การตกแต่งของคาเฟ่หรูหรามาก บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ พื้นหลังสีขาวทำให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย
เย่เฟิงและหลินซือฉิงนั่งตรงข้ามกันบริเวณโต๊ะริมหน้าต่าง สายตาของเขาบังเอิญตกอยู่ที่ร่องอกขาวเนียนซึ่งโผล่พ้นเสื้อเชิ้ตคอวีสีขาว จึงรู้สึกขัดเขินจนต้องเบี่ยงสายตาไปทางอื่น
หลินซือฉิงไม่สนใจ เธอเพียงอมยิ้มนั่งบนเก้าอี้ด้วยท่าทีสง่า ก่อนหยิบเมนูอาหารแล้วถามด้วยน้ำเสียงไพเราะ “นายอยากกินอะไร?”
“อะไรก็ได้ครับ” เย่เฟิงไม่คุ้นเคยกับสถานที่เช่นคาเฟ่แบบนี้ อีกอย่างเขากินอะไรก็ได้ไม่เื่มาก ตอนนี้ความคิดของเขาจดจ่อกับเื่ของไช่เฉ่าหงที่เพิ่งได้ยินมา ผู้ชายคนนี้กับคุณชายไช่จากองค์กรลึกลับจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า?
“นายกำลังคิดอะไรอยู่?” เมื่อหลินซือฉิงเห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็ถามด้วยความสนใจ ริมฝีปากแดงก่ำยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้างดงามเปี่ยมเสน่ห์
“ผมกำลังคิดว่าไช่เฉ่าหงคือใคร?” เย่เฟิงยิ้มบางก่อนเอ่ยตามตรง
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา หลินซือฉิงยิ้มอย่างคาดไม่ถึง ทันใดนั้นเสียงสดใสเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ไอ้หยา นายไม่รู้จักแม้กระทั่งไช่เฉ่าหงแล้วจะเหมาะสมกับตำแหน่งคู่หมั้นของเธอได้ยังไง?”
เย่เฟิงหันไปมองก็พบหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องอาหาร เธอก้าวมาถึงโต๊ะของทั้งสองคน ก่อนเหลือบมองชายหนุ่มในระยะใกล้พร้อมผุดรอยยิ้มประหลาด
“เสียวฉี่ อย่าทำให้เขาใสิ” หลินซือฉิงเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มออกมา “เสี่ยวเย่ เธอเป็เ้าของคาเฟ่นี้ ชื่อเซียวฉี่ เสียวฉี่ เขาคือเย่เฟิง เขาจะสอบเข้ามหาลัยแล้วฉันเลยพาเขามาเที่ยว จะได้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม”
หลังฟังคำแนะนำตัว เซียวฉี่ก็เข้าใจความคิดของหลินซือฉิงทันที เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวไม่อยากพูดถึงสัญญาหมั้นหมายของตัวเองกับเย่เฟิง ไม่อย่างนั้นคงไม่เรียกเขาว่า ‘เสี่ยวเย่’
เซียวฉี่เป็เพียงคนจากตระกูลเล็กที่อยู่ในเมืองเยี่ยนจิง ไม่มีทางเทียบชั้นกับหลินซือฉิงที่มาจากตระกูลอันดับหนึ่งได้เลย แต่สิ่งนี้ไม่สามารถขัดขวางความเป็เพื่อนของเธอกับหลินซือฉิงได้ พวกเธอเข้าใจความคิดของกันและกันได้ทะลุปรุโปร่งทีเดียว
เธอขอเงินจากครอบครัวมาลงทุนเปิดคาเฟ่ฉีฉี่แห่งนี้ แม้ตระกูลเซียวจะเป็เพียงตระกูลเล็กๆ เช่นเดียวกับตระกูลเซี่ย แต่เงินแค่เท่านี้ยังถือว่าไม่อยู่ในสายตา
“ส่วนเื่นี้อะนะ” เซียวฉี่อยู่ในชุดเสื้อแขนสั้นลายลูกไม้สีขาวกับกางเกงยีนทรงสลิม ขณะนั่งลงข้างเย่เฟิง ผมหางม้าของเธอทิ้งตัวระต้นคอ เธอพูดพลางยิ้ม “เสี่ยวเย่ ไช่เฉ่าหงน่ะ เป็คนที่พวกเราหมายปองยังไงล่ะ”
“เธออยากตายหรือไง?” หลินซือฉิงเอ่ยปากดุอย่างขบขัน “ยังเร็วเกินไปจ้ะ”
“ทำไมล่ะ ยังไม่พูดเื่นี้เหรอ?” เซียวฉี่ยืดอกเล็กๆ ของตัวเอง น่าเสียดายที่ขนาดของเธอเทียบกับหลินซือฉิงไม่ได้เลย...
“สวัสดีครับพี่เซียวฉี่ พี่พูดต่อสิครับ ผมสนใจมากเลย” เย่เฟิงยิ้ม
เซียวฉี่มองชายหนุ่ม เธอรู้สึกว่าคนคนนี้ช่างเป็เด็กน้อยเสียจริง เขาไม่หึงหวงเลยหรือ?
ไหนเลยเธอจะรู้ว่าใจของเย่เฟิงไม่รู้สึกหึงหวงเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงรู้สึกว่ามันเป็เื่น่าขบขันเท่านั้น
หากไช่เฉ่าหงเป็คุณชายไช่ผู้นำองค์กรลึกลับจริง แสดงว่าการเคลื่อนไหวตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาก็อยู่ใต้จมูกของตระกูลหลินมาตลอด ตระกูลหลินจึงไม่เคยสังเกตเห็น นอกจากนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลินก็ดูเหมือนจะสนใจในตัวอีกฝ่าย ควรจะบอกว่าตระกูลหลินโง่เขลา หรือไช่เฉ่าหงเก็บความลับเก่งดีล่ะ?
หากจะบอกว่าองค์กรลึกลับและตระกูลหลินร่วมมือกันคงเป็ไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่จำเป็ต้องใช้อิทธิพลจากกลุ่มมาเฟียของเมืองเยี่ยนจิงหรอก เขาไม่รู้หรอกว่าไช่เฉ่าหงดีเลิศขนาดไหนถึงทำให้สาวสวยอันดับหนึ่งอย่างหลินซือฉิงหลงใหลได้?
เมื่อเซียวฉี่เห็นหลินซือฉิงไม่คัดค้านอะไรก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคงอยากให้เธอพูดทำลายความรู้สึกของเย่เฟิง จึงหัวเราะออกมาก่อนพูดต่อ “คุณชายไช่เป็หนุ่มหล่อที่เล่นบาสเกตบอลเก่งที่สุดในมหาลัยของเรา พ่อแม่เป็คนอเมริกาเชื้อสายจีน เขาเป็หนึ่งในประธานคณะกรรมการบริหารของเพ่ยเค่อกรุ๊ป คุณชายไช่ถือสัญชาติอเมริกา ตอนนี้เขาเป็นักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่มหาลัยเยี่ยนจิง เป็นักศึกษาชั้นปีที่สองเหมือนซือฉิงเลย และตอนนี้ก็เป็ไอดอลของมหาลัยนี้ไปแล้วล่ะ~”
เมื่อเย่เฟิงได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งพอใจ ที่แท้ก็ถือสัญชาติของต่างชาตินี่เอง เขาเคยได้ยินชื่อเพ่ยเค่อกรุ๊ปมาบ้าง เป็บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีชั้นสูงของอเมริกา ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์การสื่อสารทางทหารที่กระจายไปทั่วโลกทั้งหมดเป็ของที่เพ่ยเค่อกรุ๊ปวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยพวกนี้ล้วนอยู่ในมือของอเมริกา...
“ก็แค่สัญชาติน่ะ” เมื่อเห็นสีหน้าของเย่เฟิง เซียวฉี่ก็กะพริบตาถี่ก่อนเอ่ย “ความจริงพ่อแม่ของเขาเป็คนจีนทั้งคู่เลย”
“ปัญหานี้ไม่ใช่เื่เล็กๆ นะ” หลินซือฉิงกล่าวเสียงเรียบ “ถ้าเขาไม่ยอมเปลี่ยนสัญชาติ ฉันคงไม่สามารถยอมรับเขาได้”
ดวงตาเปล่งประกายของเธอเผยให้เห็นร่องรอยความเสียใจ หลินซือฉิงพอใจไช่เฉ่าหงทุกด้าน เหลือเพียงปัญหาเื่สัญชาตินี่แหละ หลินซือฉิงเปรียบเสมือนภาพลักษณ์ทางการเมืองของจีน หากเธอมีความรักกับชาวต่างชาติย่อมส่งผลกระทบไม่ดีตามมาแน่ จึงต้องพิจารณาจุดนี้ด้วย
ไม่นานแซนวิชสองที่ พร้อมทาร์ตไข่และนมก็ถูกยกมาวางบนโต๊ะ
ระหว่างกินมื้อเช้า เย่เฟิงถามเื่ไช่เฉ่าหงไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็เื่ชีวิตปกติของเขา งานอดิเรกหรือสิ่งที่ชอบ น่าเสียดายที่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่พบสิ่งเชื่อมโยงอีกฝ่ายกับองค์กรลึกลับ ความจริงชายหนุ่มรู้เกี่ยวกับคุณชายไช่ขององค์กรลึกลับน้อยมาก ยิ่งทำให้เขารู้สึกราวกับมีปลายดาบจ่อที่ด้านหลังของตน แต่การจะรู้จักไช่เฉ่าหงให้มากขึ้นก็ควรเริ่มสืบจากตัวเขา
เมื่อสองสาวหลินซือฉิงและเซียวฉี่เห็นเย่เฟิงถามเื่ไช่เฉ่าหงไม่หยุดก็ทำอะไรไม่ถูก ทั้งคู่ต่างเข้าใจว่าเขากำลังศึกษาคู่ต่อสู้เพื่อหาวิธีชนะฝ่ายตรงข้าม
น่าเสียดายที่ในสายตาของเซียวฉี่ เย่เฟิงในตอนนี้ไม่สามารถเทียบกับไช่เฉ่าหงได้เลยสักนิด ด้านหลินชือฉิงก็คิดว่าเธอยังฝังภาพลักษณ์พี่สาวให้เย่เฟิงไม่ลึกพอ จำต้องพยายามต่อไปเพื่อให้ชายคนนี้เข้าใจเสียทีว่าเื่ระหว่างพวกเขามันเป็ไปไม่ได้
เย่เฟิงพอจะรู้ว่าผู้หญิงทั้งสองคนคิดอะไรอยู่ แต่เขาไม่คิดจะอธิบาย ปล่อยให้ทั้งคู่เข้าใจผิดต่อไป เป็เื่ดีที่พวกเธอไม่สงสัยว่าเขามีจุดประสงค์อื่น!
เล่นบาสเกตบาสเป็อันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยเยี่ยนจิง อัจฉริยะทางดนตรี มีมันสมองทางธุรกิจ เป็รองประธานสโมสรนักศึกษา เปิดร้านกาแฟ ทำการกุศล... ข้อมูลแต่ละอย่างแสดงให้เห็นว่าไช่เฉ่าหงเป็บุคคลที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน
“พาผมไปเจอเขาหน่อยได้ไหม?” เมื่อเย่เฟิงกินอาหารเสร็จก็เอ่ยปากหน้าตาเฉย
คำพูดของเขาทำให้สองสาวประหลาดใจ เย่เฟิงจะอยากเจอไช่เฉ่าหงไปทำไม? หรือชายหนุ่มอยากท้าทายไช่เฉ่าหงโดยตรง? นี่ไม่ใช่สิ่งที่หลินซือฉิงคาดไว้ ถึงอย่างไรเธอก็ไม่้าเห็นตระกูลหลินขัดแย้งกับตระกูลเย่และไช่เฉ่าหง เธอแค่้าแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี
เย่เฟิงดูออกอีกฝ่ายคิดอะไร จึงฉีกยิ้ม “แค่ไปดูหน้าพี่เขยในอนาคตเอง ไม่น่ามีปัญหาอะไรมั้งครับ?”
ชายหนุ่มเอ่ยปากแล้ว หากหลินซือฉิงยืนกรานปฏิเสธก็จะไม่เหมาะสม เธอจึงยิ้มรับ “แน่นอนว่าไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะไปทักทายก็คงเร็วเกินไป ตอนนี้ฉันกับเขายังไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย”
หลินซือฉิงชื่นชมความนิ่งสงบของเย่เฟิง แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมรับการแต่งงานกับเขา การพาเย่เฟิงไปพบไช่เฉ่าหงอาจทำให้เขารับรู้ความแตกต่างแล้วยอมถอยออกไปแต่โดยดี
เมื่อเย่เฟิงลุกขึ้นยืน ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มประหลาดดูคลุมเครือ เขาไม่ได้คิดถึงสัญญาหมั้นหมายกับหลินซือฉิงเลย เพียงแต่อยากพบไช่เฉ่าหงด้วยตัวเอง บางทีอาจมองเห็นเบาะแสบางอย่างก็ได้ และหาโอกาสสะกดจิตอีกฝ่าย ถ้าผู้ชายคนนี้คือคุณชายไช่จากองค์กรลึกลับเขาย่อมไม่ยอมอ่อนข้อ ต้องสังหารมันทิ้งซะ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้