“สี่ก้อน! เขาทำให้หินแร่แห่งพลังเปล่งแสงได้ทั้งหมดสี่ก้อน! พลังเช่นนั้นอยู่ในขั้นสูงสุดที่มนุษย์อย่างเราจะสามารถไปถึงได้ มันยากที่จะมีใครเทียบเคียงได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่จะสามารถมีพลังสูงกว่านั้นได้เลย แม้ว่า ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’ จะมีหินแร่ทั้งหมดแปดก้อน แต่การจะเหนี่ยวนำให้หินแร่แห่งพลังอีกสี่ก้อนส่องประกายขึ้นมานั้นจำเป็ต้องมีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก และก็ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะมีความสามารถมากพอทำให้พวกมันเปล่งแสงออกมาได้...... ไม่สิ คนเช่นนั้นคงไม่สามารถเรียกว่ามนุษย์ได้..... ต้องเป็เทพเท่านั้น! คงเป็เทพเท่านั้นถึงจะสามารถทำให้หินแร่แห่งพลังทั้งแปดก้อนเปล่งแสงออกมาได้ คงมีเพียงเทพธิดาซีเหยา เทพสูงสุดแห่งทวีปที่สาบสูญเท่านั้นล่ะ!”
กริ๊ง-----
ระหว่างที่ข่งซิวพูดอยู่นั้นชั้นล่างสุดของหินแร่แห่งพลังก็เปล่งแสงสีขาวแสบตาขึ้นมาทันที ในที่สุดหนึ่งในหินแร่แห่งพลังอันโปร่งใสซึ่งเป็องค์ประกอบของ ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’ ก็เปล่งแสงออกมา
“ใช่แล้ว อย่างนั้นล่ะ....... ตั้งจิตของเ้าเอาไว้ อย่าให้จิตของเ้าแตกซ่าน นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น เพราะคุณสมบัติพิเศษที่ปฏิเสธอาชีพทั้งเจ็ดของเ้า ดังนั้นเ้าน่าจะสามารถทำให้หินแร่แห่งพลังเปล่งแสงได้สามก้อน!” ข่งซิวค่อยๆถอยหลังออกไปอย่างช้าๆ เขาพยักหน้าพร้อมกับส่งเสียงเตือนออกไป เขาแอบตกตะลึงไปเล็กน้อยเพราะเขาจำได้เลือนรางว่าแสงที่เปล่งออกมาจากหินแร่แห่งพลังในตอนนี้เจิดจ้ายิ่งกว่าแสงที่เคยสาดส่องในความทรงจำของเขาเสียอีก.... น่าจะมีสาเหตุมาจากการที่เขาไม่ได้ใช้งานเ้าหยกชิ้นนี้มาเป็เวลานานจนแทบลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ข่งซิวพยายามอธิบายกับตัวเองเช่นนั้น
กริ๊ง-----
เสียงของข่งซิวเพิ่งจะจบลงหินแร่แห่งพลังก็เปล่งแสงสีขาวตามมาอีกก้อน ทำให้ห้องปิดทึบที่สร้างด้วยหินแห่งนี้สว่างไสวขึ้นไปอีก
“ดี ก้อนที่สองแล้ว ผู้ที่สามารถทำให้แร่หินแห่งพลังเปล่งแสงได้สองก้อนนั้นมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย สิ่งนี้เพียงอย่างเดียวก็สามารถบอกได้แล้วว่าเ้าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา!”
กริ๊ง-----
แล้วหินแร่แห่งพลังก้อนที่สามก็เปล่งแสงสีขาวตามหินแร่ก้อนที่สองขึ้นมาติดๆกันทันที
ข่งซิวพยักหน้าอีกครั้ง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ยิ่งแสดงออกถึงความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น “ดีมาก! เป็อย่างที่ข้าคิดไว้ แท้จริงแล้วเ้ามีพลังแฝงอันยิ่งใหญ่ที่สามารถทำให้หินแร่แห่งพลังเปล่งแสงได้สามก้อน! มีพลังแฝงถึงขนาดนี้ หากถูกกระตุ้นขึ้นมาจักต้องกลายเป็ผู้แข็งแกร่งแห่งยุคแน่นอน แม้ว่า.......”
ข่งซิวยังพูดไม่ทันจบหินแร่แห่งพลังก้อนที่สี่ก็เปล่งแสงสีขาวขึ้นมาทันที
น้ำเสียงและสีหน้าของข่งซิวชะงักค้างไปทันที หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกตื่นตะลึงและความตื่นเต้นที่เพิ่มมากขึ้น “สี่ก้อน! จริงๆแล้วเป็สี่ก้อน....... เหมือนกับอู๋ิไม่มีผิด ผู้ที่ทำให้หินแร่แห่งพลังเปล่งแสงขึ้นมาได้ถึงสี่ก้อนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งแล้ว...... พลังแฝงของเ้าไม่ด้อยไปกว่าอู๋ิในตอนเริ่มแรกนั้นเลย!”
กริ๊ง-----
ทันใดนั้นแสงสว่างดวงที่ห้าก็สว่างขึ้นท่ามกลางดวงตาที่หรี่เล็กลงของข่งซิวทำให้ห้องลับที่ถูกปิดผนึกไว้สว่างจ้ายิ่งขึ้นด้วยแสงสีขาว
ต่อให้แสงสว่างโดยรอบทั้งหมดรวบเข้าด้วยกันก็ยังไม่แสบตาเท่ากับกลุ่มแสงที่รวมตัวกันเปล่งประกายออกมาตรงหน้านี้เลย ข่งซิวตกอยู่ในความตื่นตะลึง
“ห.....ห้าก้อน!” ดวงตาของข่งซิวเบิกกว้าง น้ำเสียงแห่งความใสุดขีดนั้นเปลี่ยนเป็สั่นสะท้านขึ้นมาจนเขาต้องยกมือขึ้นมาบังดวงตาของตัวเองเอาไว้โดยอัตโนมัติเพื่อยืนยันกับตัวเองว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็ภาพลวงตาหรือไม่....... สี่ก้อนเป็ข้อจำกัดของพลังมนุษย์ แต่หินแร่แห่งพลังเปล่งแสงออกมาถึงห้าก้อน........ นี่ต้องเป็พลังของเทพเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้!
กริ๊ง-----
ข่งซิวแข็งค้างไปทั้งร่างจนแทบจะล้มลงหัวฟาดพื้น
หินแร่แห่งพลังก้อนที่หกก็เปล่งแสงสีขาวตามก้อนที่ห้ามาติดๆ
“นี่.....นี่.......นี่มันเป็ไปไม่ได้.......เป็ไปไม่ได้.......” สีหน้าของข่งซิวแสดงถึงความงงงัน ดวงตามองตรงไปยัง ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’ด้วยความใ ไม่กล้าเชื่อเื่ทั้งหมดที่อยู่ในสายตาของตัวเองตอนนี้
กริ๊ง-----
แล้วหินแร่แห่งพลังก้อนที่เจ็ดก็เปล่งแสงสีขาวออกมาท่ามกลางสายตาเหม่อลอยของข่งซิว....... ข่งซิวรู้สึกมึนงงขณะตกอยู่ภายใต้ความตื่นตะลึงถึงขีดสุด และยังถูกความตื่นตะลึงนั้นทำให้ในิ่งค้างจนพูดไม่ออก เขาเหม่อลอยราวกับิญญาหลุดออกจากร่าง พูดไม่ออกอีกแม้แต่คำเดียว
กริ๊ง-----
หินแร่แห่งพลังก้อนที่แปดเปลี่ยนเป็สีขาว เมื่อ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’ทั้งก้อนเปล่งแสงออกมาพร้อมกัน สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในความคิดของเขาก็คือ...... เขากำลังฝันอยู่
นอกจากฝันแล้ว ยังจะมีอะไรสามารถอธิบายภาพลวงตาตรงหน้าที่เขาไม่สามารถยอมรับและเชื่อถือได้อีก
ในระยะเวลาสั้นๆนั้น เย่เทียนเซี่ยไม่ได้ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาก็ยังคงปิดสนิท ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่ทำให้ข่งซิวตาค้างและสงสัยว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในห้วงฝัน ในตอนที่หินแร่แห่งพลังทั้งหมดเปล่งแสงขึ้นมามือของเย่เทียนเซี่ยก็ยังคงวางอยู่บนนั้น.......
แต่ทั้งหมดนั่นยังไม่จบลง
หลังจากหินแร่แห่งพลังสว่างขึ้นพร้อมกัน ทั้งห้องก็ถูกสาดส่องไปด้วยแสงสว่างราวกับตกอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ ทันใดนั้นท่ามกลางความมึนงง ข่งซิวที่ิญญาค่อยๆกลับคืนสู่ร่างก็รู้สึกว่าแสงที่สว่างจ้าขึ้นมาเรื่อยๆนั้นยังไม่หยุดลง ประสาทการรับรู้ทางดวงตาบอกเขาแบบนั้น แสงสว่างนั้นยังคงสว่างจ้ามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ....... แข็งแกร่งจนกระทั่งถึงระดับที่รุนแรง
ที่มาของแสงนั่นยังคงเป็ ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’!
เพล้ง!!!!
ข่งซิวคงไม่มีวันลืมเสียงการแตกหักที่ดังขึ้นจนทำให้แก้วหูของเขาแทบฉีก เพราะในดวงตาที่เบิกโตขึ้นเรื่อยๆของเขากำลังมอง ‘หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์’ ที่เปล่งแสงสว่างจ้ามากขึ้นเรื่อยๆนั้นปริแตกออกต่อหน้าต่อตาของเขา.......... แล้วแสงสว่างไสวที่สาดส่องอยู่เต็มตาก็ทะลักออกมากอย่างบ้าคลั่งตามรอยปริแตกนั้น ทำให้โลกโดยรอบเปลี่ยนเป็สีขาวสว่างจ้า และท่ามกลางแสงสีขาวนั้นก็มีเสียงคำรามดังกึกก้องขึ้นมาทันที.........
กรรรรร!!!!!!
เสียงคำรามดังสนั่นนั้นเกือบจะทำให้จิติญญาและการรับรู้ของข่งซิวแตกซ่าน ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน แสงสว่างนั้นเปลี่ยนเป็แสงจ้าแสบตา แต่ดวงตาของเขาก็ไม่ได้หลับลงแต่อย่างใด....... ขณะที่หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ปริแตกะเิแสงสีขาวสว่างจ้าออกมา เขาก็มองเห็นเงาร่างของัที่กำลังคำรามอยู่ตัวหนึ่ง เสียงคำรามดังกึกก้องนั้น..... แท้จริงแล้วเป็เสียงคำรามะเืฟ้าดินของัตัวหนึ่ง!
แสงนั่นสลายหายไปอย่างรวดเร็ว ั้แ่หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์แตกออกจนถึงเสียงัคำราม และมาถึงการสลายหายไปอย่างรวดเร็วของแสงสีขาวสว่างจ้ารวมแล้วเป็เวลาสั้นๆติดต่อกันเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เสียงัคำรามสั่นสะท้านิญญาและเสียงแตกหักของหยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ทำให้เย่เทียนเซี่ยที่กำลังหลับตารวบรวมสมาธิอยู่นั้นเกิดความใ เขาลืมตาขึ้นมาและมองไปด้านหน้าด้วยความสงสัย
ความรู้สึกที่มือหายไปแล้ว หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อยู่แล้ว แต่บนพื้นเบื้องหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยเศษซากคริสตัลหลากสีกระจายอยู่เกลื่อนกลาด แสงสีขาวที่เคยสว่างไสวก็สลายหายไปเหลือเพียงความมืดมิด เย่เทียนเซี่ยหันกลับมามองข่งซิวที่นั่งอยู่บนพื้นด้วยใบหน้ามึนงงเหมือนิญญาพลัดหลงออกจากร่าง เขาขมวดคิ้วถามออกไป “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
เมื่อครู่ตอนที่เย่เทียนเซี่ยหลับตาอยู่นั้น จิตของเขาเชื่อมต่ออยู่กับหยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์และเหมือนกับเขาได้เข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์แห่งหนึ่ง ประสาทการรับรู้ของเขาเกือบจะถูกตัดออกจากทุกสิ่งรอบตัวดังนั้นจึงไม่ทันเห็นทุกอย่างที่ข่งซิวได้เห็นไปเมื่อครู่
เมื่อได้ยินเสียงของเย่เทียนเซี่ย สายตานิ่งค้างของข่งซิวที่ตกอยู่ในภวังค์ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาเล็กน้อย ลูกตาที่เบิกโตของเขาเกือบจะถลนออกมาจากเบ้า ข่งซิวส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันกลับไปมองเย่เทียนเซี่ยช้าๆ ใบหน้าของเขายังคงแข็งค้างอยู่อย่างนั้น “ม.....ม....ั......ิญญาั” เขาพูดติดขัด กระซิบออกมาแ่เบาราวกับกำลังเพ้อ
หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์แตกสลายไปแล้ว....... แม้แต่เทพธิดาซีเหยา เทพสูงสุดของทวีปที่สาบสูญก็ยังไม่มีพลังมากพอจะทำลายหยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่มันกลับถูกทำให้แตกสลายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยภายใต้น้ำมือของคนๆเดียว..... คนๆนั้นคือคนที่มีพลังแฝงและศักยภาพของพลังที่แข็งแกร่งเกินไป แข็งแกร่งจนทำให้หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์สั่นสะท้านและรองรับพลังนั้นไม่ไหวจนแตกออกในที่สุด!
เป็ไปไม่ได้..... นี่มันเป็ไปไม่ได้....... แม้ว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา และเขาก็ได้เป็พยานรับชมสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างใกล้ชิด แต่เขาก็ยังคงไม่อยากจะเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในสายตาของตัวเอง..... นี่เป็เื่น่าตื่นใที่ทำลายการรับรู้และความจริงทั้งหมดที่เขาเคยเชื่อลงโดยสมบูรณ์
หยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่แตกสลาย...... เงาร่างั....... เสียงคำรามของั......
นั่นมันมีอยู่แค่ในตำนานโบราณเท่านั้น............
พลังิญญาั!!!