หลินลั่วหรานััลงไปยังใบของ “หญ้าน้ำแข็ง”อย่างระมัดระวังผ่านเกราะน้ำ นอกจากความเย็นเฉียบที่เข้าไปถึงกระดูกก็ไม่ได้มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น
หัวใจของหลินลั่วหรานเต้นรัว แม้ว่าจะมีบางอย่างผิดปกติเธอก็้าหญ้านี้ แม้ว่าหลินลั่วหรานจะเพิ่งออกมาจากสถานที่ลึกลับแต่หลังจากที่ได้เข้ามาในเส้นทางการฝึกศาสตร์เธอก็เพิ่งเคยเจอพลังแบบนี้เพียงแค่ครั้งเดียว ก็คือต้นไม้เล็กที่ทำให้เธอสามารถชำระไขกระดูกได้สำเร็จ!
หลังจากที่ผลไม้สีแดงสดนั่นลงไปยังท้องของเธอ ก็ทำเอาแสบร้อนทรมานหลินลั่วหรานยังคงจำมันได้ดี เธอนั้นเก็บสมุนไพรมากมายมาจากด้านในสถานที่ลึกลับแต่ก็ไม่เคยได้พบกับต้นไม้ประหลาดอย่างต้นไม้ต้นเล็กนั่นหลินลั่วหรานจึงได้แต่คิดว่า มันคงจะต้องเป็แบบนั้น ถึงจะสามารถเรียกได้ว่า เป็สมบัติจาก์จริงๆ
หญ้าน้ำแข็งวิเศษที่เย็นเฉียบแต่กลับเติบโตอยู่ในน้ำร้อนเดือดแห่งนี้อาจจะมีเพียงสถานที่ที่แตกต่างกันคนละขั้วแบบนี้จึงจะสามารถมีสมบัติจาก์ได้หรือเปล่า?
หลินลั่วหรานค่อยๆแงะเอาก้อนหินที่อยู่ใต้ล่างหญ้าน้ำแข็งออกอย่างระมัดระวัง โดยที่พยายามจะไม่ทำลายส่วนรากของมันแล้วนำมันขึ้นมาจากน้ำ
เมื่อมือของเธอััลงที่บริเวณรากปลาตัวเล็กสีเงินก็พุ่งเข้ามาโจมตีหลินลั่วหรานด้วยความโมโหโดยที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน
หลินลั่วหรานจึงเข้าไปหลบในเกราะน้ำ โดยรอบนั้นเต็มไปด้วยพลังธาตุน้ำเกราะน้ำนั้นใช้น้ำในการหล่อเลี้ยง จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถล่มลงมาเมื่อเห็นท่าทางที่ดูโมโหจนอยากจะกระทืบเท้า (ถ้ามันมีน่ะนะ) ของปลาตัวน้อยแล้วหลินลั่วหรานก็รู้สึกเหมือนได้แก้แค้นขึ้นมา
สมบัติวิเศษจาก์นั้น จะต้องมีสัตว์วิเศษคอยปกป้องหรือว่าเ้าปลาสีเงินนี่ จะเป็สัตว์ที่คอยปกป้อง?
นี่มันจะไม่ถ่อมตัวเกินไปหน่อยเหรอ!
หลินลั่วหรานค่อยๆ ใช้มือถอนหญ้าน้ำแข็งออกมาอย่างระมัดระวังพร้อมทั้งผลักปลาตัวน้อยที่กำลังโมโหให้หลบไปอีกทาง อุณหภูมิของน้ำในนี้สูงเกินไปถ้าหากว่าออกไปจากที่นี่แล้ว หญ้าน้ำแข็งต้องตายเพราะสภาพที่ไม่เหมาะสมกับมันนั่นคงจะทำให้ใจของเธอสลาย ในเวลาแบบนี้นั้นความหวังเดียวที่หลินลั่วหรานมี ก็คือพื้นที่ลึกลับที่ไม่ว่าจะปลูกอะไรก็ขึ้นแล้ว
เธอนำเอาหญ้าน้ำแข็งหายเข้าไปในพื้นที่ลึกลับกับตัวเองอีกทั้งยังเอาหินที่อยู่บริเวณส่วนรากของมันไปด้วย
ในพื้นที่ลึกลับนั้นมีเพียงที่บ่อน้ำเท่านั้นที่มีน้ำหลินลั่วหรานจึงนำเอาหญ้าน้ำแข็งไปปลูกลงในส่วนตื้นๆ ข้างบ่อก่อนจะใช้ก้อนหินเล็กๆ เ่าั้ล้อมรากของมันเอาไว้ใบของมันยังคงประกายไปกับผืนน้ำ ดูเหมือนว่าจะพอปรับตัวเข้ากันได้นะ?
เธอถอนหายใจออกมา น้ำในบ่อนั้นยังคงไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรจึงไม่ต้องกังวลว่าหลังจากนี้หากนำไปใช้รดต้นไม้แล้ว อาจจะทำให้มันเย็นตายได้แต่ว่าหญ้าน้ำแข็งนี่ก็น่าประหลาดจริงๆดูเหมือนว่าจะหนาวเย็นอยู่เพียงแค่เรือนร่างของมัน ในน้ำร้อนเดือดก็เป็แบบนี้ในบ่อน้ำวิเศษก็ยังคงเป็แบบนั้น
หลินลั่วหรานจุ่มมือลงไปวัดอุณหภูมิอีกครั้งพลังธาตุน้ำที่อุดมสมบูรณ์ทำให้จิตใจของเธอสดชื่นขึ้นมาและทำให้เหล่าพืชพันธุ์ทั้งหลายในพื้นที่แห่งนี้พากันกระฉับกระเฉง
หลินลั่วหรานนึกกลับไปถึงการเดินทางในท้องทะเลขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุความรู้สึกที่ได้รวมเข้าเป็หนึ่งเดียวกับน้ำมันไม่เหมือนกับพวกพลังธาตุไฟที่แสนซนพวกนั้น แม้ว่าพลังถูกการเปลี่ยนแปลงของโลกทำให้นิสัยใจคอเปลี่ยนไป แต่พลังธาตุน้ำก็ยังคงเป็ธาตุที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยนที่สุดแล้ว
อย่างหญ้าน้ำแข็งนี้ แม้ว่ามันจะแปลกประหลาดแค่ไหนแต่อย่างมากก็เพียงแค่แช่แข็งคนที่มาััโดนตัวมัน แต่ในเวลาปกติก็อ่อนโยนไร้ซึ่งพิษภัย
มันไม่ได้มีประกายหางอย่างพวกพลังธาตุไฟที่ปล่อยประกายหางออกมาแล้ววิ่งเล่นไปทั่ว แต่มันกลับสงบราวกับหยาดน้ำฝนอ่อนโยนงดงาม แม้แต่ตอนที่ขยับไปมาก็ยังให้ความรู้สึกสวยงาม...ความคิดของหลินลั่วหรานกระจายไปราวกับสายน้ำที่แท้สิ่งที่เธอได้รับในตอนที่ลอยไปตามเกลียวคลื่นก็มากกว่าที่ตัวเธอคิดเอาไว้เสียอีก
เธอนั้นว่ายมาพร้อมกับฝูงปลา จากน้ำแข็งกลายเป็น้ำขุดหลุมอยู่ในกองหิมะผ่านค่ำคืน เดินทางอยู่ภายใต้พายุกระหน่ำข้ามผ่านธารน้ำแข็งที่สูงกว่าระดับน้ำแข็งสองพันกว่าเมตรด้วยมือเปล่าประสบการณ์ที่ผ่านมานี้ คือเส้นทางที่แบ่งแยกต่างกันออกไปแต่กลับมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เดียวกัน
เธอไม่เคยเป็เช่นนี้มาก่อน เป็ราวกับน้ำที่กระจายออก
น้ำแข็งคือน้ำ หิมะคือน้ำ ไม่ว่าน้ำจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดไหนมันก็ยังคงเป็น้ำ
ในที่สุดหลินลั่วหรานที่อยู่ข้างบ่อน้ำวิเศษในพื้นที่ลึกลับก็ได้ลืมไปแล้วว่าความจริงในตอนนี้เธอกำลังอยู่ใต้แม่น้ำ ก่อนจะค่อยๆเข้าสู่ห้วงสมาธิ
ในตอนที่เธอเข้าสู่สมาธินั้น แม้ว่าฟ้าจะถล่มก็ยังไม่อาจจะทำให้เธอตื่นขึ้นมาได้
แต่ว่าไข่มุกนั้น ยังคงล่องลอยอยู่ใต้แม่น้ำ...
ในตอนนั้นหลินลั่วหรานได้หลงลืมเื่นี้ไปแล้วแต่ปลาสีเงินที่ถูกเธอแย่งหญ้าน้ำแข็งไปนั้น ไม่ได้ลืมไปด้วย!
เพียงในชั่วพริบตาสัตว์น่ารังเกียจนั้นก็เห็นว่าสิ่งที่มันเคยคอยปกป้องนั้นหายไปแล้วบนก้อนหินหลงเหลืออยู่เพียงวัตถุทรงกลม ที่ประดับไปด้วยกลิ่นอายของหลินลั่วหราน
ปลาสีเงินไม่ได้บอบบางอย่างที่หลินลั่วหรานคิด สิ่งที่แปลกประหลาดเช่นนี้ก่อนที่จะพัฒนาร่างในทุกๆ พันปี มันจะยิ่งตัวเล็กลง ไม่เพียงแต่ความว่องไวเท่านั้นแม้แต่พร์ที่มีก็จะหายไปเหลือเอาไว้เพียงความสามารถทั่วไปและการปกป้องตัวเองเล็กๆ น้อยๆ
แต่ว่าในทุกพันปีก็จะเกิดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งปลาสีเงินนั้นไม่เพียงแต่จะได้รับการสืบทอด แต่ยังสามารถลอกคราบและได้ขึ้นไปยืนในจุดสูงสุดของสัตว์ร้ายอีกครั้ง
หลินลั่วหรานนับว่าโชคดีมาก ที่ได้มาเจอกับมันใน่เวลาที่อ่อนแอที่สุดไม่อย่างนั้นหากอยากจะได้หญ้าน้ำแข็งไปอาจจะยากกว่าการเอาตัวรอดออกมาจากผีสาวหลายเท่าตัวนัก!
ในตอนนี้ปลาสีเงินเต็มไปด้วยความมึนงง ความคิดของมันนั้นไม่ได้มีมากมันรู้เพียงแค่หญ้าน้ำแข็งสำคัญต่อมันมากแต่กลับจำไม่ได้ว่านั่นคือของวิเศษที่มันปกป้องมากว่าพันปีเมื่อถูกหลินลั่วหรานขโมยไปแล้ว เหลือเพียงแค่ไข่มุกกลมๆ เม็ดหนึ่งมันก็มุดไปมาที่ทรายอยู่สักพัก ทำเอาน้ำในแม่น้ำขุ่นมัวความโมโหก็ยังคงไม่ได้รับการระบาย มันอ้าปากสูดน้ำเข้า ก่อนจะกลืนไข่มุกลงสู่ท้อง
ความจริงนั้นมันเป็สัตว์ประหลาดที่เกิดมาเพื่ออยู่คู่กันกับหญ้าน้ำแข็งวิเศษตอนนี้ความคิดของมันขุ่นมัว ไม่รู้เลยว่าการสูญเสียหญ้าวิเศษไปนั้นเป็เื่สำคัญถึงชีวิตของมันเพียงแต่รู้สึกว่าน้ำในแม่น้ำแห่งนี้ร้อนเกินกว่าที่มันจะทนได้มันไม่อาจจะอยู่ใต้แม่น้ำนี้ได้อีก ไข่มุกที่อยู่ในท้องก็ทำให้มันรู้สึกไม่สบายตัวจึงต้องออกไปแหวกว่าย เพื่อช่วยในการย่อยเสียหน่อย
ปลาน้อยสีเงินใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ก็ว่ายขึ้นมาถึงผิวน้ำ
อุณหภูมิสูงของใจกลางแม่น้ำ ทำให้มันรู้สึกไม่สบายตัวมันจึงว่ายไปตามแม่น้ำแข็ง ก่อนจะหายไปในแม่น้ำนั้น
ปลาสีเงินรู้สึกว่าในท้องของมันนั้นทรมานขึ้นเรื่อยๆมันว่ายผ่านแม่น้ำร้อนมาแล้ว แม้จะถูกก้อนกรวดกระแทกเข้ามา ก็ยังไม่สนใจมันว่ายออกมาไกลขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ทันได้รู้สึกตัวออกห่างมาจากสถานที่อยู่ของตัวเอง แต่ยังคงไม่อาจจะออกไปจากบริเวณของแม่น้ำแข็งได้
เมื่อแม่น้ำแข็งไหลเข้าสู่ทะเลปลาตัวน้อยสีเงินก็เหมือนดั่งัน้ำที่ได้กลับลงสู่ท้องทะเลมันสบายตัวเสียจนไม่รู้จะอธิบายออกมาอย่างไร จนลืมความทรมานในท้องไปสักพักใน่ฤดูร้อน เป็เวลาที่ปลาจะอ้วนที่สุดมันพุ่งเข้าไปยังฝูงปลาตัวเล็กที่แหวกว่ายอยู่กลางปะการัง
พลังในการกัดของมันนั้น แม้แต่ผู้ฝึกศาสตร์ระดับฝึกลมปราณยังสลบไปได้ดังนั้นอย่าได้พูดถึงเหล่าปลาทะเลที่มีความสามารถในการต่อสู้อยู่เพียงน้อยนิดเลยมันแหวกว่ายไปทั่วทุกสารทิศ จนท้องอิ่มหนำ และไม่รู้สึกอะไรถึงไข่มุกอีกมันนอนลงระหว่างหิน สบายเสียจนอยากจะนอนหลับ
ที่แท้ที่นี่ก็มีอาหารมากมายมันรู้สึกว่าการที่ซ่อนตัวอยู่ในแม่น้ำที่ร้อนครึ่งเย็นครึ่งหาปลาสักตัวยังแทบจะไม่เจอแบบนั้น เป็การสิ้นเปลืองชีวิตของมันสิ้นดี
ปลาสีเงินเรอออกมาด้วยความอิ่ม จนลืมเลือนความรู้สึกไม่ปลอดภัยที่ส่งออกมาจากในส่วนลึกของสมอง ท้องทะเลอันกว้างใหญ่นั้น สำหรับมันแล้ว อันตรายเกินไป!
แมวน้ำตัวหนึ่ง ลืมตาดวงเล็กๆ ของมันขึ้นมาจ้องมองมาที่ทางปลาน้อยอยู่นานแล้ว
บางทีวันนี้เ้าแมวน้ำอาจจะอยากลองเปลี่ยนรสชาติจึงสนใจในตัวปลาสีเงินที่อยู่ๆ ก็ปรากฏตัวออกมานี่มากในตอนแรกความเร็วของมันว่องไวมาก แมวน้ำจึงทำได้เพียงแค่จ้องมองแต่ว่าในตอนนี้ปลาสีเงินนั้นกินมากจนเกินไป มันไร้กำลังลงแล้วแมวน้ำที่เฝ้ารอมาเนิ่นนาน ในตอนนี้ก็เริ่มทำการโจมตีทันที!
ปลาตัวน้อยสีเงินเพียงรับรู้ว่าอยู่ๆ แสงไฟโดยรอบก็มืดลง มันถูกแมวน้ำกัดเข้าที่ส่วนหัวขยับปากอยู่ไม่กี่ครั้ง ก็จัดการกลืนปลาสีเงินที่ไม่ทราบที่มาตัวนี้ลงท้องไป
ความเร็วดุจดั่งสายฟ้าของมัน เพราะว่าตะกละเกินไปจึงไม่สามารถที่จะควบคุมได้
พิษที่ทำให้คนสลบ เพราะว่ามันสะเพร่า จนไม่ทันที่จะได้ใช้
เบื้องบนมักจะกำหนดให้ทุกอย่างแปลกประหลาดแบบนี้เสมอเหมือนกับที่ผีสาวชุดขาวที่ไม่คิดว่าเธอจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากได้เพราะนักฝึกระดับลมปราณอย่างหลินลั่วหรานสัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นมาพร้อมหญ้าน้ำแข็งวิเศษก็เช่นกัน มันไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วมันจะต้องตกมาอยู่ในท้องของแมวน้ำธรรมดาๆ ตัวหนึ่งแบบนี้
พันปีที่ผ่านมา หากผ่านไปได้ก็จะเปลี่ยนร่างแล้วในย่างก้าวที่จะข้ามผ่านไปเป็สัตว์ร้าย ถ้าหากว่าผ่านไปไม่ได้ก็ต้องตายมีได้ก็ต้องมีเสีย ก็เหมือนกับเส้นทางของผู้ฝึกศาสตร์ ใครๆต่างก็พูดกันว่าเมื่อฝึกไปถึงจุดสุดท้ายได้ ก็จะกลายเป็เทพแล้วแบบนั้นเส้นทางการฝึกศาสตร์ ใช่เส้นทางที่คิดอยากจะเข้ามาก็เข้าคิดอยากจะออกก็ออกจริงหรือ?
แมวน้ำทะเลไม่ได้เข้าใจว่าอะไรคือการฝึกศาสตร์เมื่อมันได้กินปลาสีเงินดั่งหวัง ก็รับรสชาติอยู่สักพักก่อนจะปีนขึ้นไปอาบแดดบนก้อนน้ำแข็งเหมือนอย่างเช่นเคย
ทุกครั้งที่แสงอาทิตย์แห่งฤดูใบไม้ผลิสาดส่องมายังพื้นที่ที่ผ่านความหนาวเย็นมาเนิ่นนาน่เวลากลางวันก็ยิ่งนานมากขึ้น แมวน้ำจึงสามารถขึ้นมาอาบแดดบนแผ่นน้ำแข็งได้มันหลบอยู่ที่ด้านหลังก้อนน้ำแข็ง มองไปยังรอบด้านด้วยความระมัดระวัง
นี่เป็ฤดูที่ดีแห่งการล่าแมวน้ำ แต่แมวน้ำนั้นกลับไร้ทางเลือกหิมะน้ำแข็งต่างกลายเป็น้ำ อุณหภูมิลดลงต่ำเกินกว่าจะรับได้หากจับปลาแล้วไม่ขึ้นมาอาบแดด มันก็อาจจะต้องแข็งตายได้
แมวน้ำตัวนี้ปีนขึ้นมายังแผ่นน้ำแข็ง มันเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ อีกครั้ง ก่อนจะพบว่าโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยความสงบเงียบจึงลดหัวลงนอนััแสงอาทิตย์ไปอย่างเริงร่า
และในตอนที่แมวน้ำหมอบนอนลงนั่นเอง สายตาที่ไม่ได้ดีมากนักก็ทำให้มันมองข้ามผ้าใบสีขาวที่ขยับอยู่ในบริเวณที่ไม่ได้ห่างออกไปนัก
คนที่สวมหมวกขนสัตว์สีขาวขยับตัวผ่านไปด้วยความเร็วเมื่อเห็นว่าแมวน้ำสงบลงแล้ว เขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็ต้องซ่อนตัวอีกต่อไป
ผ้าใบสีขาวเมื่อมองจากที่ไกลๆ แล้วดูเหมือนกับกองหิมะ แต่กลับค่อยๆขยับเข้ามาในยามที่แมวน้ำไม่ทันได้สังเกต
เอสกิโม เป็ชนเผ่าที่ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่หนาวเหน็บที่สุดของโลกต่างก็รู้ดีว่าจะล่าแมวน้ำที่นอนอาบแดดอยู่นี้ได้อย่างไร
แมวน้ำหลับใหลไป ไข่มุกนอนสงบอยู่ในท้องของมัน เมื่อผ้าใบขยับขึ้น
ดูเหมือนว่าพายุหิมะจะมาอีกครั้งแล้ว...