ทันทีที่ฮองเฮาหยุด ไท่เฮาเองก็หยุดเช่นกัน “ดูสิ วันนี้ข้ามีความสุขจนลืมเื่น่าปวดหัวพวกนั้นไปหมดแล้ว”
หานอวิ๋นซียิ้มเยาะเย้ยในใจ แต่ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้พวกนางเล่นละครอย่างเข้ากันเป็ปี่เป็ขลุ่ย
“เสด็จแม่ ข้าว่าไม่ต้องไปพูดถึงบุตรบุญธรรมอะไรหรอก เราต่างก็เป็ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น เพียงท่านเอ็นดูอวิ๋นซี ให้อวิ๋นซีมาที่นี่บ่อยๆ มันก็เหมือนกัน” ฮองเฮาพูดอย่างเรียบง่ายราวกับว่ามันเป็อย่างนั้นจริงๆ ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร
ไท่เฮาพยักหน้า “ช่างเถอะๆ อวิ๋นซี เ้าคิดว่าอย่างไร?”
“ทุกอย่างไท่เฮาเป็คนตัดสินใจ ฉินอ๋องเองก็งานยุ่ง ข้าไม่ไปรบกวนเขาจะดีกว่าเพคะ” แน่นอนว่าหานอวิ๋นซี้าแสดงจุดยืน หากไม่อยู่ฝ่ายเดียวกับไท่เฮา คงไม่โดนทำร้ายจนตายที่นี่หรอกใช่หรือไม่?
ด้วยคำพูดของหานอวิ๋นซี ไท่เฮาจึงฝืนยิ้มออกมา “ฮ่าๆ เ้านี่ช่างเป็เด็กที่รู้เื่รู้ราวเสียจริง”
เนื่องจากเื่นี้ไม่สามารถคุยกันยืดเยื้อได้ หานอวิ๋นซีจึงไม่ได้อยู่ที่นี่นาน หลังจากกล่าวขอบคุณ นางก็ลุกขึ้นและกล่าวคำอำลา
และทันทีที่นางเดินออกไป ใบหน้าชราของไท่เฮาก็กลับเป็ดังเดิม ปัดถ้วยชาที่หานอวิ๋นซีใช้ออกไป “นังไม่รู้จักชั่วดี!”
“เสด็จแม่อย่าโกรธไปเลยเพคะ มันจะไม่ดีต่อสุขภาพ ก่อนหน้านี้หม่อมฉันบอกท่านแล้วว่าสตรีนางนี้ไม่ธรรมดา คราวหน้าเราต้องระวังกว่านี้นะเพคะ” ฮองเฮารีบพูดเกลี้ยกล่อมนางทันที
“เหอะ นังเด็กชั้นต่ำ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ข้าให้เกียรตินางขนาดนั้น ก็ยังกล้าที่จะปฏิเสธ! ต้องมีสักวันหนึ่งที่นางจะต้องเสียใจ ข้าไม่เชื่อว่านางจะอยู่ในจวนฉินอ๋องได้อย่างสงบสุขหรอก! ครั้งนี้ถือว่านางโชคดีไป คราวหน้าอย่าให้นางได้มาตกอยู่ในมือของข้าเชียวล่ะ!”
ไท่เฮาโกรธเกรี้ยวจริงๆ นางไม่เคยคิดว่าหานอวิ๋นซีจะปฏิเสธ ผ่านไปนานก็ยังไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้...
หานอวิ๋นซีถือเพียงว่าเหตุการณ์นี้เป็เื่ตลกเท่านั้น หลังจากออกจากวัง นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเดินผ่านตระกูลหาน นางก็หยุดมองอยู่เป็เวลานาน แม้ว่าตระกูลหานจะไม่ใช่ขุนนางในเมืองหลวง ทว่าก็เป็ตระกูลที่มีหน้ามีตาและน่านับถือไม่น้อย
ขณะนี้ ประตูใหญ่สีแดงสดถูกปิดอย่างแ่า ทุกอย่างดูเหมือนสงบอย่างมาก แต่หานอวิ๋นซีรู้ว่า ความผิดของหานฉงอันจะถูกตัดสินในวันพรุ่งนี้ คนผู้นี้คงต้องว้าวุ่นและพ่ายแพ้ไป
ความทรงจำเกี่ยวกับร่างกายนี้วนเวียนอยู่ในสมอง ล้วนแต่เป็ความทรงจำในวัยเด็ก ความทรงจำเกี่ยวกับการถูกรังแกและถูกทำให้อับอาย แม้ว่ามันจะเป็ความทรงจำของเ้าของร่างเดิม แต่ร่างกายนี้กลายเป็ของนางแล้ว ความทรงจำของนางก็เช่นกัน
ฉากต่างๆ สมจริงราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ไม่นานหลังจากนั้น หานอวิ๋นซีก็ยกยิ้มอย่างเยาะเย้ย หันหลังกลับและเดินออกไป
กว่าจะมาถึงจวนฉินอ๋องก็เป็เวลาเที่ยงคืนแล้ว หานอวิ๋นซีไม่แน่ใจว่าตนเองสามารถเคาะประตูได้หรือไม่ แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อมองจากระยะไกลกลับเห็นแสงไฟสว่างไสวในจวน โดยเฉพาะแสงไฟในห้องโถงใหญ่
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หานอวิ๋นซีก็พึมพำในใจ คงไม่ได้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นในจวนกลางดึกหรอกใช่หรือไม่? ด้วยนิสัยของอี้ไท่เฟยแล้ว นางอยากที่จะนอนหลับอย่างสงบ! แม้ฟ้าจะถล่มนางก็จะนอน!
หรือเกิดเื่อะไรขึ้นกับหลงเฟยเยี่ย?
หานอวิ๋นซีคาดเดาไปต่างๆ นานา และอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าคงไม่ได้กำลังรอนางอยู่ใช่หรือไม่?
ไม่นาน นางก็มาถึงที่ประตูและพบว่าชายชราที่เฝ้าประตูกำลังรอนางอยู่ นางจึงเคาะแค่หนึ่งครั้ง ประตูก็เปิดออก
“หวังเฟย ยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ไท่เฟยรอท่านนานแล้ว รีบไปกันเถอะพ่ะย่ะค่ะ” ชายชราตื่นเต้นจนหุบยิ้มไม่ได้
ยินดี?
ตอนนี้หานอวิ๋นซีรู้สึกใอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวกับนางจริงๆ! คำพูดแสดงความยินดีที่พูดออกมาจากปากของคนรับใช้ของอี้ไท่เฟย คงจะมีเื่ดีใช่หรือไม่?
หานอวิ๋นซีเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าก็ไม่ได้สนใจที่จะถามคำถามต่อ นางไปที่ห้องโถงใหญ่ทันที
โดยไม่คาดคิด เมื่อมาถึงห้องโถงใหญ่ มีหีบสมบัติขนาดใหญ่สามหีบเปิดอยู่ หีบทองแท่งหนึ่งหีบ แท่งเงินหนึ่งหีบ และเครื่องประดับหนึ่งหีบ และข้างๆ ยังมีไหมคุณภาพสูงหลายผืนวางอยู่ด้วย
ดวงตาของหานอวิ๋นซีเปล่งประกาย ไปเอาของดีมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนกัน!
ทอง เงิน และเครื่องประดับ มันช่างแพรวพราวเหลือเกิน ไม่แปลกใจที่หานอวิ๋นซีจะเห็นพวกนี้ก่อนที่จะเห็นอี้ไทเฟย
อี้ไทเฟยนั่งอยู่ที่ที่นั่งประจำ ใบหน้าที่บอบบางของนางดูเศร้าหมองจนมีน้ำตาไหลออกมา และมู่หรงหว่านหรูก็คอยอยู่ข้างๆ นาง ทันทีที่เห็นอวิ๋นซีเดินเข้ามา ดวงตาก็เปล่งประกายออกมาด้วยความอิจฉาและความเกลียดชัง!
“หมู่เฟย ท่านกำลังรอข้างั้นหรือ?” หานอวิ๋นซีคำนับและทำความเคารพ
“ฮ่าฮ่า วีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว ทำตัวตามสบายเถอะ วีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่ ข้าจะสดุดีอย่างไรดี?”
แม้แต่น้ำเสียงของอี้ไทเฟยก็ยังดูประชดประชันขึ้นด้วย บางทีนางอาจรู้เื่ในวังแล้ว
หานอวิ๋นซีลุกขึ้น แล้วมองไปที่สมบัติเงินทองอีกครั้ง ในใจก็คิดว่านี่คงจะเป็รางวัลจากฮ่องเต้เทียนฮุย ดีจัง ส่งมาเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?
หานอวิ๋นซีแอบชำเลืองมองไปที่อี้ไท่เฟย กระตุกมุมปาสองสามครั้งโดยไม่รู้ตัว แม่ของนางช่วยชีวิตไท่เฮา ส่วนนางก็ช่วยชีวิตหลานชายของไท่เฮา ไม่แปลกใจเลยที่อี้ไท่เฟยจะโกรธ
“พี่สะใภ้ ข้าไม่นึกเลยว่าทักษะทางการแพทย์ของท่านจะดีขนาดนี้ ท่านสามารถรักษาโรคประหลาดของไท่จื่อให้หายดีได้ ฮ่องเต้กับไท่เฮาต้องมีความสุขมากเลยใช่หรือไม่? ดูสิ ทั้งหมดนี้เป็รางวัลสำหรับท่าน และพวกมันถูกส่งมาที่นี่ในชั่วข้ามคืน” มู่หรงหว่านหรูพูดพลางยิ้ม
อี้ไท่เฟยที่ยังคงโกรธอยู่ ทันทีที่นางเอ่ยถึงฮ่องเต้และไท่เฮา นั่นย่อมเป็การเติมเชื้อไฟให้ลุกโชน
“เหอะๆ ทำให้ฮ่องเต้กับไท่เฮามีความสุข ชีวิตของเ้าก็คงสุขสบายขึ้นไม่น้อยเลยสินะ!” อี้ไท่เฟยพูดอย่างเย้ยหยัน
อี้ไท่เฟยนี่จะอะไรนักหนา? เที่ยงคืนดึกดื่นไม่นอน ลุกขึ้นมาพูดจาเสียดแทงใจร้ายกับนางโดยเฉพาะหรือไร? ไม่มีความอดทนเอาเสียเลย!
หานอวิ๋นซีทนไม่ได้จริงๆ กับคำพูดเยาะเย้ยถากถางแบบนี้ อี้ไท่เฟยเองก็ทะเลาะกับนางมาหลายครั้งหลายคราแล้ว หากยังไม่รู้นิสัยของนาง เช่นนั้นนางก็ไม่รังเกียจที่จะแสดงให้เห็นอีกครั้ง
“หมู่เฟยพูดถูก ฮ่องเต้และไท่เฮามีความสุขอย่างมาก ฮ่องเต้พูดว่าหากไม่ใช่เพราะข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง เขาก็คงไม่รู้ว่าข้ามีทักษะการแพทย์” หานอวิ๋นซีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ใบหน้าของมู่หรงหว่านหรูก็ซีดลงทันที
อี้ไท่เฟยเองก็หน้าซีดลงเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าหานอวิ๋นซีจะกล้าพูดแบบนั้น นังสารเลวคนนี้นับวันยิ่งทำตัวอวดดีขึ้นเรื่อยๆ
“งั้น...หรือ?” อี้ไท่เฟยแทบจะกัดฟันพูด “นี่ถือเป็โชคดีของเ้า รางวัลมากมายขนาดนี้ ข้าควรที่จะยินดีกับเ้าสินะ?”
“แน่นอน เกียรติของข้าคือเกียรติของหมู่เฟย และมันก็เป็เกียรติของจวนฉินอ๋องเช่นกัน ฮ่องเต้และไท่เฮาต้องจำบุญคุณของจวนฉินอ๋องไว้อย่างแน่นอน” หานอวิ๋นซีพูดอีกครั้ง
เมื่อเทียบกับการพูดจาเจ็บแสบของอี้ไท่เฟยแล้ว เรียกได้ว่านางปากร้ายยิ่งกว่า!
คำพูดทิ่มแทงที่เจ็บที่สุดพุ่งตรงมาที่อี้ไท่เฟย เื่นี้สำหรับนางแล้ว พูดได้ว่าเป็เื่น่าละอาย คิดไม่ถึงว่าหานอวิ๋นซีจะพูดกับนางจริงๆ ว่ามันเป็เกียรติ สิ่งสำคัญที่สุดคือนางต้องยิ้มให้กับหานอวิ๋นซี
อี้ไท่เฟยที่โกรธจนกัดฟัน พูดไม่ออกเป็เวลานาน นางไม่รู้ว่าตนเองรอจนถึงดึกดื่น จนกระทั่งหานอวิ๋นซีกลับมาเพื่อทำอะไรกันแน่ รอนางกลับมาอวด กลับมาเย้ยหยันอย่างนั้นหรือ?
เมื่อเห็นว่าอี้ไท่เฟยเงียบไป หานอวิ๋นซีจึงพูดอีกครั้งว่า “หมู่เฟย ครั้งนี้ท่านอ๋องเองก็เป็วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน แล้วก็เป็ท่านอ๋องที่เสี่ยงชีวิตไปเอายาเซิงเสวี่ยตานมา หากไม่มียาเซิงเสวี่ยตาน ข้าเองก็คงไม่สามารถรักษาได้”
ว่าอย่างไรนะ?
คำพูดเหล่านี้เป็พิษร้ายแรงจนหัวใจ ตับ ไต ม้าม ปอดของไท่เฟยต้องเ็ป บุตรชายสุดที่รักของตนก็เอาตัวเองไปเสี่ยงเพื่อที่จะหายาให้หลานชายสุดที่รักของศัตรู!
“อา…”
อี้ไท่เฟยคำรามอยู่ในใจ “พอได้แล้ว หานอวิ๋นซี เ้าพอได้แล้ว!”
มือในแขนเสื้อที่กำแน่นเป็กำปั้นมานาน จนเล็บเจาะเข้าไปในฝ่ามือ ทว่ามันไม่เจ็บเท่าที่หัวใจ!
พลางคิดว่าหากนางรู้ว่าใครเป็คนปล่อยข่าวลือก่อนหน้านี้ นางคงจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ เป็แน่!
มู่หรงหว่านหรูรู้สึกใจไม่เป็สุขอย่างมาก สุดท้ายก็ยับยั้งตัวเองไว้ ไม่กล้าที่จะเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก
เมื่อเห็นใบหน้าของอี้ไท่เฟยที่บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ หานอวิ๋นซีก็อารมณ์ดีจนแทบลืมความเหนื่อยทั้งหมดไปทันที ฮึ ถ้านางไม่ะเิลง อี้ไท่เฟยยังคิดว่านางเป็แค่คนไร้ความสามารถจริงๆ สินะ?
“หมู่เฟย การรักษาไท่จื่อนั้นใช้แรงกายแรงใจอย่างมาก ข้าเหนื่อยเหลือเกิน หากไม่มีเื่อันใดแล้ว ข้าขอตัวก่อน ฮ่องเต้รับสั่งให้ข้าพักผ่อนให้มากๆ”
คำพูดประโยคหลังของหานอวิ๋นซีจงใจพูดกับอี้ไท่เฟยโดยตรง นางคงไม่โง่ถึงขนาดที่จะเอาไท่เฮามาขู่อี้ไท่เฟย แต่ฮ่องเต้นั้นแตกต่างออกไป นางพูดเสียขนาดนี้ อย่างน้อยต้องได้พักผ่อนอย่างสบายใจสักสองสามวัน
นางที่กำลังจะออกไปเมื่อพูดจบ ทว่าอี้ไท่เฟยกลับสั่งด้วยน้ำเสียงเข้มงวดว่า “หานอวิ๋นซี เ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เสียงนี้ดุร้ายอย่างมาก หานอวิ๋นรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงที่ดุร้ายของอี้ไท่เฟยนั้นแตกต่างจากเสียงที่ดุร้ายตามปกติของนาง เพียงแต่ แตกต่างอย่างไรนั้น นางไม่สามารถบอกได้
นางหยุดฝีเท้าลงและพูดอย่างใจเย็นว่า “หมู่เฟยมีอะไรจะสั่งอีกงั้นหรือ?”
“หานอวิ๋นซี ไท่เฮาให้เ้าอยู่ในวังต่อเพื่อทานอาหารเย็นหรือ?” อี้ไท่เฟยถามด้วยน้ำเสียงเ็า ไม่ได้ฉุนเฉียวเหมือนก่อนหน้านั้น ทว่ามีความจริงจังยิ่งกว่า
หานอวิ๋นซีใเล็กน้อย นางรู้เื่หมดแล้ว และดูเหมือนว่าในวังคงจะมีสายลับของอี้ไท่เฟยอยู่ด้วย
“เพคะ” หานอวิ๋นซีตอบตามความเป็จริง
“ไท่เฮาให้เ้าอยู่ต่อทำไมกัน?” อี้ไท่เฟยถามอีกครั้ง หากไม่ใช่เพราะได้ยินข่าวนี้ นางคงไม่รอหานอวิ๋นซีกลับมาจนถึงดึกดื่นหรอก
แววตาระแวดระวังฉายแววในดวงตาของหานอวิ๋นซี อี้ไท่เฟยสงสัยอะไรบางอย่างอย่างนั้นหรือ? เื่นี้เป็เื่ใหญ่ หากทำให้อี้ไท่เฟยสงสัยบางอย่างระหว่างนางกับไท่เฮา ด้วยนิสัยใจคอของอี้ไท่เฟยแล้ว นางจะไปรอดได้อย่างไร?
แม้ว่าท่าทางของหานอวิ๋นซีจะยังคงเหมือนเดิม แต่ก็ตอบอย่างระมัดระวังมากกว่าเดิม “ไท่เฮาไม่เคยให้ใครทานอาหารในวังมาก่อน และบอกว่าข้าสามารถรักษาได้สำเร็จ จึงสมควรได้รางวัลอันมีเกียรติเช่นนี้”
แววตาของอี้ไท่เฟยมืดมน พร้อมกับความลังเล ไท่เฮาไม่เคยให้ใครทานอาหารในวังเลย แต่การที่นางให้หญิงสาวผู้นี้อยู่ต่อเพื่อจะให้รางวัล มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือไร!
นางคงพูดอะไรกับสตรีผู้นี้ใช่หรือไม่? ฮูหยินเทียนซินช่วยนางไว้ หญิงสาวผู้นี้ก็ได้ช่วยชีวิตหลานชายสุดที่รักของนางไว้อีก นางยังมีเหตุผลอะไรที่ต้องไม่พอใจสตรีผู้นี้อีกหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น สตรีผู้นี้ไม่ได้ขี้เหร่อีกต่อไป แถมยังมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีด้วย! เป็ผู้ที่มีความสามารถอย่างมาก!
เมื่อนึกย้อนไปถึงตอนนั้น ไท่เฮามีแรงจูงใจซ่อนเร้นในการให้สตรีผู้นี้อภิเษกกับฉินอ๋องใช่หรือไม่?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ แววตาของอี้ไท่เฟยก็มืดมนลงกว่าเดิม นางจ้องตรงไปที่หานอวิ๋นซีและไม่พูดอะไรเป็เวลานาน
เดิมทีหานอวิ๋ซีคิดว่านางจะถามคำถามต่อ แต่เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกประหม่า อี้ไท่เฟยหมายถึงอะไรกันแน่? นางคิดที่จะทำอะไรกัน?
อี้ไท่เฟยจ้องมองที่หานอวิ๋นซีเป็เวลานาน ยิ้มอย่างเย้ยหยันแล้วจึงเดินออกไป
รอยยิ้มนี้ ทำให้หานอวิ๋นซีขนหัวลุกขึ้นมาทันใด นางรู้ว่าชีวิตของนางคงไม่สงบสุขอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม หานอวิ๋นซีผู้ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาหลายครั้ง ก็ปรับความคิดของนางได้อย่างรวดเร็ว แววตาสงบนิ่งเยือกเย็น และไม่กลัวสิ่งใดๆ หากอี้ไท่เฟยอยากจะสอบสวนก็สอบสวนไปเถอะ นางไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว
เพียงแต่ ก่อนที่การสอบสวนจะชัดเจน ทางที่ดีอย่าสร้างปัญหากับนางอย่างหุนหันพลันแล่น ไม่อย่างนั้นนางคงได้สู้กลับด้วยกำลังทั้งหมดที่มีอย่างแน่นอน!
ทันทีที่อี้ไท่เฟยออกไป มู่หรงหว่านหรูที่ใจอยู่ไม่สุขก็แอบถอนหายใจเบาๆ สิ่งที่นางกลัวที่สุดคือหมู่เฟยจะไล่ตามผู้ที่ปล่อยข่าวลือ โชคดีที่เื่หานอวิ๋นซีอยู่ที่วังเพื่อทานอาหารเย็นเบี่ยงเบนความสนใจของอี้ไท่เฟยไปได้
ตามความเข้าใจของนางเกี่ยวกับหมู่เฟย ต่อไปใน่เวลานี้ หมู่เฟยต้องจำเื่นี้ไว้ขึ้นใจและสอบสวนถึงที่สุดอย่างแน่นอน
หานอวิ๋นซี แม้ว่าโรคประหลาดของไท่จื่อจะหายเป็ปกติแล้ว มีฮ่องเต้คอยหนุนหลังแล้วยังไงล่ะ ฮ่องเต้ทรงงานยุ่ง คงไม่ได้มาสนใจอะไรมากมายนัก
มู่หรงหว่านหรูเดินเข้าไปพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ และเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง “พี่สะใภ้ หมู่เฟยเองก็ดีใจกับท่านเช่นกัน แต่คงจะรอนานเกินไปเลยอารมณ์ไม่ดี ท่านไม่ต้องเก็บไปใส่ใจนะ”