สำนักประมูลตระกูลหงเยวี่ย
สำนักประมูลที่เปิดกิจการโดยตระกูลหงเยวี่ยเป็หนึ่งในเจ็ดั์ใหญ่ของเมืองกวงฮุย ตระกูลหงเยวี่ยเป็ตระกูลสำคัญซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองกวงฮุย ในบริเวณใกล้เคียงกันมีครอบครัวชนชั้นสูงอยู่ห้าตระกูล ทุกตระกูลล้วนเชื่อฟังตระกูลหงเยวี่ย รวมถึงตระกูลเทียนเหินก็เช่นกัน
ที่ผ่านมา เป็เพราะตระกูลเทียนเหินถูกตระกูลเสินเซิ่งซึ่งเป็หนึ่งในสามตระกูลหลักกดดัน ตระกูลหงเยวี่ยจึงเว้นระยะ ทำตัวห่างเหินกับตระกูลเทียนเหิน ครั้นเวลานี้เห็นว่าสมาคมนักปรุงยาวิเศษมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับตระกูลเทียนเหิน ตระกูลหงเยวี่ยจึงเริ่มแสดงท่าทีเป็มิตรต่อตระกูลเทียนเหินบ่อยขึ้น
ในสำนักประมูล ผู้คนเดินเข้าๆ ออกๆ ในฐานะที่เป็สมาชิกจากตระกูลเทียนเหิน เนี่ยไห่ เนี่ยเอินและเนี่ยหลีถูกจัดให้อยู่ในห้องรับรองบุคคลสำคัญที่ชั้นสอง
ฐานะยังคงเท่าเทียมกับประมุขและผู้ติดตามจากหลายๆ ตระกูล
เนี่ยไห่เห็นคนรู้จักหลายคนจึงเดินไปทักทาย
“ท่านประมุขลี่หยวน ท่านประมุขฉือเฟิง ไม่พบกันเสียนาน!” เนี่ยไห่ยกสองมือขึ้นคำนับและทักทาย
รูปร่างหน้าตาของลี่หยวนเป็ชายวัยกลางคนอายุราวห้าสิบหกสิบปี แม้ผมเผ้าและหนวดเคราจะมีสีขาวขึ้นแซมบ้างแล้ว จิตใจกลับกระชุ่มกระชวยและแข็งแรงยิ่ง เป็ประมุขของตระกูลหลีเยวียน ส่วนฉือเฟิงอายุอ่อนกว่าเล็กน้อย ทว่ารูปร่างกลับสูงใหญ่กว่า เป็ประมุขของตระกูลเทียนขุย
“ท่านประมุขเนี่ยไห่ ไม่ได้พบกันเสียนาน เชื่อว่าท่านคงสบายดี!” ลี่หยวนและฉือเฟิงต่างก็ยกสองมือขึ้นคำนับตอบและยิ้มแย้ม
“ฮ่าๆ ก็ได้รับคำอวยพรจากพวกท่านทั้งสองนี่แหละ!” เนี่ยไห่ทักตอบอีกคำหนึ่ง เขามีความสัมพันธ์อันดีกับลี่หยวนและฉือเฟิง กระทั่งใน่ที่ถูกตระกูลเสินเซิ่งกดดัน ลี่หยวน ฉือเฟิง และเนี่ยไห่ก็ยังคงไปมาหาสู่กัน
เห็นเนี่ยไห่และลี่หยวนกับฉือเฟิงกำลังทักทายกัน ประมุขเจียงิแห่งตระกูลอิ๋นหู่และประมุขเหลยจั๋วแห่งตระกูลเถี่ยเหมินที่อยู่ห่างออกไปต่างทำสีหน้าคับแค้นและกระดากใจ
“ท่านประมุขเนี่ยไห่ช่างมีสง่าราศีนัก!” ประมุขเหลยจั๋วพูดเหน็บแนมขึ้นเบาๆ
ประมุขเจียงิที่อยู่ถัดไปส่งเสียงไม่พอใจและพูดว่า “ก็คงจะอย่างนั้น แต่ก่อนนี้ถูกตระกูลเสินเซิ่งกดดัน ต้องเดินทางไปถึงตระกูลเสินเซิ่ง แทบกราบกรานร้องขอความเห็นใจอย่างไร้ยางอาย เวลานี้ได้รับความคุ้มครองจากสมาคมนักปรุงยาวิเศษ จึงพอจะเที่ยววิ่งไปทั่วได้อย่างสบายใจ แต่ทว่า... สมาคมนักปรุงยาวิเศษจะปกป้องตระกูลเทียนเหินนานเท่าไหร่กันเชียว? เมื่อถึงเวลา ตระกูลเทียนเหินก็ต้องลำบากอยู่ดี ไม่รู้ว่าท่านประมุขเนี่ยไห่จะยังคงสบายอารมณ์ดังเช่นวันนี้ได้อีกหรือไม่?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลยจั๋วกับเจียงิ สีหน้าของเนี่ยไห่แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย ั้แ่แรก ตระกูลของเหลยจั๋วและเจียงิก็ไม่มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเทียนเหิน คำพูดถากถางของพวกเขาทำให้เนี่ยไห่ไม่ชอบใจนัก เขาไม่ยอมแสดงความอ่อนแออย่างเด็ดขาด จึงทำท่าทำทางราวกับไร้ความกังวล ยิ้มแย้มและพูดว่า “ทำไมข้าถึงได้กลิ่นเหม็นตุๆ แถวนี้ได้? เป็ความจริงที่ตระกูลเทียนเหินได้รับความคุ้มครองจากสมาคมนักปรุงยาวิเศษ อย่างน้อยพวกเราก็ยังดีกว่าบางตระกูล ท่านปู่ก็ไม่หลงท่านย่าก็ไม่รักนั้นล่ะนะ!” (หมายถึงไม่รู้จักคนใหญ่คนโต ไม่มีคนหนุนหลัง)
เหลยจั๋วและเจียงิสีหน้าบึ้งตึง พูดตามความสัตย์จริง พวกเขาอิจฉาตระกูลเทียนเหินจริงๆ เวลานี้สมาคมนักปรุงยาวิเศษไม่อาจเทียบกับอดีตได้อีกแล้ว พวกเขายังได้ยินมาอีกว่าสมาคมนักปรุงยาวิเศษซื้อสมุนไพรจากตระกูลเทียนเหินในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดถึงสามสิบส่วน ยิ่งไปกว่านั้น สมาคมนักปรุงยาวิเศษยังให้ยาวิเศษคุณภาพสูงแก่ตระกูลเทียนเหินอีกเป็จำนวนมาก เพียงพอที่จะบำรุงเด็กรุ่นเยาว์ ส่วนพวกเขา สมุนไพรของพวกเขาขายไม่ออก ได้แต่บอกขายในราคาที่ต่ำลง
“สุนัขรับใช้ของสมาคมนักปรุงยาวิเศษกลับทำตัวสูงส่งปานนี้ คิดจริงๆ หรือว่าสมาคมนักปรุงยาวิเศษจะเห็นพวกเ้าเป็สมบัติอันล้ำค่า?” เหลยจั๋วเบ้ปากดูแคลน
ได้ยินคำพูดของเหลยจั๋ว ลี่หยวนกับฉือเฟิงก็พูดแทรกขึ้นบ้าง
“ท่านประมุขเหลยจั๋วพูดจาเช่นนี้ หากตระกูลเทียนเหินเป็สุนัขรับใช้ของสมาคมนักปรุงยาวิเศษจริง เกรงว่าทางสมาคมนักปรุงยาวิเศษคงไม่ต้องมอบเงื่อนไขที่ดีปานนี้ให้แก่ตระกูลเทียนเหินหรอกกระมัง?” ลี่หยวนยิ้มบาง เห็นได้ชัดว่าเขายืนอยู่ข้างเดียวกันกับเนี่ยไห่
ฉือเฟิงก็พยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว เห็นชัดๆ ว่าสมาคมนักปรุงยาวิเศษเป็ฝ่ายมาหาตระกูลเทียนเหินเอง จึงได้มอบเงื่อนไขที่ดีปานนี้ให้แก่ตระกูลเทียนเหิน กระทั่งพวกเราสองครอบครัวก็ยังพลอยได้ประโยชน์ไปด้วย!”
ลี่หยวน ประมุขของตระกูลหลีเยวียน และฉือเฟิง ประมุขของตระกูลเทียนขุย ขายสมุนไพรของพวกเขาในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดสิบส่วนให้แก่ตระกูลเทียนเหิน จากนั้นตระกูลเทียนเหินจึงขายสมุนไพรต่อให้แก่สมาคมนักปรุงยาวิเศษ รวมแล้วก็ได้กำไรไม่น้อย พวกเขากลายเป็คู่ค้าที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับตระกูลเทียนเหิน นี่ถือเป็การตอบแทนอย่างหนึ่งในยามที่ตระกูลเทียนเหินถูกผู้อื่นทอดทิ้งจากแรงกดดันของตระกูลเสินเซิ่ง
เหลยจั๋วและเจียงิส่งเสียงเ็า พวกเขาคิดไม่ออก เหตุใดั์ใหญ่เช่นสมาคมนักปรุงยาวิเศษจึงได้เป็ฝ่ายมาหาตระกูลเทียนเหิน? พวกเขาก็เคยส่งลูกน้องมาตรวจสอบเื่นี้ ทว่าไม่ได้เื่ได้ราวอันใด
ภายในห้องรับรองบุคคลสำคัญ
เนี่ยเอิน เนี่ยหลี สองคนกำลังนั่งอยู่ด้านข้าง จิบชาของตนไป ในเมื่อนี่เป็การปะทะคารมระหว่างประมุขของแต่ละตระกูล ย่อมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงมิได้พูดอะไรออกมา
เนี่ยเอินเอียงตัวเข้าใกล้เนี่ยหลีและพูดขึ้นเงียบๆ ว่า “ประมุขของตระกูลอิ๋นหู่กับตระกูลเถี่ยเหมินมักทำตัวโอหัง เมื่อครั้งที่ตระกูลเสินเซิ่งข่มเหงพวกเรา พวกมันส่งคนมาซื้อที่ดินสองผืนของพวกเรา ทั้งยังกดราคาจนต่ำ! พวกเรารู้ว่าเป็คนของพวกมัน อย่างไรก็ตาม พวกเราไม่ยอมขาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น! ขณะที่ตระกูลเสินเซิ่งกดดันพวกเรา สองตระกูลนี้ก็พยายามขโมยกิจการค้าทุกอย่างของพวกเราไป”
ได้ยินคำพูดของเนี่ยเอิน สองคิ้วของเนี่ยหลีขมวดมุ่นขึ้นเล็กน้อย ความโกรธฉายวาบขึ้นในดวงตาของเขาขณะจ้องมองประมุขเหลยจั๋วและประมุขเจียงิ หากเป็เพียงข้อพิพาทระหว่างผู้ดำรงตำแหน่งประมุข เขาย่อมไม่สนใจ ทว่าหากสองตระกูลนี้เป็สุนัขรับใช้ของตระกูลเสินเซิ่ง เนี่ยหลีย่อมไม่ยอมปล่อยพวกมันเอาไว้แน่
การประมูลกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า ประมุขของแต่ละบ้านเริ่มลุกขึ้นไปยืนยังจุดสังเกตการณ์ ยื่นหน้ามองไกลออกไป
ผู้ดำเนินงานประมูลเป็แม่นางน้อยรูปโฉมงดงามผู้หนึ่ง นางสวมใส่ชุดไหมสีโปร่งเล็กน้อย ใบหน้างดงาม เต็มไปด้วยความยวนใจ ต้องบอกว่าคนของตระกูลหงเยวี่ยฉลาดล้ำลึกนัก มีผู้ดำเนินงานประมูลที่เปี่ยมเสน่ห์ยั่วยวนปานนี้ ย่อมเป็การง่ายที่จะเติมความเร่าร้อนให้แก่ผู้คน และทำให้พวกเขายอมทุ่มเงินออกมามากมาย
“เมื่อเร็วๆ นี้ตระกูลเทียนเหินทำการค้าขายสมุนไพรกับสมาคมนักปรุงยาวิเศษ พวกเขาคงได้เงินมาไม่น้อย ในเมื่อประมุขเนี่ยไห่มาอยู่ที่นี่ เกรงว่าสมบัติล้ำค่าในงานประมูลครั้งนี้ พวกเราคงไม่มีส่วน!” หางตาของเหลวจั๋วชำเลืองมองเนี่ยไห่ เขาหัวเราะหึๆ และพูดขึ้น
“เป็ความจริงแท้ ฐานะอย่างพวกเรา จะเทียบกับตระกูลเทียนเหินได้อย่างไร?” เจียงิก็หัวเราะต่อความ
สีหน้าของเนี่ยไห่เปลี่ยนเป็เคร่งขรึมแล้ว คำพูดเยาะเย้ยถากถางของเหลยจั๋วและเจียงิ เหตุใดเขาจะฟังไม่ออก? ทว่าน้ำเสียงระคายหูของคนเหล่านี้ เขาได้แต่กล้ำกลืนมันลงท้องไป แม้เมื่อเร็วๆ นี้จะได้ร่วมการค้ากับสมาคมนักปรุงยาวิเศษ ตระกูลเทียนเหินทำกำไรได้มากมาย ทว่าพื้นฐานก็ยังอ่อนแอนัก เพียงสามารถฟื้นฟูกำลังขึ้นมาได้บ้าง จะเทียบกับตระกูลอิ๋นหู่กับตระกูลเถี่ยเหมินได้อย่างไร
ลี่หยวนและฉือเฟิงก็เริ่มขมวดคิ้วมุ่นบ่อยครั้ง เหลยจั๋วกับเจียงิเอาแต่กดดันไม่ยอมปล่อย ช่างน่าเบื่อนัก
เวลานี้ เนี่ยหลีที่กำลังนั่งอยู่ด้านขวามือของเนี่ยไห่พลันพูดขึ้นว่า “ประมุขทั้งสองยกยอจนเกินไปแล้ว ตระกูลเทียนเหินไม่มีอะไรยกเว้นเงิน เกรงว่าประมุขทั้งสองคงไม่มีโอกาสได้สมบัติอะไรติดไม้ติดมือกลับไปแล้ว”
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี ใบหน้าของเหลยจั๋วดำคล้ำ เขาพูดว่า “เ้าผีน้อย เ้าเป็ใครกัน? มีค่าพอจะพูดกับพวกเราด้วยหรือ? เ้าสามารถเป็ตัวแทนของตระกูลเสินเซิ่งได้หรือ?”
“จะเป็ตัวแทนของตระกูลเทียนเหินได้หรือไม่ ท่านก็ลองถามท่านประมุขเนี่ยไห่ดู!” เนี่ยหลีพูดเบาๆ
ฐานะของเนี่ยหลีภายในตระกูลเทียนเหินไม่เหมือนเดิมแล้วจริงๆ เนี่ยไห่พยักหน้าและพูดว่า “เขาสามารถเป็ตัวแทนของตระกูลเทียนเหินของข้าได้อย่างแน่นอน!”
“เ้าเด็กเปรตตัวเล็กๆ กลับกล้ามาพูดจาใหญ่โตที่นี่ ช่างไม่รู้จักกลัวว่าจะกัดถูกลิ้นของตัวเองรึ?” เหลยจั๋วพูดเสียงไม่พอใจ ในเมื่อเนี่ยไห่ออกปากว่าเนี่ยหลีสามารถเป็ตัวแทนของตระกูลเทียนเหินได้ เขาก็ย่อมหมดคำพูด “ตระกูลเทียนเหินนับวันก็ยิ่งถอยหลังลงคลอง กลับเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งจนเสียคนเช่นนี้!”
.......
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้