“จริงสิ มีภรรยาแล้วคงอยากหางานเลี้ยงชีพที่เข้าท่า เพราะขึ้นเขาไปต้องเสี่ยงอันตราย”
“แต่หมู่บ้านเรายากจนเสียขนาดนี้ ต่อให้เขาแย่งธุรกิจเ้า มันจะได้เงินสักเท่าไรกันเชียว? คงไม่ได้คิดจะไปหาเงินในอำเภอหรอกกระมัง?”
หวางโหย่วกุ้ยได้ยินคนพวกนี้พูดจาลามปามขึ้นเรื่อยๆ และพยายามยุยงให้แตกกันก็พูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “พวกเ้าพูดบ้ากระไร หงหย่วนหางานในอำเภอได้แล้ว หงหนิงเองเอาการเอางานเช่นกัน สอบเข้าสถานศึกษาชิงซงได้แล้ว วันหน้าสองพี่น้องต้องไปทำงานในอำเภอคนหนึ่ง เรียนหนังสือในอำเภอคนหนึ่ง ซื้อรถล่อล้วนแล้วเพื่อให้เดินทางสะดวก”
หวางโหย่วกุ้ยพูดจบก็ตบก้นวัว วัวตัวโตออกแรงวิ่งทันที ทิ้งชาวบ้านพวกนั้นไว้ด้านหลัง
เขาจากไปเสียแล้ว ปล่อยให้ชาวบ้านกลุ่มนนี้ตาค้างปากค้าง
“นายพรานเจียงคงมีเงินไม่น้อย”
“แหงล่ะ ไม่มีเงินจะซื้อที่ดินซื้อล่อได้หรือ”
“ไอ๊หยา แล้วยังส่งเจียงหงหนิงไปเรียนในอำเภอได้อีกด้วย เขาล่าสัตว์ได้เงินเยอะขนาดนั้นเลยหรือ? เหล่าเอ้อร์ไม่ต้องกินยาแล้ว?”
“นั่นน่ะสิ เงินนี้ได้มาอย่างสุจริตหรือไม่?”
ตู้เอ้อร์ฮวามองรถล่อที่จากไปไกลพร้อมกับพูดว่า “ที่บ้านเหล่าหลินพูดไม่น่าใช่ความจริงกระมัง เื่ที่เหล่าต้าบ้านตระกูลเจียงสมคบคิดกับโจรูเาน่ะ? พวกเ้าลองคิดดูเถิด ตอนหลินหวั่นชิวยังไม่แต่งเข้าบ้าน พี่น้องบ้านตระกูลเจียงยังไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าดีๆ จะใส่ แต่นี่หลินหวั่นชิวเพิ่งเข้าบ้านตระกูลเจียงเพียงกี่วัน? สามพี่น้องมีเสื้อผ้าตัวใหม่ใส่ หากเจียงหงหย่วนมีเงินมาั้แ่แรก เหตุใดตั้งนานมานี้ไม่ใช้ ต้องรอจนถึงตอนนี้ด้วย? ข้ารู้สึกว่าเขาต้องเพิ่งได้เงินมาไม่นาน อีกทั้ง…ได้มาแบบไม่ถูกต้องเป็แน่”
สวี่ซื่อคนน้องพูดตาม “มีเหตุผล ข้ารู้สึกว่านังแพศยาหลินหวั่นชิวอาจรังเกียจที่บ้านตระกูลเจียงยากจนเกินไป เหล่าต้าบ้านตระกูลเจียงกลัวหลินหวั่นชิวจะหนีไปเหมือนสตรีสองคนก่อนหน้านี้เลยหันไปพึ่งโจรูเา…ไม่แน่ว่าสักวันจะนำภัยมาสู่คนในหมู่บ้านพวกเรา…”
“ผู้ใดว่าไม่ใช่ล่ะ!”
“หมู่บ้านพวกเรามีสิ่งใดให้น่าได้ตรงไหน หากโจรูเา้าของแค่นี้จากพวกเราคงอดตายไปนานแล้ว”
“นั่นน่ะสิ เื่พวกนี้จะพูดมั่วๆ ไม่ได้ หมู่บ้านเรามีสิ่งใดน่าปล้น เสื้อผ้าขาดๆ หรือว่าเงินไม่กี่เหรียญทองแดงที่ซ่อนในรูหนูที่บ้าน?”
“แต่ไม่มีเงินก็ยังฉุดสตรีกับปล้นเสบียงได้นะ…” มีคนพูดพึมพำ
“ถุย! สตรีในหมู่บ้านกับเสบียงอาหารแค่นี้มีค่าให้โจรูเาลงทุนหนักเช่นนั้นเพื่อซื้อตัวนายพรานเจียง? คิดว่าโจรูเาเป็คนเขลาไม่รู้เื่หรือไร?”
“ไม่มีผู้ใดรู้ว่าจะเกิดอันใดขึ้น แต่ที่มาของเงินที่บ้านตระกูลเจียงได้รับมาต้องมีปัญหาเป็แน่ พวกเราระวังไว้ก่อนเสียดีกว่า”
ตู้เอ้อร์ฮวากับสวี่ซื่อคนน้องพยายามเสี้ยมเต็มที่ หลายคนรู้สึกว่าเจียงหงหย่วนกำลังมีปัญหา แต่ยังมีคนที่สมองแจ่มชัดดีรู้สึกว่าที่พวกนางพูดมาเป็แค่เื่ไร้สาระ
เจียงหงหย่วนรู้ว่าการที่บ้านเขาซื้อที่ดินและซื้อรถล่อจะเป็ที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนในหมู่บ้านและทำให้หลายคนอิจฉา แต่เขาไม่สนใจสิ่งใด
ตัวเองใช้ชีวิตให้มีความสุขก็พอ ไม่สนว่าผู้อื่นจะคิดอย่างไร
เขาทำงานหนักหาเงินเพื่อสิ่งใด?
เพื่อให้ภรรยาตัวน้อยและน้องชายทั้งสองได้อยู่อย่างสุขสบายไม่ใช่หรือ
ชาติก่อนเขาระมัดระวังเกินไป ผลลัพธ์ล่ะ ทั้งครอบครัวไม่เคยกินอิ่ม ไม่เคยใส่เสื้อผ้าดีๆ มิหนำซ้ำยังอายุสั้น
ได้โอกาสกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ความคิดและวิธีทำสิ่งต่างๆ ของเขาย่อมเปลี่ยนไป
กลับมาถึงบ้าน เจียงหงหย่วนเอาตู้รถไปจอด ผูกล่อไว้กับต้นไม้ที่มุมกำแพง เจียงหงหนิงรีบหาอ่างน้ำกับหญ้ามาให้ล่อกิน
ต้าเกอเห็นด้วยแล้วว่าที่ต่อจากนี้จะให้เขาเป็คนดูแลล่อ เขาดีใจมาก
เจียงหงหย่วนนำของกองหนึ่งที่ซื้อจากในอำเภอลงมา วางของส่วนใหญ่ไว้ในลานบ้าน อีกส่วนเอาเข้าห้องไปให้หลินหวั่นชิว
“ของพวกนี้ข้าซื้อให้เ้า ไว้เดี๋ยวค่อยกลับมาจัดเก็บ”
หลินหวั่นชิวสงสัย “จะไปที่ใดอีกหรือ?”
เจียงหงหย่วน “ข้าซื้อเหล้าและอาหารมาจากในอำเภอ พวกเราไปบ้านฟู่กุ้ย ข้าให้หงหนิงไปตามบ้านสุ่ยเซิงให้ไปบ้านฟู่กุ้ยเช่นกัน วันนี้พวกเราไปกินข้าวที่นั่น”
หลินหวั่นชิวพยักหน้า “สมควรเลี้ยงข้าวพวกเขาจริงๆ นั่นแหละ วันนี้ฟู่กุ้ยกับสุ่ยเซิงเหนื่อยไม่น้อยเลย”
“สิ่งนี้ให้เ้า ใส่เสีย!” เจียงหงหย่วนดึงตลับไม้เล็กๆ กับกระเป๋าเงินสีแดงออกมาจากอกเสื้อ
หลินหวั่นชิวรับมาวางบนโต๊ะ เปิดตลับไม้ออกดูก่อน ด้านในมีปิ่นปักผมรูปผีเสื้อสีเงิน
ปีกผีเสื้อสั่นเบาๆ ด้านใต้มีไข่มุกหมาเหน่า[1]สองเม็ดเชื่อมติด แกว่งไปมาแล้วสวยมาก
แต่หลินหวั่นชิวเกล้าผมไม่เป็ ได้แต่แบ่งผมแล้วม้วนเป็มวยแล้วปักปิ่นลงไป
นางเปิดกระเป๋าเงินต่อ ด้านในมีต่างหูหมาเหน่าหนึ่งคู่ บนไข่มุกมีผีเสื้อสีเงินเช่นกัน ดูเหมือนจะเป็ชุดเดียวกันกับปิ่น
นางรีบใส่ต่างหู ถามเจียงหงหย่วนอย่างมีความสุข “หย่วนเกอ สวยหรือไม่?”
แววตาเจียงหงหย่วนร้อนระอุ ลูกกระเดือกเขาขยับขึ้นลง “ข้าซื้อต้องสวยอยู่แล้ว!”
ภรรยาเขาซื้อมา
ปิ่นเขาซื้อมา
ต่างหูเขาซื้อมา
เขาซื้อสิ่งใดล้วนสวยทั้งนั้น!
“ข้าชอบมาก ขอบคุณหย่วนเกอ!” หลินหวั่นชิวไม่ได้บ้า นางจะไม่มาบอกว่าเปลืองเงินหรือไม่อยากได้หรอก
บุรุษควรซื้อของขวัญให้สตรีอยู่แล้ว ห้ามปฏิเสธ ต้องชื่นชม!
เมื่อก่อนนี้นางเคยรู้จักพี่สาวคนหนึ่ง มีคุณธรรมจริยธรรมมาก ตอนสามีไม่มีเงินก็ช่วยกันอดทนกับสามี หลังจากสามีมีเงินแล้วนางกลับไม่กล้าใช้เงิน รู้ว่ากว่าสามีจะได้เงินมาไม่ใช่ง่ายๆ
ทุกครั้งที่สามีซื้อของขวัญราคาแพงหน่อยให้จะถูกบ่น
ผลลัพธ์คือ
สามีนอกใจไปมีภรรยาน้อย พาภรรยาน้อยท่องเที่ยวซื้อของหรูหรา
หลังรู้ความจริง เธอบุกไปโวยวายที่บริษัทสามี ถามสามีต่อหน้าพนักงานทั้งบริษัทว่าเหตุใดจึงพาภรรยาน้อยไปเที่ยว ซื้อของฟุ่มเฟือยราคาแพงให้ภรรยาน้อยตั้งมากมาย
เธอร่วมกันสร้างตัวกับเขาด้วยความลำบาก ไม่กล้าสิ้นเปลือง ไม่กล้าใส่ของแพง กลัวเขาจะกดดัน สิ้นเปลืองเงินเขา…
สามีตอบอย่างมีเหตุผลเต็มปากเต็มคำว่า “เพราะเธอไม่้า!”
เพียงประโยคนี้ทำให้พี่สาวคนนั้นพูดไม่ออกอีก
ใช่แล้ว เธอไม่ใช่แค่ไม่้า ยังเอาแต่บ่นเวลาสามีมอบของขวัญราคาแพงให้ด้วยใจเป็สุข สั่งให้เขาเอาไปคืน
จะคืนได้อย่างไร!
ไม่ต้องเหลือศักดิ์ศรีแล้วหรือ?
ด้วยเหตุนี้ สิ่งต่างๆ ที่เธอไม่้าจึงถูกสามีนำไปมอบให้เลขาสาว
ต่อมา เลขาสาวเปลี่ยนจากการทำงานวันละแปดชั่วโมงมาเป็ยี่สิบสี่ชั่วโมง
บทสรุปที่หลินหวั่นชิวได้จากเื่นี้คือ หากสตรีอยากให้ผู้อื่นมองตัวเองเป็ของล้ำค่าย่อมต้องเป็ของล้ำค่าเสียก่อน
อยากให้คนอื่นรักทะนุถนอมต้องรู้จักรักทะนุถนอมตัวเองเสียก่อน
“ซื้อไปอย่างนั้น ไม่ได้ตั้งใจเลือกกระไร” เจียงหงหย่วนเหล่ตาพูด เขาจ้องติ่งหูหลินหวั่นชิวมานานแล้ว ใต้ติ่งหูนุ่มนิ่มมีไข่มุกหมาเหน่าสีแดงส่ายไปมา ทำเอาเขาอยากเข้าไปอม
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ต้องรีบไปบ้านตระกูลหวางเสียแล้ว
ไว้กลางคืนหลับแล้วค่อย…
เชิงอรรถ
[1] หมาเหน่า(玛瑙) หินหยกขุ่นสีน้ำผึ้ง
