"สงสัย?"หยางเฉิน เบ้ปากกล่าวว่า "คุณรู้กระทั่งที่อยู่ผมดังนั้นคุณคงจะตรวจสอบประวัติของผมแล้ว ก็อย่างที่รู้นั่นแหละ ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก"
"คนที่ซื่อสัตย์ย่อมไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังบ่อยครั้งที่ข้อมูลในกระทรวงความมั่นคงไม่อาจเชื่อถือได้ คุณก็รู้นี่"ฟางจงผิงจ้องมองหยางเฉินด้วยสายตาคมกริบ
"แล้วเลขานุการฟางคิดว่าผมเป็คนแบบไหนล่ะ?"
ฟางจงผิงตอบว่า "ผมสงสัยเหลือเกินว่าทุกครั้งที่ลูกสาวของผมมีเื่ คุณมักจะอยู่ในเหตุการณ์ทุกครั้งไม่ว่าจะตอนที่ถูกรถชน หรือตอนที่เธอถูกโจมตี"
ความหมายที่อยู่เื้ัคำพูดเหล่านี้ถูกวางสมมติฐานไว้ว่า คนที่โจมตีมีการติดต่อกับหยางเฉินหรืออาจเป็หยางเฉินเองที่บงการทุกอย่าง เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับถังถังมากขึ้นและจุดประสงค์อื่นๆ อีกมากมาย
หยางเฉินรู้ว่าการจู่โจมถังถังในตอนนั้นเป็ฝีมือของพวกแก๊งตงซิ่ง และเป็โจวตงเฉิงเองที่ยอมรับแต่หยางเฉินก็ไม่โง่พอที่จะบอกเื่นี้ออกไป ดังนั้นเขาจึงแกล้งทำเป็ไม่รู้ต่อไป
"ผมไม่ได้ทำเื่พวกนั้น"หยางเฉินยกสองมือขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
"ผมก็หวังว่าคุณจะไม่ได้ทำมันแต่ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้เป็คนทำ" ฟางจงผิงหัวเราะในลำคอ
"ผมไม่ได้มีหลักฐานยืนยันใดๆหรอก และผมก็ไม่สนใจจะหาด้วย" หยางเฉินคิดว่าเขาไม่จำเป็ต้องทำเื่ไร้สาระพวกนั้น
"คุณไม่อยากลบข้อสงสัยในตัวเลยงั้นหรือ?หรือคุณมีวิธีลบล้างมันอยู่แล้ว?"ฟางจงผิงพยายามเค้นคำตอบจากหยางเฉิน
หยางเฉินหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกล่าวว่า "เลขานุการฟางที่เคารพดูเหมือนคุณจะพลาดอะไรไปอย่างนะ"
"อะไรเหรอครับ?"
"ช่างแม่งไงผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น!" หยางเฉินวางมือลงบนโซฟาอย่างแรงและพูดด้วยรอยยิ้มว่า"ไม่ว่าผมจะเป็คนบริสุทธิ์หรือผู้ต้องสงสัยคุณอาจจะสงสัยผม และไม่เชื่อในเื่นี้ และถ้าผมเป็คนก่อเื่ทั้งหมดจริงๆคุณจะทำอย่างไรกับผมล่ะ?"
เป็ครั้งแรกในชีวิตของฟางจงผิงที่ถูกพูดแบบนี้ใส่ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาเหมือนถูกชายผู้นี้มองเป็สิ่งไร้ค่า!ไม่ว่าจะเป็ความมั่งคั่ง สถานะและชื่อเสียง!
มันกระทบจิตใจของเขามากเสียจนเมื่อเขาได้ยินคำเหล่านี้เขาเองยังคิดว่าได้ยินผิดไป
หลังจากเงียบไปนานในที่สุดฟางจงผิงก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเ็า "หยางเฉินนายรู้มั้ยว่าการเป็คนอีโก้สูงั้แ่ยังหนุ่มจะนำผลกระทบอะไรมาให้นายบ้าง?"
"นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็ใครไม่ว่าผมจะอีโก้สูงหรือไม่ผมก็ไม่สนใจที่จะพูดเื่นี้กับคนที่มีตำแหน่งเล็กน้อยอย่างคุณ "หยางเฉินจงใจเน้นคำว่า ''เล็กน้อย''
"คุณกำลังทำให้ผมหมดความอดทน..."ฟางจงผิงใบหน้าหมองคล้ำลงทันที ดวงตาเป็ไปด้วยร่องรอยของความโกรธเคืองเขาไม่สามารถอดทนให้คนหนุ่มไร้ชื่อเสียงเรียงนามเช่นนี้ต่อว่าเขาได้อีกต่อไป
รอยยิ้มหยางเฉินแข็งทื่อและเขาพูดในออกมาอย่างหมดความอดทนกับคนผู้นี้
"คุณเป็คนที่ไม่ให้เกียรติผมก่อนผมไม่ใช่คนไร้เหตุผล"
"คุณคิดจริงๆหรือว่าผมไม่กล้าทำอะไรกับคุณ คุณมีเื่ที่น่าสงสัยมากมายมันมากพอที่จะทำให้คุณติดคุกเป็เวลาหลายปีและนั่นจะช่วยให้ลูกสาวของผมใช้ชีวิตได้สงบสุขมากขึ้น"ฟางจงผิงพูดขึ้นอย่างมั่นใจ เขาเชื่อว่าต่อหน้าอำนาจของเขาหยางเฉินจะต้องยอมจำนนในที่สุด
แต่น่าเสียดายที่เขาคิดผิดอย่างมหันต์
หยางเฉินยิ้มและค่อยๆ ยืนขึ้น เขายืดแขนขา บริหารนิ้วมือเสียงดังกร๊อบแกร๊บในลักษณะกวนโมโหฟางจงผิง
"เลขานุการฟางครับพฤติกรรมและวิธีการของคุณ ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณยังเป็เด็กที่หมาเลียตูดถึงผมไม่ทราบว่าคุณมาเป็เลขานุการของคณะกรรมการเทศบาลได้ยังไง แต่ผมเชื่อว่าการที่คุณสามารถอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่โตเช่นนี้ได้คุณต้องทำอะไรบางอย่าง เพราะรัฐบาลของประเทศนี้ไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น"หยางเฉินว่าจบ ก็สูดหายใจเข้าเล็กน้อย ก่อนกล่าวต่อไปว่า
"แต่ก็ไม่สำคัญคุณจะเป็ใครผมขอพูดในชัดๆ เลยละกัน ผมหยางเฉินที่ยืนอยู่ตรงนี้ และยังคงจะอยู่ในเมืองนี้ต่อไปแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ผมจะยังอยู่ สำหรับตอนนี้ผมอยากจะกลับบ้านไปเพลิดเพลินกับอาหารกลางวันและไม่อยากให้คนในครอบครัวต้องเป็ห่วง ดังนั้นถ้าคุณจะทำอะไรกับผมก็จัดมาเลยผมจะรอดู" พูดพลางหยางเฉินก็เดินไปที่ประตูโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง แต่เขากำลังมองหาแท็กซี่
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของฟางจงผิงมุ่ยลงทันที เขาพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มว่า
"แล้วจะรู้ว่าคุณตัดสินใจได้โง่เง่าแค่ไหน อาซุ้ยพามันกลับมา!"
ตู๋กูซุ้ยที่พร้อมอยู่เสมอนั้นสั่นสะท้านไปทั่วร่างท่าทางอันหยาบคายของหยางเฉินทำให้มันไม่อาจทนได้ มันเกือบจะพุ่งเข้าไปจัดการหยางเฉินอยู่หลายครั้งแต่ถ้าฟางจงผิงไม่อนุญาตมันก็ไม่กล้า
และหลังจากที่ได้รับคำสั่งจากฟางจงผิงตู๋กูซุ้ยตอนนี้ก็คล้ายกับเป็เครื่องมือาที่ถูกฉีดด้วยสารกระตุ้นมันพุ่งตัวเข้าไปขวางทางหยางเฉินดั่งลูกธนู
"แกอยากจะแขนพิการหรือขาพิการล่ะ " ตู๋กูซุ้ยกล่าวด้วยรอยยิ้มเหี้ยม
หยางเฉินส่ายหัวอย่างผ่อนคลายพลางกล่าวว่า
"ฉันไม่ได้อยากพิการแต่ถ้าแก้า ฉันสามารถจัดให้ได้"
"รนหาที่ตาย!" ตู๋กูซุ้ยคำรามลั่นด้วยความโกรธพร้อมกับยกขาเตะกวาดไปหาหยางเฉิน
ขาของมันเต็มไปด้วยพลังอันรุนแรงจนเกิดพายุหย่อมน้อยๆ ขึ้นจากแรงเตะนั้น!
เมื่อลูกเตะเกือบถึงไหล่หยางเฉินทันใดนั้นหยางเฉินก็โค้งตัวถอยหลังอย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกเตะนั้นวืดผ่านตัวเขาไป
ตู๋กูซุ้ยนั้นไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้อยู่แล้วลูกเตะแรกเป็แค่การเริ่มต้นเท่านั้น มันระดมเตะใส่หยางเฉินต่อทันที ลูกเตะที่รุนแรงของมันทำให้เกิดเสียงที่รุนแรงฉีกผ่านอากาศตามจังหวะคล้ายเสียงกลอง!
แต่ไม่ว่าจะเตะมาสักกี่ครั้งหยางเฉินก็สามารถหลบมันได้ทุกครั้ง!
หลังจากที่ตู๋กูซุ้ยปล่อยลูกเตะต่อเนื่องราว40-50 ครั้ง ในที่สุดมันก็หยุดลงและมองไปที่หยางอย่างไม่เชื่อสายตา ว่าลูกเตะที่รวดเร็วรุนแรงของมันนั้นไม่แม้แต่จะััชายเสื้อของหยางเฉิน!
หยางเฉินที่ยืนอยู่ใกล้กับประตูั้แ่ต้นจนจบเขาขยับตัวเพียงแค่ประมาณว่า 2 เมตรเท่านั้นและเขายังมีท่าทีผ่อนคลายยิ้มแย้มมองมาที่ตู๋กูซุ้ยอย่างสนใจ
"เทคนิคของนายคงจะได้รับสืบทอดมาจากวิชาโบราณ ''ลูกเตะวสันต์''วิชานี้มีความแข็งแรงและตรงไปตรงมาแต่ก็น่าเสียดายที่พลังกำลังและความเร็วของนายนั้นน้อยเกินไปฉันคิดว่านายคงอยู่ในระดับหัวกะทิในกองกำลังพิเศษแต่สำหรับอายุขนาดนี้แล้วได้เท่านี้ก็นับว่าไม่เลว"หยางเฉินประเมิน
มันไม่ใช่แค่ตัวตู๋กูซุ้ยเองที่ใแม้แต่ฟางจงผิงที่อยู่ชมอยู่ก็ตกตะลึงเช่นกันมันไม่คิดว่าฝีมือของตู๋กูซุ้ยที่เป็ถึงระดับหัวกะทิของกองกำลังพิเศษจะห่างกันมากขนาดนี้!
ตู๋กูซุ้ยเป็คนที่เขาช่วยไว้เมื่อครั้งมีคดีใหญ่ที่ต้องใช้ศาลตัดสินและเพื่อตอบแทนบุญคุณมันจึงติดตามรับใช้เขา ในหลายปีมานี้มันสามารถช่วยเขาจัดการกับปัญหาต่างๆมากมาย
"พวกเ้าทุกคนเข้ามาจัดการไอ้สารเลวนี่เดี๋ยวนี้!"ตู๋กูซุ้ยตัดสินใจนำพวกมากเข้าสู้เพื่อไม่ให้ฟางจงผิงต้องโกรธเกรี้ยวไปมากกว่านี้
ได้ยินดังนั้นบอดี้การ์ดที่อยู่รอบนอกต่างรีบวิ่งเข้ามาในบ้านและล้อมรอบหยางเฉินไว้พวกมันจ้องมองหยางเฉินเหมือนสิงโตมองเหยื่อในหมู่มันยังมีคนที่เคยสู้กับหยางเฉินมาก่อนอย่างเสี่ยวหยงและพวก
ความรู้สึกอับอายขายหน้าที่ไม่สามารถจัดการหยางเฉินได้นั่นทำให้ตู๋กูซุ้ยลบเลือนความอัปยศนี้ไปให้ได้ โดยการเอาชนะหยางเฉินตู๋กูซุ้ยคิดว่าหยางเฉินแค่รวดเร็วนิดหน่อยเท่านั้น
เมื่อหลายคนต่างเข้ามาในบ้านเหล่าบอดี้การ์ดหลายคนก็เริ่มโจมตีหยางเฉินร่วมกับตู๋กูซุ้ยทั้งหมัดและเท้าต่างประเคนเข้าใส่หยางเฉินอย่างไม่มีใครน้อยหน้าใคร
เดิมทีหยางเฉินไม่้าทำร้ายคนเหล่านี้ต่อหน้าถังถังแต่เมื่อพวกมันตัดสินใจร่วมกันโจมตีเขา หยางเฉินก็ไม่สามารถแสดงความเมตตาต่อไปได้อีกทั้งเป้าหมายที่พวกมันเล็งมาก็ต่างเป็จุดสำคัญทั้งนั้นนั่นทำให้หยางเฉินไม่อาจละเว้นพวกมันไปได้อีก
หยางเฉินหลบไปได้สักพักก็ยกมือขึ้นมา และลงมือตบอย่างรวดเร็ว!
ผัวะ!พัวะ! แปะ!พลั่ก!
เหล่าบอดี้การ์ดโดนตบจนกระเด็นร่วงลงพื้นคล้ายนักมวยปล้ำที่โดนคู่ต่อสู้ตบกระเด็น ร่ำร้องด้วยความเ็ปมากกว่าโดนหมัดต่อย!
ท่าของหยางเฉินทั้งแปลกและรวดเร็วหลังจากหลบลูกเตะของตู๋กูซุ้ยแล้ว เขาก็ยังคงตบใบหน้าฝั่งตรงข้ามอย่างไม่หยุดหย่อน!
เหล่าบอดี้การ์ดต่างมีใบหน้าที่ปูดโปนและบวมเป่งอย่างรวดเร็ว!
ตู๋กูซุ้ยโจมตีติดต่อกันกว่าร้อยครั้งแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรหยางเฉินได้ดังนั้นมันจึงใช้ท่าไม้ตายพิฆาตเอวหนึ่งพันกิโลกรัมใส่หยางเฉิน!
คราวนี้หยางเฉินไม่ได้หลบเขาเพียงยกมือขึ้นมารับลูกเตะอันทรงพลังนี้!
ปัง!
เสียงะเืสร้างความผิดหวังให้ตู๋กูซุ้ยถึงขีดสุดหยางเฉินกลับรับลูกเตะของมันด้วยมือเดียว!
"ฉันบอกแล้วว่าลูกเตะของนายขาดพลังทำไมไม่ยอมเชื่อกันบ้าง… เมื่อนายตัดสินใจอย่างนี้ฉันคงต้องทำให้นายพิการเสียแล้ว"
เหมือนกับหยางเฉินพึมพำกับตัวเองเขาบิดแขนข้างที่ถือขาของตู๋กูซุ้ยเล็กน้อย...
"โอ้ว!!!"
ตู๋กูซุ้ยคำรามลั่นกระดูกที่ขาของเขาโผล่ออกมาทันที!
หยางเฉินปล่อยขาของตู๋กูซุ้ยลงนั่นทำให้มันร่วงลงสู่พื้นลงไปนอนกอดขาด้วยความเ็ป ั้แ่ต้นจนจบตู๋กูซุ้ยทำท่าทางหยาบคายใส่เขาดังนั้นหยางเฉินจึงตัดสินใจสอนบทเรียนให้เขา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็หนาวเหน็บทันทีเหล่าบอดี้การ์ดต่างนอนครวญครางด้วยความเ็ประงมทั่วบ้าน!
เหงื่อเย็นปกคลุมใบหน้าของฟางจงผิงเขากลืนน้ำลายดังอึกพลางเฝ้ามองฉากนี้ และคิดว่ามันเป็เพียงแค่ฝันร้าย!
ไอ้หนูเป็ใครกันแน่!?บอดี้การ์ดของฉันต่างเป็หัวกะทิของกองกำลังพิเศษ มันทำได้ยังไงกัน!?
หยางเฉินมองฟางจงผิงด้วยสายตาเยาะเย้ย
"เลขานุการฟางผมขอแนะนำให้คุณใช้สมองของคุณให้มากขึ้นหน่อย ถ้าผม้าผมสามารถบีบคอคุณให้ตายได้อย่างง่ายดายไม่ต้องเสียเวลายุ่งยากกับลูกสาวของคุณแม้แต่น้อย อ๋อ แล้วก็อย่าคิดว่าผมจะกลัวคุณถ้าคุณคิดอย่างนั้นล่ะก็ ผมจะจัดการคุณให้เหมือนกับบอดี้การ์ดเหล่านี้"
หลังจากกล่าวเตือนฟางจงผิงเรียบร้อยแล้วหยางเฉินก็เดินออกมาจากคฤหาสน์ช้าๆ สร้างความงุนงงให้กับฟางจงผิงอย่างมาก
หลังจากที่เดินมาถึงถนนหลักแล้ว หยางเฉินก็อิ่มเอมกับสายลมอุ่นๆที่พัดมาเบาบาง เขาสูดอากาศบริสุทธิ์เฮือกใหญ่เพื่อลบล้างเื่ปวดหัวทั้งหลายแหล่
บนถนนมีรถไม่มากนักบางครั้งมีสาวๆ ในชุดบิกินี่เดินบนชายหาดให้เห็นเป็อาหารตาบ้างแต่รถแท็กซี่นั้นหยางเฉินกลับไม่เห็นวี่แววเลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นเองรถมินิคูเปอร์สีฟ้าก็ปรากฏออกมาจากมุมหนึ่ง ภายใต้ชายหาดที่กว้างขวางน้ำทะเลสีฟ้าสวยสดใสกลับกลายเป็ทัศนียภาพที่รื่นรมย์ไม่เลว
รถยนต์มินิเคลื่อนตัวมาช้าๆและหยุดลงข้างหยางเฉินจากนั้นกระจกรถก็ลดลงเผยให้เห็นหน้าของบุคคลผู้เป็คนขับรถคันนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้