เซทท์ที่กำลังมองไปยังร่างบาง เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ก็ต้องตกตะลึง
“เธอเป็ใครกันแน่นะ” เซทท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหม่อลอยสายตายังคงมองไปที่ร่างบางจนลับสายตา
@บริษัท
ลินล์มาถึงบริษัท เธอแวะซื้อกาแฟที่ร้านหน้าบริษัทก่อนที่จะขึ้นไปทำงาน เมื่อถึงหน้าห้องประธานก็ต้องแปลกใจ เพราะโต๊ะทำงานของเธอหายไป มองไปรอบ ๆ บริเวณก็ไม่เจออะไรเลย ร่างบางตัดสินใจเดินไปเคาะห้องท่่านประธานอย่างรวดเร็ว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ขออนุญาตคะ” ลินล์
“เชิญ” เสียงดังขึ้นจากหลังบานประตู
“สวัสดีค่ะท่านประธาน ไม่ทราบว่าโต๊ะทำงานของลินล์หายไปไหนค่ะ”
ลินล์มองหน้าเซทท์แล้วเอ่ยถามโดยไม่ได้มองสิ่งใด
เซทท์มองสำรวจการแต่งตัวของลินล์ในวันนี้ ร่างบาง สวมชุดเดรสเข้ารูปสีเทาอ่อน เรียบง่ายแต่ดูมีสไตล์ มอง ๆ ไปแล้วร่างบางคงจะติดแบรนด์ไม่น้อยเลย
“สวัสดี ลินล์ คุณมีอะไรหรือเปล่า ทำไมรีบร้อนแบบนั้น” เซทท์ถามด้วยเสียงนิ่ง ๆ ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่ในใจรู้แล้วว่าทำไมลินล์ถึงรีบเข้ามาในห้องแบบนี้
“พอดีว่าโต๊ะทำงานของลินล์หายไปค่ะ” ลินล์รีบพูดพร้อมมองหน้าเซทท์อย่าง้าความช่วยเหลือ
“คุณลองมองไปรอบ ๆ ห้องของผมก่อนนะ” เซทท์พูดเสียงเรียบอย่างใจเย็น
ลินล์มองไปรอบ ๆ ห้องอย่างที่เซทท์บอก แล้วเห็นโต๊ะทำงานของตนอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ลินล์มีสีหน้าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด และคงงงว่าทำไมท่านประธานจึงเอาโต๊ะทำงานของตนมาไว้ในห้อง หรือว่า….. เขาจะจำเราได้แล้ว แต่คงไม่หรอกต่างกันซะขนาดนี้นี่นะ
ระหว่างที่ลินล์กำลังยืนเหม่อลอยคิดอะไรไปเรื่อย ร่างสูงของเซทท์เดินมายืนซ้อนด้านหลังของร่างบางอย่างเงียบเชียบ แล้วก้มหน้าลงไปใกล้ ๆ ร่างบางเพื่อสูดดมกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นที่ตนคุ้นเคย
“ท่านประธานคะ อุบ! จุ๊บ!” ลินล์หันมาหาเซทท์อย่างรวดเร็วทำให้ริมฝีปากบางชนเข้ากับริมฝีปากหนาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างบางผละตัวออกทันที ทำให้ตัวเธอล้มลงไปที่พื้น
“หึ”
เซทท์มองร่างบางแล้วยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ท่านประธานขำอะไรคะ” ลินล์เผลอตวัดตามองแรงใส่ท่านประธานด้วยความลืมตัว อีตานี่บ้าอะเปล่าอยู่ ๆ ก็มายืนไม่ให้สุ่มให้เสียง ใหมดเลยเรา ร่างบางเอามือกุมที่หน้าอกตัวเองเบา ๆ หัวใจเต้นแรงเป็บ้า
“เปล่าครับ ค่อย ๆ ลุกนะครับ” ร่างสูงพูดพร้อมยื่นมือให้ร่างบางจับขึ้นมายืนได้สะดวกยิ่งขึ้น
“ขอบคุณคะ” ร่างบางตอบรับเสียงใส ลืมสิ่งที่คิดเมื่อครู่ไปทันทีเมื่อมือหนายื่นมือมาให้จับ นัยต์ตาสวยช้อนขึ้นมองใบหน้ารูปไข่คมสัน ดวงตาสีน้ำตาลอบอุ่น รอยยิ้มเ้าเสน่ห์ชวนหลงใหล
“ผมว่าเราเปลี่ยนสรรพนามการเรียกดีกว่านะ แบบนี้มันดูห่างเหินเกินไป“ ร่างสูงพูดออกมาดื้อ ๆ
“แล้วท่านประธานจะให้เรียกว่าอะไรคะ” ลินล์ก็ถามทันที
“เรียกผมว่า เซทท์ ส่วนผมจะเรียกคุณว่า ลินล์ ดีไหมครับ” เซทท์บอกความ้าของตนให้ร่างบางฟัง
“ก็ได้คะ ลินล์เรียกว่าคุณเซทท์นะคะ”
“ครับ”
“งั้นลินล์ ขอไปทำงานก่อนนะค่ะ” ร่างบางพูดแล้วหมุนตัวเดินไปทันที
“ครับ” เซทท์มองตามร่างบางยิ้ม ๆ
ลินล์เดินมานั่งที่โต๊ะทำงาน เอาแฟ้มเอกสารมาตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนที่จะส่งต่อให้กับท่านประธาน
ร่างบางรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันนะ ทั้ง ๆ ที่ทำงานแต่โดนนั่งจ้องทั้งวันเนี่ย แล้วร่างบากก็กลับมาคิดวนที่เดิม เื่ที่ร่างสูงจะจำคืนนั้นของเราได้มั้ย เห้อ!
“ไม่คิด ๆ ทำงาน ๆ” ร่างบางบ่นกับตัวเองเสียงเบา
ตอนพักเที่ยงร่างบางจะลงไปกินอาหารที่ร้านอาหารข้าง ๆ บริษัทเป็ส่วนใหญ่ เธอไม่ค่อยชอบที่จะกินอาหารในบริษัท เนื่องจากเธอเพิ่งมาทำงานได้ไม่นานยังไม่ค่อยได้ทำความรู้จักกับใคร โดยปกติเดียร์น่า หรือเชอร์รีลจะสลับมากินข้าวและพูดคุยกับลินล์ในเวลาพักเที่ยงของทุกวัน แต่จะไม่เข้าไปวุ่นวายที่บริษัท เพราะลินล์ไม่อนุญาต
ร่างบางเดินมาถึงร้านอาหารก็ตรงเข้าไปนั่งที่โต๊ะในสุดทันที นั่งรอไม่ถึง 2 นาทีก็มีอาหารมาวางตรงหน้าพร้อมกับเดียร์น่าที่เดินเข้ามาพอดี
“เป็ไงบ้างคะที่ทำงานวันนี้” เดียร์น่าเปิดประเด็นหลักทันที
“เมื่อเช้าท่านประธานย้ายโต๊ะทำงานของลินล์เข้าไปในห้องอะดิ แล้วระหว่างทำงานนะ โดนจ้องแทบจะตลอดเวลาเลย”
ลินล์เล่าให้เดียร์น่าฟังพร้อมทั้งทานอาหารไปด้วย เพราะมีเวลาพักจำกัด ทำงานคนอื่นมันไม่เหมือนงานของตัวเองอะนะ ต้องเรียบร้อยหน่อย
หลังจากทานข้าวเสร็จลินล์จึงรีบกลับไปทำงานที่บริษัทต่อ ระหว่างทางร่างบางให้ยินเสียงซุปซิบเกี่ยกับตนเบา ๆ ตลอดทาง
แสงแดดอุ่น ๆ ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง เซทท์ตื่นนอนั้แ่ 6โมงเช้า เมื่อคืนเขานอนที่บริษัทเพราะทำงานดึก จึงไม่อยากขับรถกลับไปนอนที่บ้าน
ห้องทำงานของเซทท์จะมีประตูทางเข้าไปยังห้องนอนส่วนตัว ซึ่งกินพื้นที่ไปเกือบครึ่งชั้นเลยก็ว่าได้ เพื่อความสะดวกเวลาที่ตนทำงานเพลินจนลืมเวลา ในบางครั้งเขาทำงานไปเรื่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เช้าเสียแล้ว
เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกมานั่งที่โต๊ะทำงาน
ผัวะ !! เสียงประตูเปิดเข้ามาในห้อง
“เมื่อคืนแกนอนที่นี่เหรอ” คนเป็แม่เปิดประตูเข้ามาเสียงดัง
“แม่ครับ ทำไม่ไม่เคาะก่อน” เซทท์เงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตู
“แล้วทำไมต้องเคาะ”คุณหญิงตอบลูกชายอย่างกวน ๆ
“มารยาทครับแม่” เซทท์ก็ไม่ยอมคนเป็แม่เช่นกัน
“พอดีแม่ไม่อยากมีมารยาทกับแกนะซิ” คุณหญิงจิกกัดเบา ๆ
“มีอะไรครับ” เซทท์เริ่มเข้าเื่ ถ้าหากแม่ตนรีบมาหาแบบนี้จะต้องมีเื่อะไรแน่เลย
“สัปดาห์หน้ามีประชุมบอร์ดบริหาร แกเตรียมตัวหรือยัง” คุณหญิงถามไถ่ด้วยความเป็ห่วงลูกชาย เพราะการขึ้นรับตำแหน่งของเซทท์เป็ที่กังขา หลาย ๆ ฝ่ายต่างจ้องจะโจมตีเซทท์ทันทีถ้าหากเซทท์พลาด
“เตรียมไว้บ้างแล้วครับ” ร่างสูงตอบกลับแม่ของตน เขารู้สึกว่าแม่เป็ห่วงเขามากเกินไปแล้ว เขาโตพอแล้วที่จะไม่ต้องอยู่ใต้ปีกของแม่ หรือต้องให้แม่คอยปกป้อง
“ระวัง ๆ ด้วยนะ มีคนชอบก็มีคนไม่ชอบเราเหมือนกัน”
“ครับ ผมจะระวังตัว”
“แล้วเลขาละเป็ไงบ้าง”
“ก็ดีครับ”
“แล้วนี่ยังไง ทำไมย้ายโต๊ะทำงานน้องมาอยู่ในห้องแบบนี้” คุณหญิงถามด้วยความสงสัยเป็อย่างมากเพราะลูกของเธอไม่ค่อยจะใส่อะไรมากมายนักกับพนักงานคนหนึ่งได้ แสดงว่าจะต้องมีอะไรสักอย่างแน่นอน
“ผมก็แค่อยากทำความรู้จักสักหน่อย เห็นแม่เป็คนเลือกมาเองกับมือ” เซทท์ตอบ มองแม่ของตนด้วยสายตาเ้าเล่ห์
“แม่แค่เลือกตามความเหมาะสมเท่านั้น อ้อ! แกเคยเห็นตอนน้องถอดแว่นไหม?”
…………………………………………………….
