“หากเนี่ยเฉินจะเข้าร่วมการคัดเลือกของห้าสถานศึกษา เ้าวางแผนจะทำเช่นไร?” เนี่ยเทียนไห่ที่ไม่ได้ส่งเสียงมาตลอดมองเนี่ยอวิ๋นเหอแวบหนึ่งแล้วเอ่ยช้าๆ
“ข้อนี้ข้าคาดไว้แต่แรกแล้ว” เนี่ยอวิ๋นเหอยิ้มจางๆ เอ่ยว่า “ถ้าเนี่ยเฉินมีสมองสักหน่อย เขากลับมาที่เมืองอวิ๋นไห่มิใช่เพื่อหาเื่ตระกูลเนี่ย ทว่าคิดจะหาสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อเปลี่ยนให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นก่อน ดังนั้น เขาต้องเข้าร่วมการคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้า ่ชิงให้ได้โควตาของสถานศึกษาหนึ่งในห้าแห่งแน่นอน”
เอ่ยถึงตรงนี้ เนี่ยอวิ๋นเหอก็ส่งเสียงหัวเราะ
เพียงแต่ในรอยยิ้มกลับเปี่ยมด้วยความทะนงตนจางๆ
“ถ้าเขาเข้าร่วมการคัดเลือก ข้าจะให้เขามีมาแต่ไร้กลับ ฝังร่างอยู่บนเวทีประลอง”
ในเมื่อก่อนหน้านี้ เนี่ยเทียนไห่ตัดสินใจที่จะกำจัดบุตรชายคนโตของตนเองอยู่แล้ว ดังนั้น เวลานี้เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก และแสดงท่าทางยอมรับทุกสิ่งที่เนี่ยอวิ๋นเหอกระทำโดยปริยาย
ถึงอย่างไร เนี่ยเฉินก็ถูกขับไล่ไปแล้ว เนี่ยอวิ๋นเหอต่างหากที่เป็บุตรชายเพียงคนเดียวของตนเอง
เขาลืมไปว่าเขาก็มีความเกี่ยวพันทางสายโลหิตกับเนี่ยเฉินและเืข้นกว่าน้ำเช่นกัน
“อวิ๋นเหอ ชื่อเสียงของตระกูลเนี่ยของเราต้องพึ่งพาเ้าแล้ว”
เนี่ยเทียนไห่ยิ้มแย้มพูดจากับบุคคลชั้นผู้าุโหลายคน พวกเขาไว้วางใจในความสามารถของเนี่ยอวิ๋นเหออย่างยิ่ง การคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้าในครั้งนี้ ต้องมีที่นั่งของเขาแน่นอน
ถึงตอนนั้น ตระกูลเนี่ยย่อมได้ดิบได้ดีตามไปด้วย
“ต้องทำสำเร็จแน่นอน”
นับจากเซียวเฉินสังหารผู้เข้มแข็งสิบกว่าคนของตระกูลเนี่ย ตระกูลเนี่ยราวกับไฟมอด ไม่มีความเคลื่อนไหวมาตลอด ทุกคนหารือกันหลายครั้ง ทว่าเซียวเฉินกลับยินดีที่เป็เช่นนี้
ไม่มาหาเื่นับว่าดีที่สุด ถึงมาเขาก็ไม่กลัว
ยังมีเวลาอีกสามวันสั้นๆ ก่อนถึงการคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้า เซียวเฉินไม่คิดจะทะลวงนิรวาณขั้นสองของคัมภีร์หงสาานิรวาณ แต่กะจะยกระดับให้ความสามารถของตนเองไปถึงขั้นแรกกำเนิดหกชั้นฟ้า
เช่นนี้ ความเป็ไปได้ในการได้รับเลือกก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ตามที่เขารู้ รุ่นเยาว์ที่เหยียบย่างเข้าสู่ขั้นแรกกำเนิดในเมืองอวิ๋นไห่มีนับไม่ถ้วน ย่างเข้าสู่ขั้นแรกกำเนิดห้าชั้นฟ้าขึ้นไปอย่างน้อยมีมากถึงยี่สิบกว่าคน ในบรรดานั้นก็มีเนี่ยอวิ๋นเหอน้องชายของตนเองด้วย ครั้งนี้ การคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้าในเมืองอวิ๋นไห่มีโควตารวมแค่ยี่สิบห้าคนเท่านั้น ล้ำค่าหายากเป็พิเศษ
ดังนั้น เขาจำเป็ต้องได้รับคัดเลือกเป็หนึ่งในบรรดายี่สิบห้าคนนี้
วิ้ง!
แสงเสวียนของเซียวเฉินกะพริบไม่หยุด ดุจดวงดารา ภายใต้อุณหภูมิของเปลวเพลิงอันร้อนระอุ แสงเสวียนอันตระการทำให้ทั่วทั้งห้องสะท้อนและตัดกันอย่างงดงามเป็พิเศษ
พริบตา ก็ผ่านไปสามวัน
วันนี้ เมืองอวิ๋นไห่มีฝูงชนคลาคล่ำ ทุกคนต่างจิตใจไม่สงบ
เพราะวันนี้เป็วันคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้าแห่งแคว้นชางหวง
กลุ่มผู้มีพร์แห่งเมืองอวิ๋นไห่ต่างเตรียมตัวออกเดินทาง การเข้าไปฝึกวิชาในสถานศึกษาทั้งห้าเป็ความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวผู้มีความสามารถทุกคนในแคว้นชางหวง อัจฉริยบุคคลที่สถานศึกษาทั้งห้าได้อบรมสั่งสอนและผลิตออกมามีนับไม่ถ้วน ถึงขั้นมีคนเคยข้ามพรมแดนไปเป็ผู้นำแคว้นอื่น มีคนก่อตั้งสำนักของตนเอง กลายเป็บุคคลโดดเด่นระดับแนวหน้า สถานศึกษาทั้งห้านั้นยอดเยี่ยมเพียงใด
กลางลานกว้างในเมืองอวิ๋นไห่ แต่ละตระกูลใหญ่มารวมกันแล้ว ส่วนบนลานกว้างขนาดั์ เงาร่างห้าสายนี้ บุรุษสามสตรีสอง จากซ้ายไปขวาตามลำดับคือซือคงอวี่ผู้คุมสอบแห่งสถานศึกษาเซิ่งเต้า หลวนโย่วผู้คุมสอบแห่งสถานศึกษาชางหลง หล่างซั่วผู้คุมสอบแห่งสถานศึกษาเทียนเฉิน ฉินเหยาผู้คุมสอบแห่งสถานศึกษาตี้ซิง และมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ผู้คุมสอบแห่งสถานศึกษาชางหวง
คนทั้งห้าล้วนเป็คนที่มีความสามารถแข็งแกร่ง ผู้เข้มแข็งขั้นตานฟ้า
สายตาที่ทุกคนมองผู้คุมสอบทั้งห้าคนล้วนเร่าร้อนอย่างยิ่ง สถานศึกษาแต่ละแห่งในห้าแห่งนี้ล้วนเป็สถาบันชั้นนำของแคว้นชางหวง มีผู้เข้มแข้งนับไม่ถ้วน ผู้ที่เดินออกจากสถานศึกษาทั้งห้าได้ล้วนเป็ผู้มีพร์ทุกคน
ส่วนเซียวเฉินก็มานานแล้ว
เซียวเฉินมองผู้คุมสอบทั้งห้าท่านบนเวที เขาอดส่งเสียงพึมพำไม่ได้ “นี่คือการคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้าหรือ...”
จากนั้นก็สาวเท้าเดินไปข้างหน้า
เมื่อซือคงอวี่ ผู้คุมสอบแห่งสถานศึกษาเซิ่งเต้าได้เห็นผู้เยาว์มากมายตรงเบื้องหน้าก็เอ่ยว่า “การคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้า ้าเพียงผู้มีพร์ ไม่้าเศษสวะ เน้นจำนวนน้อยมีคุณภาพแต่ไม่เน้นปริมาณมาก ดังนั้น แต่ละแห่งในพื้นที่จิ่วโจวของแคว้นชางหวงมีโควตายี่สิบห้าคน รวมทั้งสิ้นหนึ่งพันห้าร้อยยี่สิบห้าคน หวังว่าพวกเ้าจะถนอมโอกาสในครั้งนี้”
“เอาล่ะ คนที่อยากเข้าร่วมการคัดเลือกขึ้นเวทีได้ จับคู่สู้ตัวต่อตัว ผู้ชนะได้เลื่อนขั้น ส่วนผู้แพ้คัดออก”
ระหว่างที่เอ่ยวาจา มีคนสองคนะโขึ้นเวทีต่อสู้แล้ว สองคนนี้ล้วนมีความสามารถขั้นแรกกำเนิด ทั้งสองฝ่ายประมือกัน ฝีมือสูสี ส่วนทางอื่นก็เป็เช่นเดียวกัน เวทีต่อสู้รวมห้าแห่ง มีผู้เปี่ยมพร์กำลังปะทะกันอยู่บนเวทีต่อสู้แต่ละแห่ง
และเซียวเฉินคือหนึ่งในบรรดานั้น
“นี่มันเศษสวะของตระกูลเนี่ยมิใช่หรือ เหตุใดเ้าจึงมาเข้าร่วมการคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้าด้วย เ้าคู่ควรแล้วหรือ?” ผู้พูดคือเสิ่นอวี้หยางผู้มีพร์ของตระกูลเสิ่น มีความสามารถขั้นแรกกำเนิดหกชั้นฟ้าระดับต้น นับว่าเป็บุคคลโดดเด่นในบรรดาผู้มีพร์แห่งเมืองอวิ๋นไห่
เซียวเฉินมองเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก เอ่ยว่า “ข้ามาเข้าร่วมการคัดเลือก ไม่ใช่มาฟังเ้าพูดไร้สาระ อีกสักครู่ให้ข้าดูหน่อยว่าเ้ากับข้าใครเป็เศษสวะกันแน่”
ระหว่างที่เอ่ยวาจา สองมือของเซียวเฉินมีพลังเสวียนแกร่งกร้าวพวยพุ่งถึงขั้นแรกกำเนิดหกชั้นฟ้า ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้เสิ่นอวี้หยางตกตะลึง
ครู่ต่อมา เงาร่างของเซียวเฉินก็ขยับ ต่อยออกหนึ่งหมัด มีเสียงัคำราม ยิงัทองมาเข่นฆ่า
แม้เสิ่นอวี้หยางกับเซียวเฉินมีความสามารถขั้นแรกกำเนิดหกชั้นฟ้าเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรเคล็ดวิชาก็ห่างชั้นกันเกินไป เคล็ดวิชาของเซียวเฉินมาจากคัมภีร์หงสาานิรวาณเคล็ดวิชาขั้นศักดิ์สิทธิ์ ถึงจะเป็เคล็ดวิชาขั้นนิล แต่เคล็ดวิชาขั้นนิลธรรมดาจะเทียบชั้นกันได้อย่างไร
ประมือครั้งแรก เซียวเฉินเป็ฝ่ายเหนือกว่าโดยสมบูรณ์ ใช้สภาวะดุดันสะกดเสิ่นอวี้หยาง ทำให้เขาหลบหนีไม่ได้ จนกระทั่งต่อสู้ได้ชัย เพียงครู่เดียว เสิ่นอวี้หยางก็ถูกกำปั้นของเซียวเฉินต่อยกระอักโลหิตลอยออกไป
เซียวเฉินมิได้ลงจากเวที ทว่ากวาดตามองเสิ่นอวี้หยางที่ร่วงพื้นอย่างชืดชา มีเสียงเรียบๆ ดังจากปากสองคำ
“เศษสวะ”
ประโยคเดียว ทำให้เสิ่นอวี้หยางถึงกับปฏิเสธไม่ได้ ชั่วขณะเพลิงโทสะก็จู่โจมหัวใจ พ่นโลหิตสดออกมาคำหนึ่งและหมดสติไป
ผู้คุมสอบแห่งสถานศึกษาทั้งห้าต่างผงกศีรษะนิดๆ ให้กับการแสดงออกของเซียวเฉิน ทว่าเซียวเฉินมิใช่คนเดียวที่ทำให้พวกเขาพอใจ เนี่ยอวิ๋นเหอก็ได้รับการยอมรับเช่นกัน และยังมีหนุ่มสาวผู้เปี่ยมพร์คนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งด้วย
หลังจากเซียวเฉินชนะเสิ่นอวี้หยางและต่อสู้อีกสี่รอบติดต่อกัน ทุกคนซึ่งเป็ขั้นแรกกำเนิดสี่ชั้นฟ้าขึ้นไปพ่ายแพ้ทั้งหมด ความชอบในการต่อสู้เช่นนี้ต่อให้เป็คนตระกูลเนี่ยก็พรั่นพรึง
นี่คือเนี่ยเฉินเศษสวะคนนั้นหรือ...
ความสามารถและพร์เช่นนี้เกรงว่าคงไม่ด้อยไปกว่าเนี่ยอวิ๋นเหอเท่าไรนัก เช่นนั้นเหตุใดก่อนหน้านี้เขาต้องทนถูกหยามเกียรติอยู่ที่ตระกูลเนี่ยสิบกว่าปี!
ในใจของคนตระกูลเนี่ยต่างสงสัย
จากนั้นสายตาก็มองไปทางเนี่ยอวิ๋นเหอ เห็นเนี่ยอวิ๋นเหอต่อยหมัดออก พลังเสวียนพวยพุ่งประหนึ่งคลื่นสมุทร อัดคนผู้หนึ่งลงจากเวทีต่อสู้
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พันคนถูกคัดออกไปกว่าครึ่ง คนที่เหลืออยู่นั้น ส่วนมากล้วนเป็ผู้มีพร์โดยแท้จริง
“เนี่ยอวิ๋นเหอของตระกูลเนี่ยคนนั้นไม่เลว พร์ไม่ธรรมดา มีความสามารถขั้นแรกกำเนิดเจ็ดชั้นฟ้า ฝีมือดี เด็กหนุ่มเปี่ยมพร์เช่นนี้ ต่อให้เป็ศิษย์บางคนที่โตกว่าในสถานศึกษาเซิ่งเต้าก็ไม่แน่ว่าจะเป็คู่ต่อสู้ของเขาได้” ซือคงอวี่ยิ้มกล่าว ความหมายในนั้นไม่ต้องบอกก็รู้
“ดูท่าพี่ซือคงหมายตาเนี่ยอวิ๋นเหอไว้?” หลวนโย่วเอ่ยยิ้มๆ มองเนี่ยอวิ๋นเหอพลางผงกศีรษะ “เป็ต้นกล้าที่ไม่เลวจริงๆ”
“ซูเจิ้นเซียวของตระกูลซูก็ไม่เลว”
“สถานศึกษาชางหลงจองเด็กที่ชื่อหานเซียวเซิงคนนั้น”
“เจียงรั่วเสวี่ยคนนั้นต้องเข้าสถานศึกษาตี้ซิง”
ผู้คุมสอบทั้งห้าเ้าพูดทีข้าพูดที ดวงตาทุกคนมีรอยยิ้ม มีเพียงมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์แห่งสถานศึกษาชางหวงที่ไม่ได้เอ่ยวาจามาโดยตลอด ทว่าสายตากลับจับจองคนผู้หนึ่งไว้นานแล้ว
“มู่หรงเ้ามีผู้เยาว์ที่หมายตาไว้หรือไม่?” หล่างซั่วเอ่ยยิ้มๆ
สายตาของผู้คุมสอบคนอื่นๆ อีกสี่คนต่างมองไปทางมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ ในบรรดาสถานศึกษาทั้งห้า สถานศึกษาเซิ่งเต้าเป็อันดับหนึ่ง สถานศึกษาตี้ซิงเป็อันดับสอง อันดับต่อมาคือสถานศึกษาชางหวง ทว่าสถานศึกษาชางหวงกลับชักช้าไม่เลือกคนเตรียมไว้ เื่นี้ทำให้สถานศึกษาอื่นๆ อีกสี่แห่งฉงนใจ
“เซียวเฉิน”
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ค่อยๆ เอ่ยออกมาสองคำคลายความสงสัยของทุกคน
ทุกคนมองไปตามสายตาของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ จากนั้นต่างค่อยๆ พากันจับจองเด็กหนุ่มที่ทำให้มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์หมายตาไว้...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้