"หยวี่น้อยเ้าได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์แล้วรึ?!"
เจียงเฉินรู้สึกราวกับโดนตบหน้า แต่รอยยิ้มของเขานั้นไม่ได้ลดลงไปด้วย ยิ่งเยี่ยนเฉินหยวี่แข็งแกร่งขึ้นเท่าไรเขายิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ชีพจรเก้าหยินเป็กายศักดิ์สิทธิ์รูปแบบหนึ่ง และมันขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบได้ กายศักดิ์สิทธิ์สำหรับมนุษย์เหมือนกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่สัตว์อสูร พวกเขาเป็ที่รักของ์ ความเร็วในการบ่มเพาะนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบได้ นอกจากนี้มันไม่ได้จำกัดแค่ความเร็วในการบ่มเพาะพวกเขายังมีพร์ที่น่ากลัวอีก คนที่มีกายศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจตัดสินด้วยสามัญสำนึก
"ท่านพี่เจียงเฉิน ที่ข้ามีเป็แบบนี้ได้ทั้งหมดเป็เพราะท่านแท้ๆ ท่านได้ช่วยชีวิตข้าไว้ ข้ายังไม่แสดงความขอบคุณใดๆแก่ท่านเลย"
เยี่ยนเฉินหยวี่พูดตามตรง
"แล้วหยวี่น้อยจะตอบแทนท่านพี่คนนี้อย่างไรหรือ?"
เจียงเฉินพูดด้วยร้อยยิ้มเ้าเล่ห์
"งั้นเ้าก็เข้าวิวาห์กับเขาซะสิ จัดให้ไว หยุดทำตัวหวานเลี่ยนน่ารังเกียจต่อหน้าบิดาซะที"
หวงต้าไม่สามารถทนได้อีก
"เ้าหมานิสัยไม่ดี"
เยี่ยนเฉินหยวี่ถลึงตาใส่หวงต้า เมื่อนางได้ยินเขาพูดว่าวิวาห์ ใบหน้าของนางแดงก่ำ และเมื่อนางคิดถึงเื่นี้นางก็อายม้วน
หวงต้าเผยฟันขาวออกมาและพยายามหยอกล้อสาวน้อยไร้เดียงสาผู้นี้ แต่สิ่งที่เยี่ยนเฉินหยวี่พูดออกมาทำให้มันหยุดทันที
"เ้าหมาน้อย! อย่าพูดเื่ไร้สาระนะ"
โครม!...
แค่ได้ยินการเรียกตนเองว่า 'เ้าหมาน้อย' สามารถพิชิตหวงต้าได้ทันใด เจียงเฉินที่ยืนข้างๆมันได้หัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ หยวี่น้อยผู้ไร้เดียงสาพิชิตหวงต้าได้ หมายความว่าเ้าหมานี่ได้พบกับศัตรูตามธรรมชาติของมัน
หวงต้าได้ยืนขึ้นจากพื้นช้าๆ มันโมโหและน้ำตามันก็ไหลพรากออกมาจากดวงตามัน 'ยัยหนูนี่กล้าเรียกข้าว่าเ้าหมาน้อย? บัดซบ ส่วนไหนของข้าที่เล็กกันฟะ? เ้าสามารถที่จะหาหมาตัวอื่นที่แกร่งกว่าได้รึเปล่า? ถุ้ย... บิดามิใช่หมา'
"ตกลง รีบออกจากที่นี่กันดีกว่า"
เจียงเฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ท่านพี่เจียงเฉินคนจากนิกายเทียนเจี้ยนไปไหนแล้วหรือเ้าคะ?"
ในระหว่างทาง เยี่ยนเฉินหยวี่ได้ถามขึ้น
"ข้าได้สังหารพวกมันทั้งหมดแล้วล่ะ"
เจียงเฉินตอบหน้าตาย
ได้ยินคำว่าสังหารสีหน้าของเยี่ยนเฉินหยวี่แสดงออกมาถึงความไม่สบายใจในทันที แต่ก่อนนางเคยได้ยินเจียงเฉินพูดถึงการสังหารผู้คน เมื่อมองไปเจียงเฉินได้ถอนหายใจออกมาในใจ สาวน้อยผู้นี้ช่างอ่อนหัดและใสซื่อบริสุทธิ์เสียจริง
เพราะได้รับความทุกข์ทรมานมายาวนานหลายปีทำให้นางไม่เคยก้าวออกจากตระกูลเยี่ยนแม้แต่ก้าวเดียว สาวน้อยไร้เดียงสาผู้ไม่มีประสบการณ์ในโลกภายนอก การที่สังหารคนเป็สิ่งที่ผิดปกติและเป็เื่ไกลตัวนาง
"หยวี่น้อย เ้าจะต้องคุ้นเคยกับมันในภายหลัง"
เจียงเฉินจับไหล่หยวี่น้อยอย่างนิ่มนวล เยี่ยนเฉินหยวี่มีชีพจรเก้าหยิน เมืองเล็กๆอย่างเมืองชื่อไม่สามารถที่จะรั้งนางไว้ได้ตลอดไปและไม่ช้าก็เร็วนางจะต้องก้าวเข้าสู่โลกแห่งการฝึกตนอย่างแท้จริง หากจะให้ชีพจรเก้าหยินได้เติบโต การสังหารเป็ก้าวที่ไม่สามารถมองข้ามได้
"ข้าไม่้าสังหารผู้คนนี่เ้าคะ"
เยี่ยนเฉินหยวี่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง สำหรับนางแล้วการสังหารเป็เื่ที่โหดร้าย
เจียงเฉินไม่ได้พูดสิ่งใด เขาแค่ยิ้ม ดรุณีน้อยผู้นี้ได้ออกไปยังโลกภายนอกครั้งแรก นางจำเป็ต้องลงมือแน่เมื่อถึงเวลา
หวงต้ายังอึ้งไม่หายไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำตลอดทาง การที่มันโดนเรียกว่าเ้าหมาน้อยนั้นเป็ความพ่ายแพ้ของมันอย่างแท้จริง
ภายในโถงประชุมตระกูลเยี่ยน
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นได้เดินเข้าเดินออกห้องโถง ผู้าุโท่านอื่นๆดูเป็กังวลอย่างมาก ชีพจรเก้าหยินของเยี่ยนเฉินหยวี่เพิ่งตื่น และไม่เพียงแค่นั้นโรคร้ายที่ได้ทำให้นางทุกข์ทรมานก็ได้รับการรักษาแล้ว นางได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์แล้ว นี่เป็สิ่งที่ควรจะเฉลิมฉลอง แต่ตอนนี้ไม่มีผู้ใดยิ้มออกแม้แต่คนเดียว
"ข้าสงสัยว่าน้องเจียงเฉินกำลังทำสิ่งใดอยู่ตอนนี้...."
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นพูดสิ่งที่กังวลออกมา
"หยวี่เอ๋อร์เป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์แล้ว ด้วยชีพจรเก้าหยินที่ทรงพลัง นางจึงตัดสินใจที่จะไปช่วยน้องเจียง"
เยี่ยนหงไท่พูดขึ้น
"ท่านผู้นำตระกูลขอรับ น้องเจียงเฉินเป็ผู้มีพระคุณของตระกูลเยี่ยนของพวกเรานะขอรับ พวกเราไม่สามารถที่จะนั่งมองสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเขาโดยไม่ทำอะไรได้นะขอรับ!"
เยี่ยนหยางะโออกมาเสียงดัง เจียงเฉินเป็ผู้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ และตอนนี้เจียงเฉินได้พบกับอันตราย เขาไม่สามารถที่จะนั่งรออย่างสงบได้
"มันไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอก ด้วยความสามารถของน้องเจียงเฉิน หากพวกเขา้าสังหารเขาจริงๆ มันไม่ใช่เื่ที่สามารถทำได้โดยง่าย"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นพูดออกมาอย่างสบายๆ เขาพยายามที่จะปลอบตัวเขาเอง ในความจริงแล้วเขากังวลเกี่ยวกับเจียงเฉินยิ่งกว่าใคร แต่ตระกูลเยี่ยนไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ สาเหตุแรก ทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถทำสิ่งใดได้เพราะอนาคตของตระกูลเยี่ยน พวกเขาไม่สามารถที่ไปเป็ปรปักษ์กับนิกายเทียนเจี้ยนได้
อย่างที่สอง หลี่ชางเยว่เกลียดเจียงเฉินเข้ากระดูกดำ ในที่สุดมันก็มีโอกาสที่จะได้แก้แค้นให้บุตรชายของมัน และมันไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆแน่ แน่นอนว่าเขาจะต้องส่งคนมาคอยจับตาดูตระกูลเยี่ยนอย่างใกล้ชิด หากเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นพยายามที่จะช่วย หลี่ชางเยว่จะพยายามหยุดเขาอย่างแน่นอน เหมือนตอนที่เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นได้หยุดหลี่ชางเยว่ที่นอกูเาก่อนหน้านี้
เมื่อทุกๆคนที่นั่งในห้องโถงประชุมต่างแสดงท่าทีกังวลออกมา เยี่ยนเิได้มาที่โถงประชุมด้วยสีหน้าปิติยินดีสุดขีด
"ท่านผู้นำและท่านผู้าุโ! คุณหนูและน้องชายเจียงเฉินกลับมาแล้วขอรับ!"
"อะไรนะ? พวกเขากลับมาแล้ว"
สีหน้าเป็กังวลได้เปลี่ยนเป็มีความสุขในทันที พวกเขามองไปยังทางเข้าเห็นคนกำลังเดินเข้ามา ทั้งสามคน คือเจียงเฉิน เยี่ยนเฉินหยวี่ และด้านหลังพวกเขาเป็เ้าหมาเหลือง
เมื่อพวกเขาเห็นเจียงเฉิน บรรยากาศที่น่าหดหู่ได้เปลี่ยนเป็ปิติยินดีในทันใด
"ฮ่าฮ่า... น้องเจียงเฉิน ดีจริงๆที่เห็นเ้าไม่เป็ไร!"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นเริ่มหัวเราะดังๆออกมา
"น้องเจียง ศิษย์ทั้งสามจากนิกายเทียนเจี้ยนอยู่ไหนเหรอ?"
เยี่ยนหยางถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"พวกมันโดนเผากลายเป็เถ้าไปแล้ว"
หวงต้าได้พูดออกมา มันพยายามให้คนอื่่นรู้ว่ามันมีตัวตนอยู่ ทุกๆคนต่างคุ้นๆกับหมาตัวนี้ นี่มันไอ้หมาที่ปากเสียสุดๆนี่ ภาพลักษณ์ได้ฝังลึกลงไปในใจทุกคน เ้าหมานี่ทำให้ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนไล่ตามมันนับหมื่นลี้ ไม่อาจที่จะดูแคลนได้
แต่มันได้ตามเจียงเฉินมา พวกเขาไม่สามารถที่จะปฎิเสธมันได้
"น้องเจียง นี่เ้าได้สังหารพวกเขาทั้งหมดจริงหรือ?"
เยี่ยนหยางมีสีหน้าตะลึงอ้าปากค้าง
"ถูกต้องแล้ว ใน่เวลาคับขันข้าได้ทะลวงเข้าสู่ฉีไห่ขั้นปลายได้และสามารถจัดการเฉินซวงได้"
คำพูดของเจียงเฉิน ทำให้ทุกคนในห้องโถงตะลึงกันหมด ในเวลานั้นสายตาของทุกคนในห้องโถงตกอยู่ที่ชายหนุ่มผู้นี้ นอกเหนือจากความประหลาดใจแล้ว พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ
ในการที่จะทะลวงระดับนี่มันง่ายดายขนาดนั้นั้แ่เมื่อไร? มันเหมือนโยนะเิใส่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ตรงๆ นอกจากนี้แม้เขาจะอยู่ระดับฉีไห่ขั้นปลาย เขาไม่น่าจะสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางได้อย่างง่ายดาย อย่างไรเขาก็เป็ถึงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางเชียวนะ ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางอ่อนแอั้แ่เมื่อใดกัน?
หากไม่รู้จักเจียงเฉินดีพอ พวกเขาทั้งหมดอาจคิดว่าเจียงเฉินคุยโวโอ้อวดกับพวกตน ก่อนที่จะดูแคลนเขาในภายหลัง
ทุกๆคนต่างส่ายหัวไร้ซึ่งคำพูด เยี่ยนหยางรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อเทียบกับเจียงเฉินแล้วใครจะกล้าเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะ? คำว่าอัจฉริยะไม่สามารถที่จะจำกัดความในสิ่งที่เจียงเฉินเป็อยู่ได้ ใช้คำว่าสัตว์ประหลาดแทน
"น้องเจียงเฉิน หยวี่เอ๋อร์ การกลับมาของเ้านั้นในตอนนี้ ตระกูลหลี่จะต้องรู้แล้วอย่างแน่นอน บุตรชายทั้งสามของหลี่ชางเยว่ได้ตายหมด ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยเื่นี้ไปง่ายๆแน่ หากเขาเกิดบ้าขึ้นมาคงจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้แก้แค้น"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นพูดออกมาพร้อมขมวดคิ้ว
"เป้าหมายของหลี่ชางเยว่คือข้าเพียงคนเดียว หากท่านผู้นำตระกูลเยี่ยนรู้สึกว่ามันสร้างปัญหาให้ตระกูลเยี่ยนของท่านล่ะก็ ข้าเจียงเฉินก็ขอตัวลา"
เจียงเฉินพูด
"น้องเจียงเฉินเ้าพูดอะไรออกมา! เ้าเป็ผู้มีพระคุณของตระกูลเยี่ยน แม้ข้าต้องแลกด้วยชีวิต ถึงแม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิต ข้าเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นจะไม่ลังเลที่จะช่วยเ้า! นอกจากนี้ในเมืองชื่อ ตระกูลเยี่ยนและตระกูลหลี่ต่างเป็ศัตรูกัน การต่อสู้ระหว่างพวกเรามันจะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นร้อนรนและรีบพูดออกมาอย่างจริงจัง
"ใช่แล้ว ที่เลวร้ายที่สุดก็อาจเกิดาขึ้น พวกเราไม่จำเป็ต้องไปหวาดกลัวกับหลี่ชางเยว่ในตอนนี้!"
เยี่ยนหงไท่พูดออกมา บางทีพวกเขาอาจจะไม่กล้าที่จะสู้กับนิกายเทียนเจี้ยน แต่สู้กับตระกูลหลี่? พวกเขาจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว
"หากหลี่ชางเยว่เลือกที่จะทำากับพวกเราเวลานี้ เขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน! นี่เป็โอกาสของตระกูลเยี่ยนแล้ว"
เจียงเฉินพูด
"น้องเจียงเฉิน ที่เ้าพูดหมายความว่าอย่างไรรึ?"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นถาม
"ท่านลองคิดดู นายน้อยทั้งสามของตระกูลหลี่ตายไปหมดแล้ว และอัจฉริยะเกือบทั้งหมดของตระกูลหลี่ได้ตกตายหมด! มันชัดเจนที่ขวัญกำลังใจของตระกูลหลี่จะตกต่ำ อย่างไรก็ตามตระกูลหลี่ได้หยั่งรากไว้ในเมืองนี้ลึก การตายของผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ไม่กี่คนไม่ได้สร้างผลกระทบมากมายนักกับความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขา สิ่งที่หลี่ชางเยว่จำเป็ต้องทำในตอนนี้คือพยายามให้ทุกคนสงบใจและเพิ่มขวัญกำลังใจแต่เขาไม่สามารถ ั้แ่เขาไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์โกรธของเขาไว้ได้ เขาฆ่าแม้แต่อัจฉริยะทั้งสองจากตระกูลอื่นที่ขึ้นตรงกับเขา"
ดวงตาเจียงเฉินส่องประกายด้วยความเฉลียวฉลาด เขาพูดต่อ
"สิ่งที่หลี่ชางเยว่่กระทำไปนั้นสร้างความผิดหวังให้แก่ตระกูลที่ขึ้นตรงกับเขา เขาใจสลายและคนของเขาเสียกำลังใจ ตอนนี้หากแม้พวกเขาจะรักษาความแข็งแกร่งไว้ พวกเขาไม่สามารถที่จะปกป้องพวกเขาเองจากตระกูลเยี่ยนได้"
คำพูดของเจียงเฉินทำให้ทุกคนที่อยู่ในโถงประชุมตาสว่าง
สิ่งที่เจียงเฉินพูดมานั้นถูกต้อง การต่อสู้ระหว่างตระกูลทั้งสองเปรียบดั่งา เมื่อทั้งสองฝ่ายมีกำลังรบใกล้เคียงกัน สิ่งที่ส่งผลต่อานั้นคือขวัญและกำลังใจของคนและการสนับสนุนจากคนของเขา เหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์จากตระกูลหลี่ต่างตกตายหมด ขวัญกำลังใจตกต่ำแทบจะไม่เหลือและหลี่ชางเยว่สังหารอัจฉริยะจากตระกูลที่ขึ้นตรงกับเขาด้วยตัวเองอีก นี่เป็เวลาที่เหมาะสมที่ตระกูลเยี่ยนจะบุกโจมตีพวกนั้น
"สิ่งที่น้องเจียงพูดมานั้นถูกต้องแล้ว หากตระกูลหลี่้าาแล้วก็พวกเราไม่ได้เกรงกลัว"
เยี่ยนหงไท่พูด
"ดี! ทุกๆคนเริ่มเตรียมตัวได้! รวบรวมกองกำลังรบของตระกูลพวกเรา! เตรียมตัวทำากับตระกูลหลี่!"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นพูดขณะที่พลังปราณของเขาสั่นไหว
"ท่านผู้นำตระกูลเยี่ยน ข้ามีบางอย่างที่้าความช่วยเหลือจากท่าน"
เจียงเฉินพูด
"บอกข้ามาเถิด น้องเจียงเฉิน"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นตอบกลับอย่างสุภาพ
"ข้า้าให้ท่านผู้าุโใหญ่ไปพำนักกับตระกูลเจียงที่เมืองเทียนเซียงเป็เวลาสองสามวัน หากเขาสามารถไปได้ใจของข้าจะสงบได้"
เจียงเฉินพูดพร้อมมองไปยังเยี่ยนหงไท่
"น้องเจียงเฉิน ข้ารู้ว่าเ้าเป็กังวลว่าหลี่ชางเยว่จะส่งคนไปบุกโจมตีตระกูลเจียง แต่ข้าคิดว่ามีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์อยู่ภายในตระกูลเจียงมิใช่หรือ?"
เยี่ยนหงไท่ถามด้วยสีหน้างงงวย ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่าเจียงเฉินกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตระกูลเจียง แต่ที่นั่นมีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์อยู่ที่นั่น เหตุใดถึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์อยู่เพิ่ม?
"ท่านผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ท่านนั้นเป็คนอารมณ์ร้าย หากท่านผู้าุโไปด้วยตัวเองล่ะก็มันจะสะดวกกว่า"
เจียงเฉินพูด มีแต่เขาที่รู้ว่าไม่มีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์พำนักอยู่ที่ตำหนักในตระกูลเจียง ด้วยกำลังของตระกูลเจียงไม่สามารถที่จะปกป้องตัวพวกเขาได้ มันเป็เพราะเจียงเฉิน้าที่จัดเตรียมในส่วนของเขาด้วย
เยี่ยนหงไท่เป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย ตราบที่หลี่ชางเยว่ไม่ได้เดินทางไปด้วยตัวเอง เยี่ยนหงไท่สามารถที่จะปกป้องตระกูลเจียงได้อย่างปลอดภัย ตอนนี้หลี่ชางเยว่มุ่งเป้ามาที่เจียงเฉินและรู้ว่าเจียงเฉินอยู่เยี่ยนหยวี่โหรว หลี่ชางเยว่จะไม่ออกจากเมืองชื่ออย่างแน่นอน
