คิดดูแล้วนางอายุปูนนี้ ยังต้องถูกหนุ่มน้อยหน้าเหม็นกินเต้าหู้
ทันใดนั้นชิงหลันไม่รอคำสั่งจากหลินชิงเวยมันเลื้อยออกมาอย่างทนไม่ไหว ส่วนเซียวอี้นั้นป้องกันตัวแต่แรกไม่รอให้ชิงหลันกัดเขา เขากลับพลิกฝ่ามือมาจับหัวของชิงหลันราวกับใช้แรงเพียงเล็กน้อยแต่กลับบิดร่างของชิงหลันเป็สองส่วน
หลินชิงเวยแววตาเย็นเยียบ เซียวอี้กลับยังคงกล่าวกลั้วหัวเราะว่า“งูน้อยตัวนี้หากนำมาทำให้คนใยังพอใช้ได้แต่ข้าไม่มีทางถูกทำให้ใเป็ครั้งที่สองแน่ เ้าว่าข้าควรจะจัดการกับมันอย่างไรดีนำกลับไปตุ๋น หรือบิดมันให้ตาย หรือให้ทางรอดกับมันสักทาง?”
ชิงหลันดิ้นรนต่อสู้อยู่ในมือของเซียวอี้ หลินชิงเวยกล่าว “หากท่านกล้าทำร้ายมันข้ารับรองว่าท่านจะมีจุดจบไม่ดีเช่นกัน”
เซียวอี้เบ้ปาก จากนั้นสะบัดมือโยนชิงหลันไปบนต้นไม้แห้งๆ ด้านหลังชิงหลันตกลงบนพื้นแล้วขดร่างเป็วงกลม เซียวอี้กล่าว “เ้าใกล้ชิดกับงูเช่นนี้ไม่ใช่เื่ดีอันใด ต่อไปจะทำให้เ้าหาบุรุษไม่ได้”
หลินชิงเวยพูดเสียงเย็น “หาบุรษไม่ได้? เช่นนั้นก็ไม่ถึงกับหิวโหยกระทั่งไม่กินไม่เลือกเช่นเซี่ยนอ๋อง! เซี่ยนอ๋องมีรูปโฉมราวกับปีศาจ หากหื่นกระหายจนทนไม่ได้ก็ไปหาคนอื่นเหมือนจู๋กุ้ยเหรินคราที่แล้ว เซี่ยกุ้ยเหรินในวัง หลี่กุ้ยเหริน หวังกุ้ยเหรินเป็ต้น มีมากมายยิ่งนักท่านมาตามติดข้ามิใช่เป็เพราะข้าไปพบเห็นเื่ดีงามของท่านหรอกหรือไร ท่านเพียงคิดจะลากข้าลงน้ำไปด้วยแต่ข้าไม่มีความรู้สึกใดต่อท่านทั้งสิ้นดังนั้นท่านหลีกไปจะดีที่สุด!”
ปลายนิ้วของเซียวอี้ลูบไล้ลงบนกลีบปากของหลินชิงเวยท้องนิ้วของเขาแตะถูกชาดบนริมฝีปากเล็กน้อย “เ้าดูปากเล็กๆ ของเ้า พูดไม่หยุดปากไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็อย่างไรบ้าง เ้าไม่รู้สึกอะไรต่อข้า แต่ข้ารู้สึกต่อเ้านี่นา”
พูดแล้ว เซียวจี้ก็จุมพิตลงมา หลินชิงเวยตื่นตระหนก เห็นกับตาว่าเขากำลังจะจุมพิตนางแล้วจึงรีบกล่าวขึ้นว่า“ช้าก่อน”
“รออะไรเล่า?”
นางพูดแล้วพลันนึกขึ้นได้ว่าบรรดาศักดิ์ของเซี่ยนอ๋องฟังคุ้นหูอยู่บ้างเวลานี้พลันนึกออกแล้วว่าดูเหมือนเมื่อแรกที่นางถูกหลินเสวี่ยหรงทำร้ายร้ายได้เอ่ยถึงเซี่ยนอ๋อง
เมื่อคิดถึงความเคียดแค้นชิงชังของหลินเสวี่ยหรงในยามนั้น จึงคาดเดาได้ไม่ยากว่าเมื่อก่อนร่างนี้ของตนคงมีความเกี่ยวข้องกับเซี่ยนอ๋องอยู่บ้างเพียงแต่ต่อมาภายหลังถูกหลินเสวี่ยหรงใช้แผนการร้าย
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลินชิงเวยพลันสงบลง นางกล่าวว่า“คิดดูแล้วท่านคงจะรู้เื่ของข้าและชายชู้ คนทั้งตำหนักในต่างรู้เื่นี้”
เซียวจี้กล่าวอย่างไม่ยี่หระ “เช่นนั้นแล้วอย่างไรเล่าข้าไม่รังเกียจที่จะลักลอบกับเ้าอีกครั้ง”
หลินชิงเวยกลับเอ่ยขึ้นว่า “วันแต่งงานวันนั้นเดิมทีที่ควรจะแต่งเข้ามาเป็น้องสาวของข้า หลินเสวี่ยหรง”ทันทีที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา หลินชิงเวยเห็นความเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของเซียวอี้จริงๆหลินชิงเวยกล่าวอีกว่า “น้องสาวลูกผู้น้องคนนั้นของข้ามีเล่ห์เหลี่ยมดียิ่งนักถึงกับวางยาเพื่อให้ข้าติดกับคิดดูแล้วท่านอ๋องย่อมรู้เื่เหล่านี้อยู่ก่อนแล้วกระมัง?”
เซียวอี้ไม่เอ่ยวาจา
“หากข้าไม่ได้จำผิดแล้วละก็ข้าและท่านอ๋องควรจะมีความรักต่อกันเพียงแต่ช่วยไม่ได้ที่บิดาของข้าต้องใจอาสะใภ้ของข้ามีความคิดจะแต่งอาสะใภ้ของข้ามาเป็ภรรยาเอก ยามนั้นน้องสาวของข้า หลินเสวี่ยหรงก็จะเป็บุตรสาวสายตรงของจวนมหาเสนาบดีนางได้รับความรักและเอ็นดูจากบิดากว่าข้าเล็กน้อย ดังนั้นท่านจึงคิดว่าดีกับนางย่อมมีประโยชน์มากกว่าดีกับข้าทั้งๆ ที่รู้ว่าข้าถูกแต่งออกมาเพื่อเป็การแต่งแทนนาง ท่านก็ไม่มีวันจะพูดอะไรถูกต้องหรือไม่?”
ภายใต้หน้ากากปีศาจของเซียวเยี่ยนปรากฏความรู้สึกย่ำแย่เมื่อหลินชิงเวยเปิดโปงความจริงที่แอบซ่อนเอาไว้หลินชิงเวยรู้ว่าตนเองเดาถูกแล้ว เดาถูกทั้งหมด
ช่างเป็การกระทำชั่วช้า
รอยยิ้มบนริมฝีปากของเซียวอี้กดลึกขึ้น“เหตุใดเมื่อก่อนไม่เห็นว่าเ้าจะมองอะไรทะลุปรุโปร่งเช่นนี้”รอยยิ้มนั้นไม่รู้ว่าดีหรือร้ายเช่นกัน
หลินชิงเวยกล่าวอีกว่า“ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าต้องมีความผิดโทษฐานทำผิดกฎเกณฑ์ของตำหนักในนั่นเป็เพราะหลินเสวี่ยหรงวางยาข้าคิดดูแล้วพวกท่านทั้งสองต่างก็แอบคบหากันลับหลังข้ามานานแล้วหลินเสวี่ยหรงยังโอ้อวดประกาศศักดากับข้า บอกว่าช้าเร็วท่านก็ต้องแต่งนางเป็ภรรยาเพียงแต่อย่างไรนางก็คิดไม่ถึงว่าบุรุษที่นางยื้อแย่งไปประดุจสิ่งของล้ำค่ากลับเป็เพียงแค่บุรุษที่ใช้อวัยวะต่ำกว่าเอวมาคิดพิจารณาสิ่งที่กินเข้าไปเท่านั้นนางต้องตาท่าน นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าจะต้องตาท่านเช่นกันอย่างไรชื่อเสียงของข้าก็ไม่เหลือดีแล้วสุดท้ายแล้วเป็ท่านที่ลากข้าลงน้ำหรือไม่หรือข้าลากท่านลงน้ำกันแน่ ท่านควรจะไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน”
ปลายนิ้วของเซียวอี้ลูบไล้ลงบนลำคอของหลินชิงเวยอีกครั้งลูบคลำลงไปเบาๆ บนรอยนิ้วมือที่เซียวเยี่ยนทิ้งเอาไว้ราวกับกุมลำคอของนางไว้ในอุ้งมือของเขาอีกครั้ง “เ้าพูดมามากมายเช่นนี้ไม่กลัวว่าเปิ่นหวางจะสังหารเ้าหรือ อยู่ในสถานที่เช่นนี้ เ้าตายแล้วเปิ่นหวางฝังเ้าลงใต้ต้นไห่ถังย่อมไม่มีใครรู้เห็น?”พูดแล้วเขาค่อยๆ บีบมือให้แน่นขึ้น
หลินชิงเวยเงยคอขึ้นหัวเราะ
ดอกไห่ถังปลิวมากับสายลม ตกลงมาบนหว่างคิ้วของนางตกลงบนเส้นผมของนางและร่วงลงสู่พื้นงดงามยิ่งนัก
นางกล่าวว่า “ ท่านคิดว่าข้าไม่ได้ป้องกันตัวแม้แต่น้อยหรือ?เื่ของท่านและจู๋กุ้ยเหริน หากข้าไม่ปรากฏตัวสามวัน จะมีคนนำเื่นี้ไปโพนทะนาออกไปท่านเชื่อหรือไม่ว่าเวลานั้นต่อให้เป็ถ้ำก็ยังได้ข่าวนี้ ข้าดูรูปร่างหน้าตาของจู๋กุ้ยเหรินนางนั้นผิดแผกไปจากคนส่วนใหญ่ดูท่าแล้วน่าจะเป็สตรีจากต่างเผ่าเป็สตรีต่างเผ่าแต่สามารถเข้าวังมาอยู่ในตำแหน่งกุ้ยเหรินคิดดูแล้วครอบครัวเผ่าฝ่ายมารดาน่าจะมีอำนาจอยู่บ้างเซี่ยนอ๋องลักลอบมีความสัมพันธ์กับสตรีเช่นนี้ท่านว่าฝ่าาหรือเซ่อเจิ้งอ๋องจะเชื่อจริงๆ หรือว่าท่านบริสุทธิ์ใจ?”
เมื่อคำพูดนี้กล่าวออกมา สีหน้าของเซียวอี้ไม่ปรากฏแววขี้เล่นอีกต่อไปกลับกลายเป็แววตาสุขุมนิ่งลึก
สตรีนางนี้ ไม่อาจดูเบาโดยเด็ดขาด
ดวงตาของเซียวเยี่ยนยังคงทอประกาย “เวยเวย ไม่พบกันเพียงระยะเวลาสั้นๆไม่กี่วัน เ้าเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน ข้าพลันรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ให้เ้าแต่งเข้ามาในวังแทนนาง”
นาทีถัดมา หลินชิงเวยถลึงดวงตาทั้งคู่
คนผู้นี้...กลับไม่ใส่ใจต่อคำเตือนของนาง ยังคงแนบชิดเข้ามาฝ่ามือหนึ่งโอบลำคอของนาง อีกมือหนึ่งประคองศีรษะด้านหลังของนางริมฝีปากทั้งคู่แนบชิด จุมพิตนาง!
หลินชิงเวยไม่อาจเคลื่อนไหวแขนและขาได้ ทั้งยังมิอาจต่อต้านขัดขืน!
จุมพิตนี้เร่าร้อนราวกับเปลวไฟปลายลิ้นนั้นแนบติดชิดไปกับแนวฟันของนาง คิดจะสอดเข้าไปในโพรงปากของนางแต่นางกัดฟันเอาไว้อย่างเอาเป็เอาตาย
เพียงแค่คิดถึงภาพเหตุการณ์ในคืนวันนั้นหลินชิงเวยก็รู้สึกอยากอาเจียนขึ้นมาเป็ระลอกแล้วย้อนคิดถึงเหตุการณ์ในลานปะาเมื่อเที่ยงวันกระเพาะของนางพลันบีบรัดตัวขึ้นมาทันที
หลินชิงเวยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย นางอ้าปากขณะที่เซียวเยี่ยนเข้าใจว่าเขาได้เปรียบอย่างยินดี นางร้องเสียง “แหวะ” ครั้งหนึ่ง อาเจียนใส่ปากเขาเต็มๆ...
เซียวอี้กลายเป็หินทันที ต่อมาเขาอาเจียนน้ำเปรี้ยวๆ ออกจากปากของตนและอาเจียนแห้งๆ ตามไปด้วย
เซียวอี้อาเจียนกระทั่งั์ตาแดงก่ำ เขาช้อนตาขึ้นมองหน้าหลินชิงเวยราวกับถูกทำให้เกิดโทสะ ราวกับเป็สัตว์ดุร้ายตัวหนึ่งที่จะเริ่มการจู่โจมส่วนหลินชิงเวยก็คือเหยื่อของเขา!
เซียวอี้หยิบผ้าเช็ดหน้าไหมออกมาผืนหนึ่งเช็ดปากของตนจากนั้นโยนลงพื้นอย่างไม่แยแส เขามองหลินชิงเวยด้วยแววตาชั่วร้าย“เมื่อเ้าแสดงตัวเป็คนอ่อนแอ ข้าคิดว่าเ้าควรจะทำตัวอ่อนน้อมและวิงวอนไม่ใช่ทำให้ข้าเกิดโทสะในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าใยต้องถนอมพฤกษาอาลัยหยกกับเ้าด้วย”
ต่อมาเซียวอี้จึงแนบชิดเข้ามาอีกครั้งทาบทับลงบนร่างอันอ่อนยวบของหลินชิงเวย มือของเขาเลิกกระโปรงของหลินชิงเวยขึ้นอย่างคล่องแคล่วว่องไวพร้อมกับชื่นชมสีหน้าท่าทางของนาง
หลินชิงเวยด่าทอออกมาทันที “คนชั่วช้า! เหตุใดต้องทำตัวเลวทรามกว่าคนชั้นต่ำ หากข้าเอาจริงกับท่านก็คือข้าแพ้แล้วท่านลองแตะต้องข้าดู”