บทที่ 5 สายตาที่เปลี่ยนไป...กับความเป็อยู่ดีขึ้น
เช้าวันต่อมา อากาศยามรุ่งอรุณยังคงเย็นเยียบ แต่ในเรือนหลังคามุงจากของตระกูลหลี่ ความอบอุ่นที่เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อวานยังคงอบอวล
เฉินอิงตื่นขึ้นก่อนใครเช่นเคย นางเดินเข้าไปในครัวที่มุมหนึ่งของบ้าน สภาพครัวยังคงเรียบง่ายและขาดแคลน มีเพียงหม้อดินเก่าๆ และภาชนะไม่กี่ชิ้น แต่เมื่อวานนี้เฉินอิงได้จัดเก็บของป่าที่หามาได้ไว้เป็ระเบียบ ทั้งหัวมันเทศป่า ผักขมหอม และเนื้อกระต่ายส่วนที่เหลือ
ขณะที่นางกำลังก่อไฟเพื่อต้มน้ำและเตรียมอาหารเช้าที่เหลือจากเมื่อวาน เด็กน้อยทั้งสองก็ตื่นขึ้นมา เสียงขยับตัวของหลี่เฟิงหลงและหลี่อิงฮวาดังมาจากมุมห้องที่ปูฟางเป็ที่นอน
"ท่านแม่... หอมจังเ้าค่ะ" อิงฮวาเอ่ยขึ้นเสียงใส ดวงตากลมโตเป็ประกาย เมื่อเห็นเฉินอิงกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร
เฉินอิงหันมายิ้มให้เด็กๆ "ตื่นแล้วหรือลูก วันนี้เราจะกินน้ำแกงหัวมันกับเนื้อกระต่ายที่เหลือนะ"
หลี่เฟิงหลงเงยหน้ามองเฉินอิง แววตาของเขายังคงมีความระแวงอยู่บ้าง แต่ก็แฝงด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาไม่เคยเห็นแม่เลี้ยงคนไหนตื่นเช้ามาทำอาหารให้กินเช่นนี้ เพราะแม่แท้ๆ ของเขาก็จากไปั้แ่เขายังเล็ก ส่วนบิดาหลี่ิน่ะหรือ... ไม่ต้องพูดถึง
"ท่านแม่... ทำไมท่านแม่ถึงทำอาหารให้พวกเราทุกวันเลยเ้าคะ" อิงฮวาถามอย่างใสซื่อ
เฉินอิงเดินเข้าไปหาเด็กๆ ลูบศีรษะเล็กๆ ของอิงฮวาเบาๆ "ก็เพราะท่านแม่เป็แม่เลี้ยงของพวกเ้าไงลูก หน้าที่ของแม่ก็คือดูแลลูกๆ ให้มีกินมีของใช้ ไม่ให้อดอยากไงลูก"
หลี่เฟิงหลงฟังแล้วก็เงียบไป เขาหวนคิดถึงอดีตที่ผ่านมา ั้แ่แม่แท้ๆ จากไป ชีวิตของพวกเขาก็ตกอยู่ในความยากลำบาก พ่อก็ไม่ดูแล ย่าก็แก่ชราเกินจะแบกรับภาระได้เพียงลำพัง พวกเขาต้องอดมื้อกินมื้อมาตลอด ยามที่แม่เลี้ยงคนเก่าๆ มาอยู่ด้วยก็มักจะดุด่าว่ากล่าว ไม่เคยมีใครดูแลเอาใจใส่พวกเขาอย่างจริงใจเช่นนี้
เฉินอิงรู้สึกได้ถึงสายตาของหลี่เฟิงหลงที่จ้องมองมา นางรู้ว่าเด็กชายผู้นี้ยังคงระแวงและไม่วางใจนางเต็มที่ แต่นางก็เชื่อว่าความจริงใจและการกระทำของนางจะสามารถละลายกำแพงในใจของเขาได้ในที่สุด
เมื่ออาหารเช้าพร้อม เฉินอิงก็ตักน้ำแกงหัวมันเทศป่าเนื้อกระต่ายที่ยังคงหอมกรุ่นใส่ถ้วยให้เด็กๆ และท่านย่าหลี่ รวมถึงตักถ้วยหนึ่งไปวางข้างๆ หลงอี้ที่ยังคงหลับอยู่
"กินกันได้เลยลูก" เฉินอิงเอ่ยพลางยิ้ม
เด็กทั้งสองไม่รอช้า รีบตักน้ำแกงกินอย่างเอร็ดอร่อยอีกครั้ง พวกเขารู้สึกถึงความอิ่มและอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย นี่เป็ความรู้สึกที่พวกเขาไม่เคยได้รับมานานแสนนาน
"ท่านแม่เ้าคะ... ข้าอยากนอนกับท่านแม่ได้หรือไม่เ้าคะ" อิงฮวาเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ดวงตากลมโตมองเฉินอิงอย่างอ้อนวอน
เฉินอิงชะงักไปเล็กน้อย นางไม่เคยคิดว่าเด็กน้อยจะกล้าเอ่ยปากขอเช่นนี้ ในโลกเดิมเธออยู่ตัวคนเดียวมาตลอด ไม่เคยมีประสบการณ์ในการดูแลเด็กเล็กๆ
"ได้สิลูก" เฉินอิงตอบพลางยิ้มอ่อนโยน "ถ้าลูกอยากนอนกับท่านแม่ ก็มานอนได้เลย"
อิงฮวาตาเป็ประกายด้วยความดีใจ นางรีบกินอาหารอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดเฉินอิงแน่น "รักท่านแม่ที่สุดเลยเ้าค่ะ!"
เฉินอิงััได้ถึงความอบอุ่นเล็กๆ ที่แนบชิดกับกายของนาง เป็ความรู้สึกที่แปลกใหม่ แต่ก็เติมเต็มหัวใจของนางได้อย่างน่าประหลาดใจ
หลี่เฟิงหลงมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เขารู้สึกอิจฉาน้องสาวอยู่บ้าง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เริ่มเห็นความจริงใจของแม่เลี้ยงคนใหม่ผู้นี้ ความระแวงในใจของเขาค่อยๆ ลดน้อยลงทีละน้อย
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เฉินอิงก็พาท่านย่าหลี่และเด็กๆ ออกไปนั่งรับแสงแดดยามเช้าที่หน้าบ้าน อากาศเริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย เฉินอิงหันไปมองหลงอี้ที่ยังคงหลับอยู่
"ท่านย่าเ้าคะ ข้าจะขอไปดูแลเขาอีกสักครู่" เฉินอิงเอ่ยขึ้น
ท่านย่าหลี่พยักหน้า "ไปเถิดเหนียงเอ๋อร์ ดูแลเขาให้ดีนะ"
เฉินอิงเดินเข้าไปในห้องที่หลงอี้ยืนอยู่ นางก้มลงตรวจดูาแของเขาอย่างละเอียดอีกครั้ง แผลดูดีขึ้นมาก ไม่มีร่องรอยของการติดเชื้อแต่อย่างใด นางลูบหน้าผากของเขา อุณหภูมิร่างกายกลับมาเป็ปกติแล้ว
'คงจะฟื้นตัวได้ในไม่ช้านี้แหละ' เฉินอิงคิด
ขณะที่นางกำลังดูแลหลงอี้อยู่นั้น หลงอี้ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาคมกริบจ้องมองเฉินอิงด้วยแววตาที่สงบลงกว่าเมื่อวานมาก
"ท่าน... ดูแลข้ามาตลอดเลยหรือขอรับ" หลงอี้เอ่ยถามเสียงแหบพร่า
"แน่นอนเ้าค่ะ ท่านาเ็สาหัส จะให้ข้าทอดทิ้งท่านได้อย่างไร" เฉินอิงตอบ
หลงอี้เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "ข้า... ขอบใจท่านมากนะขอรับ"
เป็คำขอบคุณที่เรียบง่าย แต่เฉินอิงััได้ถึงความจริงใจที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของเขา
"ไม่ต้องขอบใจหรอกเ้าค่ะ" เฉินอิงตอบ "แค่ท่านหายดีก็พอ"
"ท่าน... ช่างแตกต่างจากสตรีที่ข้าเคยพบเห็นมานัก" หลงอี้เอ่ยขึ้น ดวงตาของเขาจ้องมองเฉินอิงอย่างลึกซึ้ง ราวกับพยายามอ่านบางสิ่งบางอย่างจากแววตาของนาง "สตรีส่วนใหญ่ที่ข้าเคยพบ... ล้วนแต่เห็นแก่ตัวและหวังผลประโยชน์"
เฉินอิงยิ้มบางๆ "ข้าเป็หมอ หน้าที่ของหมอคือรักษาชีวิตผู้คน ไม่ว่าจะฐานะใดก็ตามเ้าค่ะ"
หลงอี้หรี่ตาลงเล็กน้อย "หมออย่างนั้นหรือ... เ้ามาจากที่ใดกันแน่"
เฉินอิงไม่ตอบคำถาม นางเพียงแค่ยิ้มลึกลับ ก่อนจะเปลี่ยนเื่ "ท่านควรจะพักผ่อนให้มากนะเ้าคะ จะได้หายเร็วๆ"
แม้จะไม่ได้คำตอบ แต่หลงอี้ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรอีก เขานอนนิ่งๆ มองเฉินอิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิด เขาเห็นความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ในตัวนาง ความมุ่งมั่น และความเมตตาที่ไม่ธรรมดา
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้การดูแลเอาใจใส่อย่างจริงใจของเฉินอิง สุขภาพของหลี่เฟิงหลงและหลี่อิงฮวาก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของพวกเขาที่เคยซีดเซียวกลับมามีเืฝาด รอยยิ้มบนใบหน้าก็ปรากฏบ่อยครั้งขึ้น
หลี่อิงฮวาติดเฉินอิงแจ นางจะตามเฉินอิงไปทุกที่ที่นางไป ไม่ว่าจะไปหาของป่า ไปทำความสะอาดบ้าน หรือแม้กระทั่งไปดูแลหลงอี้ นางก็จะคอยวนเวียนอยู่ข้างๆ ราวกับลูกนกตัวน้อยๆ ที่เกาะติดแม่
ส่วนหลี่เฟิงหลง แม้จะยังคงเป็เด็กชายที่เงียบขรึมและระแวง แต่กำแพงในใจของเขาก็เริ่มพังทลายลงทีละน้อย เขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวแม่เลี้ยงคนใหม่ผู้นี้ ความพยายามของนางในการหาอาหาร ความเอาใจใส่ที่นางมีให้ทุกคน และความแข็งแกร่งที่ไม่เคยย่อท้อ
วันหนึ่ง ขณะที่เฉินอิงกำลังสอนเด็กๆ นับเลขด้วยกิ่งไม้บนพื้นดิน หลี่เฟิงหลงก็เดินเข้ามานั่งใกล้ๆ เขาหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาขีดเขียนตามที่เฉินอิงสอนอย่างตั้งใจ
เฉินอิงมองดูภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ ความผูกพันที่แท้จริงกำลังก่อตัวขึ้นระหว่างนางกับเด็กๆ มันเป็ความรู้สึกที่ลึกซึ้งและอบอุ่นเกินกว่าที่นางเคยได้รับมาทั้งชีวิต
แต่ในขณะเดียวกัน เฉินอิงก็รู้ดีว่าความสงบสุขนี้อาจอยู่ได้ไม่นานนัก การปรากฏตัวของหลงอี้ บุรุษลึกลับที่ยังคงซ่อนปริศนามากมายไว้ในตัว อาจนำพาทั้งภัยอันตรายและโอกาสครั้งใหญ่มาสู่ชีวิตของนางและครอบครัวก็เป็ได้ อนาคตข้างหน้ายังคงมืดมิด แต่เฉินอิงก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน ด้วยหัวใจของแพทย์และแม่เลี้ยง ที่พร้อมจะปกป้องคนที่นางรักด้วยชีวิต.
****////****