“ทำให้เม็ดทรายรวมตัวกันได้ ไม่เลวเลยทีเดียว”
หลังจากเสิ่นเสวียนส่งเสียงเรียก เสียงของคนผู้นั้นพลันดังขึ้นใกล้ๆ กับมิติแห่งนี้อีกครั้ง
หากบอกว่าก่อนหน้านี้มีเพียงเสิ่นเสวียนและอีกฝ่ายที่คุยกัน อย่างนั้นเสียงของอีกฝ่ายในตอนนี้ก็กำลังคุยกับทุกคน
เสิ่นเสวียนสีหน้าเรียบเฉยมาก ทว่าภายในจิตใจกลับลนลานเล็กน้อย
ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว พิจารณาจากเสียง พลังของอีกฝ่ายเหนือกว่าขั้นจักรพรรดิขึ้นไปอีก
พลังยุทธ์เช่นนี้ ไม่มีใครในที่นี้เป็คู่ต่อสู้เขาได้เลย
“เ้าจะยอมนอนเฉยๆ อยู่แบบนี้หรือ”
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ขณะเดียวกันมีลำแสงสายหนึ่งพุ่งจากท้องฟ้าทิศตะวันตก ตรงเข้าใส่ร่างของเหลยป้าเทียนที่อยู่บนพื้น
แล้วเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น
เหลยป้าเทียนที่กลายเป็ร่างไร้ิญญาไปแล้ว นิ้วมือกลับเคลื่อนไหวได้อีกครั้งหลังจากััโดนลำแสงนั้น
มีชีวิตขึ้นมาแล้ว!
การเคลื่อนไหวเช่นนี้ทำให้ทุกคนนอกจากเสิ่นเสวียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความใ
“เป็ไปได้อย่างไร”
“ฟื้นคืนชีพอย่างนั้นหรือ”
หลายๆ คนสบถออกมาด้วยความใ ในสายตาของพวกเขา ตายไปแล้วไม่มีทางฟื้นคืนได้อีก ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับฟื้นขึ้นมาได้จริงๆ!
ร่างของเหลยป้าเทียนลุกขึ้นยืนโซเซ หน้าอกยังคงมีรูขนาดเท่ากำปั้นเหมือนเดิม แต่มันไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเขาเลย
หลังจากที่ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวแปลกๆ อยู่สองสามครั้ง ใบหน้าเรียบเฉยพลันแสดงสีหน้าอารมณ์ออกมา
“ข้ายังมีชีวิตอยู่หรือ”
แม้แต่เขาเองยังประหลาดใจ เขาจำได้ว่าตนเองตายไปแล้ว โดนโจมตีทะลุหัวใจ จิติญญาถูกทำลาย และนี่คือสิ่งที่เสิ่นเสวียนทำ ทว่าตอนนี้เขาฟื้นคืนกลับมาได้อย่างไร
แต่หลังจากนั้นเขาก็เข้าใจได้ จึงหันไปโค้งกายคารวะทางทิศตะวันตกในทันที
“ขอบคุณนายท่านที่ช่วยชีวิต ขอบคุณนายท่านที่ช่วยชีวิต”
เขาโค้งกายคารวะจนหัวโขกพื้นเสียงดังก้อง แสดงให้เห็นว่าเหลยป้าเทียนในตอนนี้ตื่นเต้นมากเพียงใด
สามารถมองดูอยู่เบื้องบนและชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนได้ คงมีเพียงนายท่านของเขาเท่านั้น
ทุกคนในที่นี้มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่าไม่รู้จะกล่าวอะไรดี
ฟื้นคืนชีพแล้ว!
ฟื้นขึ้นมาแล้วจริงๆ
ทว่าเสียงเมื่อครู่นี้ไม่ได้ดังขึ้นแล้ว คล้ายว่าสถานการณ์ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้อีกครั้ง
“เสิ่นเสวียน พวกเราคงต้องคิดบัญชีกันให้ดีเสียแล้ว”
เหลยป้าเทียนลุกขึ้นยืน และเื่แรกที่เขาต้องจัดการคือเสิ่นเสวียน
“อยากตายเป็ครั้งที่สองหรือไร”
เสิ่นเสวียนถามเสียงเรียบ อีกฝ่ายไม่ได้ฟื้นคืนชีพ ทว่าเป็แสงสาดส่อง ซึ่งคล้ายกับวิธีการสร้างหุ่นเชิดของเขา
ที่ไม่เหมือนกันคือ อีกฝ่ายสร้างหุ่นเชิดขึ้นมาจากเสี้ยวร่างจิติญญา ส่วนเสิ่นเสวียนเข้าควบคุมร่างไร้ิญญาโดยตรง
ตอนนี้เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว และยังสามารถมีชีวิตได้นานหนึ่งปี หลังจากหนึ่งปีเขาจะแตกสลายกลายเป็จุณไปทันที
“ลำพังแค่เ้ายังคิดสังหารข้าเป็ครั้งที่สองอีกหรือ”
เหลยป้าเทียนกำมือแน่น พลังะเิออกมาจากกำปั้นของเขา พลังเช่นนี้แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า แข็งแกร่งยิ่งกว่าขั้นราชันระดับสูงสุดเสียอีก
เขามั่นใจว่าจะสามารถสังหารเสิ่นเสวียนได้
“น่าเสียดาย”
เสิ่นเสวียนมองเหลยป้าเทียนในตอนนี้ด้วยความเสียดาย
เขาเสียดายที่ร่างของอีกฝ่ายถูกดึงพลังออกมามากเกินไป ทำแบบนี้แม้ตายไปแล้วคงเอาไปสร้างเป็หุ่นเชิดไม่ได้อีก
“รับความตายเสียเถอะ!”
เหลยป้าเทียนะโออกมาอีกครั้ง จากนั้นร่างของเขาก็กระโจนออกไปด้วยความเร็วสูง ทั้งสองคนอยู่ห่างกันราวสองจั้ง ด้วยความเร็วขนาดนี้ มองจากภายนอกจะเห็นเพียงเหลยป้าเทียนกลายเป็ร่างเงาเลือนรางพุ่งเข้าหาเสิ่นเสวียน
เหลยป้าเทียนมีพลังขนาดนี้ ทุกคนต่างคิดว่าเสิ่นเสวียนต้องาเ็หนักอย่างแน่นอน ทำให้สถานการณ์พลิกผันไป
ทว่าเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดยิ่งกว่ากลับปรากฏขึ้น
“ทำลาย!”
ทุกคนได้ยินเพียงแค่เสียงเย็นะเืดังออกมาจากมิติที่เสิ่นเสวียนยืนอยู่
ตูม!
จากนั้นเสียงะเิก็ดังก้องออกมาจากมิติรอบๆ พวกเขา พร้อมฝุ่นตลบฟุ้งปิดบังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ทั้งหมด
“หืม?”
บนท้องฟ้า เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้งด้วยความสงสัย
เสอฮวาฮวา สี่เซี่ยง รวมไปถึงเริ่นเสี้ยวเทียนและาามารตะวันตกที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเสิ่นเสวียน หรือกระทั่งาามารทิศเหนือที่อยู่ข้างๆ เสิ่นเสวียน ต่างััได้อย่างชัดเจน
พลังที่เหลยป้าเทียนแสดงออกมาเมื่อครู่นี้ถึงขั้นจักรพรรดิแล้วอย่างแน่นอน
แต่พลังเช่นนี้ เสิ่นเสวียนกลับเอาชนะได้ด้วยกระบวนท่าเดียว
พลังขนาดนี้ทำให้าามารทิศเหนือรู้สึกหวาดกลัว! เขาคิดมาตลอดว่าเขาคือผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในหุบเขาสุขาวดี กระทั่งตอนนี้ถึงได้พบว่าพลังที่เสิ่นเสวียนแอบซ่อนไว้แข็งแกร่งกว่าเขามาก
เมื่อฝุ่นจางลง จึงมองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เสิ่นเสวียนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มือข้างหนึ่งยังคงขับพิษออกจากร่างของาามารทิศเหนืออย่างต่อเนื่อง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งยื่นออกไปด้านหน้า
ร่างของเหลยป้าเทียนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเช่นกัน ความสูงของเขาไม่ต่างจากเสิ่นเสวียนมากนัก ดวงตาเกือบอยู่ในระดับเดียวกัน เขาอ้าปากกว้าง ในแววตาเปี่ยมไปด้วยความไม่เต็มใจ ส่วนนิ้วมือของเสิ่นเสวียนกำลังชี้อยู่ตรงหน้าผากของเขา
ตรงที่นิ้วมือััโดนหน้าผากกลายเป็จุดสีแดงอย่างชัดเจน
ไอพลังที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาของอีกฝ่ายเลือนหายไปจนสิ้น กลายเป็ร่างไร้ิญญาอีกครั้ง
“รากฐานดีขนาดนี้ น่าเสียดายยิ่งนัก”
เสิ่นเสวียนมองเหลยป้าเทียนพลางกล่าวพึมพำ แม้ร่างของเหลยป้าเทียนยังอยู่แต่กลับโดนทำลายไปแล้ว ไม่อาจใช้สร้างหุ่นเชิดได้อีก
“ตายอีกแล้วหรือ”
เริ่นเสี้ยวเทียนถามขึ้นอย่างไม่มั่นใจ
“อืม ตายแล้ว”
“เมื่อครู่นี้น่าจะมีพลังขั้นจักรพรรดิแล้วหรือเปล่า!”
แม้แต่าามารตะวันตกยังตะลึง หากบอกว่าสังหารเหลยป้าเทียนตายไปครั้งแรกเสิ่นเสวียนลงมือโดยอีกฝ่ายไม่รู้ตัว อย่างนั้นในการสังหารครั้งที่สองคือพลังอย่างแท้จริง
หลังออกมาจากสุสาน เริ่นเสี้ยวเทียนว่าเปลี่ยนไปแล้ว เสิ่นเสวียนเปลี่ยนแปลงไปยิ่งกว่า
เปลี่ยนแปลงไปมากจนเขาไม่สามารถเข้าใจได้ เปลี่ยนแปลงไปจนเหนือกว่าตนเองแล้ว
“คนในโลกมนุษย์จัดการเื่ของโลกมนุษย์ คนในโลกิญญาจัดการเื่ของโลกิญญา หยินหยางหมุนวนไปมิอาจย้อนกลับ มีเพียงเท่านี้”
เสิ่นเสวียนเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเปลวเพลิงพลันพวยพุ่งออกจากฝ่ามือของเขา ปกคลุมร่างของเหลยป้าเทียนในพริบตา
แล้วร่างของเหลยป้าเทียนที่ถูกเปลวเพลิงปกคลุมจึงลุกไหม้ขึ้นมา
เปลวเพลิงนี้ร้อนแรงมาก ทำให้ร่างกลายเป็จุณร่วงหล่นลงไปเบื้องล่างในเวลาไม่กี่ลมหายใจ
“หยินหยางหมุนวนไปมิย้อนกลับอย่างนั้นหรือ เ้าน่าสนใจยิ่งกว่าที่ข้าคิดไว้มากเลยทีเดียว”
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง เหมือนเข้าใจแล้วว่าทำไมเสิ่นเสวียนถึงทำอย่างนี้
ในความเป็จริง เสิ่นเสวียนไม่ได้ควบคุมพลังไว้เลยจริงๆ ทว่าเขาเข้าใจในจุดอ่อนของเคล็ดวิชาลึกลับที่ใช้ควบคุมคนอื่นมากกว่าอีกฝ่ายเท่านั้นเอง
แม้ทำให้ฟื้นคืนชีพและพลังเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่จุดอ่อนยังคงปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน นั่นคือจิตสำนึกในหัวจะว่างเปล่า ขอเพียงทำลายทะเลจิตสำนึกไป อีกฝ่ายจะไม่มีอะไรน่ากลัวอีกต่อไป
เสิ่นเสวียนจับจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้จึงเข้าทำลายได้โดยตรง และจุดอ่อนนี้เสิ่นเสวียนคาดเดาว่าเ้าตัวยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะไม่ป้องกันอะไรเลยเช่นนี้
“เลิกเสแสร้งได้แล้ว จะทำอะไรก็ทำให้เห็นเลย หลบๆ ซ่อนๆ เช่นนี้ไม่เหนื่อยบ้างหรือ”
“ได้ ตามแต่เ้าปรารถนา”
หลังจากเสียงนั้นดังขึ้น ทุกอย่างก็เงียบลง
จากนั้นอีกราวสิบลมหายใจ ผู้แข็งแกร่งทั้งหลายพลันเงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้า
ขณะนี้ บนท้องฟ้ามีร่างเงาเลือนรางปรากฏขึ้นเหนือก้อนเมฆ
แต่ละคนสวมหมวกเงินเกราะเงิน ในมือถือหอกเงิน พลังแข็งแกร่งไร้ผู้ใดเทียบ
นักรบเกราะเงินมากกว่าสามสิบคนยืนอยู่บนก้อนเมฆ ราวกับเป็กองทัพจาก์
“พระเ้า! หนิวโถว!”
เมื่อเห็นคนบนท้องฟ้า เสิ่นเสวียนอดสบถออกมาไม่ได้
ในสถานการณ์ที่พลังต่างกันไม่มากจึงจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกดดันได้บ้าง
แต่อีกฝ่ายเหมือนจะมีพลังแข็งแกร่งกว่าที่แสดงออกมาในตอนแรก ทำให้พลังของทั้งสองไม่มีทางเทียบเคียงกันได้เลย
นักรบเกราะเงินบนท้องฟ้าเ่าั้มีพลังยุทธ์เหนือกว่าขั้นราชันไปแล้ว และยังมีถึงสามคนที่พลังยุทธ์ถึงขั้นจักรพรรดิไปแล้วด้วย
พลังเช่นนี้ เหนือกว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้อย่างแน่นอน
“ให้พวกเขาเล่นกับเ้าไปก่อนเป็อย่างไร”
คนผู้นั้นบนท้องฟ้ากล่าวด้วยน้ำเสียงติดตลก