หรงหลันยืนอยู่ด้านหน้าห้อง แขนทั้งสองข้างกอดอกมองเข้าไปด้านใน ทั้งสองคนในห้องมองหน้ากันโดยมีโต๊ะกลมกั้น
คุณชายหลี่ลูบจมูกตัวเอง ใบหน้าแดงเรื่อเพราะฤทธิ์สุรา ดวงตาที่ถลึงมองอยู่นั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้าย น่าหวาดหวั่น บ่าวรับใช้สองคนของคุณชายหลี่ยืนอยู่ด้านข้าง รอคำสั่งของเ้านายเพื่อจะนำตัวคุณชายชุดขาวกับผู้ติดตามของเขาออกไป
อีกฝ่ายหนึ่ง คนที่เป็หัวหน้าคือคุณชายสวมชุดสีขาวสบายๆ ดวงหน้าคมคายที่ดูแล้วแยกไม่ค่อยออกว่าเป็สตรีหรือบุรุษ เป็ความงามที่ให้ความรู้สึกซุกซนเป็อิสระอย่างไม่อาจบรรยาย ใบหน้าวิจิตรเลิศล้ำราวเทพเ้าสรรสร้างขึ้นมากับมือ
ด้านหลังของเขาเป็ผู้ติดตามสวมชุดสีเขียว ใบหน้าเ็าแฝงไว้ด้วยความร้ายกาจ
คนที่งดงามรูปร่างปราดเปรียวเช่นนี้ ถึงว่าคุณชายหลี่ถึงได้ถูกใจ
เพียงแต่เด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนี้มีความเป็มาไม่ชัดเจน คุณชายหลี่เห็นคนผู้นี้แล้วก็อยากจะได้มาเชยชม เขาไม่กลัวว่าจะเจอเข้ากับคนที่ไม่ควรมีเื่บ้างหรืออย่างไร?
หรงหลันยิ้มเย็น รอดูเื่น่าสนุก
“ข้าขอเตือนเ้า ในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่ได้ ก็คงจะต้องบีบบังคับกันแล้ว” รอยยิ้มของคุณชายหลี่เจือความชั่วร้าย “ขอแค่คืนนี้เ้าดูแลข้าดีๆ พอข้าเบื่อแล้วต่อไปเ้าอยากจะมีชีวิตที่สุขสบายอยากจะกินดื่มอะไรก็ได้ ข้ารับประกันว่าเ้าจะร่ำรวยมีเกียรติยศไปทั้งชาติ”
“เปิ่นกง...ข้าไม่ใช่คนของหอเฟิ่งหวง ข้าแค่มาเที่ยวเล่น เ้าหาผิดคนแล้ว” เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือองค์หญิงจาวฮวา
เมื่อครู่นางกับหยวนซิ่วดื่มสุราอยู่ในห้อง เนื่องจากประตูห้องปิดไม่สนิท คุณชายหลี่เห็นเข้าจึงพาคนบุกเข้ามาแล้วบีบบังคับลากนางไปที่ห้องด้านข้าง หยวนซิ่วสามารถจัดการเขาได้ แต่ว่านางห้ามไม่ให้หยวนซิ่วลงมือ
คุณชายหลี่หรี่ตามองคุณชายชุดขาว กลืนน้ำลายที่แทบจะไหลออกมาเพราะความหื่นกระหาย “คิดว่าข้าจ่ายไม่ไหวหรืออย่างไร?” เขาล้วงตั๋วเงินออกมาแล้วตบลงบนโต๊ะด้วยท่าทางอวดดี “ขอแค่เ้าอยู่กับข้าหนึ่งคืน ตั๋วเงินพวกนี้จะเป็ของเ้า!”
มู่หรงฉางหัวเราะเสียงเย็น แล้วส่งสายตาไปให้หยวนซิ่ว
หยวนซิ่วยกมือขึ้นดังฟิ้ว ก่อนจะมีเสียงดังตึง ก้อนตำลึงทองก้อนใหญ่ร่วงลงบนโต๊ะ อากัปกิริยาหล่อเหลาองอาจอย่างไม่อาจบรรยาย
คนที่มามุงดูมีจำนวนไม่น้อยเลย ครั้นได้เห็นตำลึงทองก้อนใหญ่ก็พากันเบิกตากว้าง ที่แท้เด็กหนุ่มชุดขาวก็ร่ำรวยถึงเพียงนี้
“ขอเพียงเ้าไสหัวไปจากหอเฟิ่งหวง ตำลึงทองก้อนนี้จะเป็ของเ้า”
มู่หรงฉางหัวเราะเสียงเย็น ปรายตามองเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม เหมือนกับว่าเขาเป็แค่สุนัขที่มาสะบัดหางอย่างน่าสงสารตัวหนึ่ง
คุณชายหลี่ตาค้างพูดไม่ออก กลืนน้ำลายลงไป วันนี้เขากลับถูกเด็กหนุ่มที่ไม่รู้ที่มาที่ไปมาทำให้อับอาย ปกติแล้วเขาเป็คนที่รักหน้าตาของตนเองอย่างยิ่ง หอเฟิ่งหวงนี่เขาก็มาอยู่บ่อยๆ จะมาเสียหน้าเสียอำนาจที่นี่ได้อย่างไร?
“ในจวนของข้ามีเงินทองมากมายไป สิบชาติก็ใช้ไม่หมด เ้ามีตำลึงทองแค่นี้จะไปถือว่าเยอะอะไร?”
เขาส่งสายตาไปให้บ่าวรับใช้สองคน บ่าวรับใช้ทั้งสองติดตามเ้านายมานานมากแล้ว มีหรือจะไม่เข้าใจความคิดของเ้านาย?
พวกเขาจึงพุ่งเข้าไปโดยไม่พูดสิ่งใด จับเด็กหนุ่มชุดขาวก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ทว่า ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขายังไม่ทันได้เข้าใกล้เด็กหนุ่มชุดขาวก็รู้สึกถึงลมวูบหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาอย่างรุนแรง
เสียงตึงตึงดังสองครั้ง ก้อนเนื้อสองก้อนก็ลอยออกไปจากห้อง กระแทกเข้ากับกำแพงฝั่งตรงข้ามอย่างแรง
คนที่ดูอยู่รอบๆ คาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้วว่าจะเกิดเื่เช่นนี้ขึ้น จึงพากันกระจายตัวออก ไม่เช่นนั้นก็คงจะโชคร้ายไปแล้ว
บ่าวรับใช้สองคน คนหนึ่งถูกเตะเข้าที่หน้าอก อีกคนหนึ่งถูกเตะเข้าที่หัว พวกเขานอนร้องโอดโอยด้วยความเ็ปอยู่กับพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
หรงหลันสนุกสนานอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่าที่มาที่ไปของ ‘เด็กหนุ่มชุดขาว’ จะไม่ธรรมดา ฝีมือการต่อสู้ของคนผู้นั้นดูไม่ธรรมดาเลย ดูถูกไม่ได้เชียว
คุณชายหลี่ตะลึงตาค้าง ใจนลูกตาแทบจะกระเด็นหลุดออกมา
“ไม่ได้เื่!”
ครั้นเขาได้สติกลับมาก็ตวาดออกมาด้วยความโมโห
มู่หรงฉางมองเขาด้วยท่าทีนิ่งสงบ มุมปากยกยิ้มร้ายกาจ “เ้าจะไสหัวออกไป หรืออยากจะห้อยเล่นอยู่กลางอากาศ?”
“อะไรนะ?”
เขาทั้งใทั้งโกรธ หูเขาไม่ได้พังไปใช่หรือไม่ ไม่ได้ฟังผิดไปสินะ เ้าเด็กบ้านี่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว?
ตอนที่คุณชายหลี่กำลังจะส่งเสียงเรียกองครักษ์เงาที่ซ่อนตัวอยู่ออกมา กลับถูกเชือกขาวมัดตัวเอาไว้
“ปล่อยข้า!”
เขาะโออกมาด้วยความฉุนเฉียว เขาเป็ถึงคุณชายใหญ่ของสกุลหลี่ กลับถูกเด็กหนุ่มที่ไม่รู้ที่มาที่ไปมาทำเช่นนี้?
น่าเศร้าใจจนน้ำตาจะไหล โมโหจนแทบจะกระอักเื
หยวนซิ่วเอาเชือกมามัดเขาเอาไว้อย่างแ่า
ต่อมา มู่หรงฉางก็เดินนำไปด้านหน้า หยวนซิ่วลากเขามายังโถงใหญ่ที่มีขนาดกว้างขวาง
หรงหลันยืนดูอยู่ในกลุ่มคน ส่งสัญญาณบอกลูกน้องว่าอย่าเพิ่งลงมือ ให้ดูสถานการณ์ไปก่อน
“ปล่อยข้า! พวกเ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็ใคร? กล้าทำร้ายแม้ผมสักเส้นของข้า ท่านแม่ ท่านน้า ท่านน้าเขยของข้าจะต้องสับเ้าเป็ชิ้นๆ!”
คุณชายหลี่ะโออกมาไม่หยุด เสียงตวาดดังขึ้นอย่างโกรธแค้นแฝงไว้ด้วยความใ
บนทางเดินชั้นสอง หยวนซิ่วโยนคุณชายหลี่ที่กำลังพูดวาจาข่มขู่ลงไป แล้วกระตุกเชือกขาวอย่างแรง ต่อมาก็เอาเชือกขาวไปมัดกับเชิงบันได
ที่โถงชั้นหนึ่งมีแขกนั่งดื่มสุราชมการร่ายรำอยู่จำนวนไม่น้อย จู่ๆ ก็มีบุรุษผู้หนึ่งตกลงมาจากฟ้า นางรำที่กำลังเต้นอยู่บนเวทีกลมยกสูงพากันหนีกระเจิง บรรดาแเื่ต่างชี้นิ้วมายังคนที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ เสียงพูดคุยดังขึ้นเหมือนคลื่นแตก
คุณชายหลี่ห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศ หยวนซิ่วใช้กำลังภายในออกแรงผลักให้เขาแกว่งไปมาตลอดเวลา
มู่หรงฉางมองภาพสนุกตรงหน้านี้ด้วยความชื่นชม เพียงแต่เสียงร้องของเขาแสบหูเกินไป อยากจะหาอะไรมาเย็บปากเขาจริงๆ
“ปล่อยข้าลง! เ้าเด็กบ้าปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้! ข้าจะบอกเ้า เ้าจะต้องตายแน่! พรุ่งนี้เช้าเ้าจะต้องเป็ศพนอนอยู่บนถนน! ข้าจะต้องทำให้ศพของเ้าเป็ชิ้นๆ!”
คุณชายหลี่เต็มไปด้วยไฟโทสะ โกรธจนแทบจะะเิออกมาแล้ว
มู่หรงฉางส่งเสียงหัวเราะเย็นเฉียบราวกับน้ำเย็นไหลริน “ใต้พระบาทของโอรส์กลับมีคนที่ไม่คิดจะสนใจกฎหมายบ้านเมือง ข้าจะสั่งสอนเขาแทนบิดามารดาของเขาเอง”
หยวนซิ่วรับคำสั่งขององค์หญิงก็ยกมือขึ้น ก่อนที่มีดสั้นเล่มหนึ่งจะบินออกไป
แม้ว่าตัวเขาจะแกว่งซ้ายแกว่งขวาอยู่กลางอากาศ มีดเล็กเล่มบางก็ปาดเข้าที่เอวของเขาอย่างแม่นยำ
คุณชายหลี่เห็นอาวุธพวกนั้นลอยไปมาอยู่รอบๆ ตัว ทั้งยังปาดไปที่ตัวของเขาอยู่ตลอด เหงื่อกาฬของเขาพลันแตกพลั่ก ใจนปัสสาวะราด
ราวกับฝนที่ตกจากฟ้า ร่วงหล่นไปยังเวทีกลมยกสูงนั้นพอดิบพอดี
ห้องโถงใหญ่เกิดเสียงหัวเราะดังลั่น คนที่ใช้สายตามองมาด้วยความเหยียดหยามก็มี กลั้วหัวเราะก็มี คนที่เย้ยหยันก็มี
ต่อมา กางเกงของเขาก็ค่อยๆ ร่วงลงไป
เพราะการแกว่งไปแกว่งมาของเขา อาภรณ์จึงแหวกออก เผยให้เห็นภายในอันโล่งโจ้ง ทั้งยังเห็นส่วนที่ไม่ควรจะเปิดเผยออกมาด้วยเล็กน้อย
เสียงหัวเราะ เสียงวิจารณ์ที่ห้องโถงพลันะเิออกมาไม่ขาดสาย ครึกครื้นยิ่งกว่าการร้องเพลงเต้นรำเสียอีก
คุณชายหลี่ไม่กล้าเอ่ยวาจาข่มขู่อีก สายตาคนที่มองมาจากด้านล่างทำให้เขารู้สึกย่ำแย่เป็อย่างยิ่ง เขาอับอายจนอยากตาย ไฟโทสะทำให้ดวงตาของเขาแทบะเิ อยากจะเอาเ้าเด็กนี่มาหั่นเป็หมื่นๆ ชิ้น
มู่หรงฉางยิ้มน้อยๆ ในใจมีความสุขมาก หน้าตาเบ่งบานจนแทบจะมีแสงส่องประกายออกมา
หรงหลันที่มองนางสีหน้าก็ยิ่งทวีความสงสัยขึ้นไปอีก
การมีเื่กันระหว่างพวกเขาสองคน ดีที่สุดอย่าได้เกี่ยวข้องกับหอเฟิ่งหวงเลย
คุณชายหลี่ถูกเชือกมัดห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศเป็เวลาหนึ่งถ้วยชา บุรุษท่าทางเป็ยอดฝีมือก็บุกเข้ามากลุ่มหนึ่ง ครั้นเห็นสภาพของเขาก็รีบพุ่งขึ้นไปช่วยเ้านายลงมา
หลังจากคุณชายหลี่ลงมาได้แล้ว เขาก็รีบสวมชุดคลุมตัวนอกขององครักษ์ ตวาดออกมาด้วยความโกรธแค้น “จับเขา! คนที่จับเขาได้จะได้รับรางวัลหนึ่งร้อยตำลึง!”
องครักษ์เ่าั้เพื่อเงินหนึ่งร้อยตำลึงก็มีความกล้าขึ้นมา แต่ละคนท่าทางฮึกเหิม
มู่หรงฉางถอยหลังไปหลายก้าว หยวนซิ่วพุ่งขึ้นไปด้านหน้าลอยตัวขึ้นมา ก่อนจะยกขาขึ้นถีบอย่างแรงออกไปหนึ่งที ฝ่าเท้านั้นถีบโดนเข้าที่หัวขององครักษ์สองคนเข้าพอดี ก่อนนางจะถีบพวกเขาออกไปอีกครั้ง
ฝีมือว่องไวเฉียบขาด ทำเอาคนใ
บรรดาแเื่ของหอเฟิ่งหวงทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นดู อยากจะรู้ว่าจุดจบของเื่นี้จะเป็อย่างไร เป็คุณชายชุดขาวจะถูกคุณชายหลี่หิ้วกลับจวน หรือจะกลับออกไปได้อย่างปลอดภัย
มู่หรงฉางมองการต่อสู้ด้วยสีหน้าเ็า เหมือนกับไม่ได้สนใจว่าหยวนซิ่วจะแพ้ให้กับหกคนนั้นหรือไม่
ฝีมือองครักษ์หกคนของสกุลหลี่ไม่ธรรมดา ยิ่งร่วมมือกันล้อมโจมตียิ่งไม่อาจดูแคลน แต่สำหรับหยวนซิ่วแล้วกลับไม่คณามือ
เพียงครู่เดียว นางก็โยนคนลงไปที่ชั้นล่างทีละคนๆ เหมือนโยนเกี๊ยว ทั้งถีบ ทั้งเตะ มีโยน มีเขวี้ยง
หรงหลันมองหอเฟิ่งหวงที่กลายเป็สนามต่อสู้ไปแล้วก็ไม่ได้กังวลใจแต่อย่างใด เพราะเห็นจนเคยชินเสียแล้ว อย่างไรเสียแม่หญิงชุดขาวก็มีเงินจ่ายค่าเสียหายให้กับหอเฟิ่งหวง
คุณชายหลี่แอบขึ้นไปบนชั้นสองเงียบๆ เดินเข้าไปหามู่หรงฉาง พยายามจะจับตัวนาง
มู่หรงฉางเห็นคุณชายหลี่ทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่ก่อนแล้วก็ยกยิ้มเย็น ราวกับดอกไม้น้ำแข็งเบ่งบานกลางหิมะ
ตอนนี้เอง ด้านนอกเหมือนมีความเคลื่อนไหว
คุณชายหลี่เข้าใกล้นางอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเสือร้ายกระโจนเข้ามาจับตัวนางด้วยความลิงโลด
ฮ่าๆๆ...ในที่สุดก็ตกอยู่ในกำมือของเขาแล้ว จะต้องให้รู้ซึ้งถึงความเก่งกาจของเขา!
นางขัดขืนเล็กน้อย คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น แสดงออกว่าต่อต้าน เห็นหยวนซิ่วพุ่งเข้ามาจะช่วยตนเอง นางรีบส่ายหน้าพลางส่งสายตา
หยวนซิ่วเข้าใจความคิดขององค์หญิง แต่ก็ไม่เข้าใจมากนัก
แเื่ที่คอยดูอยู่รอบๆ พากันตื่นเต้น ทำไมถึงเปลี่ยนมาเป็เช่นนี้แล้ว? เด็กหนุ่มชุดขาวตกอยู่ในกำมือของคุณชายหลี่ ไม่ตายก็คงจะต้องถูกถลกหนังไปหลายชั้น
คุณชายหลี่รู้สึกได้ใจที่จับเ้าเด็กหนุ่มคนนี้ได้ จากนั้นจึงลากคนให้ตามเขาขึ้นไปยังชั้นสองให้ทุกคนได้เห็นกับตาถึงความเก่งกาจของตนด้วยตาตัวเอง
อีกประเดี๋ยวเขาจะให้เ้าเด็กหนุ่มคนนี้ต้องคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนเขา!
ทันใดนั้นมีคนหลายคนบุกเข้ามาราวกับพายุหมุนขนาดใหญ่ที่สามารถกลืนกินทุกอย่าง ภายในชั่วพริบตาก็ทำให้หอเฟิ่งหวงคับแคบขึ้นมาทันที
บุรุษที่เป็หัวหน้าดูน่าเกรงขาม เสื้อคลุมสีดำคลุมร่างกายกำยำแข็งแกร่งของเขาเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลานั้นเหมือนกับน้ำแข็งเย็นเฉียบ ดวงตาสีเข้มทั้งสองค่อยๆ กวาดมอง ั์ตาประหนึ่งลูกธนูน้ำแข็ง ครั้นเหลือบมองไปก็ทำให้คนพากันหวาดกลัว
จิตใจของหรงหลันเย็นวาบขึ้นมา เป็เขาอย่างนั้นหรือ!
คนมากมายต่างมีตามีแววกันหมด ทุกคนมองออกถึงความเก่งกาจของคนผู้นี้ เขาจะต้องเป็บุคคลที่ไม่ธรรมดาแน่นอน
“อวี้...ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย”
มู่หรงฉางร้องออกมาอย่างดีใจระคนหวาดกลัว ท่าทางเหมือนจะร้องไห้นั้นทำให้คนรู้สึกสงสารเป็พิเศษ เหมือนกับพริบตาต่อมาจะเป็ลมไปเพราะความหวาดผวา
ที่นี่คือหอเฟิ่งหวง เรียกเช่นนี้ค่อนข้างเหมาะสมกว่า
มู่หรงอวี้เห็นนางอยู่ก่อนแล้ว แต่กลับเหมือนไม่อยากจะเข้าไปช่วย จึงทำเป็ไม่ได้ยินเสียงเรียกของนาง
คุณชายหลี่แอบใ บุรุษคนนั้นดูแล้วท่าทางไม่ธรรมดา เป็ผู้ใดกัน?
แขกที่ยืนมองอยู่บนชั้นสองมีหลายคนที่เป็ขุนนาง ต่างเคยได้เห็นตัวจริงของอวี้หวางมาก่อน ตอนนี้ครั้นเห็นอวี้หวางเดินขึ้นมายังชั้นสอง พวกเขาหากไม่พากันเบือนหน้าออกก็ก้มหน้างุด อยากจะหารูมุดลงไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ในตอนที่จนปัญญาแล้ว พวกเขาจึงก้าวเข้ามาหลายก้าว ก่อนจะโค้งตัวทำความเคารพ “ถวายบังคมอวี้หวาง”
ได้ยินประโยคนี้ เห็นภาพนี้ คุณชายหลี่เหมือนโดนสะเก็ดไฟ ร่างทั้งร่างแข็งทื่อ ทั่วทั้งตัวเหมือนมีควันลอยออกมา
อวี้...หวาง...
อวี้หวางเป็ผู้ใดน่ะหรือ! ก็เป็คนที่เป็เหมือนกระบี่คมคอยจ่อคอของเขาน่ะสิ เขาสามารถมีเื่กับคนผู้นี้ได้หรืออย่างไร?
ทันใดนั้น คุณชายหลี่รีบปล่อยมือทันที สีหน้าซีดขาวราวขี้เถ้า เ้าเด็กนี่มีความสัมพันธ์อย่างไรกับอวี้หวางกันแน่?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้