“์! เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนมากมายถึงเพียงนี้? เท่าที่เห็นอย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าเจ็ดถึงแปดพันคนแน่ๆ!”
ทั้งสี่มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือด้วยความรวดเร็วและระมัดระวังเป็อย่างยิ่ง หลังจากวิ่งตะบึงมาหนึ่งชั่วโมงในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าลงไปนั้น ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทางสถานที่ที่นักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนรวมตัวกัน
เพียงแต่ยังไม่ทันที่จะได้เข้าไปใกล้ พวกเขากลับพบนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนจำนวนมากมายยืนเบียดเสียดกันแน่นขนัดเต็มไปหมด พวกมันต่างส่งเสียงร้องคำรามดังลอยมาไม่ขาด บริเวณใกล้เคียงโดยรอบยังปรากฏแสงสีทองเปล่งประกายขึ้นอยู่ตลอดพร้อมกับนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่ถูกเคลื่อนย้ายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสี่ไม่กล้าประมาทรีบมองหาต้นไม้ใหญ่แล้วะโขึ้นไปหลบอยู่้าในทันที
มองลอดผ่านใบไม้ที่หนาทึบเ่าั้ ทั้งสี่เริ่มจับตาดูความเคลื่อนไหวของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนในทันที
“อืม...เหมือนกับว่าพวกมันกำลังมุ่งหน้ากันไปโอบล้อมยอดเขาแห่งนั้น บนยอดเขาแห่งนั้นก็มีนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนอยู่มากมายเช่นกัน เดี๋ยวๆ...พวกเ้ามองดูที่บริเวณตีนเขานั่น ดูเหมือนจะเป็คนของเขตปกครองเทพาของเรา เอ๊ะ! นั่นมันพี่สาวหลงไซ้หนาน พวกเฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า และเยว่ชิงเฉิงนี่!”
เย่ชิงอู่เริ่มทำการสำรวจดูก่อนคนอื่นๆ เพียงแต่เพิ่งเริ่มกวาดตามองอย่างคร่าวๆ กลับพบเข้ากับเื่ที่น่าตื่นตระหนกจนทำให้ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็ขาวซีดเผือดขึ้น เผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนแน่นอนว่ามีแผนการชั่วร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการชั่วร้ายของพวกมันดำเนินการได้สำเร็จอีกด้วย พวกมันสามารถทำการโอบล้อมนักรบของเขตปกครองเทพาจำนวนหลายพันคนไว้ได้
“เป็พวกหลงไซ้หนาน เฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า และเยว่ชิงเฉิงจริงๆ ด้วย ฮะ!...ลูกหลานตระกูลเย่ก็รวมอยู่ในนั้นด้วย ทำไมพวกเขาถึงได้โง่เขลาถึงเพียงนี้ปล่อยให้เผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนโอบล้อมเอาไว้ได้?”
สีหน้าของเย่สือชีก็ขาวซีดเผือดไม่ต่างกัน ภายในนั้นมีลูกหลานระดับหัวกะทิของตระกูลเย่รวมอยู่ด้วย เพราะเขามองเห็นห้าองครักษ์โลหิตของเย่ชิงหานอยู่ข้างในนั้นด้วย พวกเขามีพลังฝีมือไม่สูงมากนักอยู่ในระดับขั้นที่สามขอบเขตเยี่ยมยุทธ์จึงถูกเย่ชิงหานสั่งให้อยู่ค่ายใหญ่ที่พักชั่วคราวเพื่อฝึกฝน ตอนนี้พวกเขาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากองกำลังของตระกูลเย่ทั้งหมดถูกโอบล้อมอยู่ภายในอย่างแน่นอน ส่วนยอดฝีมือระดับสูงของทั้งสี่ตระกูลล้วนสามารถมองเห็นได้ว่ากำลังต่อสู้นองเือยู่กับนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่กำลังมุ่งตรงเข้าไปจากทั้งสี่ทิศแปดด้าน...
เย่ชิงหานไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา ทำเพียงจับจ้องไปที่เงาร่างที่คุ้นเคยหลายสายที่กำลังต่อสู้นองเืกับนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนอยู่ เฟิงจื่อที่ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อราวกับคนเถื่อน ฮวาเฉ่าที่ใบหน้าสวยงามราวกับผู้หญิง เยว่ชิงเฉิงที่ยืนอยู่ตรงกลางราวกับดอกท้อที่เบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ เยว่เซียนกูที่มีเสน่ห์เย้ายวนราวกับแม้เล้าของหอนางโลม ฮวาซินหนุ่มหน้าขาวที่ดูราวกับแมงดาที่เกาะผู้หญิงกิน เฟิงเิที่ดูราวกับท่อนไม้ไร้ความรู้สึก ห้าองครักษ์โลหิตที่ยืนเรียงกันด้วยสีหน้าราบเรียบ หลงไซ้หนานที่คิ้วกระบี่ยังคงสูงเด่นแต่สีหน้าขมขื่น และหลงสุ่ยหลิวที่ใบหน้าหล่อเหลาแต่ตอนนี้สีหน้ากลับไม่น่าดูเลยแม้แต่น้อย...
เขาไม่เพียงแต่มองเห็นสีหน้าอาการที่สิ้นหวังของทุกคน แต่ยังมองเห็นความโกรธแค้นเดือดดาลและเศร้าสลดที่อยู่ภายในดวงตาที่แดงก่ำไปด้วยเืของทุกคน
ความจริงแล้วในจำนวนพวกเขาเ่าั้มีอยู่หลายคนที่สามารถหลบหนีไปได้ เช่น หลงไซ้หนาน ฮวาเฉ่า เยว่ชิงเฉิง เฟิงจื่อ และยอดฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบทั้งหลาย หากพวกเขาเ่าั้้าที่จะบุกทะลวงเพื่อพาพวกนายน้อยและคุณหนูฝ่าออกไปคงไม่ใช่เื่ยากแต่อย่างใด
เพียงแต่...เมื่อพวกเขาจากไป นักรบระดับหัวกะทิอีกสองพันกว่าคนคงต้องจบชีวิตลงที่นี่ทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงอยากที่จะต่อสู้ดิ้นรนเพื่อหาหนทางดูสักครั้ง ดูว่าพอจะมีโอกาสพาคนหลายพันที่อยู่ที่นี่รอดออกไปได้หรือไม่...
สุดท้ายเย่ชิงหานดึงสายตากลับมาแล้วมองไปที่เย่สือซาน เย่สือซานแต่ไหนแต่ไรมาเป็คนเ้าแผนการและเฉลียวฉลาด อีกทั้งยังชำนาญแผนการรบ เพียงแต่สิ่งที่เขามองเห็นคือสีหน้าขมขื่นของเย่สือซานและอาการส่ายหัวไปมาอย่างอับจนปัญญา!
ไม่ใช่เย่สือซานไม่อยากที่จะช่วย ไม่ต้องพูดถึงพวกเฟิงจื่อ เยว่ชิงเฉิง เอาแค่เพียงลูกหลานของตระกูลเย่ที่อยู่ภายใน หากมีวิธีช่วยสักนิดเขาก็อยากจะลองดู เพียงแต่...
เย่ชิงหานดึงสายตากลับมา มุมปากกระตุกอยู่หลายครั้งก่อนจะยิ้มเยาะตนเองขึ้น เบื้องหน้ามีคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขามาหลายเดือน ช่วยเหลือเขาเก็บสะสมคะแนนโดยต่อสู้กันอย่างไม่เสียดายชีวิต มีลูกหลานของตระกูลเย่หลายร้อยคน มีห้าองครักษ์โลหิต มีเฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า เยว่ชิงเฉิง และมีพี่น้องของเขตปกครองเทพามากมายนับไม่ถ้วน
เขามีเหตุผลมากมายที่จะต้องช่วย เพียงแต่...เขามีความสามารถพอที่จะช่วยเหลืออย่างนั้นรึ? อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้พวกเขาทั้งสี่รวมกันกระโจนเข้าไปภายในกองทัพขนาดมหึมาของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างจากหยดน้ำเล็กๆ หยดหนึ่งที่ตกลงไปกลางมหาสมุทร แม้แต่คลื่นน้ำก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้เกิดการกระเพื่อมขึ้นมาได้...
“ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?”
มองดูสีหน้าของทุกคนที่ขมขื่นและสิ้นหวัง เย่ชิงหานราวกลับว่าตนเองได้ย้อนกลับไป่เวลาหนึ่งปีก่อนที่อยู่ในสวนเมามาย มองดูเย่ชิงอวี่ที่ลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับเส้นผมบนศีรษะที่เปลี่ยนเป็สีขาวไปทั้งหมดและดวงตาที่ค่อยๆ ปิดลง แต่ตนเองกลับไม่มีความสามารถพอที่จะทำอะไรได้ อยากจะทำอะไรสักอย่างแต่ก็ทำไม่ได้ ภายในใจดั่งถูกไฟที่ร้อนแรงแผดเผา รู้สึกเ็ปแสบร้อนทรมานอย่างถึงที่สุด...
“ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?”
เย่ชิงหานดวงตาลุกเป็ไฟ ใจกลางฝ่ามือเขียวคล้ำด้วยแรงบีบจากนิ้วมือ เส้นเอ็นบนหน้าผากนูนปูดขึ้นมา ลักษณะมองดูคล้ายกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะกลืนกินคน
“ยำพวกมัน!”
ในเวลานี้เอง ราวกลับว่ามีเสียงตอบกลับคำถามของเขา ภายในใจของเย่ชิงหานบังเกิดเสียงเล็กๆ เบาบางเสียงหนึ่งดังขึ้น แต่เสียงที่ได้ยินเหมือนดั่งฟ้าที่แลบผ่านขึ้นมาในจิตใจของเขา ทำเอาเย่ชิงหานสะดุ้งใจนสั่นเทิ้มขึ้น!
“เสี่ยวเฮย! เ้าตื่นแล้ว? เ้ามีแผน?” เย่ชิงหานได้สติกลับมาจึงรีบส่งกระแสเสียงถามออกไป
“ช่วยพวกเขา? เื่จิ๊บจ๊อย ลูกพี่รีบเรียนรู้เคล็ดวิชาต่อสู้นี้เร็ว อีกสักพักพวกเราค่อยออกไปสังหารหมู่เ้าพวกที่อยู่เบื้องหน้านี้ให้หมด...” น้ำเสียงของเสี่ยวเฮยยังคงแ่เบา แต่ลักษณะของความยโสโอหังและความฮึกเหิมที่แฝงมากับน้ำเสียงนั้นเด่นชัดเป็อย่างมาก
“เคล็ดวิชาต่อสู้?” เย่ชิงหานงุนงงเล็กน้อย จากนั้นภายในหัวปรากฏข้อมูลจำนวนมากไหลพรั่งพรูเข้ามา เขาไม่พูดอะไรออกมาอีกรีบนั่งขัดสมาธิลงแล้วเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่ข้อมูลมากมายเ่าั้ในทันที!
เอ่ออ...!
พวกเย่สือซานทั้งสามอึ้งไปในทันที สายตามองไปที่เย่ชิงหานที่นั่งขัดสมาธิฝึกยุทธ์อย่างรู้สึกแปลกประหลาดใจและงุนงงสงสัย
“ช่วยคุ้มกันข้าที ข้ามีหนทางช่วยพวกเขา!” เย่ชิงหานรู้สึกได้ถึงสายตาของทั้งสามที่มองมา จึงลืมตาขึ้นกวาดตามองคนทั้งสามครั้งหนึ่ง จากนั้นพูดออกมาแล้วหลับตาลงฝึกฝนต่อ
“เขาช่วยได้?”
คำพูดของเย่ชิงหานไม่ได้ให้คำตอบต่อความสงสัยของทั้งสาม ในทางตรงกันข้ามกลับเหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางแจ้ง ทำเอาร่างของทั้งสามแข็งทื่อไปในทันที...
.................................
“ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?”
ลักษณะของใบหน้าที่ให้ความรู้สึกแตกต่างแก่ผู้ที่มองของเฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า และเยว่ชิงเฉิง ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสามปรากฏสีหน้าอาการในคำถามประโยคเดียวกันคือ ทำอย่างไรดี? ทั้งสี่ทิศแปดด้านล้วนรายล้อมไปด้วยนักรบเผ่าคนเถื่อนและเผ่าปีศาจนับไม่ถ้วน หลงไซ้หนานนำยอดฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบลองตีฝ่าออกไปถึงสามครั้งก็ไม่เป็ผล ทางหนีตอนนี้ไม่มีแล้ว หรือว่าวาระสุดท้ายของนักรบเขตปกครองเทพาจะเป็วันนี้จริงๆ?
หนี?
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยคิดถึงเื่นี้มาก่อน เพียงแต่...พวกเขาสามารถหนีได้ แต่ลูกหลานของตระกูลและพี่น้องร่วมเขตปกครองทั้งหลายที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันมาอย่างยาวนานพวกเขาจะสามารถหนีได้อย่างนั้นรึ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้