ร่างของหลินกู๋หยู่แข็งค้าง หันศีรษะไปมองฉือหางที่อยู่ข้างๆ โดยกลัวโต้ซาจะตื่น พูดด้วยเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคนว่า "ข้างๆ มีผ้านวมอีกหนึ่งผืนไม่ใช่หรือ? เ้านอนฝั่งนั้น ข้าจะนอนทางนี้คนเดียว!”
"นอนคนเดียวมันหนาว" ฉือหางพูดพลาง เอื้อมมือหยิบผ้านวมอีกผืนที่เดิมทีเป็ของเขามาคลุมไว้้า
เมื่อหลินกู๋หยู่กำลังจะพูดบางอย่าง ท้องที่เดิมทีรู้สึกปวดเล็กน้อยถูกฝ่ามืออุ่นของเขาวางทับ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด
“ทำไมเท้าของเ้าถึงเย็นนัก?” ฉือหางไม่ได้สนใจการปฏิเสธของหลินกู๋หยู่แม้แต่น้อย ขยับขาข้างหนึ่งให้เท้าของหลินกู๋หยู่วางแนบโดยตรง “เช่นนี้อุ่นกว่าหรือไม่?”
หลินกู๋หยู่เม้มริมฝีปากเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองฉือหางที่อยู่ข้างๆ นาง
“แล้วเช่นนี้ละ?”
เมื่อเห็นว่านางไม่เอ่ยวาจา ฉือหางก็ขยับเข้าใกล้อีกเล็กน้อย
ความอบอุ่นแผ่ซ่านจากฝ่าเท้าอันเย็นะเืไปยังทุกส่วนของร่างกาย ดูเหมือนว่าร่างกายจะค่อยๆ อุ่นขึ้น
นอนใกล้ชิดกันจากการเคลื่อนไหวของฉือหาง หลินกู๋หยู่นอนอย่างรู้สึกอึดอัดระคนกระวนกระวายอยู่พักหนึ่ง หลับตาด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนหลายส่วน "นอนเถอะ"
"อืม" ฉือหางลุกขึ้นเล็กน้อย ผ้านวมเกิดเสียงดังเสียดสี
เขาก้มศีรษะเล็กน้อย โน้มตัวเข้าไปใกล้ริมฝีปากของหลินกู๋หยู่แล้วจูบเบาๆ
หลินกู๋หยู่ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน และบังเอิญไปสบกับั์ตาที่ยิ้มแย้มคู่นั้น
“ทำให้เ้าใหรือ?” ฉือหางทิ้งตัวนอนลงช้าๆ เอามือแตะที่หน้าท้องของหลินกู๋หยู่อย่างอ่อนโยน “สบายขึ้นหรือไม่?”
“อืม” มุมริมฝีปากของหลินกู๋หยู่โค้งงออย่างควบคุมไม่ได้ นางโน้มตัวไปหาฉือหาง
เดิมทีนางอยากจะถามว่าเ้าปฏิบัติต่อทุกคนเช่นนี้หรือไม่
แต่พอคำพูดมาถึงริมฝีปาก หลินกู๋หยู่ก็กลืนมันลงท้องทั้งหมด สายตามองไปที่ฉือหางฉายแววอ่อนโยน พูดด้วยเสียงแ่เบา "อบอุ่นจริงๆ วันข้างหน้าไปไหนมาไหนก็ไม่กลัวความหนาวอีกต่อไปแล้ว"
“อย่าขยับสิ” เสียงของฉือหางแหบแห้ง “ข้าจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น”
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วแน่น ร่างของทั้งสองก็ซ้อนทับกันแน่น
เช่นนี้จะนอนกันอย่างไรหรือ?
หลินกู๋หยู่พยายามสลัดตัวนอนข้างตัวเขาอย่างสั่นเทา เสียงหายใจหนักๆ ของชายคนนั้นก็ลอดดังออกมายังใบหูของนาง
"ข้าไม่หนาวมากแล้ว"
“เ้านอนเถอะ” เสียงของฉือหางแหบแห้ง
หลินกู๋หยู่หันกลับมาอย่างระมัดระวัง โดยหันหลังให้ฉือหาง แสร้งทำเป็ไม่รู้อะไรเลย
วันนี้นางมีประจำเดือนและงานยุ่งทั้งวัน สะลึมสะลือไม่นานก็ผล็อยหลับไป
ดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงฉือหางลุกขึ้นอย่างคลุมเครือ
เมื่อหลินกู๋หยู่ตื่นขึ้น ฉือหางก็ตื่นขึ้นแล้ว เขาเตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว นางแค่ลุกขึ้นมาทานก็เพียงพอแล้ว
ต้องยอมรับว่าฉือหางดูแลคนได้ดีมาก นางไม่ต้องทำอะไรเลย เขาเตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่งที่นาง้าทำ
หลินกู๋หยู่คิดว่าจะฉวยโอกาสใน่เวลานี้ในการเย็บเสื้อผ้าสำหรับพวกเขาสองคนให้เสร็จเรียบร้อย เมื่ออากาศหนาวกว่านี้ พวกนางก็จะได้ไม่ต้องกังวล
เฉิงอันอันเป็คนขยัน นางมาเรียนทุกวัน เวลาว่างนางก็จะเล่นกับโต้ซา
"น้องสะใภ้สามอยู่หรือไม่?" ทันใดนั้นเสียงดังลอดมาจากประตู หลินกู๋หยู่กำลังง่วนอยู่กับสิ่งที่อยู่ในมือ วางเสื้อในมือลงในตะกร้าเย็บผ้าทันทีที่ได้ยินเสียง จากนั้นเดินออกจากห้อง
"พี่สะใภ้ใหญ่" หลินกู๋หยู่เดินออกจากห้องด้วยรอยยิ้ม มองไปที่ซ่งซื่อที่ยืนอยู่ที่ประตู "เข้ามาเร็ว"
ซ่งซื่อผงกศีรษะ เดินเข้าห้องด้วยรอยยิ้ม พูดอย่างอายๆ ว่า "เมื่อสองวันก่อน เ้าไม่อยู่บ้านใช่หรือไม่ ข้าได้เตรียมกางเกงสำหรับระดูให้เ้าสองสามตัว เ้าจะได้ใช้"
ในขณะที่พูด ซ่งซื่อก็หยิบของในตะกร้าออกมาส่งให้หลินกู๋หยู่
หลินกู๋หยู่โบกมืออย่างรวดเร็ว เอ่ยคำปฏิเสธ "ข้าขอบคุณพี่สะใภ้ใหญ่จริงๆ แต่ไม่เป็ไรแล้ว ข้าทำสองสามตัวก็เพียงพอใช้แล้ว"
"เ้ารับสิ่งนี้ไปเถอะ" ในขณะที่พูด ซ่งซื่อก็ยัดกางเกงในลงในมือของหลินกู๋หยู่ พูดอย่างเคร่งขรึมต่อไปว่า "เมื่อสตรีมีระดูจะต้องใส่ใจอย่างมาก ไม่เช่นนั้นหากคนอื่นเห็นเข้ามันจะไม่ดี"
หลินกู๋หยู่ยิ้มรับ
นางถือกางเกงที่ซ่งซื่อมอบให้ในมือแล้วรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย หันกลับและเข้าไปในห้อง จากนั้นหยิบหมั่นโถวสองสามชิ้นออกมา "พี่สะใภ้ใหญ่ นี่คือหมั่นโถวที่ข้านึ่งไว้ พี่ลองกินดู"
สายตาของซ่งซื่อจับจ้องไปที่หมั่นโถว รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็สดใสเป็ประกายมาก "เช่นนี้มันน่าอายมากไม่ใช่หรือ?"
แม้ปากจะพูดเช่นนั้น แต่มือของซ่งซื่อก็รับซาลาเปาใส่ตะกร้าไปเรียบร้อยแล้ว
“คนในครอบครัวเดียวกัน พี่สะใภ้ใหญ่อย่าเห็นว่าเป็คนนอกเลย” หลินกู๋หยู่ยิ้มและส่ายศีรษะในเวลาเดียวกัน
ซ่งซื่อมองไปที่โต้ซาที่ด้านข้าง เอ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม "ตอนนี้โต้ซาอ้วนขึ้นกว่าเดิมมาก"
“เด็กเล็กทานอาหารให้อ้วนเล็กน้อยก็ยังดูดี ััแล้วก็สบายมือด้วย” หลินกู๋หยู่นึกถึงผิวเนื้อเนียนของโต้ซา รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็สดใสมากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มประดุจบุปผาของหลินกู๋หยู่ ซ่งซื่อก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย จึงโน้มตัวเข้าใกล้ใบหูของหลินกู๋หยู่ "น้องสะใภ้สาม เป็เพราะข้าสนิทกับเ้า ข้ามีบางอย่างจะพูด แม้ว่าข้าจะรู้ว่ามันไม่เหมาะสม เ้าแค่ฟังก็เพียงพอแล้ว"
หลินกู๋หยู่มองไปที่ท่าทางจริงจังของซ่งซื่อ ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "พี่สะใภ้ใหญ่มีอะไรจะพูดก็พูดออกมาเถอะ ระหว่างเราพี่สะใภ้น้องสะใภ้ไม่จำเป็ต้องสุภาพ"
หลังจากฟังคำพูดของหลินกู๋หยู่แล้ว ซ่งซื่อก็พูดอย่างจริงจังว่า "แม้ว่าโต้ซาจะเชื่อฟัง แต่อย่างไรเสียเขาก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเ้า เ้าควรจะมีลูกกับเ้าสามเป็ของตัวเองให้ได้ั้แ่เนิ่นๆ เ้าจะได้อยู่ที่บ้านนี้ได้อย่างมั่นคง"
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินกู๋หยู่แข็งเล็กน้อย
“ข้าไม่ได้บอกเ้าว่าอย่าทำดีกับโต้ซา ทุกคนต่างก็รู้ว่าเ้าดีกับโต้ซาเพียงใด เพียงแต่มีบางคนไม่ชอบ” ซ่งซื่อขมวดคิ้วลดเสียงลงต่ำ
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วมุ่น เอ่ยถามอย่างสงสัย "ใครหรือ?"
เมื่อเห็นท่าทางสับสนของหลินกู๋หยู่ ซ่งซื่อก็มุ่ยหน้าไปทางโต้ซา "เ้าเดาได้หรือไม่ว่าเป็ใคร?"
แม่ของโต้ซาหรือ?
หลินกู๋หยู่มองไปที่การแสดงออกของซ่งซื่อพลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณพี่สะใภ้ใหญ่ที่เตือนข้า"
เมื่อเห็นว่าในที่สุดหลินกู๋หยู่ก็เข้าใจแล้ว ซ่งซื่อก็พยักหน้า "เอาละ ข้าก็ควรกลับไปแล้ว ไม่เช่นนั้นท่านแม่คงจะบ่นอีก"
หลังจากส่งซ่งซื่อ หลินกู๋หยู่ก็เรียกโต้ซามาหาด้วยรอยยิ้มละไม ช่วยเขาเช็ดเหงื่อบนใบหน้า ก่อนจะพูดว่า "ไปเล่นเถอะ"
หลินกู๋หยู่ไม่เคยพบกับแม่แท้ๆ ของโต้ซา และไม่เคยเห็นว่าโต้ซาจะร้องไห้โวยวาย้าหานาง
ดูเหมือนว่าคนคนนั้นจะเป็คนเกียจคร้านและอาจจะค่อนข้างก้าวร้าว ไม่เช่นนั้นโจวซื่อก็คงไม่ให้หย่าผู้หญิงคนนั้นเป็แน่
ในระหว่างวัน ฉือหางทำตัวปกติเช่นวันทั่วไป แต่ในเวลากลางคืน หลินกู๋หยู่สามารถััได้ถึงการจ้องมองประดุจหมาป่าที่หิวโหยทุกวัน ฉือหางดูเหมือนจะไม่เคยเป็เช่นนี้มาก่อน
เวลาหลายวันผ่านไป ในที่สุดประจำเดือนของหลินกู๋หยู่ก็หมดไป ในตอนบ่ายนางและฉือหางช่วยกันยกและจัดวางอ่างอาบน้ำ
เมื่อวางอ่างอาบน้ำเข้าไป ห้องนี้เดิมทีก็มีขนาดไม่ใหญ่กลายเป็ยิ่งเล็กลง
ตอนแรกพวกเขา้าจะใส่ปล่องไฟใต้อ่างอาบน้ำโดยตรง แต่เตียงที่บ้านยังไม่ได้สร้าง ดังนั้น พวกเขาทั้งสองจึงคุยกันว่าจะไม่ใช้อ่างอาบน้ำสักระยะหนึ่ง
ฉือหางต้มน้ำหม้อแล้วหม้อเล่า แล้วผสมกับน้ำเย็นให้เข้ากัน เดิมทีเขา้าให้โต้ซาอาบน้ำในอ่างอาบน้ำ แต่หลินกู๋หยู่กังวลว่าโต้ซาจะไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงได้ ดังนั้นจึงขอให้เขาอาบน้ำโต้ซาในถังไม้แทน
พอโต้ซาเข้านอน หลินกู๋หยู่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วปิดม่าน "เดี๋ยวข้าอาบน้ำให้เสร็จแล้วจะเทน้ำออก จากนั้นข้าจะอาบน้ำอีกครั้ง"
“อืม” ฉือหางรับคำ นั่งลงด้านข้าง เหลาลูกธนูต่อไป
หลินกู๋หยู่เหยียบบนเก้าอี้เตี้ยเข้าไปในถังไม้ที่ล้อมรอบด้วยน้ำร้อน ร่างกายของนางถูกห่อหุ้มไว้จนรู้สึกสบายตัว
ใช้แรงขัดตัวด้วยผ้าขนหนู ร่างกายของนางสกปรกมาก หลังจากถูตัวทั้งหมดแล้ว นางก็ถูตัวด้วยสบู่ และดึงผ้านวมบางด้านข้าง หลินกู๋หยู่ะโเรียกคนข้างในห้อง "พี่ฉือหาง มาช่วยเทน้ำทิ้ง ข้าจะไปอาบน้ำอีกรอบ”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของหลินกู๋หยู่ ฉือหางก็วางของในมือลงข้างๆ ลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอก
เมื่อเห็นว่าหลินกู๋หยู่เปียกโชกไปทั้งตัว เขาก็พูดอย่างกังวลเล็กน้อย "เ้าไปยืนข้างเตาเถอะ ตรงนั้นอุ่นกว่า"
พูดจบฉือหางก็ดึงจุกปิดน้ำเล็กๆ ข้างอ่างอาบน้ำออก ปล่อยให้น้ำไหลลงอ่างไม้เล็กๆ แล้วเทน้ำในอ่างไม้ทิ้ง
หลังจากทำซ้ำสองสามครั้ง น้ำในอ่างก็สะอาดในที่สุด ฉือหางก้มลงล้างอ่างด้วยน้ำก่อนที่จะเติมน้ำสะอาดอีกครั้ง
เมื่อเปิดประตูห้อง อากาศเย็นะเืจากภายนอกก็ล่องลอยเข้าสู่ภายในห้อง
หลินกู๋หยู่รอให้ฉือหางปิดประตู แทบรอไม่ไหวที่จะเข้าไปข้างใน
ข้างในอ่างน้ำอุ่นมาก แต่เมื่อออกมายืนข้างนอก อากาศหนาวเกินไปแล้ว
ทันทีที่ฉือหางปิดประตู หันกลับไปก็เห็นหลินกู๋หยู่นั่งยองๆ อยู่ในอ่างอาบน้ำ ผมของนางเปียกโชก ตะเกียงน้ำมันก๊าดที่อยู่ด้านข้างก็ส่องกระทบบนร่างของนาง คล้ายกับจะเคลือบด้วยแสงสีทองหนึ่งชั้น
“เดี๋ยวข้าก็อาบน้ำเสร็จแล้ว” หลินกู๋หยู่เช็ดแขนด้วยผ้าขนหนู แล้วพูดกับฉือหางว่า “เ้าเข้าไปข้างในก่อนเถอะ”
ฉือหางกลืนน้ำลาย ริมฝีปากของเขาเม้มแน่น จ้องมองที่หลินกู๋หยู่ด้วยสายตาร้อนแรง
หลินกู๋หยู่ถูกฉือหางมองเช่นนี้ก็รู้สึกอึดอัดหลายส่วน เม้มริมฝีปากเล็กน้อย "ทำไมเ้ายังไม่เข้าไปข้างในอีกเล่า?"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้