เป็ดั่งที่คิดเอาไว้ เผ่าคนเถื่อนต้านทานเอาไว้ได้ไม่นานนัก เพียงแค่วันเดียวก็ถูกการบุกโจมตีอย่างบ้าคลั่งของเผ่าปีศาจจนต้องถอยร่นละทิ้งฐานที่มั่นไป ไม่ใช่เผ่าคนเถื่อนไม่มีความสามารถ ไม่ใช่เผ่าคนเถื่อนไม่แข็งแกร่ง เพียงแต่...ถึงจะแข็งแกร่งสักเพียงใด แต่ถ้าต้องตั้งรับการโจมตีอย่างบ้าคลั่งที่โถมเข้ามาจากทั้งสี่ทิศแปดด้านเช่นนั้น ถึงอย่างไรก็คงทำการตั้งรับไว้ได้ไม่นานเป็แน่...
หมันก้านสีหน้าดำคล้ำมองดูประชาชนของตนเองที่าเ็ล้มตายไปเป็จำนวนมาก ด้วยความจำใจจึงต้องโบกสะบัดมือข้างที่มีสี่นิ้วนั่นอีกครั้งให้ทุกคนบุกทะลวงออกไป เผ่าปีศาจเห็นดังนั้นก็ให้ความร่วมมืออย่างดีเมื่อเห็นว่าเผ่าคนเถื่อนกำลังเตรียมที่จะบุกทะลวงฝ่าออกไปจึงทำการเปิดเป็ทางเส้นหนึ่งให้เผ่าคนเถื่อนถอยหนีออกไปอย่างราบรื่น...
เพียงแต่...
หลังจากที่เผ่าปีศาจยึดครองฐานที่มั่นเทพแห่งความตายได้และเพิ่งจะปรับปรุงกำลังพลได้คืนเดียว ดีใจเพียงแค่คืนเดียว วันรุ่งขึ้นหมันก้านนำทัพบุกมาอีกครั้ง เพียงแต่ดูคล้ายกับว่าทัพของเขานั้นลดขนาดเล็กลงมากกว่าแต่ก่อน น่าจะมีเพียงหนึ่งหมื่นกว่าคนเห็นจะได้ แต่ทั้งหนึ่งหมื่นกว่าคนนี้กลับรูปร่างสูงใหญ่ดูดุร้ายน่ากลัวทรงพลังด้วยกันทั้งหมด ที่เดินนำหน้าคือนักรบคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนที่มีเหลืออยู่ไม่มาก
“บุกโจมตีเข้าไป!”
หมันก้านร้องคำรามออกมา ทั่วร่างแผ่พุ่งพลังแสงสีเหลืองอ่อนละมุนออกมา ส่วนนักรบระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนคนอื่นๆ แสงสีเหลืองก็ปรากฏวาบขึ้นมาในเวลาเดียวกัน หนึ่งหมื่นกว่าคนแบ่งกันออกเป็กลุ่มเล็กๆ ทั้งหมดเร่งความเร็วติดตามหมันก้านและผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนคนอื่นๆ ไป แต่ละกลุ่มดูราวกับรถศึกตีเมืองฉันนั้น พุ่งตรงเข้าหากองกำลังของเผ่าปีศาจที่ทำการตั้งรับอยู่
ปัง! อ๊า...! ฮะ...!
ด้วยพลังป้องกันที่แข็งแกร่งของเผ่าคนเถื่อนบวกกับผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนที่นำหน้าบุกทะลวงเข้าไป ดูคล้ายกับมีรถศึกตีเมืองขนาดใหญ่พุ่งชนเข้าใส่กองกำลังของเผ่าปีศาจ บดขยี้วิ่งผ่านไปจนกระทั่งกองกำลังของเผ่าปีศาจาเ็ล้มตายกันใบหน้าแหลกเละจนจำรูปหน้าเค้าโครงเดิมแทบไม่ได้
สำหรับรูปแบบการโจมตีของเผ่าคนเถื่อนเช่นนี้เผ่าปีศาจหมดปัญญาที่จะทำเช่นใดได้ ภายในระยะเวลาอันสั้นยอดฝีมือระดับสูงของเผ่าปีศาจไม่มีเวลาไปสนใจทหารระดับต่ำที่าเ็ล้มตายไปเป็จำนวนมากนั้น อีกทั้งผู้ที่มีพลังฝีมือระดับต่ำก็ไม่สามารถทำลายขบวนทัพที่มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งของเผ่าคนเถื่อนที่หมันก้านจัดเตรียมมานี้ได้ การโจมตีหลายระลอกผ่านไปเผ่าคนเถื่อนาเ็ล้มตายไปสองพันกว่าคน ส่วนทหารระดับต่ำของเผ่าปีศาจถูกบดขยี้ไปอย่างน้อยกว่าสองหมื่นคน อัตราการาเ็ล้มตายเทียบกันแล้วคิดเป็หนึ่งต่อสิบ
มองเห็นหมันก้านโบกสะบัดมือส่งสัญญาณให้บุกโจมตีเข้ามาอีกครั้ง ปีศาจจิ้งจอกที่เป็ผู้นำชั่วคราวของเผ่าปีศาจจึงจำใจต้องออกคำสั่งให้ถอยออกจากฐานที่มั่นเทพแห่งความตาย เมื่อเผ่าคนเถื่อนมองเห็นเผ่าปีศาจถอยร่นออกไป ทหารระดับธรรมดาของเผ่าคนเถื่อนที่อยู่ด้านหลังรีบตรงเข้าไปยึดฐานที่มั่นเทพแห่งความตายคืนในทันที
.................................
“สภาพน่าสลดสังเวชจนเกินไปแล้ว! ฐานที่มั่นเทพแห่งความตายไม่เสียทีที่เรียกว่าเทพแห่งความตาย เป็เครื่องบดเนื้อดีๆ นี่เอง ระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่สองวันทั้งเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนาเ็ล้มตายกันไปหลายหมื่นคนแล้ว...”
เย่ชิงหานมองดูฐานที่มั่นรูปสามเหลี่ยมที่อยู่ทางด้านซ้าย ภายในใจเกิดอารมณ์ซับซ้อนเป็อย่างมาก ครั้งแรกที่ได้เห็นสภาพเหตุการณ์ที่น่าเวทนาเช่นนี้รู้สึกรับไม่ค่อยจะได้ แม้ว่าเขาจะเคยสังหารคนมามากตอนที่อยู่ยอดเขาขาด แต่ก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกรุนแรงถึงเพียงนี้
มองดูเหล่าทหารระดับธรรมดาของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน ถูกคมดาบและพลังที่ตกกระทบใส่ สักพักกลายเป็ร่างไร้ิญญาเย็นเฉียบนอนเกลื่อนกลาดกันอยู่บนพื้น
หลังจากการสู้รบยุติลง ซากศพเ่าั้ถูกนำมากองรวมกันไว้แล้วเผาทำลายจนกลายเป็ขี้เถ้าถูกลมพัดปลิวไปตกตามที่ต่างๆ ทั่วทุงหญ้าสีเื ส่วนฐานที่มั่นรูปสามเหลี่ยมสีแดงสดเนื่องจากเืของทหารนักรบของทั้งสองเผ่าหลายหมื่นคนยิ่งย้อมให้แดงขึ้นมากกว่าเดิม ดูเหมือนกับสีแดงบนกำแพงภายในที่พักเล็กๆ ของตนภายในตระกูลเย่ที่น้องสาวเย่ชิงอวี่ใช้เืสดสีแดงฉาบทาเอาไว้ มองดูแล้วเป็ที่น่าสยดสยองเป็อย่างมาก
พวกเฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า เยว่ชิงเฉิง และเย่ชิงอู่ต่างทนดูกับสภาพการสู้รบที่น่าเวทนาต่อไปไม่ไหว ดังนั้นจึงตัดสินใจไม่พบไม่เห็นไม่ดูจะได้ไม่เกิดอารมณ์ขึ้นมาภายในใจ จึงต่างพากันหลบเข้าไปภายในกระโจมที่พักทั้งหมด
“งานประลองาระหว่างเขตปกครองที่จัดขึ้นสามสิบปีครั้ง เป็่เวลาที่คนแต่ละรุ่นกำลังเติบโตและฝึกปรือฝีมือได้สำเร็จ จากนั้นทุกคนก็กระโจนกันเข้ามาที่นี่แล้วคนส่วนใหญ่ก็กลายเป็ปุ๋ยชั้นดีให้กับต้นหญ้าที่ทุ่งแห่งนี้ ดูแล้วเป็วัฏจักรที่วนเวียนไปมาไม่มีที่สิ้นสุด...” ฮวาเฉ่าที่ยืนเงียบๆ อยู่ข้างๆ สายตาปรากฏแววเหม่อลอย หม่นหมอง และเศร้าเสียใจ
เฟิงจื่อเองก็ถูจมูกแล้วพูดขึ้นด้วยเช่นกัน “ยิ่งสู้กันมากเท่าไรความแค้นยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อความแค้นมากขึ้นก็ยิ่งต้องสู้มากขึ้นและรุนแรง วนเวียนเป็วัฏจักรเช่นนี้ นี่หรือคือโชคชะตาของทวีปัเพลิงที่ถูกกำหนดไว้?”
เย่ชิงหานถอนใจออกมาเบาๆ แหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าคล้ายกับว่ากำลังมองหามือใหญ่ที่กำลังควบคุมโชคชะตาของทวีปัเพลิงเอาไว้ เพียงแต่สิ่งที่เห็นก็ยังคงเป็ท้องฟ้ามืดครึ้มปราศจากลมและเมฆหมอกดังเดิม...
การเข่นฆ่ายังคงดำเนินต่อไป คนก็ยังตายลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองเผ่ายิ่งฆ่ายิ่งฮึกเหิมยิ่งฆ่ายิ่งเืขึ้นหน้า ดูราวกับสัตว์ร้ายกระหายเืตัวใหญ่สองตัวที่กัดกันไปมาโดยไม่สนใจาแที่อยู่บนร่างของตนเอง ขอเพียงทำให้ฝ่ายตรงข้ามล้มลงไปได้ก็พอ แม้ตนเองจะเหลือกำลังอยู่เพียงน้อยนิดก็ตามที
บนโลกใบนี้ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร มีเพียงผลประโยชน์ที่จับต้องได้เพียงเท่านั้น ทั้งสองเผ่าก่อนหน้านี้ยังจับมือเป็พันธมิตรกันอยู่ดีๆ แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็ศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้เสียแล้ว เข่นฆ่ากันอย่างบ้าคลั่ง
วันที่สี่! เพียงแค่สี่วันเท่านั้น
ทั้งเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนเข่นฆ่ากันไปมารวมทั้งหมดหกครั้ง กำลังทหารทั้งหมดต่างสูญเสียกันไปกว่าครึ่ง ฐานที่มั่นรูปสามเหลี่ยมเซ่นสังเวยดวงิญญาไปกว่าแสนดวง ทั่วทั้งทุ่งหญ้าสีเื กลิ่นคาวเืลอยคละคลุ้งตลบอบอวล ในดวงตาของทุกคนเหมือนกับว่ามองไม่เห็นท้องฟ้า มองไม่เห็นผืนปฐี ที่มองเห็นมีเพียงแค่เืสีแดงสดที่ไหลเจิ่งนองเพียงเท่านั้น...
.................................
วันสุดท้ายของศึกใหญ่ตัดสินสุดท้ายมาถึง วันนี้ท้องฟ้าเบื้องบนทุ่งหญ้าสีเืดูราวกับว่ามืดครึ้มมากเป็พิเศษ เริ่มมีลมพัดขึ้นมา...
“ฆ่า”
หัวโล้นไม่มีผมของหมันก้านไม่ได้สะท้อนแสงแวววับอีกต่อไป ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยเื สู้รบติดต่อกันมาหลายวันไม่เพียงไม่ได้ทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แต่ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมีความสุขเป็อย่างมาก ยิ่งฆ่ามากเท่าไรยิ่งรู้สึกอยากฆ่าเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ราวกับว่าการฆ่าคนนั้นทำให้รู้สึกมีความสุขสะใจสุดยอดกว่าการมีอะไรกับหญิงสาวเผ่าคนเถื่อนเสียอีก แม้จิตใต้สำนึกส่วนลึกของเขาจะรู้ดีว่าประชาชนของตนเองได้ตายลงบนฐานที่มั่นเทพแห่งความตายไปไม่น้อยแล้วก็ตาม แต่เมื่อเขามองไปเห็นเืที่ยังคงไหลนองอยู่บนฐานที่มั่นเทพแห่งความตาย ภายในหัวของเขานอกจากการฆ่าแล้วก็มีเพียงการฆ่าเท่านั้น!
“วันสุดท้ายแล้ว สังหารพวกเผ่าปีศาจที่เหลืออยู่ตรงหน้านี้ให้หมดตนเองก็จะได้กลับเผ่าคนเถื่อนอย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรีแล้ว ได้รับการต้อนรับจากบิดาและประชาชนอย่างคึกคัก สาวงามเผ่าคนเถื่อนทั้งหลายก็จะนำดอกไม้ที่สวยงามและพรหมจารีมามอบให้แก่เขาด้วยความเต็มใจ ฆ่าต่อไป! ทำให้การฆ่าฟันในครั้งนี้ดุเดือดรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก!”
หมันก้านออกคำสั่งบุกโจมตีเต็มกำลังโดยไม่ต้องคำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น ยึดครองฐานที่มั่นให้ได้ หรือไม่ก็...สู้จนตายกันไปทั้งหมด
ปีศาจจิ้งจอกผู้นำคนใหม่ชั่วคราวของเผ่าปีศาจมองดูเผ่าคนเถื่อนลักษณะที่มานั้นฮึกเหิมเป็อย่างมาก นางยิ้มเยาะขึ้นครั้งหนึ่งแล้วออกคำสั่งปักหลักตั้งรับอย่างสุดชีวิต ภายในดวงตาที่พราวไปด้วยเสน่ห์ของนางเริ่มเร้าร้อนขึ้น ระยะนี้นางไม่รู้ว่าเป็อะไรภายหัวนึกแต่อยากที่จะฆ่าคน เหมือนกับว่าการฆ่าคนนั้นรู้สึกมีความสุขสุดยอดกว่าการได้หลอกพรากเอาครั้งแรกของเด็กหนุ่มภายในเผ่าเสียด้วยซ้ำ
ในเมื่อความรู้สึกเช่นนี้งดงามและมหัศจรรย์ถึงเพียงนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้มันคงอยู่อย่างเนิ่นนานและมากยิ่งขึ้นกว่าเก่าอีกสักหน่อยเถอะ...
“ฆ่า...”
“ฆ่า...”
บ้าแล้ว บ้าไปแล้ว ทุกคนบ้ากันไปหมดแล้ว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้