เบื้องล่างกำแพงเมืองสีสัมฤทธิ์มีกลุ่มคนทั้งหมด 5 คนยืนเรียงกันอยู่บนสะพานฝูปิง ชื่อของพวกเขาดูคุ้นมากแถมไอดีของทุกคนยังมีคำนำหน้าว่า “ขวงหลง” (จ้าวัผยอง) ด้วย แล้วคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดก็มีชื่อว่าหลงสิงเทียนเซี่ย หมอนี่เป็ศัตรูคนแรกที่ผมเจอในเทียนจ้ง หลังจากที่ต่อสู้กันในป่าแห่งแสงอรุณครั้งก่อนก็ไม่คิดว่าจะได้มาพบเจอที่นี่อีก
ใบหน้าของหลงสิงเทียนเซี่ยเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาจ้องเขม็งมาที่ดาบขจีไพรที่อยู่ในมือผม จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาเสียงเย็นแล้วพูดขึ้นมา “ดาบขจีไพรระดับหินดำ อาวุธลำดับ 7 ของเมืองฝูปิง ถ้าฉันทายไม่ผิดดาบเล่มนี้ดรอปมาจากาาตั๊กแตนเขียวใช่ไหมล่ะ?”
“ไม่ผิดหรอก แล้วนายจะทำไม?” ผมคิดไม่ปฏิเสธอีกทั้งยังเลิกคิ้วขึ้น
“จะทำไม?!” หลงสิงเทียนเซี่ยกัดฟันกรอดแล้วตอบออกมาอย่างไม่พอใจ “ส่งดาบขจีไพรนั่นมาซะแล้วฉันจะไว้ชีวิตนาย ไม่อย่างนั้นอย่าหวังเลยว่าจะได้อยู่ในเมืองฝูปิงต่อไป”
ผมหลุดยิ้มออกมาทันที “นายล้อเล่นใช่ไหม? ฉันจะอยู่หรือไม่อยู่ในเมืองฝูปิงก็คงไม่ต้องให้นายมาคอยบอกหรอกมั้ง?”
หลงสิงเทียนเซี่ยหัวเราะขึ้นมาทันที จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธ “อย่างนั้นเหรอ? งั้นวันนี้ฉันจะแสดงให้นายดูว่ามันจะเป็ไปตามที่ฉันพูดหรือเปล่า!”
“เฮ้ยพวกเรา จัดการไอ้ิญญารัตติกาลสกปรกตัวนี้ที!” หลงสิงเทียนเซี่ยะโด้วยเสียงแค้นเคืองออกมา
ทันใดนั้นคนของจ้าวัผยองหลายคนก็ทยอยกันควักอาวุธออกมาทีละคน แล้วนักร้องคนหนึ่งในบรรดาคนพวกนั้นก็ยกขลุ่ยไม้ไผ่ขึ้นมา เสียงเพลงขาดห้วงดังขึ้นพร้อมกับวงแหวนไฟสีเขียวที่ลอยลงมายังหน้าผากของหลงสิงเทียนเซี่ย นั่นคือทักษะระดับต้นของนักร้อง— หลอมศัสตราวุธ! มันเป็ทักษะเสริมที่สามารถเพิ่มอัตราความแม่นยำได้ถึง 25%!
......
ตรงทางเข้าประตูเมืองผู้เล่นในเมืองฝูปิงกลุ่มใหญ่ต่างหยุดเดิน เหตุการณ์ตรงนี้ดึงดูดความสนใจของพวกเขาและทำให้หลายคนชี้มาที่ผมพลางกระซิบกระซาบกัน—
“แย่แล้ว! เ้านี่เป็คนของเผ่าิญญารัตติกาล ชื่อของหมอนั่นซ่อนสีแดงเอาไว้ด้วย!”
“เฮ้ย ิญญารัตติกาลไม่ได้เป็ศัตรูกับฝ่ายมนุษย์เหรอ? เ้านี่มันมาทำอะไรที่เมืองฝูปิงเนี่ย?”
“ฆ่ามันซะ! ไม่แน่อาวุธลำดับ 7 ของเมืองฝูปิงอาจจะดรอปออกมาก็ได้...”
......
สถานการณ์ไม่เอื้อประโยชน์ต่อผมเลยสักนิด ถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไปเพียงนิดเดียวเกรงว่าผมคงจะหมดทางรอด
ผมย่างกรายไปด้วยท่วงท่าสง่างามก่อนจะยื่นมือชี้ออกไปทางทิศตะวันออกตรงจุดที่ตะวันกำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้าแล้วะโขึ้นเสียงดังออกมา “ดูนั่น ผีเสื้อบิน!”
ฝูงชนจำนวนมากเอี้ยวตัวมองตามไป
เมื่อสบโอกาสผมก็รีบวิ่งออกจากเมืองโดยไม่เหลียวหลังกลับเลย หลงสิงเทียนเซี่ยวิ่งตามผมมาติดๆ แต่ถึงจะเป็นักรบเวท ทว่าตอนนี้เลเวลของหลงสิงเทียนเซี่ยก็ยังต่ำอยู่อีกทั้งยังไม่มีสัตว์พาหนะด้วย เพราะยังไงมันก็ตามผมไม่ทันแน่นอน
หลงสิงเทียนเซี่ยหอบแฮกๆ จากนั้นชายอายุราวๆ 25 ปีคนนั้นก็เบิกตากว้างแล้วะโเสียงดัง “พวกนาย ไอ้หมอนี่มันจอมตอแหล ลุย! เข้าไปในป่าศีตเหมันต์ ทำให้อาวุธระดับหินดำที่ควรจะเป็ของพวกเราดรอปออกมาให้ได้!”
แล้วในไม่กี่อึดใจต่อมาคนยี่สิบกว่าคนก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ววิ่งไล่ตามผมมา
บนกระทู้ของเมืองฝูปิงเขตประเทศจีน ชื่อของสมาคมจ้าวัผยองนั้นโด่งดังมาก สมาคมนี้ขึ้นชื่อว่าเป็สมาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองฝูปิงและดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็แค่คำพูดโอ้อวดเท่านั้นเพราะในเวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็รวมตัวกันได้มากกว่า 20 คนจนดูเยอะแยะไปหมด มิน่าสมาชิกที่ลงทะเบียนบนกระทู้ร้องเรียกสมาคมจ้าวัผยองถึงมีมากถึงพันกว่าคน!
ทันทีที่มาถึงขอบชายป่ารกชัฏผมก็หลบแวบหายไปทันควันจนเห็นเพียงใบไม้ใบหญ้าที่สั่นไหวแต่กลับไม่เห็นเงาคน
หลงสิงเทียนเซี่ยพาคนยี่สิบกว่าคนไล่ตามมาถึงขอบชายป่าด้วยใบหน้ามืดมนพลางะโออกมาเสียงดัง “เจ๋อจี่เฉินซา ฉันไม่สนว่าแกเป็ใครแต่ในเมื่อแกมากระตุกหนวดจ้าวัผยอง ถึงแกยิ่งใหญ่ล้นฟ้าแค่ไหน คุณชายคนนี้ก็จะจับแกมาฉีกเนื้อหักกระดูกให้ดู!”
ผมยืนนิ่งสงบอยู่ใต้ต้นฮว่าซู่ (ต้นเบิรช์) กิ่งก้านใบเขียวชอุ่มพลางหัวเราะร่วนตอบไป “กระตุกหนวดจ้าวัผยองเหรอ? พวกกระจอกอย่างพวกแกนี่ยังกล้าเรียกตัวเองว่าัอีกเหรอ? ถ้าพวกแกเป็จ้าวัผยองจริงๆ ฉันจะถอนหนวดก้นสุนัขของพวกแกทีละเส้นให้ดู!”
”จัดการ!”
หลงสิงเทียนเซี่ยพูดด้วยความโกรธ “ทุกคน มันอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ลุยเข้าไปฆ่ามันทิ้งซะ ทำให้คนทั้งเมืองฝูปิงได้รู้กันว่าอย่าริอาจมามีเื่กับคนของจ้าวัผยอง!”
“ได้เลย หัวหน้า!”
คนกลุ่มใหญ่กรูกันเข้ามา
สายตาของผมสอดส่ายไปมาวิเคราะห์ตำแหน่งของคนที่อยู่ด้านหน้าด้วยเวลาอันสั้น พวกเขาจัดตำแหน่งกองกำลังเป็รูปสามเหลี่ยม ทำให้ไม่สามารถประจันหน้าได้โดยตรง แถมตอนนี้พวกเขาทุกคนก็ได้เรียนรู้ทักษะแล้วและทักษะของแต่ละอาชีพก็แข็งแกร่งมาก ถ้าจะสู้แบบไม่คิดให้ดีก่อนคงเสียเปรียบแน่
“กรอบแกรบ...”
ใบของต้นฮว่าซู่โอนเอนไปมาก่อนที่ผมจะหายตัวไปจากตำแหน่งเดิม
และในระหว่างที่กำลังเคลื่อนที่อย่างว่องไวอยู่นั้นผมััได้ถึงสัญญาณอันตรายที่ใกล้เข้ามา ถูกจู่โจมเข้าแล้ว!
“ซูบ!”
ลำแสงเย็นเยียบพุ่งผ่านช่องว่างออกมาอย่างฉับพลัน การลอบโจมตีฉับไวแบบนี้ต้องเป็ฝีมือของผู้เล่นอาชีพนักฆ่าอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ผมกลับไม่ถอยหลบและเลื่อนตัวไปทางขวานิดหน่อยในระหว่างที่แสงกำลังพุ่งเข้ามาเท่านั้น ขณะเดียวกันนั้นผมก็กวัดแกว่งดาบเล่มยาวออกไปก่อนที่คมดาบขจีไพรจะเปล่งแสงวาววับและส่งเสียงดัง “เคร้ง” เมื่อมันกระทบเข้ากับมีดสั้นเล่มหนึ่ง
“ห้ะ?! ไวจริงๆ...”
คนลอบจู่โจมตื่นใเล็กน้อย เขาคนนี้คือนักฆ่าเลเวล 17 ที่ชื่อ “ขวงหลงอ้าวกู่” (ัหยิ่งพยศ) ดูจากรูปร่างหน้าตาอันอ่อนเยาว์ของเขาแล้วน่าจะอายุประมาณ 20 ปี และเมื่อดูจากฝีมือโจมตีหมายปลิดชีพของเขาแล้วผมก็รู้สึกว่าหมอนี่ไม่เลวเลยทีเดียว เพียงแต่ยังไม่ถึงระดับนักฆ่าอันดับต้นๆ เท่านั้น
สายตาผมทอประกายเย็นเยียบขึ้นมา แม้แต่ชื่อก็ยังใช้เป็ชุดเดียวกันเลย เพราะงั้นจะต้องเป็คนของหลงสิงเทียนเซี่ยแน่ๆ ปล่อยไว้ไม่ได้แล้วล่ะ!
ผมรีบเข้าไปใกล้ก่อนจะตวัดดาบขจีไพรออกไปจนขวงหลงอ้าวกู่ต้องขบฟันแน่นแล้วะโขึ้นมาเสียงดัง “รนหาที่ตายซะแล้ว!”
ร่างกายเขาเปล่งแสงสว่างขึ้นมา จากนั้นเขาก็เคลื่อนที่เป็รูปตัว Z แล้วหลบกลุ่มลำแสงจากดาบของผมไปได้อย่างงดงาม!
ผมใพอๆ กัน เห็นทีคำประกาศศักดาของหลงสิงเทียนเซี่ยที่ว่าจะยึดครองเมืองฝูปิงให้ได้คงไม่ใช่แค่คำโอ้อวด ดูท่าเขาน่าจะยังมีไพ่เหลืออยู่ในมืออีก และศักยภาพในการต่อสู้ของขวงหลงอ้าวกู่ก็ถือว่าไม่เลวเลยเดียว
“ครืน!”
ลมเย็นปะทะเข้ามาใส่ผม จากนั้นผมก็เห็นว่าบนมีดสั้นของขวงหลงอ้าวกู่มีลำแสงสีเขียวมรกตหุ้มเอาไว้หนึ่งชั้น นั่นเป็ทักษะของผู้เล่นนักฆ่าเลเวล 10— แนวปะทะเย็น!
แนวปะทะเย็นจะเพิ่มอัตราการอัตราคริติคอล 20% ทำให้เกิดความเสียหาย 125% ของการโจมตีทั่วไป
“ฉึก!”
เพราะตอบสนองไม่ทันผมจึงโดนโจมตีเข้าเต็มๆ ผมถูกมีดสั้นแทงเข้าที่อก โชคยังดีที่มีดสั้นของขวงหลงอ้าวกู่เป็อาวุธระดับขาวที่มีพลังการโจมตี 3-5 หน่วยไม่งั้นการโจมตีครั้งนี้ก็อาจทำให้ถึงตายได้
“ตายซะเถอะ!”
สายตาอาฆาตของขวงหลงอ้าวกู่ฉายแววดุร้ายก่อนที่เขาจะใช้ปลายแหลมของมีดสั้นแทงเข้าที่คอของผมอีกครั้ง สมกับเป็นักฆ่า ช่างโเี้อำมหิต!
ตอนนี้ผมเริ่มปลุกใจตัวเองขึ้นสู้ คนแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้จริงๆ!
“ตุ้บ!”
มุมแหลมด้านหนึ่งของรองเท้าบูทเตะเข้าไปที่แขนของขวงหลงอ้าวกู่ จากนั้นผมก็ใช้แรงเหวี่ยงช่วยพลิกตัวลอยหมุนกลางอากาศก่อนที่ดาบขจีไพรที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียวแกมน้ำเงินของทักษะจะฟันลงไปด้านหน้าคู่ต่อสู้อย่างเหี้ยมโหด!
“ฉัวะ!”
ขณะที่เสียงนั้นดังขึ้นมาขวงหลงอ้าวกู่ก็ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น คิดไม่ถึงว่าผลแพ้ชนะจะเกิดขึ้นง่ายภายในชั่วพริบตา ในตอนแรกเขาหวังจะฆ่าผมด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวแต่ตอนนี้เขากลับโดนผมฆ่าอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
ผมมองดูขวงหลงอ้าวกู่คุกเข่าล้มลงกลายเป็ซากศพก่อนจะหัวเราะเสียงเหยียบเย็นขึ้นมาแล้วหมุนตัววิ่งกลับเข้าไปในป่ารกชัฏ ขณะเดียวกันนั้นในใจของผมก็คิดว่าหากผมสู้กับพวกเขายี่สิบกว่าคนตัวต่อตัวผมจะต้องตายแน่นอน อาการตอบสนองช้า 0.7 วินาทีนั้นเพียงพอที่จะทำให้ผมตายได้!
เสียงสบถดังแว่วมาแต่ไกล หลงสิงเทียนเซี่ยนำลูกน้องกลุ่มหนึ่งมาทางนี้แล้ว ที่จริงฝีมือของเขาไม่ด้อยไปกว่าขวงหลงอ้าวกู่เลย แถมตอนนี้ก็ได้เรียนรู้ทักษะมาแล้วด้วย ถ้าจะฆ่าเขาผมคงต้องเปลืองแรงมากแน่ๆ!
พวกเราขยับเข้าสู่เขตลึกของป่าศีตเหมันต์มาเรื่อยๆ ในที่สุดคนของจ้าวัผยองที่ตามมาก็เหลือเพียง 5 คน ส่วนที่เหลือนั้นตามมาไม่ทันหรือไม่ก็ถูกมอนสเตอร์ดักกลางทาง
“เหอะ!”
ผมหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็วแล้วปักดาบไว้บนพื้นโล่งกลางป่าจนดูเหมือนโครงกระดูกผอมกะหร่องถือดาบแหลมคมยืนอยู่บนพื้นหญ้าเหมือนเทวดาจุติมายังโลกมนุษย์ มันช่างเป็ภาพที่น่าขำจริงๆ
หลงสิงเทียนเซี่ยพาลูกน้อง 4 คนพุ่งเข้ามา แต่ตอนที่เห็นผมหยุดนิ่งไม่ได้ขยับหนีเขาก็ชะงักงันไปพักหนึ่ง เขาเคยเห็นฝีมือผมแล้วและเขาก็ไม่แน่ใจด้วยว่าคนของเขาทั้ง 5 คนจะสามารถจัดการผมได้ 100%
ตอนนี้หลงสิงเทียนเซี่ยไม่อาจหนีไปไหนได้แล้ว เขาได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“หัวหน้า พวกเราลุยเข้าไปจัดการมันเถอะ ทั้งตัวของเ้านี่มีอาวุธหินดำเกือบทั้งชุดแล้ว!” นักรบคนเถื่อนรูปร่างเตี้ยม่อต้อพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
หลงสิงเทียนเซี่ยหน้านิ่วคิ้วขมวด แน่ล่ะ ไอเท็มระดับหินดำทั้งตัวมันเป็ตัวล่อชั้นดี แต่ฝ่ายตรงข้ามก็มีพลังป้องกันสูงจนทำให้ยากที่จะสังหารมันลงไปได้
ผมเห็นฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าลงมือก็อดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้ จากนั้นผมก็ชี้ไปที่หลงสิงเทียนเซี่ยแล้วพูดขึ้นมา “เมืองฝูปิงเป็หนึ่งในเก้าเมืองหลักเลเวล 2 ของเขตประเทศจีน ผู้เล่นในเจียงซู เจ้อเจียง เซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่ก็กลับมาที่เมืองฝูปิงแล้ว พวกนายควรจะสำเหนียกตัวเองไว้นะ คิดจะยึดครองเมืองฝูปิงโดยใช้บุญบารมีของจ้าวัผยองน่ะ มันก็แค่ฝันกลางวันเท่านั้นแหละ!”
และขณะที่หลงสิงเทียนเซี่ยกำลังจะลงมือ จู่ๆ มีนักธนูของสมาคมจ้าวัผยองวิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้ามาแล้วพูดขึ้นมาเสียงดัง “หัวหน้า ไม่...ไม่ดีแล้ว...”
“ตั้งสติหน่อยสิ เกิดอะไรขึ้น?” หลงสิงเทียนเซี่ยไม่พอใจขึ้นมาทันที
นักธนูคนนั้นรีบก้าวขึ้นมาข้างหน้าพร้อมกระซิบข้างหู
“เวรเอ๊ย!!!”
หลงสิงเทียนเซี่ยหัวเสียขึ้นมาทันทีก่อนที่เขาจะะโออกมาเสียงดัง “จะมากไปแล้วนะวาตะเพ้อฝัน บัดซบเอ๊ย นี่มันเหยียบหัวจ้าวัผยองชัดๆ ไปกับฉัน ไปที่ป่าหิมะลอยลม!”
“เฮ้ย อย่าเพิ่งไป...”
ผมยื่นมือออกไปหวังจะรั้งเขาไว้ แต่ไม่ทันการเพราะหลงสิงเทียนเซี่ยนำลูกน้องไม่กี่คนของเขาเดินหายวับไปในพริบตาแล้ว ดูเหมือนคนที่ชื่อวาตะเพ้อฝันคนนั้นกำลังหาเหาใส่หัว อีกอย่างเขาดูท่าจะเป็เื่ใหญ่กว่าผมมากนัก...
......
“โถ่เว้ย นี่มันเื่อะไรกัน...”
ผมพูดไม่ออกแล้วได้แต่หมุนตัวกลับเข้าไปในป่ารกชัฏตามเดิม การใช้พัดกระดูกเขียวแลกไอเทมและเหรียญเงินมาถือเป็ความสำเร็จอันใหญ่หลวง ตอนนี้ผมน่าจะกลับป้อมศีตเหมันต์เพื่อไปดูลาดเลาว่ามีภารกิจใหม่ให้รับหรือไม่
แต่พอเดินออกไปได้ไม่ถึง 3 ก้าว ก็มีดวงไฟร้อนระอุพุ่งทะยานเข้ามาใส่หน้าผม มันคือหอกยาวที่แฝงไว้ด้วยพลังไฟนั่นเอง!
ซวยล่ะ ถูกลอบทำร้าย!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้