จื่อเซียวเห็นว่านางจ้าวปล่อยตนกลับไปอย่างง่ายดายแม้นางจะไม่เข้าใจแต่ก็ยังรู้สึกว่าตนเองโชคดี เพราะแม้จะหวาดกลัวเพียงใดแต่ในที่สุดนางก็สามารถจัดการเื่ที่อาหนูมอบหมายให้สำเร็จโดยสวัสดิภาพ
จิตใต้สำนึกของนางบอกว่า หากทำงานที่อาหนูบอกให้นางไปทำไม่สำเร็จเกรงว่าอาหนูจะต้องผิดหวังกับนางมากทีเดียว
นับวันนางยิ่งรู้สึกว่าการติดตามอาหนู ล้วนต้องคอยอกสั่นขวัญผวาเหมือนอยู่กับเสือไม่รู้ว่าวันใดอาหนูจะไม่พอใจแล้วมาระบายลงกับนางอีกรอยแผลบนตัวนางจึงไม่เคยจางหายไปจนหมดสักที
จื่อเซียวรีบเดินกลับไป คิดว่ายามกลับไปแล้วจะต้องได้เห็นสีหน้ายินดีของอาหนูเป็แน่และวันนี้นางคงจะไม่ถูกด่าทออีกแล้วกระมัง!คิดไปเท้าของนางก็ยิ่งก้าวยาวขึ้นกว่าเดิม
เดิมทีอาหนูอยากพักผ่อนครู่หนึ่งก่อนค่อยทานอาหารเย็นแต่เป็เพราะไม่รู้ว่าจื่อเซียวจะจัดการงานที่มอบหมายให้สำเร็จหรือไม่คิดไปคิดมานางจึงไม่รู้สึกอยากนอนเสียแล้ว
วันนี้นางเดินหมากที่เสี่ยงอันตรายยิ่งนักหากฮูหยินใหญ่เกิดมีเจตนาดีขึ้นสักเล็กน้อย แล้วมาตรวจดูาแของนางด้วยตนเองหรือไม่ก็เชิญหมอมาตรวจเช่นนั้นละครตบตาของนางก็คงแสดงต่อไปไม่ได้แล้ว
ฮูหยินใหญ่กับนางไม่ได้ญาติดีกัน ทั้งตอนนี้นางจ้าวยังมาตั้งท้องแต่เพราะครานี้นางถือครองทั้งโอกาส ชัยภูมิ และแรงคนที่เหนือกว่าจึงสามารถหลอกนางจ้าวได้
นางลุกขึ้นมานั่งพลางมองทิวทัศน์ข้างนอกหน้าต่าง ในสวนเต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มและดอกเบญจมาศหลากสีสันผสานเป็อันหนึ่งอันเดียวกันทัศนียภาพที่งดงามเช่นนี้กลับยังไม่อาจลดทอนความกลัดกลุ้มในใจนาง
ไม่รู้ว่าเมื่อใดท่านแม่ทัพจะนึกถึงนางขึ้นมาบ้าง จะได้ยกเลิกโทษกักบริเวณของนางเสียทีหากไม่ได้รับความรักหลงจากท่านแม่ทัพแล้วนางจะยืนอยู่ในจวนแม่ทัพอย่างมั่นคงได้อย่างไร
พออาหนูเห็นว่าจื่อเซียวเดินกลับมาด้วยสีหน้าเร่งร้อนนางจึงหวังว่าจื่อเซียวจะนำข่าวดีกลับมาให้นาง
“เรียนฮูหยินรอง จัดการเรียบร้อยแล้วเ้าค่ะบ่าวนำเทียบเชิญที่เขียนเสร็จกับรายชื่อของแขกที่ยังไม่ได้เขียนส่งคืนให้ฮูหยินใหญ่แล้วฮูหยินใหญ่บอกว่านางจะหาผู้อื่นมาทำแทนแล้วเ้าค่ะ”
จื่อเซียวนำข่าวนี้กลับมาบอกซึ่งเดิมทีก็เป็สิ่งที่อาหนูเฝ้ารออยู่ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดหลังจากอาหนูได้ยินแล้วกลับดีใจอยู่แค่่เวลาสั้นๆทว่าภายหลังกลับดีใจไม่ออกเลยแม้สักน้อย
นางกำลังคิดว่าไม่ได้พบหน้าหั่วอี้มากี่วันแล้วเกรงว่าหั่วอี้อาจจะลืมไปแล้วกระมังว่านางมีตัวตนอยู่
ไม่ได้การสิ่งที่สำคัญเร่งด่วนในเวลานี้ก็คือนางจะต้องคิดหาวิธีให้ได้พบกับท่านแม่ทัพ
ความคิดของอาหนูเคลื่อนเปลี่ยนไปรวดเร็วนักในขณะที่นางกำลังคิดแผนรับมือจึงไม่มีแก่ใจจะไปสนใจจื่อเซียว
จื่อเซียวผิดหวังอย่างหนักเมื่อเห็นว่าอาหนูกำลังใจลอย นางนึกว่าเมื่อตนทำงานชิ้นนี้สำเร็จไม่ว่าอย่างไรอาหนูก็จะต้องชมนางสักคำสองคำ แต่อาหนูกลับเพียงพยักหน้าเบาๆให้นางเป็อันสิ้นเื่แล้ว
จื่อเซียวทอดถอนใจอยู่ในใจก็ผู้ใดให้นายที่นางติดสอยห้อยตามเป็อาหนูเล่า หากนายของนางเป็ฮูหยินชีวิตของนางจะดีกว่านี้บ้างหรือไม่? คิดถึงตรงนี้ใจนางก็เหน็บหนาวจนไม่มีไออุ่นสักนิดมองไม่เห็นเลยว่าทางออกของนางคือที่ใด
อาหนูคิดเื่ในใจของอาหนู จื่อเซียวก็คิดเื่ในใจของจื่อเซียวภายในห้องจึงเงียบลงทันที
หั่วอี้และหลิ่วจิ้งจะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดละครสลับฉากขึ้นในจวนอีกแล้วเมื่อเห็นว่าดวงอาทิตย์ค่อยๆ เร้นกาย ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้วพวกเขาสองคนจึงเพิ่งตระหนักว่ายามนี้เย็นมากแล้ว
หั่วอี้และหลิ่วจิ้งหันมายิ้มสบตากัน“พวกเรากลับกันก่อนเถิดเ้าค่ะ หากยังไม่กลับ ท้องจะต้องต่อต้านเป็แน่”
หลิ่วจิ้งหันมองหั่วอี้ นางเป็ฝ่ายเอ่ยปากขึ้นก่อน
“คำของฮูหยินดั่งราชโองการ สามีย่อมต้องน้อมรับและปฏิบัติตาม”หั่วอี้อุ้มหลิ่วจิ้งแล้วพานางะโขึ้นสูง ก่อนลงมานั่งบนหลังม้าได้อย่างมั่นคงหั่วอี้ใช้มือข้างหนึ่งกอดหลิ่วจิ้งเอาไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็หวดให้ม้าวิ่งไปกลับไปในท่าเดิมเหมือนตอนขามา
หลิ่วจิ้งเกิดความคิดขึ้นมาในขณะที่เอนตัวแนบอยู่ในอกของหั่วอี้ยามหั่วอี้อ่อนโยนขึ้นมากลับนับได้ว่าเป็บุรุษที่น่าแอบอิงผู้หนึ่งนางเลิกคาดหวังว่าจะตามหาใครสักคนที่จะอยู่กับนางไม่พรากจากกันจนแก่เฒ่าฉะนั้นความรู้สึกของนางและหั่วอี้จึงปล่อยให้เป็ไปตามวาสนาก็แล้วกันทั้งสองคนอยู่ร่วมกันด้วยการให้เกียรติซึ่งกันและกันเช่นในเวลานี้ก็ไม่เลวเลย
หั่วอี้โอบหลิ่วจิ้งขี่ม้าผ่านท้องทุ่งนา เห็นทิวทัศน์ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตาพาให้จิตใจผ่อนคลายร่างนวลนุ่มของหลิ่วจิ้งยามอยู่ในอ้อมอกเขาช่างอ่อนโยนนักยิ่งกระตุ้นความรักละมุนของเขาให้ท่วมท้นขึ้นไปอีก
นี่เป็ชีวิตที่หั่วอี้ไม่เคยััมาก่อน ทำให้เขาเกิดความคิดว่าอยากใช้เวลาใคร่ครวญเื่สตรีและทำให้เขารู้สึกว่ามีครอบครัวของตนเอง
พวกของจ้าวเฉิงเดินทางล่วงหน้าไปไกลจนพ้นระยะสายตาที่จะมองเห็นพวกของหั่วอี้เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้าม้าจึงชะเง้อคอมองไป เมื่อเห็นว่าเป็หั่วอี้และหลิ่วจิ้งมาพวกเขาจึงขึ้นบนหลังม้าแล้วตามหลังหั่วอี้มาไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป มุ่งหน้าไปทางจวนแม่ทัพ
เพราะไม่ได้คอยแวะเที่ยวเช่นขามา ขากลับจึงเดินทางรวดเร็วกว่ามากนักหนึ่งก้านธูปหลังจากนั้นพวกเขาก็กลับถึงหน้าประตูจวนแม่ทัพแล้ว
หั่วอี้หยุดม้าและหันไปบอกจ้าวเฉิงกับจ้าวฉวนว่า“วันนี้พวกเ้าสองคนเผยตัวจากการแฝงตัวแล้ว ไม่เหมาะจะแฝงตัวต่อไปเช่นนั้นก็กลับไปแจ้งต่อพี่น้องคนอื่นที่หน่วยองครักษ์ลับเสีย วันนี้ให้กลับไปเตรียมตัวไว้ส่วนวันพรุ่งให้ไปรายงานตัวกับนายกองเฉินส่วนเหมิ่งเจ๋อก็ยังกลับไปดูแลความปลอดภัยที่โรงพักม้าเช่นเดิม”
หั่วอี้สั่งความเสร็จไม่รอให้พวกของจ้าวเฉิงตอบรับก็หวดให้ม้าวิ่งพาหลิ่วจิ้งเข้าไปในจวนแม่ทัพเขารู้ว่าทหารของตนผ่านการฝึกฝนมาเป็อย่างดี บอกกล่าวไว้เพียงเท่านี้ก็จะเข้าใจความหมายของเขาแล้ว
“ขอรับ ท่านแม่ทัพ” เสียงตอบรับอย่างพร้อมเพรียงดังมาจากข้างหลังของหั่วอี้เมื่อพูดจบคนก็จากไป หายวับไปท่ามกลางรัตติกาลอย่างรวดเร็ว
พวกของอวี้จิ่นกับอิ๋งเหอได้ทหารของหั่วอี้คุ้มกันและส่งกลับมาที่จวนแม่ทัพก่อนหน้านานแล้วแต่ยามนี้พวกนางสองคนกำลังกลุ้มใจกับเด็กหนุ่มที่หลิ่วจิ้งช่วยกลับมา
เด็กหนุ่มผู้นั้นถามสิ่งใดก็ไม่ยอมเปิดปากแต่พออวี้จิ่นสั่งให้เด็กรับใช้จัดอาหารมาให้ เขากลับกินอย่างมีความสุขนักน้ำที่ยกมาให้เขาก็ดื่มจนหมดทว่าเมื่อเขากินอิ่มดื่มพอแล้วกลับกลายเป็เหมือนรูปสลักที่ไม่ยอมไหวติง สุดท้ายกลับนอนหลับอยู่ที่พื้นทั้งอย่างนั้น
อวี้จิ่นกับอิ๋งเหอสองคนต้องมองหน้ากันอย่างงงงัน
อวี้จิ่นดูเด็กหนุ่มที่ไม่รู้ที่มาชัดเจนผู้นี้แล้วอยากเอาเขาไปขังไว้เสียแต่ก็เป็กังวลอีกว่าพอหลิ่วจิ้งกลับมาแล้วจะตำหนินาง ทว่าหากไม่ขังเขาเอาไว้พวกนางก็ต้องคอยจับตาดูเขาห่างไปที่ใดไม่ได้แม้สักก้าวเพราะกลัวว่าเขาจะสบโอกาสแล้วหนีไปพอหลิ่วจิ้งกลับมาก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรยิ่งกว่าเดิม
ดีที่หลิ่วจิ้งไม่ได้อยู่ในจวน พวกนางสองคนจึงไม่มีเื่ใดต้องทำอวี้จิ่นไปเอาผ้าห่มผืนหนึ่งมาห่มให้เด็กหนุ่มคอยเปลี่ยนเวรกับอิ๋งเหอเฝ้าเด็กหนุ่มเอาไว้ และถือเป็การฆ่าเวลาไปพร้อมกัน
เด็กหนุ่มคงจะเหนื่อยเอาการ เสียงรอบๆ ดังเอะอะราวฟ้าผ่าแต่กลับไม่ได้ส่งผลกระทบอันใดกับเขาไม่ว่าเขาจะหลับหรือว่าไม่หลับก็ล้วนเงียบกริบเช่นนี้ทั้งนั้นเหมือนกับไม่มีตัวตนแต่อย่างใด
อิ๋งเหอเหนื่อยอ่อนนักแต่ยังต้องคอยดูเขาอยู่ตลอดเพราะกลัวว่าเขาจะนอนหลับจนตายไปเสีย ตอนที่หั่วอี้และหลิ่วจิ้งกลับมาถึงจวนอวี้จิ่นกับอิ๋งเหอสองคนจึงสามารถปลดเปลื้องภาระหนักอึ้งนี้ไปได้ฮูหยินกลับมาก็ดีแล้ว
พวกนางกลัวเสียจริงๆ เพราะจะทิ้งก็ทิ้งไปไม่ได้ จะอยู่ด้วยก็ยังไม่อาจอยู่กับเขาได้เพราะพวกนางล้วนถูกเขามองผ่านไปเสียหมด
_____________________________
