ตอนที่หลงอวี้เข้าไปในหุบเขาลัทธิและเตรียมฝึกฝนเป็เวลาสามวัน ในเขตพระราชฐานที่ไกลออกไปนั้น ในสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของอาณาจักรแห่งนี้ได้มีหออันหรูหราแห่งหนึ่งตั้งอยู่
หอแห่งนี้มีชื่อว่า หอทองคำ เป็ธุรกิจของตระกูลหลิ่วแห่งเขตพระราชฐาน
การที่ตั้งชื่อว่า หอทองคำ เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าลูกค้าที่หอแห่งนี้ต้อนรับล้วนเป็คนใหญ่คนโตทั้งสิ้น ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปของอาณาจักรไม่มีสิทธิ์ได้เข้าไปภายในเลยด้วยซ้ำ
และตอนนี้ ภายในหอทองม่วงที่ราคาแพงที่สุดในบรรดาหอทองคำนั้น ได้มีชายหนุ่มชุดผ้าไหมสีทองผู้หนึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนที่นั่งอันหรูหรา มีสาวงามสองคนนวดไหล่ให้อย่างอ่อนโยน
ชายหนุ่มผู้นี้ คือคนที่หลงอวี้เคยต่อกรด้วย หวังเทียนจั๋ว!
หวังเทียนจั๋วนั้นเป็คนของตระกูลหวัง หนึ่งในสี่ตระกูลขุนนางใหญ่แห่งอาณาจักรต้าถัง เขาย่อมต้องมีสิทธิ์ได้นั่งอยู่ในหอทองม่วงอันหรูหรา และเสพสุขกับบริการที่ดีที่สุดของที่นี่อยู่แล้ว
ในตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าอันรีบร้อนของคนคนหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านนอกหอทองม่วง จากนั้นก็ได้มีเสียงพูดดังขึ้น
“คุณชายหวัง ตอนนี้ข้าเข้าไปได้ไหม? ข้าได้ข่าวของไอ้หลงอวี้นั่นแล้ว!”
เสียงพูดนี้เป็ของหลิ่วิเฉิง คนในสายเืแท้ของตระกูลหลิ่วนั่นเอง!
แม้ว่านี่จะเป็เื่ที่หวังเทียนจั๋วให้ความสนใจมากที่สุด แต่หลิ่วิเฉิงก็ต้องรายงานออกไปก่อนที่จะเข้าไปในหอทองม่วง
เพราะเขารู้ว่า หวังเทียนจั๋วนั้นอยู่ในหอทองม่วงพร้อมกับสาวใช้ผู้งดงามถึงสองคน ไม่รู้ว่าเขากำลังทำเื่ที่สำคัญมากกว่าอยู่หรือเปล่า?
“เข้ามาเถิด”
หวังเทียนจั๋วรีบลุกจากที่นั่งทันทีด้วยความตื่นเต้น ดวงตาฉายแววยินดีออกมา
ไอ้สวะหลงอวี้ที่ในตอนนั้นเพิ่งจะมีวิถียุทธ์ขั้นแปด แต่กลับสามารถทำให้ตัวเขาที่มีิญญาแท้แล้วาเ็ได้ ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด!
หลังจากกลับมาแล้ว หวังเทียนจั๋วก็คิดแต่จะฆ่าหลงอวี้เพื่อล้างอายมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงส่งหลิ่วิเฉิงไปสืบข่าวของมันที่ลัทธิสยบฟ้า
จนในที่สุดก็ได้ข่าวมาจะไม่ให้หวังเทียนจั๋วตื่นเต้นได้อย่างไร?
“คุณชายหวัง ข้ารับใช้ตระกูลหลิ่วได้มุ่งหน้าไปยังลัทธิสยบฟ้าเมื่อหลายวันก่อน ในที่สุดก็ส่งข่าวของไอ้บ้านั่นกลับมาสักที...”
หลิ่วิเฉิงผลักประตูเข้าไป เห็นสาวใช้หน้าตางดงามสองคนยืนอยู่ข้างๆ จึงโบกมือไล่ไปด้วยความรำคาญ
“พวกเ้าออกไปก่อน ข้ามีเื่สำคัญจะหารือกับคุณชายหวัง!”
“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก?”
หวังเทียนจั๋วนั้นอยากรู้เื่ของหลงอวี้จนทนไม่ไหว จึงแผดเสียงตะคอกทันที
“ข้าน้อยขอลาเ้าค่ะ”
สาวงามทั้งสองรีบก้มหัวลงแล้วออกจากหอทองม่วงไปอย่างรีบร้อน
ภายในห้องจึงเหลือเพียงหวังเทียนจั๋วกับหลิ่วิเฉิงสองคน หลิ่วิเฉิงได้เดินไปอยู่ข้างหวังเทียนจั๋วแล้วกล่าวว่า
“คุณชายหวัง ข้าสืบมาได้แล้วว่า เ้าหลงอวี้นั่น เติบโตขึ้นทีู่เาตระกูลหลิงั้แ่เด็ก”
“ูเาตระกูลหลิง?”
หวังเทียนจั๋วตาเป็ประกายอำมหิตขึ้นมาแวบหนึ่ง
เขาย่อมต้องเคยได้ยินอยู่แล้ว ตระกูลหลิงเป็ตระกูลที่คอยดูแลแหล่งแร่เล็กๆ ผืนหนึ่งในอาณาจักรต้าถังเท่านั้น
ทั้งตระกูลหลิงนั้นไม่มีใครเป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้เลยแม้แต่คนเดียว
ไม่คิดเลยว่าเ้าหลงอวี้นั่นมันจะโตทีู่เาตระกูลหลิง!
แถม่นี้ยังมีข่าวลือว่าทีู่เาตระกูลหลิงจะมีสุดยอดสมบัติล้ำค่าถือกำเนิดด้วย ทำเอาผู้คนไม่น้อยเกิดความละโมบขึ้นมาทันที
“ตอนอยู่ที่เมืองอวี้กวนก่อนหน้านี้ เ้าหลงอวี้น่าจะติดตามหลิงเลี่ยแห่งตระกูลหลิงไปร่วมงานฉลองของเฟิงอวิ๋น แต่เกิดทะเลาะกัน สุดท้ายเลยขยี้หลิงเลี่ยทิ้ง และโค่นเฟิงอวิ๋นลงด้วย”
หลิ่วิเฉิงกล่าวต่อ
นี่ไม่ใช่ข้อสันนิษฐานที่หลิ่วิเฉิงคิดขึ้นเอง แต่เป็ข้ารับใช้ตระกูลหลิ่วที่มุ่งหน้าไปสืบข่าวที่ลัทธิสยบฟ้าแอบสืบมาได้!
เื่นี้แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบของไป๋อวิ๋นจง เขาคิดไว้แล้วว่าต้องมีคนมาสืบเื่ตัวตนของหลงอวี้แน่ๆ เขาจึงได้ปล่อยข่าวลวงออกไปก่อนั้แ่ก่อนหน้านี้แล้วว่า หลงอวี้นั้นเติบโตทีู่เาตระกูลหลิง
ข้ารับใช้ของตระกูลหลิ่วจึงได้ข่าวลวงกลับไป ทำให้ตัวตนที่แท้จริงของหลงอวี้ยังไม่ถูกเปิดเผยเร็วเกินไป!
แม้ว่าข่าวลือนี้จะอยู่ได้ไม่นาน แต่มันก็ถ่วงเวลาได้ หลงอวี้จะปลอดภัยไปอีกสักพักหนึ่งด้วยเช่นกัน เพราะทันทีที่ตัวตนของเขาถูกเปิดเผยจะต้องมีปัญหามากมายตามมารังควานเขาไม่หยุดแน่
ความจริงแล้ว หากหลิ่วิเฉิงฉลาดกว่านี้สักหน่อย ส่งคนไปสืบข่าวที่เมืองอวี้กวนด้วยล่ะก็ เขาจะรู้ทันทีว่าหลงอวี้ไม่ใช่คนของตระกูลหลิง
แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นหวังเทียนจั๋วถูกปู้สิงสยบลง ิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ก็ถูกทำลาย จนต้องหนีออกจากเมืองอวี้กวนอย่างทุลักทุเล แม้แต่หลิ่วิเฉิงเองก็ไม่กล้าส่งคนไปสืบข่าวที่เมืองอวี้กวน
“เ้าแน่ใจหรือเปล่าว่าข่าวที่ได้เป็ความจริง?”
หวังเทียนจั๋วขมวดคิ้วถาม
“ข้าได้ใช้ให้ข้ารับใช้สามคนของตระกูลหลิ่วแยกกันไปสืบข่าวกันที่ลัทธิสยบฟ้า พวกมันได้ข่าวแบบเดียวกันทั้งหมด คงไม่น่าจะผิดแล้วล่ะ”
หลิ่วิเฉิงตอบ
“แล้วทำไมตอนอยู่ที่เมืองอวี้กวน บิดาของเฟิงเหยาถึงพยายามปกป้องไอ้สวะหลงอวี้นั่นขนาดนั้น?”
หวังเทียนจั๋วรู้ว่ามีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล
ถ้าหลงอวี้โตขึ้นทีู่เาตระกูลหลิง งั้นก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเฟิงฉางเกอสิ แต่เฟิงฉางเกอกลับดึงดันจะปกป้องหลงอวีจนตัวตาย?
“เื่นี้ข้าก็ไม่รู้แล้ว อาจจะเกิดเื่อะไรที่งานชุมนุมตระกูลเฟิงก็เป็ได้...”
หลิ่วิเฉิงก็ไม่รู้เหมือนกัน เพียงแต่ตอนนี้เขาก็ทำได้แค่เชื่อข่าวที่ได้จากข้ารับใช้เท่านั้น
“หึ ช่างเื่นั้นไปก่อนแล้วกัน ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องไปทีู่เาตระกูลหลิงกันอยู่แล้ว”
หวังเทียนจั๋วกระแทกเสียงเบาๆ เพราะเขาเองก็ย่อมต้องสนใจในสมบัติล้ำค่าที่ร่ำลือกันใน่นี้อยู่แล้ว!
“คุณชายฉลาดยิ่งนัก”
หลิ่วิเฉิงกล่าวเยินยอ
“หากบังเอิญได้เจอเ้าหลงอวี้ก็สามารถขยี้ทิ้งไปพร้อมกันเลย ส่วนเื่ที่มันเป็คนของตระกูลหลิงจริงหรือเปล่า พอไปถึงที่เดี๋ยวก็รู้เอง!”
“ใช่แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ยังเป็สมบัติล้ำค่าที่ว่านั่นอยู่ดี ส่วนไอ้สวะหลงอวี้นั่น มีเวลาให้จัดการอีกเยอะ!”
หวังเทียนจั๋วตาเป็ประกายอำมหิต
“คุณชายหวังออกโรงเองเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็สมบัติอะไรก็ย่อมต้องตกเป็ของคุณชายอยู่แล้ว ผู้อื่นไม่มีทางแย่งชิงได้แน่นอน”
หลิ่วิเฉิงรีบเยินยอต่อทันที
“อยู่แล้ว”
หวังเทียนจั๋วพูดอย่างได้ใจ จากนั้นก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ จึงออกคำสั่ง “จริงสิ ส่งคนไปแจ้งศิษย์น้องเฟิงเหยาที่สำนักน้ำแข็งเยือก ให้นางเดินทางไปทีู่เาตระกูลหลิงด้วย หากได้รับสมบัติ ข้าจะยกมันให้กับศิษย์น้องเฟิงเหยา!”
“ข้าจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้แหละคุณชายหวัง!”
หลิ่วิเฉิงตอบรับอย่างนอบน้อม
“ท่านพักผ่อนต่อให้สบายเถิด พอข้าจัดเตรียมคนเสร็จ พวกเราค่อยเดินทางไปทีู่เาตระกูลหลิงด้วยกัน!”
“ไม่ล่ะ ข้าจะกลับไปที่ตระกูลหวังก่อน”
หวังเทียนจั๋วส่ายหน้า
“สมบัตินั่น ว่ากันว่าแม้แต่ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ก็้า เพื่อความปลอดภัย ข้าจะลองไปถามพ่อบ้านกู่ดูว่าพอจะว่างเดินทางไปกับข้าหรือเปล่า”
หลังคำพูดนี้ หลิ่วิเฉิง ก็มีสายตาประหลาดใจ
พ่อบ้านกู่!
ใครๆ ก็รู้ว่าพ่อบ้านของตระกูลหวัง กู่เฮ่อโป๋ นั้น เป็ยอดฝีมือสุดแกร่งที่สามารถเปลี่ยนิญญาแท้ให้กลายเป็รูปธรรมได้แล้ว!
“หากพ่อบ้านกู่ลงมือด้วย อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเป็ห่วงอีกต่อไป เพียงแต่ว่า ปกติแล้วพ่อบ้านกู่นั้นยุ่งอยู่กับการดูแลกิจการอันใหญ่โตของตระกูลหวังไม่ใช่หรือ เกรงว่าเขาคงหาเวลามาเดินทางร่วมกับคุณชายหวังได้ยาก...”
หลิ่วิเฉิงพูดอย่างระมัดระวังพร้อมกับเฝ้าดูสีหน้าของหวังเทียนจั๋ว
แม้หวังเทียนจั๋วจะเป็คนของตระกูลหวัง แต่ก็ไม่ใช่คนในสายเืแท้ๆ ของตระกูล เป็เพียงลูกหลานของคนในเครือญาติที่มีพร์พอใช้ได้และเคยถูกพ่อบ้านกู่เฮ่อโป๋ชื่นชมเพียงครั้งเดียว
ความสัมพันธ์ระดับนี้ หวังเทียนจั๋วไม่มีทางเชิญกู่เฮ่อโป๋ให้ร่วมเดินทางไปด้วยได้หรอก!
ต้องกล่าวว่า กู่เฮ่อโป๋นั้นเป็ตัวตนระดับเดียวกับพวกประมุขของสำนักลัทธิใหญ่ของอาณาจักรต้าถัง คนระดับนั้นจะโยนงานมากมายของตระกูลหวังทิ้งไปปกป้องแค่หวังเทียนจั๋วคนเดียวได้อย่างไร?
หากเป็คนในสายเืแท้ของตระกูลหวังก็ว่าไปอย่าง
แน่นอนว่าพวกสายเืแท้ของตระกูลหวังผู้ที่มากพร์นั้นแทบไม่้าการปกป้องจากกู่เฮ่อโป๋เลย
หวังเทียนจั๋วได้ยินหลิ่วิเฉิงพูดเช่นนั้นก็มีสีหน้ามืดมน
“ต่อให้พ่อบ้านกู่ไม่เดินทางไปด้วยตัวเอง ขอแค่ส่งองครักษ์ระดับิญญาแท้ไปกับข้าสองคนก็มากเกินพอแล้ว!”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว! คุณชายหวัง อย่างนั้นข้าไปส่งข่าวทางสำนักน้ำแข็งเยือกก่อนนะ เชิญท่านตามสบาย!”
หลิ่วิเฉิงรีบขอตัวทันที
หวังเทียนจั๋วถึงได้สงบใจลงมาได้ ก่อนจะเดินออกจากหอทองม่วงกลับไปยังตระกูลหวัง!
สมบัติบนูเาตระกูลหลิง เขาต้องชิงมันมาให้ได้!
...........
หลงอวี้ในตอนนี้ไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าตัวเองได้ถูกหวังเทียนจั๋วเพ่งเล็งอีกครั้งแล้ว อีกทั้งมันยังคิดจะไปูเาตระกูลหลิงด้วย
ลัทธิสยบฟ้า ภายในหุบเขาลัทธินั้น หลงอวี้กำลังัักับกฎเกณฑ์สยบฟ้าอันเข้มข้นที่กดทับลงมาจากฟ้า ดูดกลืนมันเข้ามาและััถึงมันตลอดเวลา ทำให้มหาพลังสยบฟ้าของเขาพัฒนาขึ้นอีกก้าวใหญ่
เวลาสามวันทำให้เขาบรรลุมหาพลังสยบฟ้าได้อย่างก้าวะโ!
“มหาพลังสยบฟ้าของข้าตอนนี้มีอานุภาพมากขึ้นกว่าเดิมถึงสองส่วน อาจจะใกล้บรรลุถึงระดับเขตแดนสยบฟ้าแล้วก็เป็ได้ เพียงแค่ยังขาดอะไรบางอย่าง...”
หลงอวี้คิดในใจ
สิ่งที่จะทำให้เขายกระดับได้นั้นหาได้ยากเย็นสุดขีด ไม่ใช่อะไรที่อยากจะยกระดับก็ยกระดับได้เลย
เขารู้แค่ว่า แค่การนั่งฝึกเฉยๆ เช่นนี้ไม่มีทางบรรลุถึงระดับเขตแดนได้แน่
เขาต้องออกไปทำอะไรบางอย่าง เช่นการต่อสู้ หรือการได้เห็นทิวทัศน์อันโดดเด่นเฉพาะตัว ถึงจะมีโอกาสบรรลุ หรือการชมการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือด้วยกันก็ส่งผลต่อการบรรลุเขตแดนสยบฟ้าด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ว่า ในทั่วทั้งลัทธิสยบฟ้านั้น ผู้ที่บรรลุถึงเขตแดนสยบฟ้าได้เกรงว่าคงจะมีแค่ไป๋อวิ๋นจงเพียงคนเดียว!
แม้แต่ไป๋อวิ๋นจง หลงอวี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายบรรลุถึงเขตแดนสยบฟ้าได้แล้วหรือยัง เพราะไป๋อวิ๋นจงเพิ่งมาเป็ประมุขของลัทธิสยบฟ้าทีหลัง โดยก่อนหน้านี้เขาเป็ขุนพลของอาณาจักรต้าถัง วิชาฝึกพลังที่เคยฝึกก่อนหน้านั้นก็ย่อมไม่ใช่เคล็ดสยบฟ้าอยู่แล้ว
“ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ก็ผ่านไปสามวันแล้ว ได้เวลาเดินทางไปทีู่เาตระกูลหลิงแล้ว”
หลงอวี้ลุกขึ้น เดินออกจากหุบเขาลัทธิ จากนั้นก็ไปที่คอกม้าของลัทธิ เลือกม้ามาหนึ่งตัว ก่อนจะควบม้ามุ่งหน้าไปทางูเาตระกูลหลิงทันที
ทางฝั่งเขตพระราชฐานเอง หวังเทียนจั๋วก็ได้พาข้ารับใช้ตระกูลหวังที่มีพลังระดับิญญาแท้สองคนไปด้วย โดยหลิ่วิเฉิงที่เป็ผู้ติดตามก็ได้มุ่งหน้าไปทางูเาตระกูลหลิงเช่นกัน
ที่สำนักน้ำแข็งเยือกนั้น เฟิงเหยาก็ได้รับจดหมายจากพิราบสื่อสารแล้ว หวังเทียนจั๋วได้ข่มขู่นางให้มุ่งหน้าไปทีู่เาตระกูลหลิง และบอกว่าถ้าชิงสมบัติมาได้ก็จะยกให้นางด้วย
แต่หากนางไม่ไป หวังเทียนจั๋วจะไปหาเื่เฟิงฉางเกอที่เมืองอวี้กวนอีกรอบ!
“เ้าหวังเทียนจั๋ว มันสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอะไรบิดาข้า แต่ตอนนี้กลับเอาเื่นี้มันข่มขู่ข้าอีกแล้ว ช่างไร้ยางอายเสียจริง”
เฟิงเหยามีสีหน้ามืดมน แต่นางก็ไม่อาจปฏิเสธได้!
เฟิงเหยาจำต้องออกเดินทางมุ่งหน้าไปทีู่เาตระกูลหลิงคนเดียวด้วยเช่นกัน
แต่ที่สำนักน้ำแข็งเยือกก็มีอีกคนหนึ่งที่มุ่งหน้าไปทีู่เาตระกูลหลิงด้วยเหมือนกัน คนผู้นี้ ไม่ชาย ไม่หญิง รูปร่างผอมแห้ง ดูสวยงามเ้าเล่ห์มากมารยา
ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับสามของสำนักน้ำแข็งเยือก ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นที่สอง ฮวาปู๋เซี่ย เองก็ได้เดินทางไปทีู่เาตระกูลหลิงด้วยเช่นกัน!
“หลงอวี้ เ้าฆ่าพี่น้องข้า ความแค้นนี้ ได้เวลาชำระแล้ว!”
บนใบหน้าชั่วร้ายเ้าเล่ห์ของฮว่าปู๋เซี่ยนั้นเผยความกระหายเืออกมา!
นอกจากนี้แล้ว ตำหนักซ่อนอัคคีและหอโฉมสะคราญที่เป็สองในเจ็ดลัทธิใหญ่ก็ได้ข้อมูลของสมบัติล้ำค่าด้วยเช่นกัน มีลูกศิษย์ระดับพิเศษไม่น้อยเลยที่ออกโรง
ตอนนี้ ูเาตระกูลหลิงกำลังจะเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นแล้ว!
