เสียงอึกทึกเอ็ดอึงทั่วเกาะหลัวโหว เหล่าอสูรดึกดำบรรพ์พวกที่อ่อนแอหมอบตัวต่ำลงกับพื้น แววตาของพวกมันเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก อัสนีบาตสีทองที่ก่อตัวอยู่บนท้องฟ้าน่าพรั่นพรึงเกินจะหยั่งถึง!
“อัสนีเก้า์ พิชิตย่านฟ้า!” สิ้นเสียงของซั่งหวานจือหนิง อัสนีบาตผ่าฟาดลงมาอย่างรุนแรง!
“โฮกกก!” ราชสีห์วินาศโลกันตร์คำราม เปลวเพลิงบนตัวมันลุกโชนโชติ่ยิ่งกว่าเดิม มาดหมายปะทะกับอัสนีบาตทองคำ
หากมุมปากของซั่งกวานจือหนิงกลับยกยิ้มอย่างไม่แยแส อสูรดึกดำบรรพ์ขั้นสร้างลมปราณจักต่อต้านพลานุภาพของอัสนีเก้า์ได้อย่างไร ราชสีห์วินาศโลกันตร์จักต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย!
“เปรี้ยง!” อัสนีบาตทลายเปลวเพลิงในชั่วพริบตาเดียว จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ศีรษะของราชสีห์วินาศโลกันตร์ ก่อนที่จะะเิกะโหลกของราชสีห์วินาศโลกันตร์แหลกเป็จุณ!
“น่ากลัวยิ่ง!” กระทั่งจอมยุทธ์ขุนเขากระบี่เทียนหยวนที่เห็นพลานุภาพของอัสนีเก้า์ยังหอบหายใจหนักหน่วง
ที่นี่คือเกาะหลัวโหว พลังของจอมยุทธ์ที่มาจากข้างนอกล้วนถูกสยบ ทว่าพลานุภาพของอัสนีเก้า์กลับน่าสะพรึงสุดแสน ถ้าเป็ข้างนอกเกาะ เกรงว่าจอมยุทธ์ขั้นหลอมลมปราณก็คงถูกสายฟ้าผ่าฟาดแหลกสลายกลายเป็ผุยผงไปแล้ว
จูชิงเห็นภาพดังนั้นก็อ้าปากค้าง คิดไม่ถึงเลยว่าราชสีห์วินาศโลกันตร์ที่ดูแข็งแกร่งเฉกเช่นนั้นจักถูกซั่งกวานจือหนิงฆ่าตายในกระบวนท่าเดียว
ชายกระโปรงของซั่งกวานจือหนิงพลิ้วปลิวไสวตามสายลม แสงแวบวาบสายหนึ่งปรากฏยามกายาอรชรพุ่งทะยานตรงเข้าไปในถ้ำ
ศิษย์ขุนเขากระบี่เทียนหยวนทั้งห้าโจนทะยานตามไปโดยไม่รอช้า เทือกเขานี้มิได้มีเพียงของล้ำค่าหายากเฉกเช่นผลไม้อายุวัฒนะ หากยังมีหญ้าเพลิงซึ่งเป็ของล้ำค่าที่สูญพันธุ์ไปนานแล้วอีกด้วย!
จูชิงยังคงตะลึงงันจับจ้องมองท้องฟ้าคล้ายกับกำลังจมดิ่งอยู่ในพลานุภาพที่มิอาจจินตนาการ!
“มัวอึ้งอะไรอยู่ได้ รีบหนีไปสิ จักรอให้พวกเขากลับมาฆ่าเ้าหรือไร” เฒ่าปีศาจแค่นเสียง
จูชิงเพิ่งได้สติ ยามนี้เขาสังเกตเห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้ว มิว่าจะเป็ซั่งกวานจือหนิงหรือว่าศิษย์ขุนเขากระบี่เทียนหยวน
“จริงด้วย ข้าต้องรีบแล้ว!” ไม่รอช้าจูชิงกางขาพร้อมวิ่ง
“โง่เง่า! เ้าถูกโซ่เหล็กพันธนาการเอาไว้แบบนี้จักหนีไปไหนได้ ด้วยพลังของพวกเขาหากรู้ว่าเ้าหนีไปประเดี๋ยวเดียวก็ตามเ้าทันแล้ว” เฒ่าปีศาจอยากเอาหัวโขกศิลาผนึกิญญาพิชิต์ให้ตายเสียกับความโง่งมของจูชิง
“โซ่หนาขนาดนี้ ต้องทำอย่างไรเล่า” จูชิงยิ้มเจื่อน
“เ้าเอากระบี่นั่นมาตัดโซ่เสียสิ” เฒ่าปีศาจกล่าว
“หืม?” หางตาของจูชิงกระตุกเล็กน้อย เขาเห็นกระบี่เล็กเล่มหนึ่งวางอยู่บนพื้นที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
ที่แท้นี่คือกระบี่สีทองที่ซั่งกวานจือหนิงใช้ปราบราชสีห์วินาศโลกันตร์เมื่อครู่นี่เอง ทว่าแสงบนตัวกระบี่จางลงหลายส่วนแล้ว เพราะกระบวนท่าของซั่งกวานจือหนิงผลาญพลานุภาพของมันเป็จำนวนมหาศาล หลังจากลงมือเสร็จสิ้น นางรีบร้อนตามหาผลไม้อายุวัฒนะจึงทิ้งกระบี่เอาไว้อย่างมิได้ใส่ใจ
“เคร้ง!” คว้ากระบี่มาได้จูชิงก็ดีใจมาก กระบี่เล็กเล่มนี้แวววาวคมกริบ เพียงฟันลงบนโซ่เหล็กก็ขาดสะบั้นไม่เป็ชิ้นดี
เขากอดกระบี่เล่มเล็กเอาไว้แน่น เมื่อเห็นว่าพวกซั่งกวานจือหนิงยังไม่กลับมาก็รีบพุ่งทะยานเข้าไปในป่าโดยพลันทันใด
เกาะหลัวโหวเป็ดินแดนโบราณรกร้าง ป่าไม้แ่า เพราะเช่นนั้นการที่จะหาใครสักคนยากเหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร
ซั่งกวานจือหนิงพบผลไม้อายุวัฒนะสี่ผลในถ้ำของราชสีห์วินาศโลกันตร์ ผลตอบแทนที่สูงค่าเช่นนี้ทำให้นางดีใจอย่างยิ่งยวด
หากแต่เมื่อนางกลับมาแล้วเห็นว่าจูชิงหายไปอย่างไร้ร่องรอย หัวใจของซั่งกวานจือหนิงพลันหล่นวูบตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
จูชิงมีปราณมรณะในกายซึ่งเป็เื่แปลกประหลาดที่มิเคยประจักษ์มาก่อนในขุนเขากระบี่เทียนหยวน ที่สำคัญก็คือเกาะหลัวโหวเป็ดินแดนต้องห้ามของขุนเขากระบี่เทียนหยวน บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้นอกเสียจากศิษย์ของขุนเขากระบี่เทียนหยวน
จูชิงย่อมมิใช่ศิษย์ของขุนเขากระบี่เทียนหยวนเป็แน่ ยิ่งถ้าเขาเป็ไส้ศึกจากนิกายอื่น แสดงว่าพวกเขาจักต้องมีวิธีเข้ามาในเกาะหลัวโหว แน่นอนว่านั่นมิใช่เื่ที่ดี
ระหว่างที่พวกของซั่งกวานจือหนิงกำลังเป็โทสะ จูชิงก็หนีไปไกลหลายสิบลี้แล้ว
ถึงจูชิงจะยังมิได้บำเพ็ญเพียรเส้นทางแห่งยุทธ์ แต่กายาซึมซับลมปราณส่วนหนึ่งเข้าไปแล้วยามนี้ย่อมแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดา สามารถวิ่งได้ไกลหลายสิบลี้ในหนึ่งลมหายใจ!
“แฮกๆๆ หนีมาไกลตั้งขนาดนี้แล้ว นางน่าจักไล่ตามมาไม่ทันแล้วกระมัง” จูชิงหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย
ไม่รู้ว่าจูชิงโชคดีหรือว่าอะไร เพราะระหว่างทางเขาไม่พบเจอกับสัตว์อสูรตัวไหนเลย
ระหว่างที่หยุดพักจูชิงมองเห็นไม้ผลต้นหนึ่งสูงเท่ากับคนหนึ่งคนที่อยู่ข้างๆ อย่างประหลาดใจ บนต้นมีผลไม้อยู่สองผล ลักษณะเป็สีใสราวกับมรกต สามารถมองเห็นแสงิญญาอ่อนๆ ไหลเวียนอยู่ข้างใน เพียงเห็นแวบแรก เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่ามันมิใช่ผลไม้ธรรมดา
เฒ่าปีศาจมองผลไม้ทั้งสอง มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย “เ้าช่างโชคดีจริงๆ มาเจอของล้ำค่าเช่นนี้ได้อย่างไร”
“โครกคราก!” ยังมิทันได้ถามเฒ่าปีศาจว่าที่พูดนั้นหมายถึงอันใด จู่ๆ ก็มีเสียงโครกครากดังออกมาจากท้องของจูชิง!
ั้แ่ฟื้นคืนชีพจากความตายก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิด ทั้งยังถูกนางมารร้ายอย่างซั่งกวานจือหนิงทรมานอยู่หลายวัน พอเห็นผลไม้น่าอร่อยอยู่ตรงหน้า มีหรือจักอดใจไหว?
จูชิงเด็ดผลไม้ผลหนึ่ง กลิ่นหอมของมันทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้าน เืลมปั่นป่วนเกินจะควบคุม!
“กรอบ!” แค่กัดเข้าไปเพียงคำเดียว ความหอมหวานพลันแตกซ่านทั่วทั้งปาก รสชาติของมันนั้นทำให้จูชิงตกอยู่ในความมึนเมาไปชั่วขณะหนึ่ง
ทว่าจู่ๆ ร่างกายของจูชิงเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ อวัยวะภายใน เนื้อ กระดูกคล้ายกับถูกแผดเผาลุกโชนเป็ไฟ
“อ๊ากกก...” จูชิงวิ่งพล่านอยู่ในป่าร้อนรุ่มจนอดะโออกไปมิได้
ไม่รู้ว่าจูชิงวิ่งไปนานเท่าไหร่ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเย็นวาบ ก่อนที่จักหลับใหลไปด้วยความอ่อนล้า
โดยที่จูชิงมิได้ตระหนักเลยแม้แต่น้อยเลยว่าสถานที่ที่เขาเข้ามานั้นอันตรายเพียงใด กระทั่งกับศิษย์ขุนเขากระบี่เทียนหยวน มันก็เป็พื้นที่ต้องห้ามที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปได้โดยเด็ดขาด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้