พ่อบ้านเรียกบ่าวไพร่มาช่วยกันจัดเก็บสัมภาระทั้งข้างในและข้างนอกเรือน สิ่งของเหล่านี้ล้วนเป็ของที่หวังเฟยใช้เป็ประจำจนชินจึงไม่อาจตกหล่นไปได้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องกลับมาเอาให้ยุ่งยากอีก
“พวกนี้แล้วก็พวกนี้ย้ายไปทั้งหมด ให้ตาย พวกเ้าทำอะไรกันอยู่ สิ่งนี้วางเช่นนี้ไม่ได้สิ หากเป็รอยยับย่นขึ้นมาจะใช้การไม่ได้เอา...”
เหยาเชียนเชียนนั่งอยู่หน้าประตูใต้ชานเรือนโดยมีอาเหยียนอยู่ในอ้อมแขน พลางมองทุกคนที่ยุ่งอยู่กับงานด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง
นางถูกเนรเทศออกจากนครหลวง ไม่ใช่ว่านางคงต้องเดินทางไกลหรอกกระมัง
“ท่านอ๋อง นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรือเพคะ?”
หากฮ่องเต้ทรงทราบเื่นี้ พระองค์จะต้องกริ้วอีกเป็แน่
เป่ยเหลียนโม่สั่งให้คัดเลือกพ่อครัวของห้องเครื่องเล็กมาสักสองสามคน ซึ่งล้วนเป็พ่อครัวที่คุ้นเคยกับอาหารที่เหยาเชียนเชียนรับประทานเป็ประจำทุกวัน เขากลัวว่าเมื่ออีกฝ่ายย้ายสถานที่แล้วจะไม่คุ้นเคยกับอาหาร ดังนั้นการพาพ่อครัวไปด้วยก็ถือว่าเป็การกันไว้ดีกว่าแก้
“เสด็จพ่อตรัสเพียงว่า้าให้หวังเฟยออกจากนครหลวง นอกจากนั้นก็ไม่ได้ตรัสอันใดอีก เพียงแค่นำสิ่งของที่ใช้เป็ประจำไปด้วยพระองค์จะตำหนิได้อย่างไรเล่า”
เหยาเชียนเชียนมองเขาด้วยแววตาเป็ประกาย กล้าหาช่องโหว่จากคำพูดของฮ่องเต้ ท่านอ๋องของพวกเราช่างเก่งกาจโดยแท้
“ท่านแม่ อาเหยียนตามไปด้วยไม่ได้จริงๆ หรือขอรับ?”
เด็กน้อยร้องไห้มาสักพักแล้ว ต้องให้ชิงผิงอ๋องปลอบอยู่ครู่หนึ่งถึงจะยอมหยุดร้องไห้ แต่เขาก็ยัง้าให้เหยาเชียนเชียนอุ้มไว้ และดูเหมือนว่าจะไม่อยากปล่อยมือเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“อาเหยียนไม่ดื้อนะ แม่รับโทษด้วยตัวคนเดียว ย่อมไม่อาจพาเ้าไปด้วยได้ แต่ไม่เป็ไร หากมีเวลาอาเหยียนสามารถไปเยี่ยมแม่ได้ และหากแม่หาที่พักอาศัยได้แล้วจะเขียนจดหมายแจ้งอาเหยียนทันที แม่ไม่ไปที่ใดไกลหรอก ตกลงหรือไม่?”
เป่ยเหลียนโม่รับตัวลูกชายมาและตบหลังเขาเบาๆ
“นี่ก็เย็นแล้ว ให้ท่านแม่ไปเถิด พ่อรับรองว่าจะไม่ปล่อยให้อาเหยียนต้องสูญเสียท่านแม่ไป”
ด้วยคำรับรองของบิดา อาเหยียนจึงยอมโบกมือลาเหยาเชียนเชียนอย่างอาลัยอาวรณ์ เมื่อขึ้นมาบนรถม้าแล้ว เหยาเชียนเชียนจึงทอดมองจวนอ๋องแห่งนี้อย่างตั้งใจ ั้แ่ฟื้นขึ้นมานางก็อาศัยอยู่ที่นี่ มีเื่ราวเกิดขึ้นมากมาย ครั้นต้องออกจากจวนจริงๆ ก็รู้สึกอาวรณ์อยู่ไม่น้อย
นางไม่คาดคิดเลยว่าสุดท้ายแล้วจะต้องจากไปด้วยวิธีเช่นนี้
ก่อนหน้านี้นางครุ่นคิดถึงวิธีการที่จะสามารถทำให้ชิงผิงอ๋องปล่อยนางไปได้ รวมถึงอาเหยียนด้วย ยามจากลากันต้องพูดอย่างไร นางครุ่นคิดอยู่ในใจเป็พันเป็หมื่นครั้ง ทว่าวันนี้นางก็ทำให้อาเหยียนร้องไห้อยู่ดี
“ไปแล้วนะ” เหยาเชียนเชียนโบกมือเต็มแรงพลางทอดมองไปยังเป่ยเหลียนโม่ที่อุ้มอาเหยียนอยู่หน้าจวน ทันใดนั้นนางก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมา “ท่านอ๋อง ดูแลเสี่ยวไกวไกวให้ดีนะเพคะ!”
รอยยิ้มบนมุมปากของชิงผิงอ๋องแข็งค้างไปชั่วครู่ ก่อนจะอุ้มบุตรชายหันกลับไป
เหยาเชียนเชียนกลับมานั่งเสียใจบนรถม้าเพียงลำพัง นางปาดน้ำตาและให้กำลังใจตัวเอง ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเข้านครหลวงได้แล้ว เช่นนั้นอาเหยียนก็อาจคิดวิธีออกมาพบกับนางได้ นี่ไม่ใช่การจากลา แต่เป็เพียงการแยกจากกันชั่วคราวเท่านั้น
“นอกจากนี้ท่านอ๋องก็ร้องขอราชโองการจากฮ่องเต้แล้ว เขาจะต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ข้าได้เป็แน่”
เื่ราวไม่ได้เปลี่ยนไปในทิศทางที่ย่ำแย่มากนัก ดังนั้นยามนี้ก็ไม่จำเป็ต้องเศร้าโศกจนเกินไป พวกเขาจะต้องมีโอกาสได้พบกันอีกครั้งอย่างแน่นอน
“ที่นี่คือ?”
เหยาเชียนเชียนมองคนรู้จักตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ตลอดทางนางมัวแต่พยายามปลอบใจตัวเองเสียจนไม่ได้สนใจเลยว่ารถม้ากำลังมุ่งหน้าไปยังที่ใด ยามนี้พอแหวกม่านออก นางก็ยังคิดว่าตัวเองเกิดภาพหลอน
“คารวะแม่นางเหยา” พ่อบ้านเดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ท่านอ๋องมีรับสั่งให้เราเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้วขอรับ เชิญแม่นางเหยาเข้าไปดูสักหน่อยเถิดว่ายังมีสิ่งใดที่ไม่พอใจหรือไม่ เราจะได้รีบแก้ไขทันทีขอรับ”
“นี่เป็...คำสั่งของท่านอ๋องหรือ?”
เหยาเชียนเชียนเงยหน้าขึ้นตัวสั่นระริก เรือนพักผ่อนอันสง่างาม อีกทั้งยังมีทะเลสาบซึ่งประดับด้วยคลื่นน้ำสีมรกต ชั้นบนของเรือนพักผ่อนประดับป้ายหินที่เขียนอักษร ‘ชิงหลิง’ ไว้อย่างมีพลังและมีชีวิตชีวา
“เช่นนี้คงไม่เหมาะสมหรอกกระมัง?”
พ่อบ้านสั่งให้คนขนย้ายสิ่งของทุกอย่างเข้าไปในเรือนและกล่าวว่า “มีสิ่งใดไม่เหมาะสมหรือขอรับ เรือนพักผ่อนแห่งนี้ตั้งอยู่นอกนครหลวง เดินทางด้วยม้าเร็วไปกลับใช้เวลาไม่เกินครึ่งวัน อีกอย่างคือท่านอ๋องทรงประทานเรือนพักผ่อนแห่งนี้แก่ท่านแล้ว ดังนั้นที่นี่คือที่พักอาศัยของท่าน เช่นนี้จะยังมีสิ่งใดไม่ถูกต้องหรือ”
ถึงเขาจะกล่าวเช่นนั้น แต่หากฮ่องเต้ทรงทราบ เกรงว่าเป่ยเหลียนโม่คงจะถูกเรียกตัวเข้าวังไปตำหนิกระมัง?
ระหว่างที่สนทนากัน บ่าวไพร่ก็ขนย้ายสิ่งของเข้าไปจนหมดอย่างรวดเร็ว พ่อบ้านกล่าวว่านางอาจจะต้องพักอยู่ที่นี่สักระยะ ดังนั้นทุกอย่างล้วนต้องจัดการไว้อย่างเหมาะสม
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เรียกขานนางด้วยยศหวังเฟยแล้ว แต่นอกเหนือจากข้อนี้ พวกเขาต่างก็ปฏิบัติต่อนางไม่แตกต่างจากครั้งที่แล้วเลยแม้แต่นิดเดียว คาดว่านี่ก็คงเป็คำสั่งของเป่ยเหลียนโม่ด้วยเช่นกัน
“แม้ว่าท่านอ๋องจะทรงประทานเรือนพักหลังนี้แก่ข้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้ประทานพวกเ้าให้แก่ข้า” เหยาเชียนเชียนมองพ่อบ้านที่กำลังวุ่นวายอย่างขบขัน “เช่นนั้นพวกเ้า้าให้ข้าจ่ายเบี้ยแยกเป็รายบุคคลหรือไม่?”
เื่นี้มัน...พ่อบ้านชะงักไปก่อนจะกล่าวกลั้วหัวเราะว่า “แม่นางเหยาล้อเล่นแล้ว พวกเราอยู่รับใช้ที่เรือนพักแห่งนี้มาโดยตลอด และไม่อาจแยกจากเรือนพักแห่งนี้ได้มานานแล้ว ท่านอ๋องทรงประทานเรือนพักแก่ท่าน เช่นนั้นย่อมต้องรวมพวกเราไปด้วย ท่านก็รับพวกเราไว้ด้วยเถิดขอรับ”
คนเขาซื้อหนึ่งแถมหนึ่งขนาดนี้แล้ว นางถือว่าโชคดี ได้ทั้งเรือนพักแถมยังได้บ่าวไพร่มากมายมาอยู่ในโดยไม่ต้องเสียเงินสักแดงเดียว เหยาเชียนเชียนทั้งขบขันและซาบซึ้งใจไม่น้อย สิ่งที่เป่ยเหลียนโม่ทำให้นางนั้นมากเกินไปแล้วจริงๆ
อาการปลงตกและความกลัดกลุ้มที่เป็มาตลอดทางล้วนเจือจางไปแล้ว เหยาเชียนเชียนแช่ตัวอยู่ในน้ำพุร้อนกรุ่นไปกับกลิ่นหอมเย็นจางๆ ที่ปลายจมูก พร้อมกับกัดเนื้อผลไม้เข้าปากไปคำใหญ่ คงยากที่จะกลับไปรู้สึกเศร้าขึ้นมาอีก
ครั้งที่แล้วที่มายังเรือนพักแห่งนี้ นางยังคิดอยู่เลยว่าหากวันหน้าได้ออกจากจวนอ๋อง นางจะต้องซื้อเรือนพักหลังใหญ่เช่นนี้สักหลังอย่างแน่นอน เพื่อใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสบายใจและมีความสุข
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าความปรารถนานั้นของนางจะเป็จริงรวดเร็วเช่นนี้
“เฮ้อ” เหยาเชียนเชียนถอนหายใจยาว “แผนการตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงโดยแท้ ยามนี้ข้าได้ออกจากจวนอ๋องแล้ว ถึงจะสูญเสียตำแหน่งหวังเฟยไป แต่ก็ยังได้กินดื่มอยู่ในเรือนพักหลังใหญ่แห่งนี้ เป็ดังที่ข้าวาดฝันไว้ในยามแรกทุกประการ”
สิ่งเดียวที่เสียดายก็น่าจะเป็เื่ที่นางไม่สามารถอยู่กับอาเหยียนและเสี่ยวไกวไกวได้ แต่ก็ไม่เป็ไร ท่านอ๋องอาจจะพาพวกเขามาเยี่ยมนางบ่อยๆ
“เช่นนั้นข้าเขียนแผ่นป้ายอวยพรอายุยืนยาวถวายแด่ชิงผิงอ๋องแล้วกัน” นางคิด “ยามนี้ที่ข้าสามารถรักษาชีวิตหนึ่งให้เป็สุขเช่นนี้ได้ก็ต้องขอบพระทัยท่านอ๋อง ข้าเองก็ไม่สามารถรั้งอยู่ที่จวนอ๋องเพื่อช่วยทำสิ่งใดได้แล้ว ยามนี้ทำได้เพียงคิดหาวิธีอื่นเพื่อตอบแทน”
ชิงผิงอ๋องไม่มีอะไรจะกล่าวต่อนางจริงๆ เหยาเชียนเชียนครุ่นคิดอย่างระมัดระวัง แม้ว่ายามที่นางเพิ่งฟื้นขึ้นมาเขาจะโเี้ไม่น้อย แต่นั่นก็ทำไปเพื่ออาเหยียน นางสามารถเข้าใจได้ทั้งหมด
เขาทั้งรูปงาม ซื่อตรงกล้าหาญ และมีฐานะสูงศักดิ์ ทั้งยังได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ แต่เขากลับไม่ยอมล่าถอยเพื่อนางเมื่อยามที่อยู่ในตำหนัก
“ท่านอ๋อง” เหยาเชียนเชียนพึมพำ “ท่านอ๋องดีกับข้ามากจริงๆ”
เขาดีเสียจนทำให้ยามนี้นางนึกขึ้นมาแล้วพลันเกิดความรู้สึกไม่อยากจากจวนอ๋องมา
หลังจากแช่น้ำพุร้อนอย่างสบายใจแล้ว เหยาเชียนเชียนก็ยกผลไม้จานหนึ่งไปนั่งในสวน ก่อนหน้านี้นางมักจะดูดาวที่จวนอ๋องแบบนี้เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าดาวที่จวนอ๋องจะไม่ส่องสว่างเท่าที่นี่
“ดวงดาวเหล่านี้ช่างคล้ายกับดวงตาของท่านอ๋องเหลือเกิน” นางลอบยิ้มและรู้สึกตัวชาเล็กน้อย ก่อนจะสลัดภาพใบหน้าหล่อเหลานั้นออกไปจากห้วงความคิด และเริ่มกินผลไม้อย่างตั้งใจ
เมื่อแมวดำมาถึงก็เห็นภาพเหตุการณ์นี้แล้ว
เหยาเชียนเชียนนั่งอยู่ในสวนอย่างมีความสุข นางแหงนศีรษะพิงบนพนักเก้าอี้พลางเคี้ยวผลไม้อย่างสบายใจ
เขาก็คิดว่านางจะร้องไห้อยู่คนเดียวเสียอีก ยามนี้ดูท่าว่าเขาจะคิดมากไปจริงๆ
“หืม?”
เหยาเชียนเชียนดีดตัวนั่งหลังตรงอย่างแรงและขยี้ตาอย่างไม่อยากเชื่อ “เสี่ยว...เสี่ยวไกวไกวหรือ?”
แม่เ้า เป็เสี่ยวไกวไกวจริงๆ ด้วย!
แมวดำถอยหลังไปได้เพียงครึ่งก้าวก็ถูกนางโอบเข้าสู่อ้อมแขน ั้แ่พบกันครั้งแรก เขาไม่เคยััได้ถึงความตื่นเต้นที่มากขนาดนี้จากนางมาก่อน แม้จะเป็ยามที่กลายร่างเป็แมวก็ยังไม่เคย
ยามที่แยกกันตอนกลางวันนางปฏิบัติต่อเขาอย่างมีกฎเกณฑ์ แต่ยามนี้พอได้เห็นแมวตัวนี้นางกลับตื่นเต้นถึงเพียงนี้ เปิ่นหวังทั้งสูงใหญ่และงดงาม แต่ยังสู้ใบหน้าของแมวตัวนี้ไม่ได้ที่ใดกัน?
จริงๆ เป่ยเหลียนโม่ก็มีชีวิตอยู่มาหลายปีแล้ว ทว่าเขากลับไม่เคยรู้สึกว่าร่างเดิมของตัวเองจะดูดีอย่างไรเลย แต่ไม่ว่าร่างใดก็เป็ตัวเขาทั้งนั้น ไฉนจึงเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับตัวเอง จะไม่เขลาไปสักหน่อยหรือ?
ทว่าหลังจากได้พบเหยาเชียนเชียน เื่ราวโง่เขลานี้นับวันก็ยิ่งเกินกว่าปกติมากขึ้นเรื่อยๆ ชิงผิงอ๋องรู้สึกว่าตัวเขาสามารถแตกสามัคคีออกจากกันได้ทุกเมื่อ
“ข้าคิดถึงเ้าจะตายอยู่แล้ว ข้ายังคิดอยู่เลยว่าอีกนานเท่าไรจึงจะได้พบเ้าอีก!”
เหยาเชียนเชียนอุ้มแมวดำขึ้นมาและจูบมันรัวๆ อยู่ครู่หนึ่งด้วยความตื่นเต้น แมวดำอารมณ์หลากหลายอยู่ชั่วครู่ ด้วยไม่รู้ว่าเขาควรดีใจหรือไม่
“ท่านอ๋องพาเ้ามาหรือ” เหยาเชียนเชียนชะเง้อมองไปรอบๆ ทว่าเรือนพักกลับเงียบสงบ เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนมีผู้ใดมาทั้งนั้น “แสดงว่าเ้าหนีมาหรือ?”
เหยาเชียนเชียนอุ้มมันขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก “ไกลมากเลยนะ แล้วเ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่ เ้าดมกลิ่นได้หรือ แล้วเ้าวิ่งมานานเท่าใดแล้ว น่าสงสารเหลือเกิน เ้าจะต้องเหนื่อยมากเป็แน่!”
เป็ครั้งแรกที่แมวดำรู้สึกว่าที่จริงแล้วการที่เขาไม่พูดอะไรเลยก็ไม่เห็นเป็อะไร ถึงอย่างไรคนผู้นี้ก็ช่วยเขาคิดเหตุผลเสร็จสรรพแล้ว
เพียงแต่เดินทางมาไกลขนาดนี้ แมวตัวหนึ่ง...เปิ่นหวังขี่ม้ามาต่างหากเล่า!
“เสี่ยวไกวไกวเ้าหิวหรือไม่” เหยาเชียนเชียนรีบสั่งให้คนนำอาหารจำนวนหนึ่งมาให้ นางบิขนมเป็ชิ้นเล็กๆ ก่อนจะป้อนให้แมวดำ
“อีกสักครู่ข้าอาบน้ำให้เ้าดีหรือไม่ ข้าดีใจมากเหลือเกิน จนถึงเวลานี้ก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่เื่จริงอยู่เลย ไม่คิดเลยว่าเ้าจะมาหาข้าจริงๆ เ้านี่ช่างเป็แมวที่ทั้งฉลาดและเก่งที่สุดในใต้หล้าเลย”
แต่ก่อนไม่เคยเห็นเ้ากล่าวเยินยอเปิ่นหวังอย่างจริงใจเช่นนี้เลยสักครั้ง
แมวดำกินขนมในมือนาง เขารู้ว่านางพะวงถึงแมวตัวนี้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงเดินทางไกลเพื่อมาหานาง ไม่เช่นนั้นหากปล่อยให้นางมัวแต่คิดกังวลอยู่ ยามกลางคืนนางก็น่าจะนอนไม่หลับ
หวังเฟยของเขานอนไม่หลับเพราะแมวตัวหนึ่ง หากเื่นี้แพร่ออกไปเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?
ดังนั้นหลังจากที่แมวดำครุ่นคิดอย่างจริงจังแล้ว สุดท้ายก็ตัดสินใจมาพบนาง
“ยามนี้พอข้าได้พบเ้าถึงได้รู้สึกสบายใจมากขึ้นแล้ว” เหยาเชียนเชียนผ่อนลมหายใจพลางสางขนให้แมวดำอย่างอ่อนโยน “แม้ไม่ได้เห็นอาเหยียนเช่นนี้ แต่มีเ้าอยู่ด้วยก็ไม่โดดเดี่ยวมากนัก”
แมวดำนั่งฟังอย่างเงียบๆ แท้จริงแล้วเขาก็มีความเห็นแก่ตัวเช่นกัน
เหยาเชียนเชียน้าเก็บออมเงินเพื่อหนีออกจากจวนอ๋อง นาง้าหนีไปจากเขามาโดยตลอด ยามนี้เสด็จพ่อมีรับสั่งให้ถอดยศหวังเฟยของนางแล้ว เขาจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะสามารถรั้งนางไว้ได้ หากไม่อาศัยอยู่ที่เรือนพักหลังนี้ก็เกรงว่านางอาจจะหนีไปให้ไกลจากเขาจริงๆ
เปิ่นหวังจะพยายามสืบหาความจริงโดยเร็วที่สุด และจะไม่ปล่อยให้เ้าต้องพักอาศัยอยู่ข้างนอกนานอย่างแน่นอน เ้าอย่า...อย่าคิดจะไปอีกเลยนะ พักอยู่ที่นี่ชั่วคราวไปก่อน อีกไม่นานเปิ่นหวังจะมารับเ้ากลับไป
แมวดำเลียฝ่ามือของเหยาเชียนเชียนเบาๆ มันกินขนมหมดแล้ว ทว่ายังคงมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดมือนางอยู่ เรียวลิ้นเล็กสีชมพูจึงเลียเบาๆ ทำให้เหยาเชียนเชียนอดหัวเราะออกมาไม่ได้
เขาอยากเก็บรอยยิ้มอันงดงามเช่นนี้ไว้กับตัวเองจริงๆ ยามนี้อาเหยียนขาดนางไม่ได้ ตัวเขาเองก็เช่นกัน และทุกคนในจวนอ๋องก็ไม่สามารถขาดนายหญิงคนนี้ไปได้
“ไม่รู้ว่าเวลานี้ท่านอ๋องกำลังทำอะไรอยู่” เหยาเชียนเชียนจิ้มจมูกเล็กของแมวดำเล็กน้อยพลางถอนหายใจเบาๆ “ข้าไม่โลภมากหรอก ขอเพียงวันนี้ท่านอ๋องสามารถปล่อยวางความวุ่นวายใจลงได้ชั่วคราวและเข้าสู่ห้วงฝันอย่างสงบได้ เช่นนี้ข้าก็พอใจแล้ว”
แมวดำงับปลายนิ้วของนางเบาๆ มีเ้าอยู่ข้างกาย เปิ่นหวังจะไม่สงบได้อย่างไร
