"วิ่งเร็ว!" เสียงราชันะโเสียงดังร้องบอกลูกชายและลูกสาวที่อยู่ไม่ไกล ก่อนจะมือก็ดึงภรรยาที่ใทำอะไรไม่ถูก ให้วิ่งตามตัวเองออกมาด้วย
"โมบาย...! เร็ว...! วิ่ง!" าาที่ได้สติจากเสียงของพ่อ ก็ไม่รอช้าดึงน้องสาวให้วิ่งตามพ่อกับแม่ตามไปติด ๆ
ทั้งสี่คนพยายามวิ่งหนีผู้ หญิงคนที่กลายเป็ตัวประหลาด ที่เอาแต่ไล่กัดกินผู้คนไปทั่ว ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นซึ่งกำลังวิ่งไล่ตามครอบครัวของโมบาย จะเห็นเหยือรายใหม่ทำให้มันหันไปกัดคนที่วิ่งผ่านหน้าของมันไป และนี้เป็โอกาสที่โมบายและครอบครัวได้มีโอกาสวิ่งหนีออกมาจนมันพ้นจากอันตราย
โมบายและครอบครัววิ่งหนีสุดชีวิต ก่อจะมาแอบอยู่ท้ายรถยนต์คันหนึ่งที่ถูกจอดทิ้งเอาไว้ ด้วยอาการเหนื่อยหอบ
"คนพวกนี้เป็อะไรกันไปหมดแล้ว! ถึงมาไล่กัดกินคนอื่น หรือว่าตอนนี้โรคพิษสุนัขบ้านจะระบาด?" พ่อราชันกล่าวทั้งที่หายใจเหนื่อยหอบไม่หยุด
"มันต้องเป็ซอมบี้แน่ ๆ เลย! มันเหมือนในหนังซอมบี้ ที่ฉันเคยดูเลย"แม่น้ำฟ้ากล่าวบอกสามีด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกและหวาดกลัว
"แม่พูดถูก ไม่มีอะไรที่เหมาะจะเรียกคนประหลาด พวกนั้นด้วยคำนี้แล้ว" โมบายกล่าวเห็นด้วยกับที่แม่พูด และเห็นว่าคนในครอบครัวเหนื่อยจนหน้าแดง เธอรีบเอาขวดน้ำออกมาจากกำไลมิติและส่งให้พ่อแม่พี่ชายคนละขวด "พ่อแม่ พี่ ดื่มน้ำกันก่อน" ส่วนเธอเองส่งน้ำให้ทุกคนแล้ว เธอก็เปิดขวดน้ำยกขึ้นดื่มไปขึ้นขวดเช่นกัน
"ตอนนี้เราจะทำยังไงกันต่อดี หากยังอยู่ตรงนี้คงไม่ปลอดภัยนัก" าาเอ่ยถามทุกคน หลังจากที่พักเหนื่อยกันแล้ว และตอนนี้เื่ที่พบเจอ มันเกินจินตนาการของตัวเขาเองไปแล้ว เขาอยากรีบพาทุกคนไปหลบในที่ปลอดภัยมากกว่านี้
"พวกเราต้องหาที่หลบภัยกันก่อน ตอนนี้ใกล้จะมืดค่ำแล้วด้วย หากเดินไปทั้งที่มืด ๆ แบบนี้ ผมคิดว่ามันจะอันตรายเกินไป" ราชันบอกทุกคน พวกเขาจะต้องพยายามออกจากถนนเส้นนี้ให้ได้ และต้องหาที่หลบที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัวให้ได้พักผ่อนกันก่อน
"พ่อ ตอนนี้เราอยู่บนถนนนะครับ จะไปหาที่ไหนหลบได้ มีแต่ป่าทั้งสองข้างทาง" าากล่าว
ทุกคนมองไปรอบ ๆ ตัว ไม่มีตึกอาคารบ้านเรือนให้หลบจริง ๆ
"เราคงต้องเสี่ยงออกจากถนนสายนี้ก่อนมืดให้ได้ เราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนัก" โมบายกล่าว เธอและครอบครัวต้องออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
"โมบายพูดถูก ยังไงก็ต้องเสี่ยงออกไปให้ได้ พ่อจะเป็คนนำหน้าเอง าาแกเดินระวังหลังให้แม่กับน้องสาวของแก น้ำฟ้าคุณกับโมบายเดินอยู่ด้านหลังผม" ราชันกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคบเป็มาก่อน
ทุกคนก็มีอาการแบบเดียวกันและไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับที่พ่อราชันพูด
"เอาล่ะ...ทุกคนพร้อมนะ! ผมจะนับหนึ่งถึงสาม แล้วทุกคนวิ่งออกไปพร้อมกันเลย" ราชันกล่าวและเดินออกไปเป็คนแรก ในมือก็กำไม้กอล์ฟไปด้วย
"1...2...3 วิ่งเลยทุกคน!" เสียงราชันนับเลขและบอกให้ทุกคนออกตัววิ่งไปให้เร็วที่สุดในชีวิต
ทั้งสี่คนวิ่งและหลบไปตามรถที่จอดอยู่บนถนน หากหลบไม่ได้พ่อและพี่ชายจะใช้ไม้กอล์ฟตีไปที่หัวของซอมบี้ที่เข้ามาหาพวกนั้นตลอดทาง โมบายก็พยายามปกป้องแม่น้ำฟ้าของเธอ ที่อยู่ตรงกลางกลุ่มและเป็คนถือไฟฉากเอาไว้ส่องทางให้กับทุกคน
"ฉันวิ่ง...วิ่งไม่...ไม่ไหวแล้ว" เสียงแม่น้ำฟ้าเอ่ยบอกและหยุดวิ่ง เธอเหนื่อยหอบจนหายใจแทบไม่ทันแล้ว เกิดมาจนอายุขนาดนี้ ยังไม่เคยวิ่งไม่หยุดพักแบบนี้มาก่อน
"แม่ อดทนหน่อยนะคะ ขอแค่เราออกจากถนนเส้นนี้ได้ เราทุกคนก็จะปลอดภัยมากขึ้น" โมบายรีบเข้าไปพยุงแม่น้ำฟ้าที่จะเป็ลมล้มลงไปที่พื้น
"ไม่ไหวแล้ว วิ่งต่อไปไม่ได้แล้ว คุณพาลูกหนีไปก่อน ฉันวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว" น้ำฟ้าบอกสามีที่เหนื่อยหอบเหมือนกัน แต่ยังคงฝืนยืนหยัดต่อสู้กับซอมบี้ที่วิ่งเข้ามาไม่หยุด เพื่อปกป้องเธอกับลูกสาว เธอไม่อยากเป็ตัวถ่วงให้สามีและลูกๆ
“แม่แข็งใจอีกหน่อยเถอะนะ เราใกล้จะออกจากถนนหลวงได้แล้ว”โมบายกล่าว
“ลูกไม่ต้องห่วงแม่ รีบพาพ่อกับพี่ชายไปก่อน”น้ำฟ้ากล่าวและดมยาดมที่ลูกสาวส่งให้ไปด้วย
“พวกเราจะทิ้งแม่เอาไว้ได้ยังไง หากแม่เดินไม่ไหว หนูจะแบกแม่วิ่งไปเอง”โบมายกล่าวและเตรียมจะให้แม่ขึ้นไปบนหลังของเธอ เธอกับมองเห็นคลื่นซอบบี้ขึ้นมาก่อน
"พ่อ! พี่ชาย! เราไม่มีเวลาแล้ว เราต้องไปกันต่อนี้เลย หากเรายังหยุดนิ่งแบบนี้ เราอาจจะถูกพวกมันล้อมเอาได้" โมบายที่หันหน้าไปมองทางฝูงซอมบี้ ที่กำลังพากันวิ่งมาทางที่กลุ่มของเธอด้วยความหวาดกลัว
"อะไรนะ ลูกกำลังพูดอะไร!" ราชันที่กำลังตีหัวซอมบี้อยู่ถามลูกสาว ไม่ทันได้เห็นเหมือนที่ลูกสาวเห็น
"กรี๊ด...คุณคะ!" น้ำฟ้าหันไปดูก็ใเช่นกัน เธอไม่เคยเห็นอะไรน่ากลัวเท่านี้มาก่อนเลย
"อะไรวะ…นั่น!" ราชันและาาที่จัดการซอมบี้เสร็จ หันมาเห็นฝูงซอมบี้ฝูงใหญ่ ถึงกับใทำอะไรไม่ถูก
"พ่อรีบแบกแม่ขึ้นหลังก่อน เดี๋ยวหนูกับพี่ชาย จะเป็คนจัดการซอมบี้ระหว่างทางเอง" โมบายบอกและให้พ่อแบกแม่วิ่งไปก่อน
ส่วนพี่ชายเธอให้เป็คนวิ่งอยู่ด้านหน้า เพื่อเปิดทางให้พ่อกับแม่ ส่วนเธอจะเป็คนอยู่ด้านหลังแทนพี่ชายเอง
ทุกคนวิ่งหนีแทบไม่คิดชีวิต จนออกมาจากถนนเส้นนั้นได้ และเข้ามาสู่ถนนสายชนบทที่ไม่ค่อยมีรถวิ่งมากนัก ทำให้ซอบบี้แถวนี้แทบไม่มี
ราชันที่ทั้งเหนื่อย และยังต้องแบกภรรยาเอาไว้บนหลัง ก็ขาอ่อนแรงล้มลงกับพื้นถนนทันทีที่หนีออกมาได้
"ว้ายยย พ่อแม่เป็อะไรหรือเปล่าคะ" โมบายที่วิ่งอยู่ด้านหลังใร้องเสียงหลง ที่เห็นพ่อล้มลงกับพื้น ทำให้แม่ที่อยู่บนหลัง ตกลงมาาเ็ไปด้วย
"พ่อ! แม่!" าาหันกลับมาเห็นรีบเข้าไปช่วยพยุงพาขึ้น
"พ่อไม่เป็อะไร ขอพ่อพักหน่อย ลูกไปดูแม่ของลูกก่อน" ราชันบอกและไล่ให้ลูกชายลูกสาวไปดูภรรยา ตอนนี้เขาหมดแรงแล้วจริงๆ
"แม่าเ็ตรงไหน" โมบายเข้ามาถามและช่วยให้แม่ลุกขึ้นนั่ง
"แม่เจ็บแขน ไม่รู้แขนหักหรือเปล่า" น้ำฟ้าบอกลูกสาว
"พี่าามาดูแม่หน่อย ไม่รู้ว่าแม่แขนหักหรือเปล่า" โมบายหันไปเรียกพี่ชายที่ยังคงสำรวจไปรอบ ๆตลอด
"โชคดีที่กระดูกไม่หัก เราต้องไปกันต่อแล้ว" าาเข้ามาตรวจดูเห็นว่าข้อมือแม่ แค่อักเสบไม่ได้าเ็ถึงกระดูก
"เราพักกันก่อนเถอะ ดูแล้วพ่อกับแม่คงจะวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว" โมบายบอกและส่งน้ำกับขนมให้ทุกคนได้กินกันก่อน พักไปได้สักพัก ทั้งสี่คนได้ยินเสียงซอมบี้จากด้านหลัง ทำให้รู้ว่าเวลาพักไม่เหลือแล้ว
"เราต้องไปกันต่อแล้ว พ่อเดินไหวไหมครับ" าาหันมาแบกแม่น้ำฟ้าเอง และหันไปถามพ่อราชันที่ยังมีอาการหายใจแรงอยู่และพยายามสูดดมยาดมในมือเข้าปอด
"ไหว ๆ พ่อเดินไหว...ลูกไม่ต้องห่วง" ราชันกล่าวและเดินกะเผลกๆ เข้ามาหาลูกชายลูกสาวทั้งสอง
…
ด้านหลังของทุกคน มีฝูงซอมบี้เน่าเปื่อยและหิวโหยไล่ตามพวกเขามาอย่างกระหายเื เขี้ยวที่แหลมคมและเล็บที่ยาว พวกมันวิ่งเบียดเสียดกันมาเพื่อแย่งกันกินอาหารที่อยู่ตรงหน้า โมบายเห็นท่าไม่ดี ทุกคนรีบพากันวิ่งหนีฝูงซอมบี้กันต่อ จนไปหยุดที่ถนนที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง โมบายรีบนำรถออกมาทันที
เธอนำรถออกมาจากมิติกำไลหยก และะโให้พี่ชายรีบขึ้นไปสตาร์ทรถ
"พี่ชายรีบพาพ่อแม่ขึ้นรถเร็วเข้า!" โมบายที่เป็คนเดียวที่ต่อสู้ได้ในตอนนี้เอ่ยบอกพี่ชาย เธอต้องระวังหลังให้พ่อแม่ ระหว่างที่พวกท่านกำลังขึ้นรถ ด้วยอาการาเ็ทำให้ทั้งสองขึ้นไปบนรถได้ช้ากว่าปกติ
าารีบเปิดรถ ส่งแม่เข้าไปนั่งในเบาะหลังรถ และให้พ่อราชันตามขึ้นไปนั่งข้างแม่น้ำฟ้า ส่วนตัวเองวิ่งไปที่นั่งคนขับและเปิดกระจกะโเรียกน้องสาวที่กำลังจัดการซอมบี้อยู่คนเดียวด้านนอกรถ
"น้องสาวเร็วเข้า! รีบขึ้นรถ โมบายระวังงงง" าาะโบอกน้องสาวที่กำลังจะขึ้นรถ กลับถูกซอมบี้ที่ไม่รู้โผล่ที่หลังเธอตอนไหน
"กรี๊ด...โมบายลูก" แม่น้ำฟ้าร้องกรี๊ดออกมา
"ระวัง!" าาะโบอกลูกสาวที่อยู่นอกรถ และพยายามจะลงไปช่วยลูกสาว
โมบายพยายามหลบซอมบี้ตัวหนึ่งที่พุ่งเข้ามาหาเธอ ตอนที่กำลังจะขึ้นรถ
เมื่อหลับออกมาได้ โมบายหันไปจัดการซอมบี้เสร็จก็รีบเปิดประตูขึ้นรถ
บนรถ หลังจากที่ทุกคนขึ้นมาบนรถแล้ว าาก็ขับรถออกมาทันที ภายในรถมีแต่ความเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนคุณแม่น้ำฟ้าจะทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นลง
"าาลูกขับรถเร็วกว่านี้หน่อย แม่เป็ห่วงคุณปู่คุณย่าของเรา ไม่รู้ว่าที่หมู่บ้านจะมีพวกตัวประหลาดหรือเปล่า" แม่น้ำฟ้าเอ่ยเร่งลูกชาย ทำไมเธอถึงไม่เป็ห่วงพ่อแม่ของเธอ กลับเป็ห่วงพ่อแม่สามีแทน นั่นเป็เพราะว่าคุณแม่น้ำฟ้าเป็เด็กกำพร้าที่ใช้ชีวิตมาตัวคนเดียว ก่อนจะมาเจอคุณพ่อราชันและแต่งงานกัน
"ครับแม่" าารับคำและเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้น ในใจเขาก็เป็ห่วงคุณปู่คุณย่าเช่นกัน และคุณปู่ก็ยังมาป่วยอีกไม่รู้ทั้งสองท่านจะยังปลอดภัยกันอยู่ไหม
"ถนนนอกเมืองแทบไม่มีไอ้ตัวประหลาดนั้นเลย" พ่อราชันเอ่ยขึ้นขณะนั่งมองออกไปนอกกระจกรถ
"มันเรียกว่าซอมบี้ค่ะพ่อ และถนนนอกเมืองไม่ค่อยมีพวกมัน เป็เพราะผู้คนเข้าไปเบียดกันในเมืองมากกว่า" โมบายกล่าวและมองออกไปนอกรถ ที่ตอนนี้มองเห็นแต่ต้นไม้สองข้างทาง ส่วนมือของเธอยังคงกำไปที่แขนที่มีรอยเืสีแดงๆ
…
ทุกคนใช้เวลาในการเดินทางมาถึงหมู่บ้านในชนบท เป็เวลาหลายชั่วโมง โชคดีมากที่ถนนเส้นที่เดินทางเข้ามาที่หมู่บ้านในหุบเขา แทบไม่ได้รับความเสียหาย หรือมีซอมบี้มากนัก อาจจะมีรถขวางทางบ้าง เลยต้องให้โมบายกับพี่ชายาา เป็คนลงไปจัดการตลอดทาง ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านกลางหุบเขา เป็เวลาเช้าของอีกวันแล้ว
ภายในหมู่บ้านยังคงเงียบสงบเหมือนเดิม ไม่ได้มีซอมบี้เข้ามารุกรานหรือมีคนติดเชื้อ คนในหมู่บ้านที่ไม่ได้ออกไปฉลองปีใหม่นอกหมู่บ้าน พวกเขายังไม่มีใครรู้เื่ที่เกิดขึ้น
โมบายและทุกคนบนรถมองหน้ากัน ก่อนที่าาจะขับรถไปจอดที่บ้านคุณปู่คุณย่า
