“วันนี้ห้ามเ้าไปซุกซนที่ใด ข้าจะนั่งเฝ้า จนกว่าเ้าจะเขียนวรรณกรรมเสร็จ จะไม่ยอมให้เ้าก่อเื่อีกเด็ดขาด” เสี่ยวเฟยอ้าปากค้าง ก่อนเขาจะจับกายนางลงนั่ง แล้วยื่นพู่กันให้
“ทะ ท่านจะเฝ้าข้า เขียนวรรณกรรมรึเ้าคะ” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ
“ใช่” เขาตอบอย่างหนักแน่น ทว่าสายตาของเสี่ยวเฟยหันมองไปยังห้องสมุนไพรเป็ระยะ
“เ้าคิดจะก่อเื่อันใดอีก” ชายหนุ่มเอ่ยถามคล้ายรู้ทัน นางยิ้มเล็กน้อยแล้วหันมายังเขา พลันทำตาแป๋วใส่
“ท่านพี่เ้าคะ วันนี้ข้าขอไม่เขียนวรรณกรรมจะได้หรือไม่”
“เหตุใดจึงไม่เขียน” เขาถามด้วยพลางขมวดคิ้วสงสัย
“ข้า้าช่วยเจ่าเจาเ้าค่ะ ข้าไม่มีเวลาอธิบาย ตอนนี้ข้าขอใช้สมุนไพร มาปรุงยาบำรุงได้หรือไม่เ้าคะ” โม่โฉวชะงักนิ่ง จับจ้องไปยังใบหน้าของอีกฝ่าย อยากรู้เหมือนกันว่านางซุกซนเพียงใด
“ก็ได้” เขาตอบรับความ้าของนาง แล้วเดินตามเสี่ยวเฟยไปยังห้องสมุนไพรทันที พลันยืนมองหญิงสาวในชุดขาวสะอาดตา เปิดลิ้นชักค้นหาสมุนไพรอย่างชำนาญ
นางหยิบสมุนไพรหลายชนิดออกมาใส่ถาดใบใหญ่ จนสมุนไพรพูนเต็มถาด จึงหยุดแล้วหันมาส่งยิ้มหวานให้ผู้เป็สามี
“ข้าเลือกสมุนไพรเสร็จแล้วเ้าค่ะ ตอนนี้ข้า้าปรุงยาสมุนไพร อยากใช้ครัวครู่หนึ่งเท่านั้นเ้าค่ะ” โม่โฉวเดินนำเสี่ยวเฟยมายังครัวด้านล่าง แล้วไล่แม่ครัวทุกคนออกไปให้หมด เหลือเพียงเสี่ยวเฟยที่ยืนยิ้มอยู่อย่างภูมิใจ
“ข้ารบกวนเวลาพวกนางไม่นาน รับรองว่าจะคืนครัวให้พวกนางโดยเร็วที่สุด” ชายหนุ่มไม่ตอบ เพียงแต่มองการกระทำของหญิงสาวอย่างเงียบ ๆ เสี่ยวเฟยจัดการบดสมุนไพรสองสามอย่างรวมกัน แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดจัด ทุกกิริยาของนางอยู่ในสายตาของโม่โฉว เขานั่งมองนางอย่างเงียบ ๆ เมื่อเห็นท่าทางเงอะงะจากอีกฝ่าย จึงรีบเดินเข้าไปยกหม้อสมุนไพรที่ต้มเดือดลงจากเตา
“ข้าทำเอง เ้ายิ่งซุ่มซ่าม หากโดนลวกมือจะเป็ภาระของข้า” หญิงสาวมองการกระทำของโม่โฉวครู่หนึ่ง แล้วปล่อยยิ้มกว้าง
“เป็ห่วงข้ารึเ้าคะ” เขาชะงักนิ่ง พลันมองหน้าอีกฝ่ายแล้วอึกอัก
“ข้ารึห่วงเ้า เปล่าเลยสักนิด” โม่โฉวพูดจบก็เบี่ยงตัวไปนั่งรอนางยังที่เดิม ปล่อยให้นางทำหน้าที่ต่อ ครู่หนึ่งโม่โฉวจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เ้าทำน้ำสมุนไพรมากเพียงนี้ เพื่อเจ่าเจางั้นรึ”
“เ้าค่ะ”
“ป่วยเหรอ เขาไม่เคยบอกข้า เหตุใดจึงบอกเ้า” หญิงสาววางผ้าในมือลง แล้วหันมายังชายหนุ่มรูปงามด้านหน้า
“หลายวันมานี้ ข้าสังเกตเห็นว่าเจ่าเจาคล้ายมีเื่ทุกข์ใจ ข้าถามเท่าใดเขาก็ไม่ยอมบอก เป็เหตุให้ข้านำสุราเข้ามาในเรือนใหญ่ เพื่อมอมให้เขาพูดความจริง คนเมามักจะพูดความจริงเ้าค่ะ” เขาเผลอยิ้ม แล้วพูดต่อ
“เ้าจึงเมาไปพร้อม ๆ กับเจ่าเจา เช่นนั้นได้ความว่าอย่างไร”
“แม่ของเจ่าเจาป่วยแต่ไม่ยอมกินยา ไม่ยอมรับการรักษาจากที่ใด คนแก่ย่อมดื้อเป็ธรรมดาเ้าค่ะ ข้าก็เลยอยากทำยาบำรุงไปให้นาง เจ่าเจาเองจะได้สบายใจด้วยเ้าค่ะ” พูดจบหญิงสาวก็หันไปกรอกยาสมุนไพรลงในไห ขณะที่สายตาของโม่โฉวจับจ้องไปยังภรรยาของเขาอย่างมีความหมาย
“เ้ารู้รึ ว่าเรือนของนางอาศัยอยู่ที่ใด” หญิงสาวมัดฝาสมุนไพรจนแน่น แล้วหันมาส่ายศีรษะ
“ไม่รู้เ้าค่ะ แต่ข้าจะให้เจ่าเจาพาไป”
“แต่ข้าจะไปส่งเ้าเอง” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมรอยยิ้มของเสี่ยวเฟยค่อย ๆ ยิ้มกว้างออกมา
“เช่นนั้น เรารีบไปกันดีกว่าเ้าค่ะ”
ทั้งสองมุ่งหน้าตรงไปยังตลาด พร้อมใบหน้างดงามของเสี่ยวเฟยที่หันซ้ายหันขวามองดูข้าวของด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เ้าทำราวกับว่าไม่เคยเห็นของพวกนี้” อยู่ ๆ โม่โฉวที่เดินข้าง ๆ ก็เอ่ยขึ้น ก่อนเสี่ยวเฟยจะรู้สึกตัวแล้วหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มสดใสเช่นเดิม
“นั่นเพราะข้าสูญสิ้นความจำหลังจากดื่มพิษไปไงเ้าคะ” เขานิ่งเงียบ แล้วเดินตามหญิงสาวไปเรื่อย ๆ ก่อนนางจะชี้มือไปยังร้านหนึ่งที่มีคนยืนมุงอยู่หลายคน
“นั่นคือร้านขายไก่ดำเ้าค่ะ ว่ากันว่าเป็ร้านที่อร่อยมากเลยนะเ้าคะ ข้าอยากซื้อไปฝากแม่ของเจ่าเจาเพื่อบำรุงร่างกาย” ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ไม่พูดอะไร ทว่าก้มลงหยิบเงินที่ติดตัวมาแล้วยื่นให้
“สามีของข้าใจดีที่สุด” คำพูดหวานของนาง ทำให้โม่โฉวเชิดหน้าขึ้น แล้วเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะหันไปมองเสี่ยวเฟยที่วิ่งไปซื้อไก่ดำด้วยความตั้งใจ
หากเป็เสี่ยวเฟยคนเก่า นางไม่มีทางสนใจคนอื่นนอกจากตัวเอง ความยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี ไม่ทำให้นางลดตัวลงมาสนใจใคร เสี้ยวหนึ่งของความคิด ภาพของเซียนเยว่ก็แล่นเข้ามาให้เขารู้สึกใจหาย
“หากนางเป็เสี่ยวเฟยคนเก่า ข้าคงทวงความยุติธรรมให้เ้าไม่ยากนัก” เขาขบคิดพร้อมสายตาจับจ้องไปยังเสี่ยวเฟยที่ยืนรอไก่ดำอย่างจดจ่อ ไม่นานนักนางก็ถือไก่ดำเดินมาหาเขาด้วยสีหน้าดีใจ
“แม่ของเจ่าเจาต้องชอบแน่ ๆ เ้าค่ะ” ชายหนุ่มยกมือลูบศีรษะนางเบา ๆ ก่อนหญิงสาวจะชะงัก แล้วจับจ้องมองสายตาของเขา ที่ดูอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่นางจะหวั่นไหวมากกว่าเดิม จึงทำแสร้งเป็เดินหันหลังให้
“ไม่ได้นะจื่อหลาน เธอไม่ใช่เสี่ยวเฟย เธอจะหวั่นไหวกับเขาไม่ได้เด็ดขาด ใจแข็งเข้าไว้” หญิงสาวข่มใจตัวเองอย่างหนัก ก่อนเสียงเรียกของโม่โฉวจะดังขึ้น
