เขตปลอดอัลฟ่าระดับ 7 อัลฟ่ากราบแบบไหนดีครับคุณ
‘ทำไมคุณย่าต้องเอาเด็กเหลือขออย่างแกเข้ามาในบ้านด้วย’
ระฟ้ายังจำได้ดี.. ประโยคทักทายอันแสนเป็มิตรจากหลานชายคุณโปรดของคุณหญิงเยาวมาลย์
เด็กชายวัย 9 ขวบที่ก้าวเท้าเหยียบลงบนพื้นกระเบื้องขัดมันของบ้านวาสุรีย์โรจน์เป็ครั้งแรก บ้านของเยาวมาลย์ใหญ่โต ต่างจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ำอันเล็กกะจิริด ห้องน้ำใหญ่กว่าห้องนอนที่ระฟ้าเคยนอนกับน้องๆ อาหารการกินรสชาติอร่อยกว่าที่แม่ใหญ่ทำให้ แต่ถึงกระนั้นความอบอุ่นและความสบายใจที่ระฟ้าััได้ก็ยังไม่เทียบเท่ากับบ้านรวมตะวันที่ระฟ้าเติบโตมาอยู่ดี ระฟ้าอยากกลับ ไม่เคยอยากมาอยู่เลยสักครั้ง
‘อยากกลับก็กลับไปสิ คนอย่างแกไม่คู่ควรกับนามสกุลวาสุรีย์โรจน์’
‘ไม่เอาน่าตาศิ น้องยังเด็กแกจะไปอะไรกับน้องมากนัก’
ความทรงจำที่เราทั้งสองมีต่อกันคือความบาดหมางเกลียดชัง ไม่สิ… เป็ศิธาต่างหากที่แสนเกลียดแสนชังระฟ้า เกลียดั้แ่แรกพบ เราห่างกัน 9 ปี ความประทับใจแรกที่ระฟ้ามีต่อศิธาคือรุ่นพี่ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย เ้าของตำแหน่งเดือนโรงเรียนสุดป๊อป ระฟ้าเคยถามเขาว่าเพราะเหตุใดถึงได้เกลียดกันนัก ‘เพราะแกมันเหลือขอไง ไอ้หนูสกปรก’ ถามจากศิธาไม่ค่อยได้เหตุผลฟังขึ้นเลยหันไปถามคุณหญิงเยาวมาลย์ ‘อย่าถือสามันเลยตาฟ้า จริงๆแกกับตาศิก็คล้ายกันนะ ไม่มีพ่อแม่กันทั้งคู่’
รอยยิ้มของคุณหญิงย่าประดับขึ้นบนใบหน้า ฝ่ามือเหี่ยวย่นของเธอมักลูบสางไปบนเรือนผมของระฟ้า เอ่ยปลอบปะโลมและขอโทษแทนหลานชายอารมณ์ร้าย ศิธาเป็เด็กมีปัญหา สูญเสียพ่อแม่และน้องชายไปั้แ่ยังเล็ก เริ่มจากน้องชายที่ประสบอุบัติเหตุ แม่ของศิธาทำใจไม่ได้จนต้องทำอัตวินิบาตกรรม ผ่านไปหลายปีคุณพ่อก็ตรอมใจตายจากการสูญเสียภรรยาสุดที่รักและลูกชายคนเล็ก ศิธาทั้งโกรธแค้นทั้งน้อยใจพ่อและแม่
‘เด็กนั่นเอาแต่ตัดพ้อว่าแล้วตัวเขาล่ะ แม่เอาแต่เสียใจที่น้องตาย แล้วตัวเขาล่ะ พ่อเอาแต่เสียใจที่เมียกับลูกชายคนเล็กตาย แล้วตัวเขาล่ะ เขาไม่ใช่ลูกของทั้งพ่อและแม่หรือไง’
คุณหญิงเยาวมาลย์เลยเป็เหมือนมวลความรักเดียวที่หลงเหลืออยู่ในชีวิตของศิธา คุณน้า คุณอาทั้งหลายน่ะหรือ พวกเขาล้วนต่างมีครอบครัวเป็ของตัวเอง ไม่มีใครรักศิธาจริงเท่าคุณย่า ศิธากลายเป็เด็กมีปัญหาขั้นรุนแรง ขาดความอบอุ่นเพราะกลัวเด็กรับใช้อย่างระฟ้าจะเข้ามาแย่งความรัก ยิ่งคุณหญิงย่าสปอยล์ศิธาจนเสียนิสัยเป็ทุนเดิม ความเกรี้ยวกราดของหลานชายคนนี้เลยถาโถมมายังระฟ้า
‘เข้าใจพี่เขาหน่อยนะตาฟ้าเอ๊ย’
ระฟ้าทั้งเข้าใจแล้วก็ไม่เข้าใจ เข้าใจคือ.. เข้าใจที่ชีวิตของศิธาช่างน่าสงสาร ถูกพ่อแม่แท้ๆทอดทิ้งไปยังโลกอื่นเพราะทนพิษาแความรักที่มีต่อลูกชายอีกคนไม่ไหว ไม่เข้าใจคือ.. ศิธารับรู้ไม่ได้จริงๆหรือไง ว่าความรักปริมาณมหาศาลที่คุณย่ามอบให้ศิธาน่ะ ระฟ้าไม่มีวันแย่งชิงมาได้ ศิธาคือหลานแท้ๆส่วนระฟ้าคือเด็กรับใช้ ศิธาเป็ที่หนึ่งเสมอและตลอดไป ส่วนระฟ้าเป็เพียงเด็กที่คอยดูแลคุณหญิงยามแก่ชรา ฉลาดเื่การเข้าถึงบทบาทตัวละคร แต่กลับโง่เขลาเื่การรับรู้ความรักจากคนรอบข้าง
นั่นล่ะ ศิธา วาสุรีย์โรจน์
“ถ้าจำได้เหมือนเดิมแล้วจะยังโง่อยู่ไหมนะ”
นิ้วเรียวแตะลงบนปลายจมูกโด่งของคนที่นอนหลับพริ้มอยู่ข้างๆ
เขตปลอดอัลฟ่าถูกระงับการใช้งานชั่วคราวใน่สุดสัปดาห์ ระฟ้าเป็คนพูดคำไหนคำนั้น แม้ในใจจะแสนอึดอัดก็ตามทีที่ต้องมานอนร่วมเตียงกับคนไม่สนิท ระฟ้าชินกับการนอนคนเดียวมาตั้งสิบกว่าปีแล้วนี่นา
“ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าพี่เป็อัจฉริยะ”
เวรกรรม นึกว่าหลับไปแล้ว..
ร่างบางสะดุ้งโหยงนิดหน่อยในตอนที่ปากของใครบางคนขยับตอบทั้งๆที่เปลือกตาอันหลับสนิท แต่เพียงชั่วครู่เท่านั้นเปลือกตาสีไข่ของเขาก็ยกขึ้นเผยให้เห็นแววตานุ่มลึกราวกับเปี่ยมไปด้วยมนต์สะกด
“แตะอั๋งพี่หรือ?”
“ใช่ที่ไหนล่ะครับ”
คนตัวเล็กกว่าตอบอ้อมแอ้ม เวลานี้เฉียดตีหนึ่ง พ่ออัลฟ่าเืบริสุทธิ์ไอคิว 200 อาบน้ำปะแป้งหอมฉุยมาทิ้งตัวลงบนเตียงั้แ่่สามทุ่มแล้ว ทว่าคุณระฟ้ายุ่งมาก ท่านประธานนั่งเคลียร์งานยาวโดยไม่สนใจสามี รู้ตัวอีกทีเข็มสั้นของนาฬิกาก็ชี้ไปยังเลข 12 ระฟ้าจัดการอาบน้ำชำระร่างกายก่อนจะก้าวขึ้นเตียงมานอนข้างใครบางคน ตอนแรกระฟ้ากะนอนตรงโซฟา ไม่อยากนอนร่วมเตียงกับคนเพี้ยน แต่พอลองคิดดูอีกที เื่อะไรระฟ้าต้องสละเตียงให้ผู้รุกรานด้วย คุณระก็เลยตัดสินใจขึ้นไปนอนกับสามีเสียเลย แล้วก็นั่นแหละ เวลาเกือบตีหนึ่งทำสมองระฟ้าจินตนาการเรื่อยเปื่อยถึงอดีตวันวาน รู้ตัวอีกทีนิ้วของตนเองก็แตะลงบนปลายจมูกโด่งๆของใครบางคนเสียแล้ว
“ฟีโรโมนเธอหอมจัง”
เขาคงหมายถึงน้ำหอมยี่ห้อ J กลิ่นดอกไม้เมืองหนาวที่ลอยฟุ้งเต็มห้อง ระฟ้ามองไม่เห็นประโยชน์ของการบอกสามีว่าตัวเขาไม่ใช่โอเมก้า และกลิ่นที่สามีอัลฟ่าได้กลิ่นก็ไม่ใช่ฟีโรโมน คนสมองเพี้ยนไม่มีทางเข้าใจหรอก อธิบายไปก็เหนื่อยเปล่า ยิ่งพูดเขาก็จะยิ่งสวนว่าตนเองน่ะมาจากต่างโลก เป็มนุษย์ต่างดาวอะไรสักอย่าง
“ของคนอื่นไม่หอมเหรอครับ” การเล่นไปตามน้ำน่าจะปวดหัวน้อยที่สุด
“พูดแบบนี้จะลองใจพี่หรือ ไม่หลงกลหรอกนะ พี่ชอบกลิ่นเธอคนเดียว”
แหวะ.. ระฟ้าจั๊กจี๋ไปทั้งตัวเวลาได้ยินประโยคหวานเลี่ยน
น่าประหลาดใจเหมือนกันที่ความจำเสื่อมจะสามารถทำให้คนๆนึงนิสัยเปลี่ยนจากหน้ามือเป็หลังเท้า ก่อนนั้นศิธาเหม็นขี้หน้าระฟ้าแทบตาย มาดูตอนนี้สิ หลงกันหัวปักหัวปำอย่างกับเป็แฟนกันมาแล้วสิบปี
“ลองดูนี่สิครับ รูปคุณสมัยเรียน”
ระฟ้าเอี้ยวตัวไปหยิบอัลบั้มภาพเล่มใหญ่ส่งให้สามี เป็อัลบั้มที่ระฟ้าแอบหยิบมาจากห้องคุณหญิงเยาวมาลย์ เธอถ่ายเก็บเอาไว้ทุก่ชีวิตั้แ่หลานชายคนโจยังแบเบาะ เข้าเรียนอนุบาล ประถม มัธยม รวมถึง่ที่ศิธาถูกส่งไปเรียนต่อปริญญาตรีที่เมืองนอก คุณหญิงก็ตามไปเก็บภาพเอาไว้
“อันนี้คุณกับคุณย่าที่งานรับปริญญาคุณครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะหนึ่งปีก่อนโรคหัดผีเสื้อระบาด”
ร่างสูงจ้องเขม็งไปยังรูปชายหนุ่มที่ข้างกายมีหญิงชรากำลังยิ้มแป้น ดูท่าจะจริงอย่างที่ยัยระฟ้าว่า ทุก่วัยของศิธาล้วนมีคุณหญิงเยาวมาลย์เป็ส่วนประกอบ ตำแหน่งหลานชายคนโปรดไม่ต้องถามเลยว่าเป็ใคร
“ไหนเธออะ ไม่เห็นมีเธอ”
“ผมจะไปทำไมครับ ผมอยู่บ้าน”
ระฟ้าหัวเราะ ถึงคุณหญิงเยาวมาลย์จะกรุณามอบนามสกุลวาสุรีย์โรจน์ให้ระฟ้าใช้ ปฏิบัติกับระฟ้าเหมือนหลานชายคนเล็กคนหนึ่ง แต่ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าระฟ้าเป็เพียงเด็กรับใช้ของบ้าน ระฟ้ากับศิธาน่ะเราแทบไม่รู้กันเลย เราเจอกันเพียงไม่กี่ครั้งใน่ชีวิต แถมเจอศิธาก็ล้วนไม่เคยพูดดีๆกับระฟ้า เป็คนแปลกหน้าที่เกลียดแสนเกลียดกันประหนึ่งศัตรูทางธรรมชาติ ไม่ไปน่ะดีแล้ว ไม่ได้อยากไปเสียหน่อยนึง
“ทำไมมันต้องเกลียดเธอขนาดนั้น ตัวก็หอม ผิวก็นุ่ม”
“อย่าเนียนครับขอร้อง”
ระฟ้าตีเพี๊ยะเข้าที่ฝ่ามือของอัลฟ่าปลาหมึก เขาหัวเราะ เปลี่ยนมาเปิดอัลบั้มสำรวจภาพวันวานต่อ ระฟ้ามองใบหน้าเขาอยู่นาน ก่อนจะตามด้วยคำถาม ‘จำอะไรขึ้นมาได้หรือยังครับ’
“จำไม่ได้หรอก ก็บอกแล้วไงนี่มันไม่ใช่ตัวพี่ พี่มาจากต่างโลก เมื่อไหร่เธอจะเชื่อพี่เนี่ย”
ดูท่าอาการจะหนักพอสมควรเลยแฮะคุณหมอ..
นางฟ้าโอเมก้าแม่ทูนหัวเกาหัวแกรก ก่อนจะล้มตัวทิ้งหัวลงหมอนแบบหมดสิ้นความหวัง ไม่ลืมกล่าวประโยค “นอนแล้วนะครับ” ในเชิงแจ้งให้ทราบ ไม่ได้ขออนุญาต เพราะนี่คือห้องของระฟ้า แขกที่มาขออาศัยแบบปราศจากคำเชิญต้องรับกฎของห้องแห่งนี้ให้ได้ พูดจบก็เอี้ยวตัวไปตบสวิตช์ไฟข้างหัวเตียง พลันความมืดก็ปกคลุมทั่วทั้งห้อง ก่อนหน้าระฟ้าเอาหมอนข้างมาวางกั้นเขตเอาไว้ชัดเจน แต่โอเมก้าควีนตัวน้อยคงจะประมาทอัลฟ่าเืบริสุทธิ์เกินไป
“อ๊ะ!”
เพราะทันทีที่ความมืดโรยตัว สัญชาตญาณสัตว์ป่าก็ของใครบางคนก็ถูกปลุกให้ตื่น อัลฟ่าตัวร้ายถือวิสาสะก้าวข้ามเขตแดน เกยปลายคางลงบนไหล่แคบ ไอร้อนจากลมหายใจรินรดใกล้ซอกคอ ระฟ้าขนลุกวาบไปทั่วทั้งร่างพร้อมกับหัวใจอันเต้นโครมคราม แต่ที่ทำให้สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตเห็นทีจะเป็ประโยคต่อจากนั้น
“ทำลูกกันไหม?”
เหมือนกับเป็ปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติของร่างกาย
ระฟ้าถีบเปรี้ยงเข้าให้ที่กลางท้องของศิธา ร่างสูงกลิ้นหลุนๆตกจากเตียงร้องจ๊ากเสียงดังลั่นบ้าน ศิธาอ้าปากเหวอ ระฟ้าก็อ้าปากเหวอ หลังจากนั้นคืนนั้นเขตปลอดอัลฟ่าก็ถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
“เห้ย! อะไรวะยัยฟ้า พูดไม่เป็พูดเลยอะ”
พ่ออัลฟ่าเืบริสุทธิ์ยืนกอดหมอนบ่นกระปอดกระแปดหน้าห้องนอนภรรยา
ตายยากตายเย็นจริงนะไอ้เขตปลอดอัลฟ่า อุตส่าห์จัดการเอ็งได้แท้ๆแล้วเชียว!
/
“ก็แค่ทำลูก ไหนคุณย่าบอกว่าอยากอุ้มเหลนไม่ใช่หรือวะ”
โอฬารกลายเป็ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของความสัมพันธ์อันแสนวุ่นวายครั้งนี้
พูดตามตรงความรู้สึกของโอฬารก็คล้ายกับระฟ้านั่นแหละ ไอ้หมอนี่มันเพี้ยนหนักถึงขั้นเอาบทละครมาปนกับชีวิตจริงมั่วซั่ว โอฬารเคยพยายามอธิบายนอกรอบไปแล้วว่า่นี้มึงความจำเสื่อมอยู่นะเพื่อน โลกอัลฟ่า เบต้า โอเมก้าอะไรนั่นก็ให้มันเพลาๆลงบ้าง แต่ก็ไม่เป็ผล พ่ออัลฟ่าเืบริสุทธิ์โวยวายใหญ่โต โอฬารที่กลัวอารมณ์โกรธของเพื่อนจะกระทบสุขภาพร่างกาย ลุกลามไปกระทบต่อการทำงานเลยต้องปล่อยเลยตามเลย มันพูดอะไรก็เออออห่อหมกกับมันไปก่อน
“คุณระเขายังไม่พร้อมอุ้มท้องหรือเปล่า ตั้งเก้าเดือนเลยนะไอ้ศิ”
ผู้จัดการหนุ่มว่าพลางจิ้มอาหารเช้าเข้าปากพลาง วันนี้สองหนุ่มมาถ่ายซีรีย์ต่อที่โรงแรมแถบหัวหิน โชคดีในโชคร้าย คุณระฟ้าต้องบินไปทำงานประเทศเพื่อนบ้านสามวัน เมียไม่อยู่ ผัวร่าเริง ได้โอกาสออกมาถ่ายงานเลยสิครับท่านผู้ชม หากถึงกระนั้นพ่ออัลฟ่าหนุ่มก็ไม่วายปรับทุกข์ชีวิตแต่งงานกับคุณเพื่อนสนิทพ่วงตำแหน่งผู้จัดการ
“เก้าเดือนก็แค่ฮึบเดียวอะ ที่เหลือกูเลี้ยงให้เลยก็ได้ กูพูดจริงนะโว้ย ยัยฟ้าไม่ต้องมาลำบากเื่เลี้ยงลูกเลย แค่คลอดกับปั๊มนม ที่เหลือกูจัดการเอง แฟมมิลี่อย่างกูไม่ดีตรงไหน”
“พูดน่ะมันง่าย มึงไปท้องเองไหมเล่า ไหนจะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเอย ฮอร์โมนสวิงเอย เจ็บท้องจะคลอดลูกเอย ผู้หญิง เอ๊ย.. คุณแม่น่ะเขาต้องรับภาระมากแค่ไหนมึงรู้ไหม ไม่รวมภาวะหลังคลอดอีกนะ”
“พูดเหมือนเคยมีเมีย อ๋อ มึงมียี่สิบคนนี่นะ”
โอฬารยกนิ้วกลางตอบไอ้ดาราหัวขวด
ไม่ว่าจะสมองปกติหรือสมองเพี้ยนศิธาก็ล้วนกวนอวัยวะ่ล่างกันอยู่เสมอ จะเห็นความแตกต่างนิดหน่อยก็ตรงตอนมันสมองเพี้ยน นิสัยมันดีกว่านิดนึง ไม่ค่อยทำตัวเป็ภาระ ไม่เหวี่ยงวีน ขี้โมโห หงุดหงิด อาการพวกนี้หายวับราวต้องมนต์สะกด ก็แอบหวังเล็กๆว่าวันหนึ่งที่ความทรงจำกลับมาศิธาจะยังหลงเหลือนิสัยดีๆอยู่บ้างล่ะนะ
“ก็ได้ ถ้ายัยฟ้าไม่พร้อมกูก็ไม่เร่งรัด ยังไงก็ร่างกายเขาอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยขอทำแค่การบ้านก็ดี”
“แค่ก!”
โอฬารสำลักน้ำแร่ที่กำลังกระดกลงคอ ในฐานะผู้จัดการพ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิท ความสัมพันธ์ระหว่างศิธาและระฟ้าไม่มีทางไปต่อกันได้เลย ศิธาเหม็นหน้าระฟ้าเหมือนเชื้อโรค พอๆกับระฟ้าที่แขยงอีโก้คำฟ้าของหลานรักคุณหญิงเยาวมาลย์ มองหน้ากันสองวินาทีก็เตรียมด่ากันแล้ว เกลียดกันแบบเกลียดกันจริงๆ ไม่ใช่เกลียดแบบในหนังที่ไปลงเอยกันเอาตอนจบ แต่เมื่อกี้อะไรนะ?
“มึงจะทำการบ้านกับคุณระ ไอ้เหี้ยศิ”
“แล้วทำไม กูเป็ผัวเมียกัน” ป้าบเข้าให้หนึ่งทีด้วยฝ่ามืออรหันต์
โอฬารร้องซี้ดเพราะไอ้ห่านี่ตัวใหญ่อย่างกับั์ คนบ้าอะไรสูงตั้ง 190 ตัวก็เบ้อเริ่มเทิ่ม ขนาดคุณระฟ้าสูง 180 ยืนข้างไอ้ศิธายังกลายเป็ตัวเล็กกระจึ๋งเดียว ไม่ต้องถามแรงมือมัน มือใหญ่ประหนึ่งใบลานขนาดนั้น
“กูก็อยากระชับมิตรกับเมียบ้าง ผู้ชายกับเื่อย่างว่ามันก็ของคู่กันปะวะ”
โอฬารปวดหัวมาก แต่พอคิดดูอีกที มันความจำเสื่อมนี่หว่า เฮ้อ... คิดแล้วก็สูดลมหายใจเข้าออก ความจำเสื่อมก็คือคนป่วย ท่องเอาไว้ไอ้โอ อย่าได้ถือสาคนป่วย ฝั่งศิธานั่งกินข้าวไปก็นึกถึงใบหน้าเมียไป เขาขอให้โอฬารเล่าเื่ราวในอดีตมากมายเกี่ยวกับศิธาคนก่อนและระฟ้าให้ฟัง ่ชีวิตวัยเด็ก นิสัยส่วนตัว ประสบการณ์ร่วมกัน และความบาดหมางอันไม่มีที่สิ้นสุด
“ยากอยู่นะ คุณระเขาไม่ให้อภัยมึงหรอก ปากหมาตั้งขนาดนั้นไปว่าเขากำพร้าบ้าง เป็เด็กเหลือขอบ้าง เป็กูก็ไม่ให้อภัย แต่ถึงจะโดนว่าขนาดนั้นเขาก็วางตัวดี ดูสิ ไม่ฉวยโอกาสตอนที่มึงป่วยแก้แค้นสักแอะ”
ศิธาฟังไปก็กลอกตาไป หมายถึงกลอกตาใส่ไอ้โอฬารนะ ไม่รู้แม่งปั้นเสริมเติมแต่งหรือเปล่า แต่ฟังจากที่มันพูด ประกอบกับท่าทางของระฟ้าและคนรอบข้าง นิสัยศิธาคนก่อนคงต่ำช้าไปถึงนรกขุมสุดท้ายจริงๆ ศิธาน้าศิธา เราก็กำพร้าพ่อแม่กันทั้งคู่ เหตุใดถึงปฏิบัติตัวแย่ๆใสยัยโอเมก้าที่สวยโคตรๆขนาดนั้นได้
“กูตัดสินใจละ”
พูดเสร็จก็ทุบโต๊ะเสียงดังมาดมั่น โอฬารที่กระดกน้ำแร่อึกที่สองลงคอสำลักอีกรอบ
“แค่ก ตัดสินใจอะไรของมึง”
“กูจะจีบยัยฟ้าใหม่”
“หา?”
“ก็ในเมื่ออดีตระหว่างศิธาคนก่อนกับยัยฟ้ามันแย่มาก ต่อจากนี้กูก็จะเป็คนใหม่ รีเซ็ตทุกอย่างเริ่มต้นจากศูนย์ ศิธาผู้แสนอ่อนโยน หล่อเหลา ใจดี เป็มิตรกับภรรยาและจุดซ่อนเร้น มึงจำคำกูไว้นะไอ้โอ กูจะจีบเมียกูใหม่โว้ย”
เออเอา
ทำอะไรก็ทำเถอะมึงไอ้หนุ่ม…
/
“ใจเย็นๆนะคะคุณระ ปุ๊กกว่าคุณศิธาแกคงอยากทำงานจริงๆ”
รถอัลพาร์ดประจำตำแหน่งของท่านประธานกรรมการแห่งวาสุกรุปกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงแรมแถบหัวหิน ระฟ้าทำงานเสร็จเร็วกว่ากำหนดหนึ่งวัน ตอนแรกกะอยู่ศึกษาธุรกิจของประเทศเพื่อนบ้านต่ออีกสักหน่อย ทว่าลางสังหรณ์ประหลาดก็สะกิดให้ระฟ้าบินตรงกลับบ้าน แถมอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้ระฟ้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถโซเชียลทั้งๆที่ปกติระฟ้าแทบไม่แตะเลย
#โรงเรียนประจำโอเมก้า
ระฟ้าจำได้ว่านั่นคือแฮชแท็กชื่อซีรีย์ที่สามีรับเล่น ไม่ใช่เื่แปลกถ้าจะมีคนพูดถึง แต่นี่จู่ๆแท็กมันดันติดเทรนด์อันดับหนึ่ง ระฟ้าจึงกดเข้าไปดูแล้วก็พบภาพเื้ัของใครบางคนในสภาพเปลือยท่อนบนพร้อมกับคอมเม้นท์หวีดร้องในความฮ็อตปรอทแตกมากมาย
:- โรงเรียนประจำอมกมาถ่ายที่รรแถวบ้านฉันจ้า
:- โหหหห ลุงศิธาหุ่นคือที่!!
:- เดินคู่กันกับพี่ชนิน size diff มากกกก นี่ล่ะๆๆ ผู้ชาย190cm ที่จริงใจจจจ
:- ใครบอกลุงเขาหยิ่งวะ โคตรเฟรนลี่ ยิ้มให้กูด้วยค่า
อ่านไปคิ้วก็กระตุกไป ไม่ใช่เพราะชาวโซลเชียลชื่นชมหุ่นอันแสนกำยำของสามีหรอกนะ หากแต่เป็การปรากฏตัวของสามีกลางกองถ่ายต่างหากล่ะ ระฟ้าเลื่อนอ่านพร้อมอมยิ้มติดมุมปาก ต่างจากเลขาสาวอย่างคุณปุ๊กกี้ที่รู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่ยิ้มของความปิติยินดี เวลาคุณระยิ้มแบบนี้ทีไรจะต้องมีากลางเมืองเกิดขึ้น ล่าสุดที่ปุ๊กกี้เห็นก็ประชุมบอร์ดบริหารเมื่อเดือนก่อน ยิ้มแบบนี้ ขนลุกวาบแบบนี้เลย
“ค คือคุณระคะ ปุ๊กว่าลองโทรถามคุณศิธาก่อนดีไหมคะ”
“ว่าไงนะครับคุณปุ๊กกี้ :)”
เงยหน้าขึ้นมาอมยิ้มใส่เลขาสาว ยิ้มเดียวกับที่ใช้มองจอ ทำเอาคุณปุ๊กกี้ต้องรีบก้มหน้างุดแล้วกุลีกุจอเรียกรถให้ท่านประธานโดยด่วน จุดหมายปลายทางหลังลงเครื่องคงไม่พ้นโรงแรมแถบหัวหิน ต่อให้เหนื่อยอย่างไรระฟ้าก็ต้องไปลากคอสามีจอมสร้างปัญหากลับบ้านให้ได้
“ค คุณระ! ไหนบอกว่ากลับพรุ่งนี้ไงครับ”
โอฬารแทบล้มทั้งยืนเมื่อจู่ๆใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นกลางกองถ่าย เขาถามไอ้ศิธาสิบรอบแล้วว่าคุณระกลับพรุ่งนี้ใช่ไหม มันก็ตอบว่าใช่ แล้วนี่อะไร คุณระโผล่มาแล้วไอ้ฉิบหาย ตรงเข้ามาเตรียมบีบคอเขาแล้วไอ้ฉิบหาย ไม่สิ ยิ้มแบบนั้น รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยไอเย็นะเืแบบนั้นทำโอฬารเข่าอ่อน ศิธาและระฟ้าคือสองสามีภรรยาที่ทำให้หัวใจโอฬารสามารถหยุดเต้นได้ทุกเมื่อ ไอ้ฉิบหาย!
“ไปเรียกเขามาครับ ผมจะพากลับบ้าน”
“ม มันถ่ายอยู่ครับ คุณระใจเย็นๆน้า ฮือ”
“ถ้าเกิดเขาอาการกำเริบขึ้นกลางกอง แล้วมีคนถ่ายรูปถ่ายคลิปไปลงโซเชียลพี่โอฬารจะรับผิดชอบไหมมั้ยครับ?”
โอฬารกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ทุกครั้งที่พูดคุยระฟ้ามักใช้เหตุผลนำอารมณ์เสมอ อย่างเช่นเวลานี้ระฟ้าก็ค่อยๆแจกแจงให้เห็นถึงความเป็ไปได้อันสุ่มเสี่ยงของอาการพ่อดาราหนุ่ม ขณะเดียวกันก็เหมือนมีเปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนอยู่ในใจของโอฬาร ไม่รู้ซี อธิบายออกมาเป็คำพูดยาก แต่โอฬารรู้สึกได้ว่าศิธาสามารถทำงานนี้ได้
“ถึงผมจะไม่มีอะไรรับประกันให้คุณระ แต่ไอ้ศิมันเอาอยู่จริงๆนะครับ คุณระดูมันเล่นก่อนน้า ฮืออ”
ผู้จัดการมือทองพยายามลูบแขนปลอบปะโลมคุณภรรยาของไอ้ดาราในสังกัด สายตาก็ชโงกไปทางเลขาสาวอย่างคุณปุ๊กกี้ให้ช่วยพูดอะไรหน่อยซี ทางนั้นรีบส่ายหน้าหงึก ‘ช่วยแล้วค่ะ ช่วยได้แค่นี้จริงๆ’ ระฟ้าเห็นถึงความพยายามในการส่งรหัสลับของทั้งสอง จึงแกะมือโอฬารออกแล้วเดินไปหยุดยืนมองดูใครบางคนที่กำลังเล่นซีนอารมณ์อันแสนหนักหน่วง
“ต่อให้ต้องหันหลังให้คนทั้งโลก ผมก็พร้อมจะอยู่ข้างครูคาถา”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มของใครบางคนสั่นเครือ ศิธาในบทอรุณกรยืนอยู่กลางสระว่ายน้ำทั้งๆเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกชุ่ม ด้านหน้าคือชนินในบทคาถาที่กำลังอมยิ้มเหมือนกับตัวร้าย ฉากด้านหลังถูกขึงด้วยผ้าใบสีเขียวแทนภาพซีจีในอนาคต จะว่าไปแวดล้อมโดยรอบก็เหมือนถูกจัดฉากให้รู้สึกถึงวันสิ้นโลก
“ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของคนทั้งโลก ก็ยังพร้อมจะยืนอยูข้างผมด้วยหรือ?”
“แม้จะแลกด้วยชีวิตผมก็ตาม..”
ั์ตาคร้ามคมวูบไหวพร้อมกับหยาดน้ำตาหยดแหมะเหมือนสั่งได้ โรงเรียนประจำโอเมก้าคือซีรีย์แนวสืบสวนลึกลับว่าด้วยเื่ของคุณครูคนใหม่อย่างครูอรุณกรที่บรรจุเข้ามาเพื่อพบกับความแปลกประหลาดของโรงเรียนประจำแห่งนี้ เื่ราวทั้งหมดเริ่มต้นจากครูคาถา คุณครูห้องสมุดสุดลึกลับที่ชอบกลับบ้านดึกดื่น เดินตรวจตราแทนยาม ไหนจะแมวดำหน้าตาประหลาดที่พวกเด็กๆลือกันว่ามันพูดได้
“ถ้าอย่างนั้นครูอรุณกรก็มาสิ ตามผมมา :)”
ฝ่ามือเรียวยื่นไปทางคนตัวโต อรุณกรค่อยๆแหวกว่ายพาตนเองไปยังครูคาถาผู้ไม่หยุดระบายยิ้มติดมุมปาก บรรยากาศทั้งกองถูกปกคลุมด้วยความเงียบเชียบ มีเพียงเสียงคลื่นน้ำและก้าวย่างของมนุษย์สองคนในฉาก ระฟ้าเผลอกลั้นหายในตอนที่มือหนารั้งเอวคอดกิ่วเข้ามาใกล้ ั้แ่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ระฟ้าััได้ถึงการแสดงอันแสนทรงพลังของคนทั้งคู่ โดยเฉพาะสามีอย่างศิธา เ้าชายแห่งวงการจอเงิน
สายตาเขาไม่ใช่ศิธา หากแต่เป็อรุณกร ขณะเดียวกันก็ไม่มีเค้าโครงของศิธาคนเดิม ศิธาผู้ร้ายกาจ ปากเสีย ชอบพูดจาเหน็บแนม ระฟ้ากลั่นความคิดของตนเองออกมาเป็คำพูดไม่ถูก ทุกอย่างตีกันยุ่งเหยิงอยู่ในหัว ยิ่งจังหวะที่อรุณกรโน้มหน้าลงไปจูบคู่แสดง แล้วคนทั้งสองก็ทิ้งร่างลงไปในเวิ้งน้ำราวกับว่าหลังจากนี้จะเป็การเดินทางสู่อีกมิติ ‘คัทททท!’ ชั่วอึดใจที่ผู้กำกับนกแพงสั่งคัทนั่นเอง ระฟ้าถึงได้ตระหนักว่าเ้าก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของตนกำลังไหวสั่นครั่นคร้ามอย่างรุนแรง
“คุณระ… โอเคหรือเปล่าคะ”
เป็เลขาปุ๊กกี้ที่สะกิดแขนเรียกสติท่านประธาน ระฟ้ากระแอมหนึ่งที เปลี่ยนมายืนกอดอกมองใครบางคนที่ค่อยๆก้าวขึ้นจากสระ พลันทีมงานก็รีบวิ่งเอาผ้าขนหนูไปคลุมตัวพระเอกหนุ่ม ผู้กำกับะโเสียงดังว่าเล่นดีมาก ใช้ได้แล้ว ศิธายิ้มทั้งน้ำตา เขาใช้เวลาไปประมาณสี่เทคได้กระมังถึงออกมาเป็เทคสุดท้ายที่ดีที่สุด
แล้วมันก็เป็ตอนนั้นเองที่พ่อพระเอกหุ่นแซ่บหันไปสบสายตาเข้ากับคุณภรรยาคนสวย ระฟ้า วาสุรีย์โรจน์ในชุดทำงานครบสูท ระบายยิ้มอันแสนเย็นะเืแทนคำต้อนรับเสียจนน้ำตาของพ่ออัลฟ่าบริสุทธิ์หยดแหมะอีกรอบ ศิธาแยกไม่ออกจริงๆว่าไอ้น้ำตานี้มันมาจากอารมณ์ตกค้าง หรือความหวาดกลัวเมียสุดขั้วหัวใจกันแน่ กระทั่งความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว
กราบแบบแบมือหรือไม่แบมือดีวะ?
tbc
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้