ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณชายใหญ่ตู้จะเป็ฝ่ายเสนอตัวไปทำงานที่เผิงเฉิง
งานบุกเบิกตลาด แต่ไหนแต่ไรก็เป็งานที่เหน็ดเหนื่อย
อีกทั้งยังเป็แผ่นดินใหญ่ที่ยากจนแร้นแค้น แม้จะเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการปฏิรูปประเทศ แต่ก็อยู่ระหว่างการพัฒนาเท่านั้น
ไม่ดื่มด่ำไปกับวันเวลาอันแสนสุขที่เกาะฮ่องกง กลับกันคุณชายใหญ่ตู้บอกว่าจะไปเผิงเฉิง?
หลิวเข่ออิ๋งหน้าถอดสี แต่คุณนายน้อยอีกสองคนพากันรู้สึกดีใจ คุณชายใหญ่ตู้สร้างภาพเป็เด็กดีเก่งที่สุด เขามักนัดเจอกับตู้เชิงหรงที่สมาคมนักธุรกิจฮ่องกงอยู่บ่อยครั้ง สองพ่อลูกติดต่อกันเป็ประจำ ดังนั้นคนอื่นในครอบครัวมีหรือจะสู้ลูกชายคนโตไหว
ตู้เชิงหรงนั้นอายุมากแล้ว คนที่เขาอยากปั้นให้มารับ่ต่อมากที่สุดย่อมเป็คุณชายใหญ่
ขนาดหลิวเทียนเฉวียนยังไม่สามารถจัดการเื่ที่เผิงเฉิงได้ เหล่าเมียน้อยของตู้เชิงหรงจึงอยากเห็นคุณชายใหญ่เข้าไปแทรกแซงเื่นี้ยิ่งนัก
ได้ขับไล่คุณชายใหญ่ไปให้พ้นหูพ้นตา นอกจากหลิวเข่ออิ๋ง แล้วสิ่งนี้ล้วนส่งผลดีกับทุกคน
คุณนายรองรีบช่วยคุณชายใหญ่ตู้พูดทันที
“คุณชายใหญ่ช่างกตัญญูจริงๆ ท่าทางเขาอยากช่วยแบ่งเบาภาระของท่านนะคะ”
“นั่นสิคะ คุณชายใหญ่้าช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวก็ควรให้เขาได้ลองทำดูสักครั้ง น่าเสียดายที่ชายสามของพวกเราอายุยังน้อย ไม่อย่างนั้นคงได้ไปกับพี่ใหญ่ด้วยแล้ว...”
พวกเขาผลัดกันรับผลัดกันรุก ในขณะที่หลิวเข่ออิ๋งกับหลิวเทียนเฉวียนโกรธจนหน้าเบี้ยว
ตู้เชิงหรงค่อนข้างรู้สึกลังเล เขารู้ว่าก่อนหน้านี้ลูกชายคนโตได้ถูกลอบทำร้ายที่มณฑลิ่ หากไม่ได้ลูกน้องที่ท่าเรือช่วยชีวิตไว้ ตู้เชิงหรงคงไม่ได้เจอลูกชายคนโตอีกต่อไปแล้ว
หลังจากเกิดเื่ ลูกชายคนโตของเขาก็จัดการเก็บกวาดพวกคนทรยศเสียจนเรียบ
คุณชายใหญ่ตู้ไม่กลัวตายหรืออย่างไร ตอนนี้ถึงได้กล้าบอกว่าจะไปแผ่นดินใหญ่อีก
ที่นั่นอยู่ไกลจากเกาะฮ่องกงยิ่งนัก แม้แต่อำนาจของตู้เชิงหรงก็แผ่ไปไม่ถึง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็คนในครอบครัวหรือศัตรูของตระกูลตู้ ก็สามารถลงมือกับลูกชายคนโตของเขาได้สะดวกมากขึ้น
“เ้าฮุย ลูกคิดดีแล้วใช่ไหม”
ตู้เ้าฮุยพยักหน้ารับ “ผมคิดว่าอนาคตตลาดของแผ่นดินใหญ่จะต้องสำคัญมากอย่างแน่นอนครับ แม้แต่เศรษฐีอันดับหนึ่งยัง้าสร้างท่าเรือที่เผิงเฉิง หากตระกูลตู้ของพวกเราอยากเติบโตยิ่งขึ้น ก็ควรเรียนรู้วิธีการของคนฉลาดไม่ใช่หรือครับ ผมยินดีแบ่งเบาภาระของคุณพ่อ และออกไปฝ่าฟันทำงานแทนน้องๆ ที่บ้านเองครับ”
คุณนายน้อยทั้งสามอยากกลอกตามองบนเหลือเกิน
หากตู้เ้าฮุยขึ้นมาครองอำนาจในตระกูลตู้ ทายาทคนอื่นๆ ของตระกูลตู้คงถูกเขาส่งไปทำงานที่ชายแดนกันหมด พูดจาช่างน่าฟังยิ่งนัก บอกว่าจะช่วยฝ่าฟันแทนน้องๆ อำนาจอยู่ในมือคนอื่นมีหรือจะอุ่นใจเท่าอยู่ในมือตัวเอง แน่นอนว่าทุกคนล้วนอยากให้ตู้เ้าฮุยไสหัวไปยังแผ่นดินใหญ่โดยเร็วที่สุดทั้งนั้น
ตู้เชิงหรงถามหลิวเทียนเฉวียนว่ามีความเห็นอะไรหรือไม่
หลิวเทียนเฉวียนยังจะกล้ามีความเห็นอะไรได้อีก ตอนนี้เขามีชนักติดหลัง มีหรือจะกล้างัดข้อกับคุณชายใหญ่ตู้
“ผมแค่เกรงว่าคุณชายใหญ่จะไปลำบากอยู่ที่เผิงเฉิง แม้ที่นั่นจะเป็เขตเศรษฐกิจพิเศษก็จริง แต่ด้านสาธารณูปโภคนับว่ายังอยู่ระหว่างการพัฒนา มีแต่พื้นที่ก่อสร้างเต็มไปหมด ไม่สะดวกสบายเหมือนอย่างฮ่องกงครับ”
ตู้เ้าฮุยคบหาอยู่กับดาราสาวคนหนึ่งของฮ่องกง หากเทียบความเจริญของเผิงเฉิงในเวลานี้กับใจกลางเมืองฮ่องกงแล้วล่ะก็ เผิงเฉิงไม่ต่างอะไรกับหมู่บ้านชาวประมงขนาดใหญ่เลย
ตู้เชิงหรงยิ้มเย็น “ฉันว่าอยู่เผิงเฉิงนายก็ดูไม่ลำบากเท่าไรนี่”
หลิวเทียนเฉวียนโดนตอกกลับเช่นนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
ตู้เชิงหรงเมินหลิวเทียนเฉวียน และเริ่มคุยเื่เผิงเฉิงกับตู้เ้าฮุย “ลูกคงรู้ว่าเศรษฐีอันดับหนึ่งได้นำหน้าพวกเราไปแล้ว เขามีเครือข่ายที่ดีกับทางจีนแผ่นดินใหญ่ ครั้งนี้ที่ลูกไปเผิงเฉิงไม่ใช่ไปทำงานเล่นๆ เท่านั้น แต่ลูกต้องเข้าไปลงทุนในฐานะตัวแทนเครือบริษัท”
คำพูดของตู้เชิงหรง นอกจากตู้เ้าฮุยที่ดีใจแล้ว คนอื่นๆ ล้วนไม่พอใจกันหมด
หลิวเทียนเฉวียนเป็คนแรกที่รู้สึกจุกในอก
เขาไปเผิงเฉิงแต่ไม่สามารถใช้ชื่อของตระกูลตู้เป็ใบเบิกทางได้ ต่างจากเ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างตู้เ้าฮุยคนนี้ เ้านี่กลับได้ไปในฐานะตัวแทนเครือเชิงหรง!
อย่างไรก็ตามทุกคนก็ไม่อาจคัดค้านการเสนอตัวของตู้เ้าฮุยในครั้งนี้ได้ ใครใช้ให้ตู้เ้าฮุยเป็ลูกชายของเมียหลวงเล่า ในสายตาคนนอก เขาคือทายาทผู้สืบทอดกิจการที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด นอกจากตู้เชิงหรงก็มีเพียงตู้เ้าฮุยที่สามารถเป็ตัวแทนของเครือได้อย่างไม่ค้านสายตา แล้วหลิวเทียนเฉวียนเป็ใครกัน เขาคือญาติต่างสกุลคนหนึ่ง เป็แค่หมารับใช้ที่ตู้เชิงหรงเลี้ยงเอาไว้เท่านั้น
ตู้เชิงหรงด่าหลิวเทียนเฉวียนไม่มีชิ้นดี ก่อนจะพาลูกชายแท้ๆ ของตนเข้าไปคุยงานในห้องหนังสือ
เมียน้อยอีกสองคนดูเื่สนุกจนพอใจแล้วก็พากันแยกย้ายจากไป
ตอนนี้เหลือเพียงหลิวเข่ออิ๋งกับหลิวเทียนเฉวียน หลิวเข่ออิ๋งทำได้แค่ตัดพ้อกับพี่ชายของเธอ
“ตู้เ้าฮุยจะไปเผิงเฉิง แล้วยังจะเหลือที่ให้พวกเรายืนอีกหรือ...”
ตู้เชิงหรงช่างลำเอียงเหลือเกิน ทั้งที่ครอบครัวของเมียสี่เป็คนบุกเบิกตลาดเผิงเฉิง หลิวเทียนเฉวียนบริหารงานอยู่ที่นั่นมาหลายปีแล้ว ตอนนี้ตู้เชิงหรงสั่งให้ตู้เ้าฮุยรับ่ต่อก็เหมือนสั่งให้ไปเก็บผลประโยชน์ ลู่ทางที่หลิวเทียนเฉวียนหามาอย่างยากลำบากตลอดหลายปี ไม่ต่างอะไรกับการกรุยทางให้ตู้เ้าฮุย คิดอย่างไรก็ทำใจลำบากเหลือเกิน
หลิวเข่ออิ๋งยังทำใจไม่ได้ นับประสาอะไรกับเ้าของเื่อย่างหลิวเทียนเฉวียนเล่า
แต่เขาต้องระวังตัวเพราะที่นี่คือคฤหาสน์สกุลตู้ สายตาของหลิวเทียนเฉวียนวาววับ ก่อนพูดอย่างอ้อมค้อมว่า
“เผิงเฉิงไม่ใช่ฮ่องกง เ้าเด็กนั่นไปแล้วใช่ว่าจะสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง”
ตู้เ้าฮุยคุยกับพ่อบังเกิดเกล้าในห้องหนังสืออยู่นานสองนาน โดยตู้เชิงหรงสนับสนุนให้เขาไปที่เผิงเฉิง
คนตระกูลตู้พ่ายแพ้ได้ แต่จะใจเสาะไม่ได้ ขี้ขลาดไม่ได้ และไม่ควรทนนั่งดูอยู่เฉยๆ เื่พวกนี้ตู้เ้าฮุยเข้าใจดี มิเช่นนั้นเขาจะเป็ลูกชายคนโปรดของตู้เชิงหรงได้อย่างไร หมากกระดานนี้เขาเดินอย่างถูกต้อง ตาแก่ตู้เชิงหรงพอได้ยินว่าเขาอยากไปบุกเบิกตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ก็มีท่าทางที่พึงพอใจมาก
แถมตู้เชิงหรงยังเป็ห่วงเป็ใยความปลอดภัยของเขาอย่างหาได้ยากยิ่งนัก
“พาคนของเราไปด้วยล่ะ”
ครั้งก่อนตู้เ้าฮุยเกือบถูกคนปลิดชีวิตที่มณฑลิ่ หลังเกิดเื่ตู้เ้าฮุยจับหนอนบ่อนไส้ได้เป็จำนวนมาก ทว่าไม่เห็นตู้เชิงหรงจะมีการเคลื่อนไหวอะไร
ความห่วงใยจากเขาเป็ของหายาก และมาช้าเกินไป
ทันทีที่ตู้เ้าฮุยขึ้นรถมา รอยยิ้มเ็าก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เื่คราวก่อนคงหนีไม่พ้นฝีมือของบรรดาเมียน้อยทั้งสามคนของตู้เชิงหรง ตอนนี้ตู้เ้าฮุยล้วนสงสัยทุกคนที่นี่ และคนที่เขาสงสัยมากที่สุดก็คือหลิวเทียนเฉวียน เื่ที่มณฑลิ่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของหลิวเทียนเฉวียนทั้งหมดก็จริง แต่หลิวเทียนเฉวียนรู้เวลาแลกเปลี่ยนสินค้าเป็อย่างดีน่ะสิ
หลิวเทียนเฉวียนอยู่ที่แผ่นดินใหญ่ ดังนั้นเขาจึงสามารถเตรียมการเื่พวกนั้นได้ง่ายกว่าคนอื่น
หลิวเข่ออิ๋งอาศัยว่าตนเป็ที่โปรดปรานของตาแก่ตู้ หลายปีมานี้เธอทำตัวกร่างมากขึ้นทุกวัน ลูกสามคนของเธออายุยังน้อยเกินไป หลิวเข่ออิ๋งจึงลากพี่ชายแท้ๆ ของตนเข้ามาในเครือบริษัท เพื่อช่วย่ชิงมรดกให้กับลูกของตัวเอง และไม่ใช่แค่หลิวเข่ออิ๋งเท่านั้น เมียน้อยอีกสองคนก็เช่นกัน เพียงแต่ผู้หญิงสองคนนั้นไม่ได้เป็ที่ชื่นชอบมากเท่าหลิวเข่ออิ๋ง อย่างไรลูกชายลูกสาวที่พวกเธอคลอดออกมาก็มีอายุมากกว่าลูกชายลูกสาวของหลิวเข่ออิ๋งหน่อย ตู้เ้าฮุยอายุ 24 ปี น้องชายคนรองอายุ 19 ปี และกำลังเรียนบริหารธุรกิจอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เื่นี้สร้างแรงกดดันให้กับตู้เ้าฮุยเป็อย่างมาก
เรียนบริหารธุรกิจแล้วมีประโยชน์อะไร?
เขาต้องคว้าสิ่งที่สามารถคว้าได้มาเป็ของตนเองให้ได้มากที่สุดก่อนน้องรองจะเรียนจบ คฤหาสน์สกุลตู้ตั้งอยู่บนยอดเขา ตอนออกจากบ้านลมจึงพัดค่อนข้างแรง ตู้เ้าฮุยจึงกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นเล็กน้อย
ตู้เ้าฮุยกลับมายังบ้านพักของตน เขาเห็นคนรับใช้ชาวฟิลิปปินส์ของตัวเองกำลังรับใช้เซี่ยต้าจวินอยู่จึงด่ากราด
“แกรับเงินเดือนจากฉันแล้วยังจะจีบผู้หญิงบ้านฉันอีกรึ”
สาวรับใช้ชาวฟิลิปปินส์เป็คนที่ซื่อสัตย์กว่าบอดี้การ์ดเสียอีก บอดี้การ์ดยังสามารถเปลี่ยนได้บ่อยๆ แต่สาวใช้ชาวฟิลิปปินส์คนนี้จะทำงานอยู่ที่บ้านแทบทั้งชีวิต หากบอกว่าสาวรับใช้ชาวฟิลิปปินส์คือผู้หญิงของตู้เ้าฮุยก็คงไม่ผิด เซี่ยต้าจวินไม่รู้จะอธิบายอย่างไร และเพราะเขาไม่ชอบสาวใช้ชาวฟิลิปปินส์จึงเลือกปิดปากเงียบ
ตู้เ้าฮุยกวักมือเรียกเขา “ฉันต้องรีบเดินทางไปแผ่นดินใหญ่ อยากจะตามฉันกลับไปไหม”
ถึงอย่างไรเซี่ยต้าจวินก็คือคนที่ช่วยชีวิตเขา ตู้เ้าฮุยจึงถามความเห็นของเซี่ยต้าจวินพอเป็พิธี
ชาวแผ่นดินใหญ่มาถึงฮ่องกงแล้วมักจะไม่อยากกลับไปที่บ้านเกิด ถ้าเซี่ยต้าจวินไม่อยากกลับไป ตู้เ้าฮุยคงต้องย้ายเขาไป ‘ทำงาน’ ที่อื่น
โชคดีที่เซี่ยต้าจวินไม่ใช่คนโง่เขลา เขารู้ว่าการติดตามคุณชายใหญ่คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
“คุณชายไปไหน ผมก็จะไปที่นั่นครับ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้