเวณขมับและดวงตาบวมปูดขึ้นมาทันที รังสีสังหารแผ่กระจายออกมาจากตัวของเขาอย่างรุนแรง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้