เมื่อข่าวถูกส่งไปถึงตระกูลตงฟาง ทั้งตระกูลต่างร้องไห้ด้วยความโศกศัลย์ ผู้นำตระกูลตายแล้ว ผู้าุโใหญ่ก็ตายแล้ว ผู้ฝึกตนในตระกูลที่ไปบุกตระกูลถังล้วนตายเกลี้ยง
ผู้าุโสองตัดสินใจเด็ดเดี่ยว พาคนที่เหลือของตระกูลออกจากเมืองอวิ๋นหลิวไปทันที
ส่วนองครักษ์กับคนรับใช้ของตระกูลตงฟางก็หนีไปหมดแล้วเช่นกัน เนื่องจากผู้ฝึกตนของตระกูลตงฟางแทบจะไม่เหลือ ผู้าุโก็เหลือแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
เหล่าองครักษ์ต่างแย่งชิงทรัพย์สมบัติของตระกูลตงฟาง แล้วหลบหนีไป
ร้านค้าและที่ทำการของตระกูลตงฟางล้วนถูกปล้น จนเถ้าแก่ต้องหอบเงินหนี
กระทั่งตระกูลเล็กบางส่วนที่ได้ยินว่าคนตระกูลตงฟางแทบจะถูกกวาดล้าง พวกเขาก็นำคนในตระกูลไปโจมตี ตระกูลตงฟางในยามนี้ไม่ต่างอะไรไปจากอาหารที่ตกลงไปในกลุ่มผู้ยากไร้ และถูกผู้คนรุมทึ้งอย่างบ้าคลั่ง
ความวุ่นวายเกิดขึ้นตลอดวัน จนกระทั่งตกกลางคืน เยว่มู่จือก็นำองครักษ์จากจวนเ้าเมืองมาปิดล้อมตระกูลตงฟางเอาไว้ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป
อย่างไรเสียในจวนตระกูลตงฟางก็ไร้ซึ่งวี่เเววของผู้อยู่อาศัย
ตระกูลตงฟางที่ยิ่งใหญ่ได้หายไปจากเมืองอวิ๋นหลิวภายในค่ำคืนเดียว
ผู้าุโสองของตระกูลตงฟางนำผู้คนในตระกูลหลายสิบชีวิตกับองครักษ์ที่ยังภักดีไม่กี่คน ปลอมตัวหนีออกจากเมืองอวิ๋นหลิว
พวกเขาเตรียมตัวหลบหนีไปเมืองอื่น แล้วเปลี่ยนชื่อกับแซ่เพื่อใช้ชีวิตต่อไป แม้ชื่อตระกูลตงฟางไม่อาจใช้ได้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังเหลือคนในตระกูลมากมาย นอกจากนี้พวกเขายังนำทรัพย์สมบัติติดตัวมาด้วยไม่น้อย
พวกเขาเดินทางออกจากเมืองอวิ๋นหลิวมาได้หลายสิบลี้ แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ถูกคนชุดดำล้อมเอาไว้
“พวกเ้าเป็ใครกัน? เหตุใดจึงมาขวางทางพวกเรา? พวกเราก็แค่คนเร่ร่อน บนตัวไม่มีสมบัติอะไร!”
ผู้าุโสอง ‘ตงฟางป้าเยี่ย’ รีบกล่าวทันที
ตอนนี้ทั้งตระกูลตงฟางเหลือองครักษ์ที่จงรักภักดีเพียงไม่กี่คน ผู้ฝึกตนในตระกูลตงฟางคนอื่นๆ ถ้าไม่ตายในตระกูลถัง ก็ตายด้วยฝีมือจากตระกูลอื่นที่ฉวยโอกาสในความวุ่นวายครั้งนี้
“ฮ่าๆๆ ผู้าุโสอง มาถึงขั้นนี้แล้วยังจะเล่นละครอะไรอีก!?”
ผู้นำของคนชุดดำดึงผ้าคลุมหน้าออก ใบหน้าของกูิหยวนเผยออกมา
กูิหยวนหายตัวไปั้แ่ตอนที่ตระกูลตงฟางเกิดเื่ ในเวลาเดียวกันก็ขโมยทรัพย์สมบัติของตระกูลตงฟางไปจำนวนมาก นอกจากในฐานะที่กูิหยวนเป็ผู้ดูแลของตระกูลตงฟาง องครักษ์ที่อยู่ภายใต้เขาก็มีอยู่มากเช่นกัน
ผู้ที่อยู่เื้ัความวุ่นวายขององครักษ์ตระกูลตงฟาง ก็คือกูิหยวน
“กูิหยวน เ้าคนชั้นต่ำจิตใจอำมหิต เสียแรงที่ตระกูลตงฟางของข้าดูแลเ้ามาหลายปี ยามนี้เ้ายังมาซ้ำเติมพวกเราอีก!”
เมื่อตงฟางป้าเยี่ยเห็นว่าคนที่ขวางทางคือกูิหยวน เขาก็อยากกัดอีกฝ่ายให้ตายจบๆ ไป
“เฮอะ เก็บคำพูดไร้สาระเหล่านี้ไว้เถอะ หลายปีมานี้ข้ากูิหยวนทุ่มเทให้ตระกูลตงฟางไปมากเท่าไหร่ แต่ตงฟางป้าเทียน...เ้าโง่นั่นกลับพาตระกูลไปตายเสียเปล่า! แต่เป็เช่นนี้ก็ดี ต่อไปนี้เมืองอวิ๋นหลิวจะมีตระกูลกูเพิ่มขึ้นมาอีกตระกูล!”
กูิหยวนพูดจบก็โบกมือ คนชุดดำสิบกว่าคนรอบๆ ลงมือทันที พวกเขาสังหารทุกคน โดยไม่คิดไว้ชีวิตแม้แต่คนเดียว
อย่างไรตงฟางป้าเยี่ยก็เป็ผู้ชำนาญยุทธ์ขั้นที่เก้า พลังไม่ต่างไปจากกูิหยวนมากนัก เขารู้ว่าครั้งนี้ตระกูลตงฟางคงยากจะหนีรอด หากเป็เช่นนี้มีแต่ต้องสู้ตายกับกูิหยวนแล้ว
แต่ใช่ว่ากูิหยวนจะเปิดโอกาสเขา ทั้งคู่ประมือกันอยู่ครู่หนึ่ง คนตระกูลตงฟางก็ถูกสังหารจนสิ้น
ตงฟางป้าเยี่ยถูกคนชุดดำลอบโจมตีจากด้านหลัง เขาโดนแทงทะลุร่างกาย
ก่อนตงฟางป้าเยี่ยจะสิ้นลม สายตาของเขายังคงหลับไม่ลง เขาคิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุดตระกูลตงฟางกลับต้องมาตายด้วยน้ำมือของคนอย่างกูิหยวน
“ใต้เท้า เราจัดการหมดแล้ว”
ลูกน้องชุดดำเดินมารายงานกับกูิหยวน เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และจินตนาการภาพที่ตนกลายเป็ผู้นำตระกูลในอนาคต มุมปากก็อดที่จะเหยียดรอยยิ้มออกมาไม่ได้
แต่ไม่กี่อึดใจต่อมา ก็มีเสียงทะลวงอากาศฝ่าเข้ามาในความมืด
คนชุดดำหลายคนล้มลง ใบหน้าของกูิหยวนเผือดสี เขาคิดไม่ถึงว่ามีตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ข้างหลัง[1] พวกเขาถูกซุ่มโจมตี
กูิหยวนยังไม่ทันได้ถามคำถาม เงาหลายสายพลันเผยตัวจากในความมืด ผู้นำสองคนนั้น กูิหยวนรู้จักดี
“ถังจงเวย ถังเหล่ย!”
ตระกูลถังไล่ตามคณะเดินทางของตระกูลตงฟางมานานแล้ว ถังจงเวยกับถังเหล่ยเตรียมขุดรากถอนโคน แต่คิดไม่ถึงว่ากูิหยวนจะชิงลงมือ และรุมสังหารคนตระกูลตงฟางก่อน
กูิหยวนเองก็อยู่ในรายชื่อต้องสังหารของถังเหล่ย
ไม่นานถังเหล่ยกับถังจงเวยก็จัดการกับคนชุดดำจนหมด หลังจากพวกเขาสังหารกูิหยวนแล้ว ก็ชิงสมบัติของตระกูลตงฟางกลับไปทั้งหมดด้วย
สมบัติเหล่านี้ล้วนเป็ทรัพยากรที่จะทำให้ตระกูลถังฟื้นตัวอีกครั้ง
เมื่อเช้าวันที่สองมาถึง ตระกูลตงฟางก็ไม่อยู่ในสารบบของเมืองอวิ๋นหลิวอีกต่อไป
ตระกูลถังใช้เวลาหนึ่งวันเพื่อเก็บกวาดร่องรอยการต่อสู้ลวกๆ แล้วค่อยเริ่มสร้างบ้านเรือนใหม่อีกครั้ง ถังจงเวยซื้อตัวองครักษ์มาบางส่วนเพื่อเพิ่มกำลังป้องกันให้ตระกูลชั่วคราว
ท่าทีของตระกูลซินกับตระกูลหวังนับว่าดีมาก พวกเขาไม่ได้เข้าไประรานร้านค้าของตระกูลตงฟาง ทั้งหมดล้วนอยู่ในการดูแลของตระกูลถัง
เดาได้เลยว่าหากตระกูลถังฟื้นฟูกลับมาได้ จะต้องกลายเป็ตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองอวิ๋นหลิวแน่ เพียงแต่ถังเหล่ยไม่อาจอยู่ในเมืองต่อไปได้แล้ว
ถังเหล่ยเอาเื่ของเยียนหลิงซานไปบอกกับถังจงเวย รวมถึงเื้ัของเยียนหลิงซาน เขาต้องหนีออกจากจักรวรรดิเทียนอวี่ จึงจะมีทางรอด
แม้ถังจงเวยจะไม่อยากให้ถังเหล่ยจากไป แต่เขารู้ดีว่าไม่มีวิธีอื่นอีก นอกจากวิธีนี้แล้ว
อวิ๋นเมิ่งกับหลินเนี่ยนก็มาบอกลาถังเหล่ย
สิ่งที่เหนือความคาดหมายของถังเหล่ยก็คือ อวิ๋นเมิ่งอยากรับถังเฟยเป็ศิษย์
ระดับิญญายุทธ์ของถังเฟยคือขั้นสูง อีกทั้งยังปลุกิญญายุทธ์ได้ั้แ่อายุยังน้อยมาก พร์ไม่เลวเลยจริงๆ
ในเวลาเดียวกันถังเหล่ยก็เชื่อมั่นในตัวอวิ๋นเมิ่ง หากมอบถังเฟยให้อวิ๋นเมิ่ง เขาเองก็วางใจ
ถังจงเวยเองก็เห็นด้วย
ถังเหล่ยกับพวกอวิ๋นเมิ่งลอบออกจากเมืองอวิ๋นหลิว เพื่อไม่ให้ใครรู้จึงไม่ได้ให้คนในตระกูลมาส่ง
เมื่อถึงนอกเมือง อวิ๋นเมิ่งมอบแผนที่ชายแดนจักรวรรดิให้ถังเหล่ย นี่คือสิ่งที่ถังเหล่ย้า
“ขอบคุณผู้าุโอวิ๋น ผู้เยาว์มีเื่อยากขอร้อง หากในอนาคตตระกูลถังเผชิญหน้ากับอันตราย หวังว่าท่าน...”
“ข้าเข้าใจ ตอนนี้ตระกูลถังก็นับว่าเป็ตระกูลของศิษย์ข้าแล้ว ข้าต้องคอยช่วยเหลือแน่นอน!”
อวิ๋นเมิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ความจริงแล้วอวิ๋นเมิ่งคิดจะให้ถังเหล่ยติดตามนางไป เพราะนางสามารถแนะนำอาจารย์ให้ถังเหล่ยได้ ทว่าเขาได้ลงมือสังหารเยียนหลิงซานไปแล้ว ต่อให้จะมีพร์ที่น่าใแค่ไหน ในจักรวรรดิเทียนอวี่ก็ไม่มีที่ให้เขาอยู่
“พี่ชาย ท่านต้องกลับมานะ เฟยเอ๋อร์กับท่านปู่จะรอท่านกลับมาเสมอ”
หลังจากถังเฟยบอกลาถังเหล่ยแล้ว ก็เหลือเพียงหลินเนี่ยนกับถังเหล่ยแค่สองคน
อวิ๋นเมิ่งพาถังเฟยจากไปก่อน ตอนนี้หลินเนี่ยนกับถังเหล่ยได้แต่มองหน้ากัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด
“เ้าอยู่ข้างนอกห้ามตายเด็ดขาด! ต่อไปอย่าได้กลับมาอีก”
หลินเนี่ยนกล่าวด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“ข้ากลับมาแน่ วางใจเถอะ!”
ถังเหล่ยกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
“ข้าไม่สนใจว่าเ้าจะกลับมาหรือไม่ ของสิ่งนี้มอบให้เ้า นับว่าเป็การตอบแทนบุญคุณ”
ในมือของหลินเนี่ยนมีกริชสีเงินเล่มหนึ่ง ตัวกริชสร้างด้วยความประณีต บนนั้นฝังอัญมณีสองเม็ดเอาไว้
“นี่มัน...”
ถังเหล่ยกำลังจะบอกว่าสิ่งนี้ล้ำค่าเกินไป หลินเนี่ยนก็เอากริชยัดใส่ในมือเขา แล้วจากไปโดยไม่หันกลับมา
“ห้ามตายเด็ดขาด!”
เสียงของหลินเนี่ยนดังขึ้น
‘ตายหรือ? ไม่มีทาง! เมืองอวิ๋นหลิว ข้าต้องกลับมาแน่!’
ถังเหล่ยมองกริชในมือกับเงาของสาวน้อยที่ไกลออกไป แล้วกล่าวคำพูดในใจ
[1] ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง หมายถึง การที่ผู้จ้องจะคิดบัญชีกับผู้อื่น ไม่รู้ว่าตัวเองถูกจ้องจะคิดบัญชีอยู่เช่นกัน