จุนห่าวกอดหานรุ่ยอย่างแ่า ราวกับว่าเขาจะนำตัวหานรุ่ยเข้าสู่เนื้อและเืของตัวเอง หานรุ่ยรู้ว่าจุนห่าวเป็ทุกข์และนึกกลัวในภายหลัง หานรุ่ยตบหลังจุนห่าวเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้ข้าอยู่ในอ้อมแขนของเ้าแล้ว เวลานี้ข้ายังมีชีวิตอยู่ และยังมีชีวิตที่ดี สำหรับองค์ชายสามนี่คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เราควรขอบคุณเขา หากไม่มีเขา เราคงไม่มีทางมากันได้”
จุนห่าวถอนสายตาของเขา ความเกลียดชังในดวงตาถูกซ่อนไว้ เขาวางศีรษะของเขาบนไหล่ของหานรุ่ย กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “เหตุใดข้าต้องขอบคุณเขา ต่อให้ไม่มีเขา ข้าย่อมหาเ้าจนเจอ และตกหลุมรักเ้า การพบกันของเรา์ลิขิตไว้แล้ว ไม่จำเป็ต้องขอบคุณใคร”
หานรุ่ยเห็นดวงตาจุนตงและจุนหนานทั้งสี่ดวงจ้องมองเขาและจุนห่าวไม่กระพริบตา หานรุ่ยรีบออกจากอ้อมแขนของจุนห่าว และพูดกับจุนห่าวว่า “ลูกๆ ยังอยู่ เ้าระวังหน่อย” การที่ลูกๆ เห็นเขาและจุนห่าวใกล้ชิดกัน เขามักจะอึดอัดเล็กน้อย
ฟังคำของหานรุ่ย จุนตงและจุนหนานรีบปิดตาด้วยมือของเขา กล่าวโดยพร้อมเพรียงกันว่า “ข้าไม่เห็น ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” พูดจบ ก็พยักหน้าอย่างจริงใจต่อจุนห่าวและหานรุ่ย
จุนห่าวหอมหานรุ่ยต่อหน้าจุนตงและจุนหนานอย่างไม่อาย หานรุ่ยผลักจุนห่าวออกอย่างอายๆ จ้องจุนห่าวเขม็ง คิดในใจ เขาหาได้หน้าหนาเหมือนจุนห่าวไม่
จุนห่าวเห็นปฏิกิริยาของหานรุ่ย หัวเราะเฮ่อๆ และพูดว่า “เสี่ยวรุ่ย เ้าหน้าบางเกินไป ถึงถูกเ้าลูกสองนี้ก่อกวนเสมอ”
หานรุ่ยจ้องมองจุนห่าวที่กำลังหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดอย่างเคืองโกรธว่า “พอแล้ว เลิกหัวเราะได้แล้ว มีคนมา”
ฟังคำของหานรุ่ย จุนห่าวย้อนถามว่า “มีคนมา ข้าก็หัวเราะไม่ได้หรือ?” หยุดชั่วขณะหนึ่ง มองไปทางคนที่มาเยี่ยม และะโไปยังที่ไกลๆ ว่า “ไม่ทราบว่าแขกท่านใดมาเยี่ยมเยียน?”
ทันทีที่สิ้นเสียงของจุนห่าว ก็เห็นคนสองคนจากที่ไกลเข้าใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ หนึ่งคนในนั้นจุนห่าวรู้จัก เมื่อเห็นท้องของเขา จุนห่าวชะงักไปครู่หนึ่ง คิดในใจ ดูเหมือนว่าฤทธิ์ยาบำรุงพลังัไจะได้ผลดีจริงๆ เวลาเพียงครึ่งปีหยุนจิ่นตั้งครรภ์แล้ว
“หลานชายจุน ช่างสายตาเฉียบแหลมนัก ดูเหมือนว่าครึ่งปีที่ไม่ได้พบกัน พลังปราณของหลานชายจะเพิ่มขึ้นไม่น้อย ทำให้ข้าอิจฉาเสียจริง” หยุนจิ่นค่อยๆ เดินเข้ามาทางจุนห่าวและหานรุ่ย กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ท่านลุงหยุนนี่เอง งั้นก็เป็แขกคนสำคัญ” จุนห่าวพูดกับหยุนจิ่นด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก เขาหยุดชั่วครู่หนึ่งและกล่าวว่า “ท่านลุงหยุนพูดเื่น่าขันแล้ว ข้าเพียงแค่บังเอิญพบกับโอกาสและโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ อย่าพูดเช่นนั้นเลย” จากนั้น กล่าวพลางมองที่ท้องของหยุนจิ่นว่า “ยินดีด้วยท่านลุงหยุน สมดังความปรารถนาแล้ว”
ได้ยินจุนห่าวเรียกเขาว่าท่านลุงหยุน หยุนจิ่นรู้ว่าจุนห่าวยังให้เกียรติเขา หยุนจิ่นยิ้มจริงใจมากขึ้น “เป็เพราะยาของหลานชายจุนดียิ่งนัก ไม่รู้ว่าหลานชายจุนยังมีอีกหรือไม่ หากยังมี ข้าขอซื้ออีกสักสองสามขวดได้ไหม? “เ้าเมืองเซ่ายังไม่ดีขึ้นอีกหรือ?” จุนห่าวเอ่ยถามอย่างสงสัย หยุดชั่วขณะหนึ่งและพูดว่า “หากดื่มยาขวดนึงแล้ว ยังใช้งานไม่ได้ เช่นนั้น อาการป่วยของเ้าเมืองเซ่าคงหนักหนาไม่น้อย”
ฟังคำของจุนห่าว หยุนจิ่นพูดอย่างเก้อเขินว่า “เ้าเมืองเซ่าแข็งแรงมีชีวิตชีวาดี และดุดันยิ่ง หลานชายกังวลมากไปแล้ว” คิดอย่างลับๆ หากเซ่าเจี้ยนหลิ่นรู้ว่าจุนห่าวบอกว่าเขายังใช้การไม่ได้ เดาว่าคงตัดคอจุนห่าวแน่ แต่ทั้งนี้ ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของจุนห่าว เซ่าเจี้ยนหลิ่นคงตัดคอจุนห่าวไม่ได้แล้ว ทำให้เพียงโมโหตัวเอง เวลานี้เซ่าเจี้ยนหลิ่นกระตือรือร้นกับการออกแรงบนเตียงยิ่งนัก มีบางครั้งที่เขาทนไม่ได้ต้องวิ่งออกไป เมื่อเขาพบจุนห่าว เขาจึงอยากซื้อสักสองสามขวด เพื่อเตรียมยานี้ไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
“งั้นหรือ? คิดไม่ถึงว่าเ้าเมืองเซ่าอายุปูนนี้แล้วยังคงดุดัน คงเป็เพราะถูกกักไว้นานเกินไป” จุนห่าวพูดยิ้มๆ
เห็นท่าทางเขินอายของหยุนจิ่น หานรุ่ยรีบเปลี่ยนเื่และเอ่ยว่า “คาดไม่ถึงว่าท่านลุงหยุนก็มา เวลานี้ร่างกายของท่านลุงหยุนไม่สะดวกนัก คาดไม่ถึงว่าเ้าเมืองเซ่าจะวางใจให้ท่านมา” คิดในใจ เ้าเมืองเซ่าเบาใจเกินไป ขนาดให้หยุนจิ่นมาในที่ที่อันตรายเช่นนี้ แม้ว่าซวงเอ๋อร์ที่ตั้งครรภ์จะตัดคอสัตว์อสูรได้ แต่ลูกของหยุนจิ่นนั้นมีค่ากว่ามิใช่หรือ? ทั้งสองคนอายุก็เยอะแล้ว หากหยุนจิ่นแท้งขึ้นมา เดาว่าทั้งคู่คงเสียใจไปตลอดชีวิต
หยุนจ่านเฮ่อรับรู้สถานการณ์ของหยุนจิ่นแล้ว ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนหัวข้อและพูดว่า “หานรุ่ย ไม่ได้พบกันนาน ได้ยินว่าเ้าประสบอุบัติเหตุ น้องเล็กของข้าเป็ห่วงเ้ามาก แต่ทว่า หลังจากประสบอุบัติเหตุเ้าก็หายสาบสูญ หลายปีมานี้ไม่มีข่าวคราว ผู้คนต่างคิดว่าเ้าตายแล้ว เขาเสียใจอยู่นาน บัดนี้เห็นเ้าปลอดภัย เขาต้องดีใจมากแน่”
ได้ฟังหยุนจ่านเฮ่อพูดถึงขึ้นน้องชายของเขา หานรุ่ยเงียบงันครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “อาเผิง สบายดีไหม?” หยุนจ่านเผิงคือเพื่อนเพียงคนเดียวของหานรุ่ย ตอนที่จากไปเขาแต่งงาน ก็มิได้บอกหยุนจ่านเผิงเลย เขารู้สึกผิดต่อหยุนจ่านเผิงเล็กน้อย
“เขาสบายดี เขาไม่เคยเชื่อว่าเ้าช่วยองค์ชายสามจนได้รับาเ็ พูดแต่ว่าองค์ชายสามเจตนาทำร้ายเ้า เขามักไปหาเื่องค์ชายสามเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่เ้า ต่อมาท่านพ่อจึงส่งเขาไปอยู่บ้านท่านอาที่จักรวรรดิหั่วเหยียน ท่านอาส่งข่าวมาว่า ยามนี้เขาขยันบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก ข้าคิดว่าเขาคงอยากแก้แค้นให้เ้า ถึงได้ขยันบำเพ็ญเพียรเช่นนี้” หยุนจ่านเฮ่อพูดกับหานรุ่ย คิดอย่างลับๆ ครั้งก่อนที่ท่านลุงเล่าว่าหานรุ่ยดีขึ้นแล้ว เขาจึงส่งข่าวไปให้หยุนจ่านเผิง เพียงแต่ว่าเขาและลูกผู้พี่ออกไปหาประสบการณ์ ยังไม่รู้กำหนดกลับ
หานรุ่ยคิดไม่ถึงว่าหยุนจ่านเผิงจะสงสัยการาเ็ของเขา แต่เมื่อเขาคิดทบทวน หยุนจ่านเผิงฉลาดออกเพียงนั้นย่อมสงสัยอยู่แล้ว หยุนจ่านเผิงรู้แน่ชัดว่าเขามิได้รักองค์ชายสาม และรู้ว่าองค์ชายสามเกลียดชังเขา เป็เช่นนี้เหตุใดตนเองต้องช่วยชีวิตองค์ชายสามด้วย?
หายรุ่ยนิ่งเงียบครู่หนึ่ง กล่าวพลางมองหยุนจ่านเฮ่อว่า “พี่รองหยุน ช่วยนำคำข้าไปบอกอาเผิงด้วย แค้นของข้า ข้าต้องล้างแค้นด้วยตัวเอง อย่าให้เขามีส่วนร่วมในเื่นี้เลย ยังไงเขาก็มิใช่คนตัวคนเดียว ให้เขาบำเพ็ญเพียรให้ดีก็พอ”
“ข้าจะบอกน้องเล็กให้ เพียงแต่เขาและลูกผู้พี่ออกไปหาประสบการณ์ ยังไม่รู้ว่าไปที่ใด ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะส่งข่าวมา” หยุนจ่านเฮ่อกล่าว หยุนจ่านเฮ่อเป็คนฉลาด เขาใกับคำพูดของหานรุ่ย คิดในใจ คิดไม่ถึงว่าน้องเล็กจะเดาถูก ที่หานรุ่ยาเ็เป็เพราะองค์ชายสามจริงๆ คิดไม่ถึงว่าองค์ชายสามจะโเี้ถึงเพียงนี้ แม้แต่คู่หมั้นของตัวเองก็ไม่ยอมปล่อย ดูเหมือนว่าั้แ่สามปีก่อน ราชวงศ์สุ่ยเย่ว์ได้เริ่มจัดการกับตระกูลหานแล้ว
บัดนี้ตระกูลหานกำลังพังทลาย ตระกูลหวังเป็ตระกูลฝ่ายแม่ขององค์ชายสาม ตระกูลไป๋ก็เตรียมตัวเป็ญาติกับองค์ชายสาม ถ้าอย่างนั้น ลำดับต่อไปที่พวกเขาจะจัดการต้องเป็ตระกูลหยุนของพวกเขาแน่ คิดถึงตรงนี้ หยุนจ่านเฮ่อรู้สึกคับแค้นในใจ เห็นทีตระกูลหยุนของพวกเขาต้องเตรียมตัวเข้าสู่า ไม่เช่นนั้น จะสิ้นตระกูลเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ได้
หานรุ่ยมองหยุนจิ่นและหยุนจ่านเฮ่อ พูดอย่างสุภาพว่า “ท่านลุงหยุนและพี่รองหยุน หากไม่รังเกียจ เชิญมาชิมลิ้มรสมือทำอาหารของจุนห่าว” หยุดครู่หนึ่งและกล่าวว่า “ทักษะการทำอาหารของจุนห่าวไม่เลวทีเดียว”
"ข้าก็ได้ยินมาเช่นกัน คุณชายจุน้าเชิญผู้คนที่มุงดูในวันนี้ทานเนื้อย่างด้วยกัน น่าเสียดายนัก พวกเขาขี้ขลาดต่างหนีไปหมด” หยุนจ่านเฮ่อพูดด้วยรอยยิ้ม พลางมองไปที่เนื้อย่างแล้วพูดว่า “ถ้าเช่นนั้น การเคารพเทียบไม่ได้กับทำตามคำ ข้าขอลิ้มลองรสมือเนื้อย่างของคุณชายจุน” พูดจบ หยุนจ่านเฮ่อก็นั่งขัดสมาธิลงบนพื้น และหยุนจินก็นั่งลงตาม
หานรุ่ยเรียบเรียงคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “พี่รองหยุน เหตุใดข้าถึงไม่พบคนตระกูลหานเลย? หรือว่าตระกูลหานเกิดเื่ขึ้น?” หลังจากที่หานรุ่ยมา ก็สังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วน กองกำลังใหญ่ในเมืองต่างมากันหมด ทว่าเขากลับไม่เห็นคนของตระกุลหาน อนึ่ง โอกาสที่หายากในรอบพันปีเช่นนี้ ตระกูลหานมีหรือจะไม่เข้าร่วม?
หยุนจ่านเฮ่อคิดในใจ ดูเหมือนว่าหานรุ่ยยังไม่ทราบเื่ของตระกูลหาน เขาไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “นายพลหานคงเกรงว่าคนอาจไม่พอ ก่อนหน้านี้นายพลหานได้ส่งกำลังไปคุ้มครองหานเฉินที่เข้าร่วมในงานประมูล ต่อมาหานเฉินให้คนกลุ่มนั้นคุ้มกันพวกเรา”
“ตระกูลหยุนนำกุญแจสำคัญสู่ซากวัตถุโบราณที่ประมูลมาได้กลับไปเมืองเย่ว์เซียน ส่วนหานเฉิน เขาบอกว่าเขาจะอยู่ที่เมืองอันหวาต่อสักหน่อย ให้พวกเรากลับไปก่อน ระหว่างทางข้าได้ยินเื่ผลไม้ชิงลัว จึงนำคนส่วนหนึ่งกลับมา แต่ข้าอยู่ที่นี่มาหลายวัน ไม่เห็นหานเฉินเลย คาดว่าเขาคงยังอยู่ที่เมืองอันหวา แต่ทว่า จากนิสัยของเขาก็อาจไม่มา หรือบางทีเวลานี้อาจอยู่ระหว่างการเดินทาง”
ทันทีที่หานรุ่ยนึกถึงเื่นี้ เขาก็รู้ว่าเหตุใดหานเฉินถึงยังอยู่ในเมืองอันหวา เขากับหานเฉินคลาดกันเสียแล้ว
จุนห่าวจับช่องโหว่ในคำพูดของหยุนจ่านเฮ่อได้ เขาขมวดคิ้วและพูดด้วยท่าทางงงงวยว่า “เหตุใดนายพลหานถึงดึงกำลังคนออกมาไม่ได้”
หยุนจ่านเฮ่อคิดในใจ ชายคนนี้เฉียบแหลมนัก เขาจงใจพูดช่องโหว่และเขาก็จับได้ “นั่นเป็เพราะยามนี้นายพลหานไม่มีคนที่เชื่อใจได้ที่จะส่งมาแล้ว”
ฟังคำของหยุนจ่านเฮ่อ หานรุ่ยเอ่ยถาม “เกิดเื่อันใดขึ้น?” คิดในใจ ตระกูลหานเกิดเื่จริงๆ แล้ว และยังมาถึงจุดนี้ ข้างกายท่านปู่ แม้แต่คนที่เชื่อใจได้ก็มีไม่มากแล้ว
“สองเดือนที่ผ่านมา ท่านลุงใหญ่และท่านลุงรองของเ้าเสียชีวิตในการรบ พี่รองเ้า...หานเสวียน พี่สาม...หานเสวี่ยก็โดนพิษร้ายและล้มป่วย บัดนี้ยังลุกจากเตียงไม่ได้ ได้ยินว่ายาพิษลามไปที่แขนขาของพวกเขา ขยับเขยื้อนไม่ได้ และกลายเป็สวะเสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การที่นายน้อยรองและนายน้อยสามของตระกูลหานถูกทำร้ายครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับพวกเขา” หยุนจ่านเฮ่อพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ หานเสวียนและหานเสวี่ยคือเพื่อนรักของเขา เคยร่ำเรียนมาด้วยกัน ออกไปหาประสบการณ์มาด้วยกัน ตอนนี้เพื่อนรักต้องมานอนบนเตียงอย่างขยับเขยื้อนไม่ได้ เขาจะไม่เศร้าใจอย่างไร ในที่สุดเขาก็ตระหนักถึงอารมณ์ของน้องเล็ก น่าเสียดายนัก เขาเป็นายน้อยฝ่ายในของตระกูลหยุน เขาไม่อาจเอาแต่ใจได้ แม้ว่าตระกูลหานจะปกปิดข่าว ทว่าพอหลายวันผ่านไป แต่ละตระกูลใหญ่ต่างได้รับข่าว เชื่อว่าไม่นานคงแพร่กระจายออกไป ดังนั้น ต่อให้เขาไม่พูด หานรุ่ยคงได้รู้เอง
ฟังคำของหยุนจิ่น ดวงตาของหานรุ่ยแดงก่ำ กำกำปั้นของเขาแน่ จิตใจของเขาสั่นไหว ก้มศรีษะลงเงียบงัน เขาบอกกับตัวเอง ตอนนี้มิใช่เวลามาเสียใจ เขาต้องใจเย็นๆ เขาไม่จำเป็ต้องคิดมาก รู้แค่ว่าเื่นี้ราชวงศ์เป็คนทำ เขาต้องแก้แค้น เขาเงยหน้าขึ้น ความเกลียดชังที่ฝังลึกถึงกระดูกของเขาถูกระงับด้วยดวงตาสงบนิ่ง เอ่ยขึ้นพลางมองไปทิศทางของเมืองเย่ว์เซียนว่า “ราชวงศ์สุ่ยเย่ว์ ข้าหานรุ่ยกับเ้าอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้” จากนั้นก็หันกลับมาพูดกับหยุนจ้านเฮ่อว่า “พี่รองหยุน ท่านช่วยนำคำของข้าไปบอกแก่ท่านปู่ บอกให้เขาอย่าใจอ่อน ความผูกพันทางจิตใจระหว่างญาติพี่น้องต้องมาก่อน อะไรควรตัดได้ก็ต้องตัด ให้เขาอดทนอีกสองปี สองปีจากนี้ ข้าหานรุ่ยจะกลับมา ถึงตอนนั้นก็คือเวลาที่ราชวงศ์สุ่ยเย่ว์จะล้มสลาย ท่านให้ท่านปู่ของข้าและท่านปู่หยุนเตรียมตัวร่วมมือกัน ราชวงศ์สุ่ยเย่ว์ดำรงอยู่มานานพอแล้ว ถึงเวลาอันสมควรที่จะเปลี่ยนคนแล้ว” หานรุ่ยกล่าวถึงสุดท้าย ด้วยแรงผลักดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มองท่าทางองอาจของหานรุ่ย หยุนจ่านเฮ่อรู้สึกได้ว่าการมาครั้งนี้ถูกต้องแล้ว พลางคิดถึงสิ่งที่จักรพรรดิสุ่ยเย่ว์ทำมาทั้งหมด หยุนจ่านเฮ่อเกิดความเ็า
