เจียงเฉินเข้าไปในห้อง และปิดประตูแน่น จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิลงบนเบาะรองนั่ง หวงต้าเองก็นอนหลับ แต่ในความจริง มันอยู่ระหว่างทะลวงไปอีกขั้น หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาด เมื่อหวงต้าตื่นขึ้นมามันก็จะทะลวงสู่ขอบเขตแก่นแท้์
เบาะรองนั่งที่เจียงเฉินนั่งอยู่นั้นเชื่อมต่อโดยตรงกับชีพจรพลังงาน ม่านพลังของแหล่งกำเนิดพลังเปิดออกเล็กน้อย นั่นหมายความว่าเจียงเฉินสามารถใช้เบาะรองนั่งนี้ดูดซับพลังงานได้มากเท่าที่เขา้า
ที่นี่มีชีพจรพลังงานที่มีพลังงานเต็มเปี่ยม มันเปรียบได้กับขุมทรัพย์มหาศาล และเจียงเฉินได้มันแด่เพียงผู้เดียว ความเร็วในการบ่มเพาะโดยใช้พลังจากชีพจรพลังงานนั้นรวดเร็วเป็อย่างมาก และในตอนนี้เขาได้มีตราประทับัทั้งหมด เก้าสิบหกดวง เหลือแค่เพียงสี่ดวงเท่านั้นเขาก็จะทะลวงสู่ขอบเขตแก่นแท้์
หวังพึ่งชีพจรพลังงานเพื่อสร้างตราประทับัขึ้นอีกสี่ดวง สำหรับเจียงเฉินแล้วนี่มิได้เป็ปัญหาแต่อย่างใด ั้แ่ที่เขาได้มาที่เมืองหงหยาง เขาได้สู้กับปีศาจโลหิตสองครั้ง และทั้งสองครั้งเขาได้กวาดล้างพวกมันทั้งหมด ในครั้งที่สามนี้ ปีศาจโลหิตจะต้องส่งกองกำลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนมาที่นี่ เมื่อมันได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้ทั้งสองครั้ง หากคาดเดาไม่ผิด ครั้งที่สามจะมีปีศาจโลหิตแก่นแท้์ขั้นปลายเข้าสู่สมรภูมิ ด้วยระดับการบ่มเพาะและความแข็งแกร่งของเจียงเฉินในตอนนี้ เขาสามารถสังหารปีศาจโลหิตแก่นแท้์ขั้นกลางได้อย่างง่ายดาย แต่คงยากที่เขาจะสู้กับปีศาจโลหิตแก่นแท้์ขั้นปลาย
ดังนั้นเจียงเฉินต้องทะลวงสู่ขอบเขตแก่นแท้์ให้เร็วที่สุดที่เขาทำได้ เมื่อเขาทะลวงเข้าสู่แก่นแท้์ขั้นต้น เขาสามารถสังหารปีศาจโลหิตแก่นแท้์ขั้นปลายได้ และเขาก็จะแข็งแกร่งพอที่จะสู้กับราชันย์จันทราโลหิต
"ปลดผนึก ข้าจะดูดซับทั้งหมดที่ข้าสามารถดูดซับได้"
เจียงเฉินได้ปลดผนึกที่เชื่อมต่อกับชีพจรพลังงาน ภายใต้อาคมควบคุม พลังหยวนจำนวนมหาศาลได้ไหลเข้าสู่ร่างกายของเจียงเฉินอย่างบ้าคลั่งราวกับคลื่นสึนามิ
ฟู่ว~~
เพราะผลของพลังงานที่แข็งแกร่ง เจียงเฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เขาเร่งรีบโคจรทักษะร่างแปลงั และเริ่มที่จะชำระล้างพลังงานให้บริสุทธิ์ จากนั้นเขาก็ถ่ายพลังบริสุทธิ์ทั้งหมดไปยังทะเลปราณของเขา
ภายในทะเลปราณ ตราประทับัสีเืได้พวยพุ่งออกมาจากแก่นแท้มนุษย์ของเขา และเริ่มเวียนว่ายรอบๆ ราวกับว่าพวกมันเป็ัตัวจริง มันลึกลับอย่างมาก ในขณะเดียวกันตราประทับัจำนวนหนึ่งได้แปรเปลี่ยนเป็เงาและล่องลอยรอบร่างกายของเจียงเฉิน ทำให้เขาดูเหมือนจักรพรรดิัที่แท้จริง
เปรี๊ยะ...เปรี๊ยะ...
ผลกระทบของพลังงานนั้นทรงพลังนัก มันทำให้ร่างกายเจียงเฉินเกิดเสียงดัง 'เปรี๊ยะๆ' ขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเกิดเสียงขึ้น ตราประทับัดวงที่เก้าสิบเจ็ดได้ก่อตัวขึ้นโดยสมบูรณ์
ชีพจรพลังงานมีพลังอันน่าเหลือเชื่อ ประโยชน์จากพลังงานบริสุทธิ์ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าดวงจิตอสูรและแก่นแท้โลหิตอยู่มาก เมื่อเจียงเฉินได้ดูดซับแก่นพลังงานเข้าไปไม่ใช่แค่ช่วยให้เขาสร้างตราประทับัและเพิ่มระดับการบ่มเพาะของเขาเท่านั้น มันยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย ภายใต้ทักษะร่างแปลงั ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
เปรี๊ยะ......
เสียงที่ดังขึ้นราวกับไม่มีที่สิ้นสุด เงาัจำนวนมากได้บินอยู่รอบตัวเจียงเฉิน สองชั่วโมงต่อมา ในที่สุดเขาก็สร้างตราประทับัได้ครบหนึ่งร้อยดวง ในตอนนี้ ลึกลงไปข้างใน ได้มีเสียงัคำรามออกมาจากร่างกายของเขา ทำให้เจียงเฉินดูราวกับสัตว์ร้ายาที่ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
ทักษะร่างแปลงันั้นทรงอำนาจยิ่ง ภายหลังจะน่ากลัวยิ่งกว่านี้ ไม่ช้าก็เร็วเจียงเฉินจะกลายเป็ัแท้จริง และทะยานสู่์
"ในที่สุดข้าก็สร้างตราประทับัครบหนึ่งร้อยดวง ฮ่าฮ่า...ในตอนนี้ข้าได้อยู่ขอบเขตแก่นแท้์เสียที"
เจียงเฉินหัวเราะออกมาเสียงดัง หากผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ทั่วไป้าจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ พวกเขาไม่มีทางทำเช่นนี้แน่ แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังงานเพียงพอก็ตาม เพราะว่าในการที่จะทำเช่นนั้น ผู้คนจำต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังงานหยวนฟ้าดินให้ได้เสียก่อน จากขอบเขตแก่นแท้มนุษย์เข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ มันเป็คอขวดขนาดใหญ่สำหรับผู้ฝึกตนทุกคน
แต่เจียงเฉินไม่มีคอขวดนี้ เขามีประสบการณ์การบ่มเพาะพลังของนักบุญ คอขวดสำหรับเขาไม่ต่างกับเื่ตลก เขาได้ทำการบ่มเพาะทักษะร่างแปลงั สิ่งที่เขา้ามีเพียงพลังงานเท่านั้น เมื่อเขามีพลังงานเพียงพอ เขาก็สามารถทะลวงผ่านได้ทั้งหมด เป็เื่ง่ายๆไม่มีคอขวดสำหรับเขา
เจียงเฉินนำเม็ดยามนุษย์หยวนจำนวนมากกรอกลงปากของเขา และดูดซับพวกมันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โฮก~~
เจียงเฉินแหงนหน้าขึ้นและคำรามเสียงดัง ราวกับัที่ถูกปลุกให้ตื่นจากนิทรา ดังก้องทั่วทั้งเมืองหงหยาง ทุกคนในเมืองหงหยางต่างรู้สึกได้ถึงพลังงานที่แผ่ออกมาจากคฤหาสน์ของเจียงเฉิน และพลังงานที่แข็งกล้าได้กวาดผ่านทั่วทั้งเมือง สร้างความตกตะลึงให้แก่ทุกคน
"เขาทะลวงระดับแล้ว รวดเร็วขนาดนี้เลยหรือ"
อี้จื่อฮันมองไปยังคลื่นพลังงานที่พุ่งสู่ท้องฟ้า และบ่นพึมพำกับตนเอง เขาไม่สามารถหาคำพูดที่เหมาะสมสำหรับสัตว์ประหลาดเช่นเจียงเฉินได้อีก
"ดูนั่นสิ!พลังงานที่ทรงพลังนั่น!คุณชายเจียง เขาทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์แล้ว!"
"ฮ่าฮ่า ดี ดีมาก!คุณชายเจียงเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบที่หาพบได้ยากในรอบหมื่นปี เขาสามารถสังหารปีศาจโลหิตระดับแก่นแท้์ขณะที่เขายังระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นสูงสุด และตอนนี้เขาทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ เ้าพวกปีศาจโลหิตจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป!"
"เยี่ยม! หลังจากที่คุณชายเจียงได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องทรงพลังยิ่งขึ้นเป็แน่! สำหรับพวกเาาวเมืองหงหยาง นี่ถือว่าเป็ข่าวดี!"
ชาวเมืองทั้งหมดต่างรู้สึกตื่นเต้นเป็อย่างมาก โดยเฉพาะจางเจิ้นและผู้าุโคนอื่นๆ ในตอนนี้เมืองหงหยางได้ตกเป็เป้าหมายหลักของพวกปีศาจโลหิต มีเพียงเจียงเฉินเท่านั้นที่สามารถช่วยพวกเขาได้ ดังนั้นเมื่อเจียงเฉินแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากยิ้งขึ้น
ภายในคฤหาสน์ แก่นแท้มนุษย์สีทองในทะเลปราณได้สั่นะเื รอบๆมันเต็มไปด้วยตราประทับัสีเืจำนวนมาก และแก่นมนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงไป ในตอนนี้มันเติบโตขึ้นเท่าตัวมันมีรูปร่างกลมและส่องประกาย
ในตอนนี้แก่นมนุษย์ของเจียงเฉิน ได้พัฒนากลายเป็แก่นแท้์เรียบร้อยแล้ว
เจียงเฉินได้โบกมืออย่างเรียบง่าย ทันใดนั้นพลังหยวนธรรมชาติรอบๆได้ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาราวกับคลื่นสึนามิ ภายใต้การควบคุมพลังหยวนฟ้าดิน ร่างกายของเจียงเฉินได้ลอยขึ้นอย่างช้าๆ แต่ในเวลานี้เขาไม่ได้ใช้ปีกโลหิตของเขาเพื่อบิน เขาได้ใช้การควบคุมพลังหยวนในการบินแทน
"ฮ่าฮ่า......"
เจียงเฉินหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ในที่สุดเขาก็ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ และเขาสามารถควบคุมพลังหยวนได้อีกครั้ง บนหัวของเขาปรากฎคลื่นพลังรูปัสีแดงเืขึ้น มันแผ่กลิ่นอายหยางบริสุทธิ์ออกมา
เขาได้สร้างตราประทับัหนึ่งร้อยดวง ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งทะยานขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ในตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตัวเขาแข็งแกร่งขึ้นเพียงใด ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์และขอบเขตแก่นแท้์ พวกมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่อาจนำมาเทียบกันได้
เจียงเฉินกำหมัดของเขาแน่น ทำให้เกิดเสียงดัง 'แกร้กๆ' ขึ้น ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยความมั่นใจ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นปลายทั่วไป ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา
"ในที่สุดข้าก็ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ แต่การบ่มเพาะทักษะร่างแปลงัจะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ ตามที่ตำราได้บอกไว้ จากขั้นต้นไปสู่ขั้นกลาง ต้องใช้ตราประทับัสองร้อยดวง และหากข้า้าไปถึงแก่นแท้์ขั้นปลาย จำเป็ต้องสร้างตราประทับัถึงสี่ร้อยดวง นี่ทำให้ข้าปวดหัวเสียจริง"
เจียงเฉินถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม้ว่าทักษะร่างแปลงัจะทรงพลังอย่างมาก และการบ่มเพาะมันก็ยากเช่นกัน นับประสาอะไรกับอนาคตข้างหน้า ดูเพียงสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ หากเขา้าทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นกลาง เขาต้องสร้างตราประทับัเพิ่มอีกหนึ่งร้อยดวงถึงจะครบสองร้อยดวง นั่นจำเป็ต้องใช้พลังจำนวนมหาศาล
แต่หลังจากนั้น ใบหน้าของเขาปรากฎความมุ่งมั่นขึ้น
"ด้วยการบ่มเพาะทักษะร่างแปลงั เส้นทางของข้านั้นได้ถูกลิขิตให้ย้อมไปด้วยเืและการเข่นฆ่า เส้นทางสู่ตราประทับัหนึ่งแสนดวง ใครกล้าขวางข้ามันผู้นั้นจักต้องตาย"
หลังจากที่เขาเก็บพลังของเขา เจียงเฉินไม่ได้ออกจากห้องของเขาในทันที แต่ยังนั่งอยู่ที่เบาะรองนั่งต่อไป และดูดซับพลังงาน ใกล้พลบค่ำแล้วเหล่าปีศาจโลหิตยังไม่ปรากฎตัวและดูเหมือนว่าคืนนี้พวกมันจะไม่ปรากฏตัวอีก
ก่อนที่เจียงเฉินจะมาที่นี่ เขาได้กลืนยาห้าธาตุในตอนที่เขาอยู่ที่นิกายเซวียนอี้ รากฐานของเขามีความแข็งแกร่งและเสถียรภาพ ด้วยระยะสั้นๆเขาไม่จำเป็ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาใดๆเมื่อทะลวงผ่านระดับต่อไป ดังนั้นเจียงเฉินถึงได้นำพลังงานจากชีพจรพลังงานไปใช้ เพื่อสร้างตราประทับัดวงใหม่ เพื่อทำให้ระดับการบ่มเพาะขอบเขตแก่นแท้์ขั้นต้นมีความเสถียรสมบูรณ์
เวลาผ่านไปหนึ่งวันอย่างรวดเร็ว ในหนึ่งวันนั้นเจียงเฉินสามารถสร้างตราประทับัเพิ่มขึ้นอีกแปดดวง ในตอนนี้ทะเลปราณของเขามีตราประทับัทั้งสิ้นหนึ่งร้อยแปดดวง ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ในเวลานี้ เจียงเฉินได้หยุดดูดซับ ผลจากชีพจรพลังงานที่มีต่อร่างกายเขาถึงขีดจำกัด เขาจำเป็ต้องหยุดและปล่อยให้ตราประทับัที่สร้างขึ้นใหม่ผสานให้ลงตัวเสียก่อน
ในคืนนั้นไม่มีวี่แววของปีศาจโลหิตแม้แต่น้อย จนถึงรุ่งสาง แต่ไม่มีปีศาจโลหิตโผล่มาแม้แต่ตนเดียว
จากนั้นสามวันผ่านไป ดูเหมือนว่าที่สุดปีศาจโลหิตก็หายตัวไป แม้ว่าจะมีพวกมันบางส่วนปรากฎขึ้นภายในเมืองอื่นในเขตหวงฉีก็ตาม ภายใต้การปกป้องของตระกูลอี้ เหล่าปีศาจโลหิตจึงไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากนัก
"คุณชายเจียง ดูเหมือนว่าเ้าพวกปีศาจโลหิตจะมีบางอย่างผิดปกติ สามวันเข้าไปแล้วแต่มันยังไม่ปรากฎตัวที่นี่แม้แต่น้อย"
จางเจิ้นพูดอย่างเป็กังวล
"ข้าไม่รู้ว่าพวกปีศาจโลหิตมันจะทำอะไร แต่ว่าพวกเ้าอย่าได้กังวลน้องเจียงได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์แล้ว!แม้ว่าหากมีหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตที่ทรงพลัง น้องเจียงสามารถที่จะจัดการพวกมันได้!"
อี้จื่อฮันเชื่อมันในตัวเจียงเฉินมาก ไม่รู้ว่าเขาเอาความเชื่อมั่นนี้มาจากไหนเหมือนกัน
ตูม!.....
สิ้นสุดเสียงของอี้จื่อฮัน เสียงะเิดังกึกก้องจากแต่ไกล สายลมปีศาจได้พัดผ่านและตามด้วยกลุ่มปีศาจโลหิตขนาดใหญ่ พวกมันมุ่งตรงมายังเมืองหงหยางด้วยความเร็วสูง
"พวกมันมาแล้ว!"
ท่าทีของจางเจิ้นเปลี่ยนไป เวลานี้เช้ามืดและมันเหนือความคาดหมายของทุกๆคนที่เหล่าปีศาจโลหิตเลือกเวลานี้ในการบุกเข้ามา
"ดูนั่น!ปีศาจโลหิตกว่าสองร้อยตน ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม มันอาจจะเป็การต่อสู้ที่ยากลำบาก!"
อี้จื่อฮันเรียกขวัญกำลังใจ
เคี้ยกเคี้ยก..........
เสียงหัวเราะของปีศาจโลหิตดังมาแต่ไกล เหนือฟ้ามีหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตหกตนมาด้วย อี้จื่อฮันหันไปมองพวกหัวหน้าหน่วย
จากนั้นเขาก็รู้ว่าหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตอยู่ระดับขอบเขตแก่นแท้์ขั้นปลาย และมีหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตขอบเขตแก่นแท้์ขั้นกลางสองตน และหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตขอบเขตแก่นแท้์ขั้นต้นสามตน รวมทั้งหมดปีศาจโลหิตแก่นแท้์หกตน พวกมันมาพร้อมกองกำลังที่แข็งแกร่ง
ใบหน้าของอี้จื่อฮันทะมึน ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป กระทั่งเจียงเฉินที่มีความสามารถพอที่จะรับมือตัวหัวหน้าแก่นแท้์ขั้นปลาย แต่ผู้ใดจะรับมือปีศาจโลหิตแก่นแท้์ขั้นกลางทั้งสองตนกัน? ด้วยความแข็งแกร่งของอี้จื่อฮัน เขาอาจจะรับมือได้เพียงหนึ่งตน หรือบางทีเขาอาจจะพ่ายแพ้ก็เป็ได้
อี้จื่อฮันและชาวเมืองอดที่จะเป็กังวลมิได้ แต่มีผู้ที่ไม่ได้เป็กังวลอยู่ เจียงเฉินได้พุ่งออกมาจากคฤหาสน์ ในเวลาเดียวกันมีแสงสีทองพุ่งตามเจียงเฉินออกมา มันคือ หวงต้านั่นเอง
"เ้าหนู เ้าทะลวงระดับแล้วงั้นรึ?"
หวงต้าถามขณะที่แกว่งหางอย่างสบายอารมณ์
"เ้าหมาบัดซบ! เ้าทำอย่างไรถึงสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ได้? เพียงแค่นอนก็ทะลวงระดับได้! มารดาเอ๊ย! อย่าได้บอกผู้ใดเชียวล่ะว่าข้ารู้จักเ้า!"
เจียงเฉินแทบกระอักเืออกมา เ้าหมานี่เป็สัตว์ประหลาดที่ผิดปกติอย่างแท้จริง
