ยิ่งคิดมากเท่าไร หนิงต้าหรานก็พบว่าทั้งหมดนี้เป็เพราะกวนซูเยวียนเป็คนวางแผนร้าย
เพราะนางกักเก็บความคิดเช่นนี้เอาไว้ ทำให้นางที่นั่งอยู่ในร้าน จะนั่งอยู่อย่างไรก็ไม่สบาย
หนิวซื่อที่อยู่ด้านข้างมองท่าทางกรุ่นโกรธของอีกฝ่าย ก็รู้สึกเป็กังวลมาก
จึงเอาน้ำแก้วหนึ่งไปวางอยู่ตรงหน้า ซึ่งหนิงต้าหรานก็มองค้อนใส่นาง ก่อนจะร้องเหอะเสียงเย็นหันหน้าไปอีกทาง
“อย่าคิดว่าจะใช้น้ำหนึ่งแก้วมาให้แล้วข้าจะกลับไปนะ หากวันนี้ไม่มีคำอธิบายให้กับข้า ข้าก็จะไม่กลับ”
มองอาหารในร้านของกวนซูเยวียนแล้ว นางก็ตาร้อน ยกมือขึ้นไปคว้าลูกอมมาไว้ในมือลูกชาย
“โอ้ กินลูกอม กินลูกอม”
เด็กคนนี้เดิมทีก็เป็คนี้เีทั้งยังเห็นแก่กินอยู่แล้ว ั้แ่เข้ามาก็อยากจะกินอาหารในร้านนี้จนตัวสั่น พอหนิงต้าหรานหยิบของยัดใส่ในมือ มีหรือที่เขาจะเกรงใจ
ตอนที่กำลังแกะกินนั้น เอ้อร์หลางที่นั่งอยู่ด้านข้างก็พุ่งเข้ามาแย่งลูกอมนั้นไป
“มันคือของของร้านข้า ไม่ให้เงินก็ไม่ต้องกิน”
เอ้อร์หลางเพิ่งจะมาดูร้านได้ไม่กี่วัน จึงมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่มาก ท่านแม่กับท่านพ่อได้สั่งเอาไว้แล้วว่าจะต้องดูร้านให้ดี นี่คือแหล่งทุนชีวิตของครอบครัวพวกเขา ในตอนนี้กลับมีคนมาแย่งอาหารของพวกเขา แถมเ้าหมอนี่ยังเป็จะกละที่ท่านพี่สี่บอกเอาไว้ด้วย
“ท่านแม่ ลูกอมของข้า” ลูกอมของเฉินเนี้ยนจู่ถูกแย่งไปด้วยความไม่เต็มใจ เด็กชายจึงยกมือขึ้นไปดึงเสื้อของหนิงต้าหรานทำท่าทางจะร้องไห้
“เพียะ...” หนิงต้าหรานเห็นดังนั้นก็โกรธ ข้าที่เป็น้ามาเรือนของเ้า เ้ายังจะมาแย่งข้ากิน ทำเช่นนี้ได้ที่ใด นางเดินเข้าไปหยิกมือเอ้อร์หลางเต็มแรง “เ้าเหิมเกริมหรือ เ้ากล้าเหิมเกริมกับข้าหรือ ข้าคือน้าของเ้า ข้ากินลูกอมของเ้าหนึ่งห่อจะเป็ไรไป? บิดามารดาชั่วช้าของเ้ามาหลอกลวงลูกสาวข้าไป ทั้งยังหาเงินได้มากมายก็ปกปิดพวกเรา ตอนนี้ข้ากินลูกอมหนึ่งห่อพวกเ้าก็ยังหาเื่ ข้าจะหยิกพวกเ้าให้ตายเลย”
ความโกรธทั้งหมดถูกระบายลงบนตัวของเอ้อร์หลาง จนเด็กน้อยผู้น่าสงสารร้องไห้จ้า
กวนซูเยวียนยังไม่ออกมาจากในร้านก็ได้ยินเสียงร้องไห้ พอเปิดประตูออกมาเห็นเหตุการณ์ก็พุ่งเข้ามาดึงหนิงต้าหรานออก ก่อนจะสะบัดมือตบบ้องหูนาง “เ้านี่มันชั้นต่ำจริงๆ ไม่มีเื่อะไรก็มาหาเื่ร้านของข้า ดูสิว่าข้าจะตบสตรีชั้นต่ำอย่างเ้าให้ตายไม่ได้”
ปกติแล้วกวนซูเยวียนก็เป็สตรีที่ขึ้นชื่อเื่ความโหดเอาเื่ มีหรือจะยอมให้ลูกชายถูกรังแก
ตอนนี้นางไม่สนว่ามีเหตุผลหรือไม่ อย่างไรก็ต้องเอาลูกชายที่ถูกรังแกกลับมาก่อน
หนิงต้าหรานพอเห็นกวนซูเยวียนออกมาแล้ว ในดวงตาก็มีความหวาดกลัวแวบเข้ามาครู่หนึ่ง ตอนที่อยู่เรือนเก่า ทั้งสองคนมักจะทะเลาะกันด้วยเื่เล็กๆ น้อยๆ แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกันหนิงต้าหรานมักไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกวนซูเยวียน
เพราะเหตุนี้ มันจึงกลายเป็ปมในใจของหนิงต้าหราน
แต่ว่าพอคิดขึ้นได้ว่าวันนี้ตนเองมีเหตุผลรองรับ หนิงต้าหรานจึงเชิดคอขึ้น ชี้หน้ากวนซูเยวียนด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ
“กวนซูเยวียนเอ๋ยกวนซูเยวียน กวนซูเยวียนคนดี ครอบครัวพวกเ้ามาทำลายครอบครัวพวกเราจนแตกแยก ตอนนี้ยังมาทำร้ายข้ารังแกข้า วันนี้ข้ามาเพื่อให้คนมาช่วยตัดสิน”
หนิงต้าหรานพูดไปก็ตบขาตัวเองแล้วลงไปนั่งกับพื้น หันไปะโใส่ผู้คนที่มามุงดูเื่สนุกอยู่ด้านนอก
“เ้าข้าเอ๊ย พ่อแม่พี่น้องคนดีในหมู่บ้านทุกคน พวกเ้ามาช่วยตัดสินกันหน่อย ว่ามีป้าสะใภ้ที่ไหนอยากจะขโมยลูกสาวของน้องสะใภ้ตัวเอง ขโมยไปที ก็ขโมยไปถึงสามคน ตอนนี้ลูกสาวทั้งสามคนของข้า นางก็เอาไปหมดแล้ว เอาไปไม่พอ ยังให้ลูกสาวทั้งสามของข้าหาเงินให้นางอีกด้วย ข้า ข้าต้องเลี้ยงพวกลูกสาวไปอย่างเสียเปล่าหรือ?”
นางพูดไปน้ำหูน้ำตาก็ไหลรินออกมา รู้สึกว่าตัวเองร้องไห้แหกปากคนเดียวมันจะดูพิลึกไป จึงเข้าไปลากเฉินเนี้ยนจู่มา พอลากมาถึงได้พบว่าในมือของเฉินเนี้ยนจู่ยังคว้าลูกอมมากำใหญ่ ด้านในปากอ้วนๆ นั่นก็ยัดลูกอมเอาไว้เต็มไปหมด
“ลูกชาย เ้าพูดสิ เ้าพูดสิว่ากวนซูเยวียนมาขโมยพวกพี่สาวของเ้าไปน่ะ?”
เฉินเนี้ยนจู่กว่าจะยัดลูกอมเข้าไปมากมายได้ ตอนนี้กำลังหวานอร่อยอยู่เลย พอถูกหนิงต้าหรานดึง ลูกอมในปากก็เข้าไปติดอยู่ที่คอ จะเอาออกก็ไม่ได้ จะกลืนลงไปก็ไม่ได้
ติดค้างอยู่ในคอจนเด็กชายตาเหลือก ผู้คนที่เห็นก็ถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
หนิงต้าหรานเองก็รู้สึกว่าเ้าเด็กนี่ไม่ได้เื่ไปเสียหน่อย แต่นางก็กังวลว่าลูกชายจะลูกอมติดคอตาย จึงรีบใช้แรงทุบที่หลังของลูกชาย จนเด็กคนนั้นร้อง “อ๊ะ...” แล้วสำรอกลูกอมในปากออกมา ถึงจะหายใจคล่องขึ้นมาหน่อย
“ท่านแม่ทุบเบาๆ หน่อยสิ ไม่รู้หรือว่าทุบเช่นนี้จะตบคนตายได้เนี่ย” เฉินเนี้ยนจู่บ่นออกมาก่อน
ก่อนที่มืออ้วนๆ นั้นจะทำความเคารพใส่กับผู้คนรอบๆ
“พ่อแม่พี่น้องในหมู่บ้านทุกคน สิ่งที่ท่านแม่ของข้าพูดเป็ความจริง ป้าสะใภ้ใหญ่ของข้าคนนี้ นางเห็นพี่สาวข้ามีหน้าตางดงาม จึงจงใจพูดเสี้ยมอยู่ด้านหลัง ให้นางแตกกับครอบครัวพวกเรา แล้วหว่านล้อมเอาพี่สาวสองคนกับน้องสาวอีกคนให้ออกจากเรือนไป วันนี้ พวกเราจึงมาให้ทุกคนมาตัดสินครอบครัวของพวกนาง มีอย่างที่ไหนหว่านล้อมเอาคนไป แล้วยังมาทำลายครอบครัวคนอื่นน่ะ! เชิญทุกท่านพูดว่ามันสมเหตุสมผลไหม?”
ฟังคำพูดสองแม่ลูกชั้นต่ำนั้น กวนซูเยวียนกลับไม่โกรธ นางรู้สึกตลกเสียด้วยซ้ำ
คนหนึ่งก็จนกรอบ อีกคนก็หยิ่งผยองว่าตัวเองเคยเล่าเรียนหนังสือมาแค่ไม่กี่วัน คำพูดที่พูดออกมาตอนนี้ครึ่งหนึ่งก็เป็คำพูดที่มีมารยาท ทั้งงดงามให้คนยกย่อง อีกครึ่งก็ต่ำทราม สงสัยจริงๆ สองแม่ลูกคู่นี้มาแสดงละครลิงหรือว่ามาแสดงเป็ตัวตลก
เฉินเนี้ยนหรานที่อยู่ด้านในอยากจะออกไป แต่กลับถูกต้าหลางดึงเอาไว้ “น้องสาว เ้าอยู่ตรงนี้แหละ ข้าจะไปดูด้านนอก รับรองว่าไม่ให้ท่านแม่ของข้าเสียเปรียบเด็ดขาด เ้าออกไปตอนนี้ อีกเดี๋ยวสตรีนางนั้นอาละวาดขึ้นมาอีก มันจะไม่ค่อยดีกับเ้าเท่าไร”
เื่ที่เฉินเนี้ยนหรานเคยไปเป็หญิงอุ่นเตียงที่จวนสกุลโจว อย่าให้คนอื่นรู้จะดีกว่า เื่นี้ เพราะต้าหลางเป็พี่ชายคนโตในเรือน ตอนที่หนิงต้าหรานปรากฏตัวมาสืบเื่ราว กวนซูเยวียนจึงได้แอบบอกเขานิดหน่อย
“ทุกคน พวกเ้ามาตัดสินว่ากวนซูเยวียนนั้นจิตใจเลวทราม ใช่หรือไม่!”
หนิงต้าหรานรู้สึกว่าลูกชายของตนเองเรียนหนังสือแล้ว ขนาดพูดจายังให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน นางในตอนนี้ลูบผมที่ยุ่งเหยิงของตน ทำท่าทางเป็มารดาที่สงบเสงี่ยม “กวนซูเยวียน เ้าสารภาพมาเถิด ข้าเห็นแก่ที่พวกเราเป็ญาติกัน วันนี้จะไม่ลากเ้าไปพบกับขุนนาง”
กวนซูเยวียนหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น คนที่มุงดูอยู่รอบๆ ก็หัวเราะตาม
มีเื่ดีๆ เช่นนี้ จึงะโขึ้นมาบ้าง “หยา หยา จะไปเจอท่านขุนนางกันแล้วหรือ รีบไปนะ อีกเดี๋ยวท่านขุนนางก็จะไปพักผ่อนแล้ว หากจะไปก็ต้องรีบตอนนี้นะ”
หนิงต้าหรานฟังคำพูดพวกนี้ ก็รู้สึกว่าทุกคนเอนเอียงมาทางตน ทำให้หางที่บั้นท้ายของนางสะบัดจนแทบจะบินขึ้นฟ้าไปแล้ว
นางเชิดคางขึ้นมองกวนซูเยวียนอย่างได้ใจ “รีบสารภาพมาเถิด ข้าน่ะเป็คนที่พูดง่ายนะ ลูกสาวสามคนที่เ้าหลอกพวกนางออกมาทำงานเสียนานขนาดนี้ ข้าเองก็ไม่ได้้าอะไรมาก เ้าก็แค่ให้สินน้ำใจข้าสักหน่อย ข้าก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับความผิดของเ้าแล้ว ว่าอย่างไร ข้าเองก็เป็มารดาของพวกนาง เ้าจะมาเอาพวกนางไปเช่นนี้ไม่ได้นะ”
ตอนนี้ผู้คนที่ยืนมองรอบๆ พอจะเข้าใจแล้ว การมาร้องเรียนเื่ครอบครัวนั้น ความจริงแล้วคือมารีดไถเงิน
“โอ้ พี่สาว เถ้าแก่เนี้ยะคนนี้ขี้โกงขนาดนี้ เ้าคิดว่าจะให้นางชดเชยเงินให้เ้าเท่าไรถึงจะเหมาะสม?” ผู้คนที่ยืนมองอยู่รอบๆ ก็กู่ร้องออกมา ส่วนกวนซูเยวียนั้แ่ต้นจนจบได้แต่ยืนกอดอกมองละครอยู่ตรงนั้น
“เื่นี้หรือ?” หนิงต้าหรานกลับครุ่นคิดอย่างจริงจัง คิดอยากจะเรียกสักสี่สิบตำลึง ก็เกรงว่าจะไม่ได้ แต่ว่า ยี่สิบตำลึงจะคิดอย่างไรก็คงจะได้อยู่
ดังนั้นนางจึงมองไปทางกวนซูเยวียนแล้วพูดออกมาอย่างได้ใจ “ลูกสาวสามคนของข้าต่างมาทำงานที่ร้านเ้า ลูกสาวคนหนึ่งทำงานหนึ่งปีจะอย่างไรก็ต้องหาเงินให้เ้าได้หลายตำลึงสินะ ตัวข้าก็ไม่ได้โลภมากอะไร ลูกสาวสามคนต่างทำงานให้กับเ้า หนึ่งปีก็ให้ข้าสักยี่สิบตำลึงแล้วกัน”
“ว้าว พี่สาว เ้าช่างใจกว้างจริงๆนะ หนึ่งปีเอายี่สิบตำลึง ลูกสาวทั้งสามของเ้าจะต้องหาเงินเก่งมากแน่ๆ ข้าจำได้ ลูกสาวข้างเรือนข้าก็ไปช่วยงานเ้าที่ดิน หนึ่งปีก็ได้สองตำลึง ลูกสาวสามคนขอยี่สิบตำลึง จะต้องเป็คนที่ทำงานเก่งและฉลาดมากเลยหนา”
ครั้งนี้ หนิงต้าหรานฟังออกแล้วว่าตัวเองขอมากไป ผู้คนถึงได้กำลังเหน็บแหนมตน
นางกระทุ้งเฉินเนี้ยนจู่
ครั้งนี้เ้าเด็กนี่ฉลาดขึ้นแล้ว รีบกลืนลูกอมในปากลงไป แล้วหัวเราะฮ่าๆ เชิดคางขึ้น ส่ายหัวแล้วพูดออกมา
“แน่นอน แน่นอน พี่สาวทั้งสองและน้องสาวอีกหนึ่งคนของข้าล้วนแต่เป็คนที่ทำงานเก่งมาก ทั้งนอกเรือนในเรือนอะไรก็สามารถทำได้ เป็สตรีแสนดีที่เลือกกินข้าวน้อย แล้วเอาแต่ทำงาน โดยเฉพาะท่านพี่สี่ ที่มีหน้าตางดงาม เดินไปไหนก็ดึงดูดสายตาคนมาก หากเอาไปวางไว้หน้าประตูก็คงจะเรียกคนมาได้มากมาย”
กวนซูเยวียนทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว คำพูดนี้เ้ากำลังชื่นชมเฉินเนี้ยนหรานหรือว่ากำลังทำลายนาง หรือจะพูดว่าเฉินเนี้ยนหรานเหมือนกับพวกสาวๆ ในหอนางโลมที่คอยอยู่หน้าประตูเรียกหมู่ภมรให้เข้ามาน่ะ
“หนิงต้าหราน เฉินเนี้ยนจู่ ละครของพวกเ้าสองคนแม่ลูกจบลงแล้ว คำพวกนั้นก็พูดพอแล้วกระมัง พูดพอแล้ว พล่ามพอแล้ว วันนี้ข้าเองก็จะพูดสักหน่อย พอดีเลยที่เหล่าเพื่อนบ้านทุกคนยังอยู่ ตอนนี้ข้าเองก็จะออกมาตำหนิเื่ลับที่ไม่ควรให้ใครรู้ของครอบครัวเรา”
ทุกคนเมื่อได้ยินว่ามีเื่ซุบซิบให้ฟัง ใครจะอยากไปล่ะ แต่ละคนจึงล้อมวงะโออกมาให้รีบพูด
“เฮ้อ ความจริงแล้วเื่พวกนี้น่ะข้าเองก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่ว่าเื่ในวันนี้ก็เปิดเผยออกมาแล้วข้าไม่พูดก็คงจะไม่ได้ พวกเ้าพูดสิว่าในโลกใบนี้จะมีใครที่จะขโมยลูกสาวของน้องสะใภ้ตนเองโดยไม่มีเหตุผล? แถมยังขโมยไปถึงสามคน? พวกเ้าเชื่อหรือ? เชื่อหรือ?”
“ฮ่าๆ พวกเราไม่เชื่ออยู่แล้ว อีกอย่างนะ ปกติแล้วพี่เป็คนเช่นไร พวกเราต่างรู้กันดี” ทุกคนพากันหัวเราะออกมาอีก
หนิงต้าหรานที่ยืนอยู่ตรงนั้นรู้สึกว่าเื่มันไม่ได้เบนมาทางตนแล้ว ในตอนนั้นนางจึงหวาดหวั่นอยู่เล็กน้อย สะกิดลูกชาย แต่กลับพบว่าเขายังยัดลูกอมเข้าปาก ล้อกันเล่นแล้ว ปกติถึงแม้ครอบครัวจะประหยัดข้าวเพื่อให้ตนกิน แต่ลูกอมหอมหวานเช่นนี้ ยากมากที่เขาจะได้กิน