คนทั่วไปหากคิดจะมาค่ายโจรเลี่ยหยางไม่มีทางหาเส้นทางเจอ นอกเสียจากมีคนคุ้นเคยชี้แนะให้พวกเขา เช่นนี้พวกเขาถึงจะสามารถหาแหล่งกบดานของตนในเมืองอันเจอ
สือเลี่ยหยางพบเจอเื่ราวเช่นนี้มามาก จึงไม่นึกแปลกใจ ใต้หล้านี้มีคนที่มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์มากมายและก่อเื่ชั่วร้ายนับไม่ถ้วน กองโจรเลี่ยหยางของตนก็มีไว้เพื่อจัดการเื่เหล่านี้มิใช่หรือ
“พวกเขาบอกหรือไม่ว่าผู้ใดแนะนำมา?”
ผู้ที่รายงานส่ายหน้า “พวกเขาไม่ให้ถาม กฎของวงการของเรา พี่น้องเราก็รู้ดี ดังนั้นจึงไม่ได้ถามมาก” ขณะพูด ลูกน้องมองเขาและหยั่งเชิงถาม “้าสืบให้ชัดเจนหรือไม่ขอรับ?”
สือเลี่ยหยางโบกมือให้เขาลงไปพาคนกลับมา
รอจนคนถูกพากลับมาค่ายโจรเลี่ยหยาง สือเลี่ยหยางก็ออกไปต้อนรับพวกเขาด้วยตนเอง สำหรับงานที่คนคุ้นเคยแนะนำมา โดยทั่วไปแล้วเขาจะไม่ไว้ใจให้ลูกน้องไปทำ ล้วนรับงานด้วยตนเอง
เพียงแต่ผู้ที่มาครั้งนี้ต่างจากที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ดวงตาของพวกเขาสอดส่องไปทั่วค่ายโจร แถมยังพูดมาก มักจะถามนั่นถามนี่ไปเรื่อยเปื่อย แล้วยังพูดพล่ามเอาใจเป็บางครั้ง
สือเลี่ยหยางเข้าใจว่าพวกเขามีเื่ขอร้องตนเอง กลัวว่าตนเองจะไม่ช่วยพวกเขาทำงานอย่างจริงจัง จึงเอาอกเอาใจเขาเช่นนี้
“นายท่านไม่จำเป็ต้องทำเช่นนี้ ขอเพียงเงินถึง กองโจรเลี่ยหยางรับรองว่าจะบริการพวกท่านให้พึ่งพอใจแน่”
สุรากับแกล้มชั้นดีถูกวางบนโต๊ะ หลังจากชนกันสามจอก ก็สอบถามว่าที่พวกเขามานั้นด้วยเหตุใด
ลุงที่เป็ผู้นำยกมือคำนับ “ไม่ขอปิดบังประมุขสือ ครั้งนี้ที่มาก็เพื่อลูกชายคนเล็กของข้า ลูกชายข้าชอบพอลูกสาวตระกูลเศรษฐีคนหนึ่ง เพียงแต่คนครอบครัวนี้เล่นตัวเกินไปและปฏิเสธการสู่ขอของลูกชายข้า ข้าได้ยินว่ากองโจรเลี่ยหยางช่วยคนขจัดปัญหา ด้วยเหตุนี้จึงจงใจมาขอพบ”
สือเลี่ยหยางได้ยิน “ฮ่าๆ เื่นี้ง่ายนัก เราจับตัวหญิงสาวนั่นมา ถึงเวลาให้ชายหนุ่มแสนดีมาเจอเข้าพอดี บุรุษช่วยโฉมงาม เป็ตอนจบที่สวยงามนัก”
อย่าคิดว่าสือเลี่ยหยางจะจิตใจดีเช่นนั้นจริง ขอเพียงเป็หญิงสาวที่ถูกจับมา หากหน้าตาดี ล้วนต้องถูกกระทำชำเราที่นี่ก่อน แม้นว่าออกเรือนไปก็จะได้รับคำครหาจากบ้านสามี
“เช่นนี้ก็ดี เยี่ยมยอดเหลือเกิน!” ลุงตอบรับ แต่เหมือนจะยังสงสัย “ประมุขสือ หญิงสาวผู้นั้นแค่แกล้งถูกลักพาตัว คงไม่เกิดเื่ความเสียหายอะไรเทือกนั้นหรอกนะ?”
สือเลี่ยหยางปั้นสีหน้าตึงเครียดและจ้องลุงอยู่นาน ก่อนจะหัวเราะดังลั่น “นี่ท่านไม่ไว้ใจกองโจรเลี่ยหยางของเราหรือ! เื่ที่กองโจรเลี่ยหยางรับปาก ย่อมต้องทำได้ เพียงแต่หญิงสาวคนนี้จะบริสุทธิ์หรือไม่ ผู้ชายอย่างเราคงไม่สามารถช่วยชายหนุ่มคนนั้นตรวจสอบมิใช่หรือ!”
คำพูดกำกวมนี้ทำให้ดวงตาพร่ามัวของลุงเผยความเ็ป ฉับพลันนั้นเขาก็รีบขจัดมันทิ้ง แล้วเงยหน้าขึ้นตอบ “สัจจะของกองโจรเลี่ยหยางนั้นเลื่องชื่อฤชา ย่อมไม่หลอกลวงกันอยู่แล้ว”
เมื่อมีการเอ่ยปากของลุง คนที่เหลือต่อจากนั้นก็หนีไม่พ้นเป็การสั่งกำจัดคนหรือไม่ก็ปล้นชิง กระทั่งมีเหยื่อเป้าหมายหลายคนที่เป็ขุนนางในราชสำนัก แต่สือเลี่ยหยางกลับไม่ได้ประหลาดใจแม้แต่น้อย กลับกันคือรู้สึกผ่อนคลายและเป็ปกตินัก
่จังหวะการดื่มสุรา หนึ่งในนั้นจากไปอย่างเร่งรีบและกลับมา
คนผู้นั้นสบตากับลุง อีกฝ่ายถอนสายตากลับมามองดูสือเลี่ยหยางที่โอบสตรีไว้ซ้ายคนขวาคน รังสีพิฆาตในดวงตาไม่อาจปกปิดได้อีกต่อไป
ขณะที่ดื่ม จู่ๆ คบไฟจากทั่วสารทิศก็มุ่งหน้ามาทางค่ายโจร ลูกน้องที่เฝ้ายามด้านนอกเห็นท่าไม่ดี จึงอยากไปรายงานด้านใน กลับคิดไม่ถึงว่าดันถูกดาบเสียบเข้าที่ช่องท้อง
เมื่อเห็นผู้ที่ลงมือ ลูกน้องได้แต่เอ่ย “เ้านี่เอง…” จากนั้นกระอักเืและเสียชีวิต
สือเลี่ยหยางที่อยู่ในค่ายโจรกำลังชูจอกสุราเชื้อเชิญทุกคนร่วมดื่มกันอย่างสุขสราญใจ แต่กลับพบว่านอกประตูมีความผิดปกติ เขาส่งคนออกไปตรวจสอบ กลับเห็นยามที่เฝ้าด้านนอกทางเดินล้วนฟุบกองกับพื้น เมื่อทดสอบก็ยังพบว่ามีลมหายใจ แต่หมดสติไปแล้ว
และในจังหวะนั้นเอง ผู้ที่เป็แขกและพูดคุยหัวเราะเมื่อครู่ก็พากันล้มลงทีละคนเช่นกัน
สือเลี่ยหยางถึงรู้สึกถึงความผิดปกติ เพียงแต่ขณะที่เขาเพิ่งะโอย่างร้อนใจ “ใครก็ได้!” ทันใดนั้น ความพร่ามัววิงเวียนก็จู่โจมสมองกะทันหัน เขารีบจับผนังห้องด้านข้างไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ล้มลงกับพื้น
“เ้าสาม…” เขาออกแรงถีบเ้าสามหลายที เ้าสามสะลึมสะลือและพึมพำเล็กน้อย ก่อนจะผล็อยหมดสติไป
ส่วนหลายคนในห้องที่ไม่ได้ดื่มยังคงยืนตระหง่าน
ลูกน้องที่ไปสืบข่าวข้างนอกกลับเข้ามา สีหน้าร้อนใจ บนร่างเขามีแต่รอยเื
“พี่ใหญ่ แย่แล้ว! มีคนบุกโจมตี พี่น้องของเราส่วนใหญ่ตกหลุมพรางหมดแล้ว จะทำอย่างไรดี?”
สือเลี่ยหยางกระอักเืออกมา เขากำลังโมโหจนธาตุไฟเข้าแทรก
“สถานการณ์อะไรกัน? เ้าสี่ล่ะ?” สมัยก่อนขอเพียงมีแขกมา ก็มักจะให้เ้าสามต้อนรับด้วย ส่วนเ้าสี่ก็ลาดตระเวนอยู่รอบทิศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด
ลูกน้องมีหรือจะทราบ จึงได้แต่อธิบายอย่างกระวนกระวาย “ไม่ ไม่เห็นนายท่านสี่ขอรับ…”
สือเลี่ยหยางกวาดมองคนของตนเองที่ล้มลง แล้วแผดเสียงดัง “เอาดาบของข้ามา!”
ลูกน้องยื่นดาบให้เขา สือเลี่ยหยางเช็ดเืสีแดงสดบนริมฝีปากหนึ่งที จากนั้นถือดาบพุ่งออกไป เมื่อมองดูทั่วูเาที่มีแต่คบไฟ เขาถึงเพิ่งตระหนักได้ว่าคนที่มาครั้งนี้คงมีที่มาไม่ธรรมดา
คนเ่าั้เคยรับประกันไม่ใช่หรือ? ขอเพียงมีเขาคนนั้นอยู่ ค่ายโจรเลี่ยหยางของเขาก็จะสามารถอยู่อย่างสบายใจไร้กังวล เหตุใดจึงเกิดข้อผิดพลาด?!
“บอกมา ่นี้ค่ายโจรของเราจับคนร้ายกาจอะไรมาหรือไม่?”
ลูกน้องไตร่ตรอง “อ้อ ใช่แล้ว พี่ใหญ่ เหยื่อที่เราจับมาวันนั้น มีแม่นางสกุลเยี่ยนหนึ่งคน นายท่านสามจึงตัดสินใจจับมา สองวันก่อนเพิ่งจะส่งสาส์นเรียกค่าไถ่ไปยังบ้านสกุลเยี่ยนขอรับ”
สกุลเยี่ยน?
สือเลี่ยหยางคำนวณสกุลเยี่ยนในละแวกนี้ ขณะคิดไตร่ตรอง ทันใดนั้นก็นึกถึงว่าในเมืองหลวงมีตระกูลเยี่ยน
“ใช่ตระกูลเยี่ยนในเมืองหลวงหรือไม่?”
ลูกน้องรีบพยักหน้า “ใช่ๆ ตระกูลเยี่ยนในเมืองหลวง”
สือเลี่ยหยางเห็นลูกน้องยิ้มชอบใจ จึงยกเท้ากระทืบเขาไปไกล “เ้าพวกโง่! เ้าพวกโง่!”
ตระกูลเยี่ยนนั่นเป็ถึงท่านราชครูในองค์รัชทายาท ใช่บุคคลที่ไปล่วงเกินได้หรือ เมื่อเห็นเ้าสามตัวปัญหายังคงสลบไสล เขาแทบอยากจะกระชากเขาขึ้นมา
“ไปนำตัวคนมา!”
สมกับที่สือเลี่ยหยางเป็ประมุขของค่ายโจรเลี่ยหยาง เพียงแค่พินิจเื่ราวหน้าหลังก็รู้ว่าผู้ที่ล้อมค่ายโจรครั้งนี้ มีความเป็ไปได้ว่าจะเป็ฝีมือของสกุลเยี่ยน ดังนั้นจึงรีบเรียกลูกน้องไปนำตัวคนในห้องขังออกมา
คนในห้องขังได้ยินเสียงอึกทึกภายนอกก็รู้สึกถึงความผิดปกติ รู้เพียงมีคนล้มยามที่เฝ้าห้องขัง พอคนผู้นั้นเข้ามาและมองดู จึงรู้ว่าเป็จ้าวจือชิง
เสียงแคว่กดังขึ้น เขาใช้แรงมหาศาลกระชากเชือกที่คล้องประตูห้องขัง “รีบออกมาเร็ว ค่ายโจรเลี่ยหยางจะถูกโจมตีแล้ว”
ชีเหนียงกับที่เหลือรีบออกมาจากห้องขัง “นี่มันสถานการณ์อะไรกัน เหตุใดจู่ๆ ก็ถูกโจมตี”
“เดาว่าคงไปล่วงเกินผู้มีอำนาจเข้าให้แล้ว”
“ช้าก่อน!” ชีเหนียงะโเรียกเขาไว้ “ช่วยรั่วซวงออกมาด้วย”
จ้าวจือชิงถึงเพิ่งเห็นเยี่ยนรั่วซวงที่ถูกขังไว้ในห้อง มิน่าแผนการถึงได้ราบรื่นเพียงนี้ ค่ายโจรเลี่ยหยางก่อปัญหาใหญ่หลวงแล้วจริงๆ ครั้งนี้เ้าสี่ตัดสินใจเด็ดขาดของจริง จ้าวจือชิงแค่กระตุ้นในตอนเริ่ม เขากลับทำได้เด็ดขาดเช่นนี้ จิตใจเหี้ยมโหดกับคนของตนเองถึงเพียงนี้ เห็นได้ว่าสถานที่อย่างค่ายโจรเลี่ยหยางนั้นไม่ได้ดีเด่อะไรจริงๆ
-----