หลังจากเซี่ยยวี่หลัวล้างหน้าแล้ว นางก็กลับห้องไปชงน้ำผึ้งสามถ้วย ชงน้ำผึ้งที่จะให้สองพี่น้องเสร็จก็ยกไปให้หน้าห้องของพวกเขาเซี่ยยวี่หลัวไม่ได้เข้าไป เพียงะโจากด้านนอก “จื่อเซวียน จื่อเมิ่ง ข้างนอกมีน้ำผึ้ง พวกเ้ายกเข้าไปดื่มเถิด”
กล่าวจบก็กลับไปยังห้องของตัวเองดื่มน้ำผึ้งเสร็จจึงเข้าไปในครัว เริ่มทำอาหารเช้า
เมื่อวานใช้ไข่ไก่ไปสามฟองเหลือเพียงห้าฟอง นางตอกไข่ฟองหนึ่ง คนเข้ากับแป้ง ทำซุปก้อนแป้งผักจี้ช่ายเหมือนเมื่อวานเซี่ยยวี่หลัวชอบกินของร้อนๆในยามเช้า
เซียวจื่อเมิ่งกำลังสวมเสื้อผ้าเมื่อได้ยินว่าด้านนอกมีน้ำผึ้ง ก็หันมองออกไปด้วยความอยากกิน
เซียวจื่อเซวียนเปิดประตูห้องเห็นน้ำสีเหลืองสองถ้วยที่มีไอร้อนลอยขึ้นมาวางอยู่ตรงขอบหน้าต่างลองดมดูก็ได้กลิ่นหอมหวาน เป็กลิ่นของน้ำผึ้ง
เขาเงยหน้าขึ้นมองห้องของเซี่ยยวี่หลัวแวบหนึ่งก่อนยกน้ำผึ้งสองถ้วยเข้าไปในห้อง
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจ“พี่รอง ข้าจะดื่มข้าจะดื่ม!”
เซียวจื่อเซวียนไม่ได้ให้เซียวจื่อเมิ่งทันทีแต่ตัวเองดื่มถ้วยละหนึ่งคำ รอดูครู่หนึ่ง แล้วจึงยกมาให้เซียวจื่อเมิ่งยื่นถ้วยไปตรงริมฝีปากนาง “ดื่มช้าๆ เดี๋ยวสำลัก!”
เซียวจื่อเมิ่งจับถ้วยไว้ก่อนดื่มอย่างรวดเร็วน้ำผึ้งอุ่นร้อนหนึ่งถ้วย รสชาติหอมหวาน ดื่มเสร็จแล้วเซียวจื่อเมิ่งแย้มรอยยิ้มหวาน “พี่รอง น้ำผึ้งอร่อยจริงๆ!”
เซียวจื่อเซวียนยื่นส่งถ้วยของตัวเองให้เซียวจื่อเมิ่งยิ้มพร้อมกล่าวด้วยความเอ็นดู “ยังมีอีกหนึ่งถ้วย เ้าดื่มเสีย!”
เซียวจื่อเมิ่งส่ายหน้า “จื่อเมิ่งไม่ดื่มแล้วพี่รองดื่ม รสหวาน เป็ของดี!”
เซียวจื่อเซวียนลูบศีรษะนางด้วยความเอ็นดูก่อนจะแหงนหน้าดื่มน้ำผึ้ง
เป็รสหวานจริง ยังอุ่นอยู่หลังจากดื่มแล้ว ร่างกายรู้สึกอบอุ่นนัก
เซี่ยยวี่หลัวง่วนอยู่กับการทำอาหารในครัวหลังจากทำอาหารเช้าเสร็จ นางยังคงยกเข้าไปในห้องของสองพี่น้องเหมือนเมื่อวาน
เซียวจื่อเซวียนกำลังช่วยผูกผมให้เซียวจื่อเมิ่งมือของเขาวนไปมาอยู่บนศีรษะของเซียวจื่อเมิ่งด้วยท่าทางเงอะงะได้แต่ม้วนผมเป็มวยสองข้าง ปล่อยปอยผมลู่ลงตรงอกเด็กสองคนเห็นเซี่ยยวี่หลัวเข้ามา รีบลุกขึ้นยืนทันที ถอยหลังไปสองก้าวจ้องมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทางหวาดระแวง
เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาจะกลัวตัวเอง ในเใื่อช่วยไม่ได้ เด็กๆ กลัวไปแล้วสาวความไปก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้นางจึงได้แต่ใส่ใจดูแลพวกเขาให้พวกเขาลดอคติที่มีต่อตนเอง
“ล้างหน้าเสร็จหรือยัง? รีบมากินข้าวเร็ว! เช้านี้เหมือนเมื่อคืนในบ้านมีวัตถุดิบแค่นี้” เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกอายเล็กน้อย
บล็อกเกอร์อาหารรสเลิศได้แต่ประทังชีวิตด้วยไข่ไก่แป้ง และผักจี้ช่าย หากผู้ติดตามหลายแสนคนรู้ว่าบล็อกเกอร์ที่เคยทำอาหารน่ากินมากมายตอนนี้แม้มีฝีมือก็ไม่อาจแสดงออกมาได้เพราะขาดวัตถุดิบ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะคิดเช่นไรแล้ว
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งเห็นเซี่ยยวี่หลัววางซุปลงเสร็จก็หันขวับเดินออกจากห้องไป นางยังไม่ได้หยิบชามกับตะเกียบเลย
เซียวจื่อเมิ่งมองอาหารบนโต๊ะดวงตาเป็ประกายวิบวับ กลืนน้ำลายอึกหนึ่ง เงยหน้าขึ้นมองเซียวจื่อเซวียนเรียกพี่รองทีหนึ่ง
แววตาเซียวจื่อเซวียนเหมือนจะฉายประกายดิ้นรนขมวดคิ้วมุ่น จับมือเซียวจื่อเมิ่งไว้แน่น
เซี่ยยวี่หลัวหยิบชามและตะเกียบเข้ามาตักซุปจนเต็มสามชาม เด็กสองคนเห็นอย่างชัดเจน เซี่ยยวี่หลัวตักก้อนแป้งใส่ในชามของพวกเขาจำนวนมากตักจนเต็มชาม เต็มไปด้วยก้อนแป้ง ส่วนในชามของเซี่ยยวี่หลัว มีแค่ครึ่งชามเท่านั้น
หลังจากตักเสร็จสองชามเซี่ยยวี่หลัววางไว้ตรงข้ามตัวเอง กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนดุจสายน้ำ “รีบมากินเร็วชามร้อนมาก นั่งลงกินแล้วกัน!”
เมื่อวานตอนเที่ยงกับตอนเย็นเด็กสองคนนำอาหารไปกินที่มุมห้อง นางนั่งกิน เด็กสองคนย่อตัวอยู่ตรงมุมห้องดูอย่างไรก็เหมือนนางทารุณพวกเขา มองแล้วรู้สึกบีบคั้นหัวใจนัก
เซียวจื่อเมิ่งมองเซียวจื่อเซวียนเซียวจื่อเซวียนมองเซี่ยยวี่หลัว
หิวจนท้องร้องโครกครากแต่เซี่ยยวี่หลัวเป็คนร้ายกาจ ไม่รู้ว่าอีกครู่หนึ่งจะอาละวาดหรือไม่
สุดท้าย ความหิวก็อยู่เหนือทุกสิ่งเซียวจื่อเซวียนจูงมือเซียวจื่อเมิ่งนั่งลง ไม่กล้ามองเซี่ยยวี่หลัวหยิบชามมากินคำโต เพราะหิวเกินไป และอาหารที่เซี่ยยวี่หลัวทำก็รสชาติดีเหลือเกิน
เด็กสองคนกินอย่างรวดเร็วไม่มีแก่ใจจะสนใจว่าก้อนแป้งจะร้อนหรือไม่ เซี่ยยวี่หลัวเห็นแล้วรู้สึกใยิ่งนัก“พวกเ้ากินช้าๆมันร้อน...”
หลังจากกินก้อนแป้งไปหนึ่งชามก็รู้สึกอิ่มท้อง ร่างกายก็อุ่นสบาย
เซียวจื่อเมิ่งลูบท้องอันน้อยนิดของตัวเองกินอิ่มเหลือเกิน มีความสุขจริงๆ
เซี่ยยวี่หลัวเห็นท่าทางอิ่มเอมของเด็กน้อยจึงหัวเราะพร้อมเอ่ยถามเซียวจื่อเมิ่ง “จื่อเมิ่ง อร่อยไหม?”
เซียวจื่อเมิ่งเลียริมฝีปากทีหนึ่งเอียงคอมองเซียวจื่อเซวียน ก่อนมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทางหวาดกลัวกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาบางประหนึ่งเสียงยุง “อร่อย!”
ในที่สุดเด็กคนนี้ก็คุยกับตัวเองแล้วแม้ว่าจะยังเหมือนหนูเผชิญหน้ากับแมว แต่มีความเปลี่ยนแปลงก็ถือว่าดีมากมิใช่หรือ?
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “อร่อยก็ดีแล้วตอนเที่ยงเรามากินกันอีกเถิด!”
เซียวจื่อเซวียนมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทางในางกำลังจะบอกว่า ตอนเที่ยงจะทำซุปก้อนแป้งให้พวกเขากินอีกงั้นหรือ?
เซี่ยยวี่หลัวจะไปล้างชามเซียวจื่อเซวียนรีบลุกขึ้นยืน นำชามไปยังห้องครัว เซียวจื่อเมิ่งก็ไม่กล้าอยู่คนเดียวเดินตามหลังเซียวจื่อเซวียนเข้าไปในครัว
เพียงแต่ ก่ออนที่นางเดินไปห้องครัวหันกลับมามองเซี่ยยวี่หลัวแวบหนึ่ง
เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้มเผยรอยยิ้มแบบภรรยาผู้รู้ความ มารดาผู้เมตตาที่นางคิดว่าอ่อนโยนที่สุดแววตาเซียวจื่อเมิ่งฉายประกายใประหนึ่งเห็นภูตผีก็มิปาน กัดริมฝีปากทีหนึ่งก่อนวิ่งเข้าห้องครัวไปอย่างรวดเร็ว
วิ่งเร็วราวกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น
ขณะหันตัวไป ชายเสื้อโบกไหวทีหนึ่งเซี่ยยวี่หลัวพบว่า บนเสื้อของเด็กคนนั้นที่ผ่านการปะแล้วปะอีกตรงชายเสื้อขาดเป็รูใหญ่ เผยให้เห็นปุยฝ้ายด้านใน
เซี่ยยวี่หลัวก้มลงมองเสื้อผ้าฝ้ายบนกายตัวเองวันนี้นางเปลี่ยนเป็เสื้อนวมสองชั้นสีชมพู เป็ของใหม่ น่าจะเพิ่งซื้อมาใหม่ปีนี้ส่วนเสื้อผ้าบนกายเด็กสองคน เซี่ยยวี่หลัวได้แต่ยิ้มขมพร้อมส่ายหน้าบาปกรรมเสียจริง!
เด็กสองคนล้างชามขัดหม้อเสร็จก็หยิบตะกร้าออกไปเดินออกจากห้องครัว ประตูห้องของเซี่ยยวี่หลัวแง้มอยู่ เซียวจื่อเมิ่งเงยหน้ามองเซียวจื่อเซวียน“พี่รอง...”
เซียวจื่อเซวียนจูงมือเซียวจื่อเมิ่งไว้“เราไปกันเถอะ!”
เซี่ยยวี่หลัวกำลังรื้อของในตู้ได้ยินเสียง “เอี๊ยด” ดังจากประตูใหญ่คาดว่าเด็กสองคนคงไปเก็บผักป่าอีกแล้ว นางรื้อของต่อพอเห็นเสื้อผ้าที่กองอยู่บนเตียง ก็รู้สึกปวดหัวจนกุมขมับ
เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้ซื้อเสื้อผ้าไว้เยอะขนาดไหนกัน!
เสื้อผ้าสำหรับทุกฤดูกาลเสื้อแบบต่างๆมีมากกว่าสองชุด ยังมีชุดเสื้อนวมสองชั้นสำหรับหน้าหนาวอีกหลายตัวเซี่ยยวี่หลัวลองเทียบขนาดร่างกาย มีหลายตัวที่น่าจะเป็ของปีก่อนๆ ยังใหม่มาก แต่แขนเสื้อและขาสั้นเกินไป
เสื้อผ้าดีขนาดนี้กลับเก็บไว้เสื้อที่เซียวจื่อเมิ่งสวมใส่ขาดจนไม่มีชิ้นดี
ตอนที่นางยืดแขนเผยให้เห็นข้อมือเล็กประหนึ่งฟืนไม้ เห็นได้ชัดว่าแขนเสื้อสั้นเกินไปยังมีตรงขาอีก เย็บต่อเข้าไปแบบเอียงๆ เห็นได้ชัดว่าใส่มาหลายปีแล้ว หากสั้นเกินไปก็เย็บต่อเข้าไปในภายหลัง
การเย็บนั่น ถ้าไม่ใช่ฝีมือเซียวยวี่ก็เป็ฝีมือเซียวจื่อเซวียน
เซี่ยยวี่หลัวเก็บเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ได้ไว้แยกเสื้อผ้าที่ตัวเล็กแต่ยังใหม่อยู่ออกมา