ตอนที่ 3 : ผงเจ็ดราตรี
“ข้ารู้ว่าเ้าหวังดีกับข้าที่สุด แต่ราชโองการของเสด็จพ่อ ข้าหรือจะกล้าขัด”
หลัวอี้เฟิงผละอ้อมกอดนั้นออกช้า ๆ เพื่อใช้แววตาที่แสนอบอุ่นจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสดใสของรั่วอิงเหยา
ทำเป็อ้างราชโองการของฝ่าาที่ไม่ว่าผู้ใดก็ขัดไม่ได้เพื่อให้ตนเองดูดี คิดหรือว่านางจะมองไม่ออกว่าเขาคาดหวังอะไร
“ขอเพียงองค์ชายใหญ่ซื่อสัตย์และไม่หลอกลวงหม่อมฉัน ชีวิตของเชียนเชียนก็ไม่มีอะไรต้องเป็ห่วงแล้วเพคะ”
น้ำเสียงนางบ่งบอกว่า้าข่มขวัญหลัวอี้เฟิงให้คล้อยตามสิ่งที่นาง้า
คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะดูไม่ออก
“ข้ารับปากเ้าทุกอย่างขอเพียงช่วยชิงเอ๋อร์ให้ฟื้น และเข้าร่วมพิธีอภิเษกให้ทัน”
พิธีอภิเสกสมรสของทั้งสองจะเกิดขึ้นในอีกห้าวัน หากรั่วอิงเหยาช่วยว่าที่พระชายาฟื้นได้ก็จะไม่ถูกลงโทษ แต่มีหรือคนอย่างหลัวอี้เฟิงจะปล่อยนางขัดความความสุขของพวกเขาต่อ
“หม่อมฉันขอรางวัลหนึ่งอย่างจากพระองค์ ไม่ทราบว่าทรงอนุญาตหรือไม่เพคะ”
“เ้าอยากได้รางวัลอะไรข้าให้ได้หมด ขอเพียงช่วยชิงเอ๋อร์ให้ฟื้น”
ช่างรักกันเสียจริง แต่ก็ถูกแล้วนี่เพราะหลัวอี้เฟิงกับรั่วเชียนชิงคือ พระเอก นางเอก ในนิยายของนาง
“รอหม่อมฉันช่วยน้องหญิงฟื้นแล้วจะทูลขอรางวัลทีหลังเพคะ”
หลัวอี้เฟิงหรี่ตามองสตรีเ้าแผนการณ์ตรงหน้าที่จ้องตาเขาไม่กะพริบ
“ได้ ข้ารับปากเ้า”
แม้จะไม่รู้ว่ารั่วอิงเหยาจะขออะไรจากเขา แต่การเดิมพันครั้งนี้ ต่อให้รั่วอิงเหยาขอให้เขายกเลิกงานแต่งกับฝ่าา เขาก็มีทางออกให้ตนเองแน่
“ขอบพระทัยองค์ชายใหญ่”
หึ! ไม่ต้องกังวลว่าฉันจะขอให้ยกเลิกงานแต่งหรอก ฉันข้ามมิติมาครั้งนี้้าแค่ให้รั่วอิงเหยามีบทบาทในนิยายเื่นี้ต่อไปจนกว่าจะหาทางกลับโลกของฉันได้
“องค์ชายใหญ่เชิญเสด็จเพคะ”
ตอนนี้นางอยากจะเห็นหน้าตานางเอกในนิยายตัวเองแทบใจจะขาดแล้ว
เรือนไฉ่รั่ว
องค์ชายใหญ่หลัวอี้เฟิงพารั่วอิงเหยามายังเรือนไฉ่รั่วในตำหนักอี้คุน
ทันทีที่รั่วอิงเหยาเข้ามาในห้องนางถึงกับตะลึงในความงามของรั่วเชียนชิงที่ถูกปั้นแต่งขึ้นจากตัวอักษรของนางเอง
“สวย สมแล้วที่เป็นางเอกของฉัน”
รั่วอิงเหยาเก็บคำชื่นชมนั้นไว้ในใจไม่อยู่ถึงกับพึมพำออกมาเบา ๆ
“เ้าพึมพำอันใด ชิงเอ๋อร์เป็อย่างไรบ้าง”
“หม่อมฉันขอตรวจชีพจรน้องหญิงก่อนเพคะ”
โชคดีที่มารดาของรั่วอิงเหยาเป็ลูกหลานของตระกูลท่านหมอนางจึงมีความรู้วิชาแพทย์ติดตัวมาบ้างจากการสั่งสอนของมารดา 'ปิงเซียวหลัน' ั้แ่เด็ก
“ตอนนี้ผงเจ็ดราตรีเข้าสู่กระแสเืแล้วต้องปล่อยให้ยาหมดฤทธิ์เองเพคะ”
“จะให้รอถึงเจ็ดวันได้อย่างไร!”
รั่วอิงเหยาสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงตวาดเมื่อครู่ขององค์ชายใหญ่
“ข้าขอโทษ ข้าร้อนใจเกินไป”
มือหนาเอื้อมมาแตะไหล่บางเบา ๆ เป็การปลอบขวัญ
ทำไมนางจะไม่รู้เหตุใดเขาถึงร้อนใจหากรั่วเชียนชิงฟื้นมากราบไหว้ฟ้าดินให้เขาไม่ทัน
นั่นเพราะการอภิเษกสมรสครั้งนี้มีผลต่อตำแหน่ง 'รัชทายาท' ที่ฮ่องเต้ฉีเฟิงหยวนแห่งราชวงศ์หลัวยังไม่แต่งตั้งผู้ใดอย่างไรเล่า
“อิงเหยามีอีกวิธีที่จะช่วยน้องหญิงฟื้นทันกราบไหว้ฟ้าดินกับพระองค์เพคะ”
“วิธีอะไร”
“หม่อมฉันเคยได้ยินจากท่านตาว่ามียาชนิดหนึ่งสามารถช่วยให้คนตายฟื้นได้ เรียกว่า ยาชุบชีวิต”
“ชิงเอ๋อร์ยังไม่ตาย!”
น้ำเสียงนั้นบ่งบอกว่าเขาเคืองรั่วอิงเหยามากที่กล่าวหาว่าว่าที่พระชายาของตนเป็คนตายไปแล้ว
“เพราะน้องหญิงยังไม่ตายถึงใช้ยานี้ได้เพคะ”
ตกลงว่าเป็ยาของคนตายหรือคนเป็กันแน่
“องค์ชายใหญ่เคยเห็นคนตายฟื้นคืนชีวิตได้หรือเพคะ”
หลัวอี้เฟิงคิดและตอบในใจว่าไม่เคยได้ยินข่าวลือใดเกี่ยวกับคนตายแล้วฟื้นเพราะยาวิเศษมาก่อน
“นั่นเพราะยานั้นตั้งชื่อสวยหรูเพื่อให้คนคิดว่าคือยาวิเศษของเหล่าเทพเซียน แต่ความจริงเป็เพียงยาที่ช่วยให้คนหลับใหลจากผงเจ็ดราตรีฟื้นเท่านั้น”
“เ้ามียานั่นหรือไม่”
รั่วอิงเหยารีบส่ายหน้าไปมาช้า ๆ พร้อมเอ่ย
“ยานั่น…หม่อมฉันไม่มีเพคะ”
หลัวอี้เฟิงถึงกับเข่าอ่อน เขาถูกนางหลอกให้เสวนาตั้งนานสองนานแต่กลับไร้ประโยชน์ใด ๆ ริมฝีปากหนาเตรียมเรียกองค์รักษ์ข้างกายมานำนางไปสำเร็จโทษ หากไม่มีเสียงหนึ่งดังขึ้นต่อ
“แต่หม่อมฉันรู้ว่าต้องหายานั้นมาจากที่ใดเพคะ”
ดวงตาคมเข้มตวัดมองรั่วอิงเหยาราวจะฉีกนางเป็ชิ้น ๆ หากยังกล้าโกหกเขาต่อ
“ที่ใด”
เสียงถามแสนห้วนไม่สะทกสะท้านิญญาของนักเขียนมือทองที่ใส่รายละเอียดยานี้เอาไว้ตั้งนานแล้วหรอก
“ยานี้อยู่ที่ตลาดมืดหนานเหอเพคะ”
ที่ชื่อตลาดมืดหนานเหอเพราะว่าสถานที่แห่งนั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างเขตเมืองหนานโจว กับ เมืองเหอโจว เขตของสถานที่เสรีที่อำนาจทหารเข้าไม่ถึง
“ข้าจะส่งคนไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”
“ช้าก่อนเพคะ”
หลัวอี้เฟิงกำลังจะเรียกองครักษ์ตู้ชิงหลางเข้ามาสั่งการกลับถูกรั่วอิงเหยาขัดไว้
“เหตุใดเ้าถึงรั้งข้าไว้”
“ยานี้มีทั้งจริงและปลอม หากให้คนอื่นไปเกรงว่าอาจถูกหลอกได้”
“เ้าจะให้ข้าทำเช่นไร”
หลัวอี้เฟิงเริ่มหงุดหงิด นั่นก็ทำไม่ได้ นี่ก็ถูกรั้งเอาไว้อีก
“หม่อมฉันจะเดินทางไปที่นั่นเองเพคะ”
“เ้าเนี่ยนะ?”
หลัวอี้เฟิงมองรั่วอิงเหยาอย่างสบประมาท นางขี่ม้าไม่เป็ เหินกระบี่ก็ไม่ได้ จะไปสถานที่ไกลหลายร้อยลี้นั้นในเวลาจำกัดได้เช่นไร
“หม่อมฉันมีองครักษ์เหยียนอยู่ทั้งคน เหตุใดจะไม่ได้เพคะ”
องครักษ์เหยียน เหยียนตู้ เป็องรักษ์ของมารดานาง เหยียนตู้สนิทกับรั่วอิงเหยามาั้แ่เด็กเพราะทั้งคู่ห่างกันแค่สามหนาวและถูกเลี้ยงดูมาจากเรือนท่านตาของนาง ปีนี้เหยียนตู้อายุยี่สิบเอ็ดหากแต่ยังไม่ออกเรือน ส่วนรั่วอิงเหยาจะสิบแปดหนาวในอีกสองเดือนข้างหน้า หากรั่วอิงเหยาอยากเรียกใช้เขามีหรือองครักษ์หนุ่มผู้นี้จะไม่ยินดีเป็มือเป็เท้าให้นาง
“เ้าจะเดินทางเมื่อใด”
ช่างใจดำไม่ห่วงไม่ว่า อย่างน้อยก็ควรถามไถ่เื่ความปลอดภัยของนางสักหน่อย
“พวกเราจะออกเดินทางยามฉื่อเพคะ”
การเดินทางจากเมืองหลวงเฟิงโจวไปยังตลาดมืดนั้นใช้เวลาเดินทางด้วยม้าเร็วอย่างหยุดพักน้อยที่สุดก็หนึ่งวันครึ่ง รั่วอิงเหยาจึงต้องเร่งเดินทางั้แ่กลางดึกเพื่อจะได้ไปกลับทันงานอภิเสกสมรสในอีกห้าวันข้างหน้า
“ข้าจะเขียนจดหมายผ่านทางให้เ้าและเงินจำนวนหนึ่งในการเดินทางทางรวมถึงม้าเร็วที่ดีที่สุดที่พวกเ้าเลือกใช้ได้ทุกโรงพักม้า”
‘ป๋าจริง ๆ นางอยากลองใช้เงินในยุคโบราณมานานแล้วเหมือนกัน’
“ขอบพระทัยเพคะ”
ตอนนี้รั่วอิงเหยาสามารถเก็บชีวิตนเองไว้ได้แล้วครึ่งหนึ่ง รอเพียงนางได้ยานั้นมาช่วยรั่วเชียนชิงให้ฟื้นและเข้าพิธีอภิเษกสมรสได้สำเร็จ
ไม่แน่...
นางอาจจะกลับโลกที่นางจากมาได้
