“พี่อาผิง สตรีผู้นี้ได้คืบจะเอาศอก ท่านให้เงินนางเพราะอยากให้นางใช้ชีวิตวัยชราอย่างดี นางกลับมิสำนึก ข้าแนะนำให้ท่านบังคับหย่านางไปเลย”
“ใช่ อาผิง เ้าอย่าได้ใจอ่อนอีก เ้าสงสารนาง แต่นางมิสงสารเ้าเลย”
“ถึงจะว่าเช่นนั้น แต่นางก็เป็แม่ของเด็กๆ อยู่ดี ข้ามิอาจปล่อยให้พวกเขาดูนางใช้ชีวิตยากลำบากตอนแก่ได้” ซ่งผิงดีใจที่เสียงส่วนใหญ่เข้าข้างเขา ความจริงแล้วเขามิอยากให้เงินเฉียวซื่อแม้แต่อีแปะเดียว
“ข้ามิเอาเงินมากมายก็ได้ พวกเ้าให้เงินข้ามาห้าสิบตำลึงพอ” เฉียวซื่อตระหนักดีว่าขณะนี้ทุกคนเกลียดนาง นางอยู่ที่หมู่บ้านสกุลโจวต่อมิได้ จึงทำได้เพียงเอาเงินส่วนนี้ แล้วไปหาสถานที่ไร้ผู้คนอยู่แบบปกปิดตัวตน
ทุกวันนี้มีเงินถึงจะเป็หัวหน้า เงินห้าสิบตำลึงซื้อที่ดินดีๆ ได้หลายหมู่
“ห้าสิบตำลึงก็ห้าสิบตำลึง เวลานี้ข้าจะให้หนังสือสัญญาหย่าและหนังสือตัดความสัมพันธ์แม่ลูกกับเ้า” ห้าสิบตำลึงแลกวันเวลาอันสงบสุข ถือว่าคุ้มค่า
ซ่งผิงกลับไปที่ห้องหนังสือ เขารีบเขียนหนังสือสัญญาหย่าและหนังสือตัดความสัมพันธ์แม่ลูกอย่างเป็ระเบียบ แล้วนำไปให้เฉียวซื่อลงนาม
หนังสือสัญญาหย่าและหนังสือตัดความสัมพันธ์แม่ลูกนี้ต้องมีอย่างละสามฉบับ ฉบับหนึ่งเก็บไว้ในหมู่บ้าน อีกฉบับหนึ่งให้คู่กรณี และฉบับสุดท้ายให้ศาลาว่าการเป็ผู้เก็บ หนังสือสัญญาเหล่านี้ เพียงให้หลี่เจิ้งประทับตราก็จะมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายทันที
หลี่เจิ้งของหมู่บ้านสกุลโจวคือปู่ของโจวซู่ซิน เมื่อหมู่บ้านเกิดเื่ใหญ่เช่นนี้ เขาจึงมิกล้าหาเื่ ยอมหยิบสัญญากลับบ้านไปประทับตรา และเอากลับมาให้ซ่งผิงกับเฉียวซื่อแต่โดยดี
“เฉียวจินฮวา พวกเาาวบ้านในหมู่บ้านสกุลโจวทนเ้ามิได้ เ้าเก็บหนังสือสัญญาหย่าแล้วก็ออกจากหมู่บ้านไปเสีย” โจวหลี่เจิ้งส่งสัญญาหนึ่งฉบับให้เฉียวซื่อ เฉียวซื่อตอบรับด้วยเสียงเ็า “หมู่บ้านสกุลโจวของพวกเ้าจนเช่นนี้ ข้าก็มิอยากอยู่หรอก ข้าเก็บข้าวของเสร็จ พรุ่งนี้ข้าจะย้ายออกไป”
ท่านแม่ดูมิเสียใจเลยสักนิดที่ต้องจากบ้านหลังนี้ไป คิดถึงนางบ้างหรือไม่!นางเป็ลูกสาวนะ
ซ่งเป่าจูมองแม่ของตนเองอย่างผิดหวัง นางคิดว่าตนเองเป็ผลผลิตจากความรักของพ่อแม่ ที่ไหนได้กลับเป็เด็กที่ได้มาโดยมิได้ตั้งใจ เกิดมาเพื่อให้ท่านแม่อยู่รอด
“เพื่อนบ้านทุกท่าน วันนี้ให้พวกท่านดูเื่น่าอับอายเช่นนี้ ขออภัยจริงๆ” ซ่งผิงประสานมือคำนับขอโทษ
เขาเองก็มิอยากทะเลาะกับเฉียวซื่อถึงขั้นนี้ หากเฉียวซื่อมิได้บีบบังคับกัน เขาคงมิเจราจาหย่ากับนาง ถึงเขาหย่า เขาก็ยังเห็นแก่หน้าเด็กๆ จึงได้ให้หนังสือสัญญาหย่ามิใช่บังคับหย่า
ด้วยคำกล่าวของซ่งผิง ทุกคนเลยก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ โจวซู่ซินมิกล้าแข่งดื่มกับจิ่นเซวียนต่อแล้ว เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้นางเห็นสถานะของจิ่นเซวียนในบ้านซ่งได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ยุคนี้คนมีเงินคือพี่ใหญ่ ซย่าจิ่นเซวียนควักเงินห้าสิบตำลึงออกมา เพื่อไล่เฉียวซื่อ พวกชาวบ้านมิเพียงมิรังเกียจ ยังคิดว่านางใจดีอีกด้วย เฮ้อ!เด็กคนนี้ฉลาดยิ่งนัก หากนางคือซย่าจิ่นเซวียน นางคงมิยอมเสียเงินสักอีแปะเดียวให้เฉียวซื่อ
“เป่าจู เห็นแก่หน้าของพี่ห้ากับท่านพ่อ ขอแค่เ้ากลับเนื้อกลับตัวใหม่ พวกเราทุกคนจะปฏิบัติกับเ้าเหมือนคนในครอบครัว” ซ่งเป่าจูยืนตัวนิ่งเป็เสาอยู่ตรงนั้นจนจิ่นเซวียนเริ่มรู้สึกว่านางเกะกะ หากมิเห็นแก่ความรักของซ่งจื่อเฉิน นางคงมิสนใจซ่งเป่าจู
นางจับความผิดหวังที่ปรากฏอยู่บนหน้าของซ่งเป่าจูได้ นางคงมิคาดคิดว่าแม่ของตนเองจะเห็นแก่ตัวเช่นนี้ นางคิดว่าเฉียวซื่อรักนางมาตลอด ที่ไหนได้พอท่านพ่อให้เฉียวซื่อเขียนหนังสือตัดความสัมพันธ์แม่ลูก แม่ของนางกลับเขียนโดยมิลังเลเลยสักนิด มิเพียงแค่นั้นยังตัดความสัมพันธ์กับพวกพี่ชายของนางอีกด้วย
มิมีผู้ใดใจอำมหิตเท่าเฉียวซื่ออีกแล้ว
“พี่สะใภ้ห้า ข้าเข้าใจท่านผิดไป ขอโทษด้วยเ้าค่ะ” ซ่งเป่าจูเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเฉียวซื่อ แต่นางก็ยังเกลียดจิ่นเซวียนอยู่ดี นางคิดว่าหากมิมีจิ่นเซวียน นางคงมิต้องรับรู้ความจริงอันโหดร้ายนี้
“นั่งเถิด คนในครอบครัวเดียวกัน เ้าอย่าเก็บมาใส่ใจเลย” จิ่นเซวียนมิโง่ นางรู้ดีว่าซ่งเป่าจูเกลียดนาง บนโลกนี้มีคนเกลียดนางมากมาย นางจึงมิคิดจะสนใจ
“เซวียนเซวียน เป่าจู เ้าอย่าเศร้าเลย บางคนบางเื่เราไปบังคับมิได้หรอก เทียบกับอาเหมยแล้ว ชีวิตของเ้าดีกว่านางมากนัก นางถูกท่านแม่ทิ้งขว้างั้แ่เล็ก” เฉินซื่อคีบปลาชิ้นหนึ่งให้และบอกซ่งเป่าจูให้ปล่อยวาง แม้นางจะเกลียดซ่งเป่าจู แต่นางรู้สึกเห็นใจซ่งเป่าจู เมื่อเห็นเฉียวซื่อทอดทิ้งซ่งเป่าจูเช่นนี้ นางเป็แม่คน มิมีทางทิ้งลูกของตนเองเช่นนั้นแน่
“พี่สะใภ้ใหญ่ ขอบคุณท่านที่มองข้ามเื่ในอดีตและให้อภัยข้าเ้าค่ะ”
ซ่งเป่าจูตระหนักถึงสถานการณ์ตอนนี้ดี นางรู้ว่าเมื่อมิมีท่านแม่แล้ว ชีวิตของนางคงมิราบรื่นนัก
“เป่าจู ข้าขอร้องเ้าเพียงข้อเดียว เ้าจงมองดูคนรอบตัวให้ดีๆ อย่าได้ถูกผู้ใดหลอกใช้แล้วเ้ายังเข้าไปเขาช่วยอีก” คำพูดนี้เฉินซื่อตั้งใจพูดให้โจวซู่ซินฟัง หากโจวซู่ซินมิยุยง ซ่งเป่าจูคงมิก่อเื่
“ขอบคุณพี่สะใภ้ใหญ่ที่สั่งสอนเ้าค่ะ” คนรอบตัวคือผู้ใด ซ่งเป่าจูรู้ดี แม้ปากจะตอบรับ แต่ในใจกลับมิคิดเช่นนั้น นางคิดว่าโจวซู่ซินดีกว่าจิ่นเซวียนร้อยเท่า หากโจวซู่ซินเป็พี่สะใภ้ ชีวิตของนางคงจะดีขึ้นเรื่อยๆ
ความวุ่นวายของบ้านซ่งส่งผลกระทบใหญ่ต่อโจวซู่ซิน ผู้ที่มีสายตาเฉียบแหลมต่างก็รู้กันดีว่าผู้ใดยุยงให้ซ่งเป่าจูก่อเื่
“พี่สะใภ้เล็ก พี่จื่อเฉิน ข้าอิ่มแล้ว พวกท่านค่อยๆ ทานกันนะเ้าคะ” โจวซู่ซินเห็นว่าทุกคนมองมาทางนางด้วยสายตาแปลกๆ จนใจของนางรู้สึกพะว้าพะวงมิเป็สุข นางอยากออกไปจากที่นี่ รีบกลับบ้านไปสูดอากาศ
โจวหลี่เจิ้งกับท่านแม่ก็ตามน้ำกลับมากับนางด้วย
พวกเขารู้ดีว่าทุกคนมองพวกเขาอย่างไร มิคิดเลยว่าแผนการที่เตรียมมานานจะพังลงเช่นนี้
“ซู่ซิน จากนี้เ้าอย่าไปมาหาสู่กับซ่งเป่าจูอีก คนโง่เง่าเช่นนาง มิคู่ควรเป็สหายกับเ้า” เมื่อเดินออกมาจากบ้านซ่ง โจวหลี่เจิ้งก็เอ่ยสั่งสอนโจวซู่ซินด้วยท่าทางจริงจัง
“ท่านปู่ หนนี้ข้าทำพลาดไป ขอโทษเ้าค่ะ” โจวซู่ซินรู้ว่าความรุ่งโรจน์ทั้งหมดของนางมาจากท่านปู่ ั้แ่นางเกิด ท่านปู่ก็รักและทะนุถนอมนางยิ่งนัก บางหนเขายังรักนางมากกว่าพี่ใหญ่เสียอีก
“ท่านพ่อ พวกเราล่วงเกินบ้านซ่งไปแล้ว หากพวกเขาทำให้พวกเราเดือดร้อน จะทำอย่างไรกันดีเ้าคะ?” หานซื่อกลัวว่าจิ่นเซวียนจะแก้เผ็ดลูกสาวของนาง นางจึงหวังว่าพ่อสามีจะหาทางแก้ไข
“พวกเ้ากลัวสิ่งใด นางเป็เพียงแม่หนูเท่านั้น พวกเ้าอย่าลืมว่าข้าคือหลี่เจิ้ง คือผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก” โจวหลี่เจิ้งยิ้มเยาะอย่างมิใส่ใจ เป็เพียงคนต่างถิ่นอยากจะวางอำนาจในถิ่นของเขาหรือ ช่างน่าขำยิ่งนัก
“ท่านปู่ อิงจื่อกับอาสะใภ้รองทำเกินไปแล้ว พวกนางช่วยคนนอกรังแกพวกเราเ้าค่ะ” โจวซู่ซินฟ้องอย่างโกรธเคือง นางหวังว่าท่านปู่จะให้ความเป็ธรรมและสั่งสอนโจวซู่อิง
“จากนี้เ้าดีกับอิงจื่อให้มากเสียหน่อย นางพุ่งเป้ามาที่เ้ามิใช่เพราะเ้าทำผิดหรือ”
โจวหลี่เจิ้งเข้าใจความลำบากของโจวซู่อิง แต่เขาทำสิ่งใดมิได้ พวกเขาตระกูลโจวมีฐานะมิได้ดีนัก จึงได้แต่มอบสิ่งดีๆ ให้ผู้ที่มีประโยชน์มากที่สุด หากอิงจื่อหน้าตางดงาม เขาคงปฏิบัติกับนางอย่างดีเช่นกัน
โจวซู่ซินจงใจใช้การแต่งงานของนางกดดันโจวหลี่เจิ้ง “ท่านปู่ คุณชายหวังชื่นชอบข้ายิ่งนัก เพื่อพวกเราตระกูลโจว ข้ายินดีแต่งงานกับเขาเ้าค่ะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้