บทที่ 2 ระบบอัจฉริยะไร้เทียมทาน บทลงโทษของผู้พ่ายแพ้
ในห้องปีกถัดไป
หลี่โม่จ้องมองเพดานอย่างเลื่อนลอย ราวกับตกอยู่ในภวังค์
ข่าวดีคือ เพื่อนรักวัยเด็กของเขามีคุณสมบัติแห่งจักรพรรดินี
ข่าวร้ายคือ ความสัมพันธ์ของเขากับนางไม่ค่อยดีนัก แถมเขายังมักสร้างความเดือดร้อนให้นางเห็นอยู่เสมอ
เมื่อนางได้เข้าสำนักชิงเยวียนแล้ว จะต้องฉายแววโดดเด่นเป็แน่แท้ หลี่โม่พลันนึกถึงฉากคลาสสิกที่เคยเห็นในห้วงความคิด เมื่อตัวเอกทดสอบพร์ หินตรวจสอบพร์ก็พลันะเิ 'ตูม!' ออกมา หลังจากนั้น เหล่าตัวร้ายตัวเล็กๆ ที่เคยรังแกตัวเอกก็จะต้องสั่นงันงก รอคอยการถูกตบหน้าเรียงคน ในตอนนั้นเอง…
【ลงทุนสำเร็จ! การลงทุน: ซุปไก่โสมูเาหนึ่งถ้วย】
【กำลังประมวลผลรางวัล...】
【ยินดีด้วย! รางวัลคือ: ยาเม็ดเทียนหลิงปู่หยวนหนึ่งเม็ด】
【ยาเม็ดเทียนหลิงปู่หยวน】: "เป็ยาเม็ดที่ก่อเกิดหกอักขระ ถือเป็สุดยอดโอสถที่จะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดพร่องแต่กำเนิดได้"
กล่องหยกที่เปิดอ้าอยู่พลันปรากฏขึ้นบนโต๊ะอย่างกะทันหัน ภายในบรรจุยาเม็ดใสกระจ่างที่อบอวลด้วยไอสีม่วง และแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เก็บซ่อนไว้ มิได้เผยประกายออกมา
หลี่โม่อ้าปากค้าง สีหน้าแข็งทื่อไปเล็กน้อย ลมหายใจหยุดกึกไปหลายวินาที
ของสิ่งนี้... เขาเคยได้ยินชื่อมันมาก่อน เขาเป็บุตรที่คลอดก่อนกำหนด มารดาของเขาเคยใกลัวขณะตั้งครรภ์ จึงคลอดก่อนกำหนดแม้ยังไม่ครบเก้าเดือน ด้วยเหตุนี้ ร่างกายเขาจึงอ่อนแอมาั้แ่เล็ก แม้กระทั่งการหัดเดินยังช้ากว่าเด็กคนอื่นถึงหนึ่งปี ผู้คนทั้งในและนอกจวนสกุลหลี่ รวมถึงเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างกล่าวขวัญว่าสกุลหลี่นั้นมี 'บิดาพยัคฆ์ บุตรสุนัข'
แม้บิดาจะไม่เอ่ยปาก แต่ในใจก็ร้อนรน พยายามหาวิธีการต่างๆ นานา หนึ่งในนั้นก็คือการตามหายาเม็ดที่เรียกว่า 'ยาเม็ดเทียนหลิงปู่หยวน' นี้ แม้ของสิ่งนี้จะมีให้เห็นในตลาดบ้าง ทว่ากลับมิอาจประเมินค่าได้ แม้ทุ่มทรัพย์สมบัติของสกุลหลี่ไปครึ่งหนึ่ง ก็คงซื้อได้แค่ชนิดสองอักขระเท่านั้น แถมยังไม่แน่ว่าจะหามาได้ด้วยซ้ำ ตระกูลใหญ่หลายแห่งที่มีรากฐานมั่นคง ต่างก็เฝ้ารอคอยยาเม็ดนี้อย่างกระหาย ไม่ลังเลที่จะจ่ายราคาสูงเกินจริงเพื่อนำมาบ่มเพาะคนรุ่นหลัง เพราะก่อนการฝึกยุทธ์ ใครเล่าจะปฏิเสธรากฐานแต่กำเนิดที่แข็งแกร่งกว่าได้ ดังนั้นหลี่โม่จึงไม่เคยได้มันเลย
ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้มันมาด้วยวิธีเช่นนี้!
แถมยังเป็ชนิดหกอักขระ!
แม้หลี่โม่จะไม่รู้เื่รู้ราวมากนัก แต่ก็ยังตระหนักดีว่าสิ่งนี้ล้ำค่าเพียงใด ยาเม็ดที่เพิ่มขึ้นทุกอักขระ มูลค่าจะพุ่งขึ้นหลายเท่า และในระดับที่สูงขึ้นก็จะยิ่งทวีคูณแบบทบต้น ซึ่งยากจะหาเจอได้เช่นกัน หกอักขระ... อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยได้ยินถึงมาก่อน ความล้ำค่าของมันยากจะจินตนาการได้
"ฟู่ววว~"
หลี่โม่เม้มริมฝีปากเบาๆ ไม่ว่าของจะล้ำค่าเพียงใด ต้องกินเข้าไปในท้องถึงจะเป็ของเขาอย่างแท้จริง เมื่อยาเม็ดเข้าปาก มันพลันละลายหายไปทันทีโดยมิอาจลิ้มรสใดๆ ไหลลงคอสู่ช่องท้อง
ในเสี้ยววินาทีถัดมา ทั่วทั้งสี่แขนขา ทุกอณูร่างกายของเขาก็พลันก่อเกิดกระแสความอบอุ่นร้อนระอุ แปรเปลี่ยนเป็สายธารดุจฝูงปลา แหวกว่ายไปตามโครงกระดูก เส้นลมปราณ และอวัยวะภายใน ราวกับรากไม้ที่แห้งเหี่ยวมานานแล้วได้พบเจอสายฝนเย็นฉ่ำ ทำให้ต้นไม้ที่เคยแห้งเหี่ยวกลับคืนสู่ความมีชีวิตชีวาอีกครา
"ฮู่ววว!"
หลี่โม่ถอนหายใจยาว พลางลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเขาสุกสกาวดุจเปลวเพลิง ร่างกายคล้ายถูกปลดเปลื้องจากภาระหนักอึ้งนับพันชั่ง โลกเบื้องหน้าคล้ายถูกเผยให้เห็นหลังม่านบางที่ถูกเปิดออก ทุกการหายใจ อากาศกลับมีกลิ่นหอมหวานยิ่งขึ้น ราวกับว่าในกายมีพละกำลังที่ไม่มีวันหมดสิ้น
คำอธิบายนี้อาจจะไม่ตรงนัก หลี่โม่รู้สึกราวกับเป็ชายชราที่ใกล้ลาโลก แต่กลับฟื้นคืนความหนุ่มแน่นนับสิบปีได้ในชั่วพริบตา หากได้กลับไปฝึกยุทธ์อีกครา แม้ไม่นับเป็หยกชั้นเยี่ยม อย่างน้อยก็ถือเป็ศิลาที่ไร้ตำหนิใดๆ แล้ว
"ยาเม็ดหกอักขระ ช่างสมคำร่ำลือจริงๆ"
"แถมนี่เป็เพียงผลตอบแทนจากการลงทุนด้วยซุปไก่แค่ถ้วยเดียว"
หลี่โม่ อดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้งในใจ ผลตอบแทนจากการลงทุนครั้งนี้ช่างเหลือเชื่อเกินไปแล้ว แน่นอนว่าเหตุผลใหญ่ที่สุด คงเป็เพราะเป้าหมายการลงทุนที่แสนพิเศษนั่นเอง นั่นคือ อิ๋งปิง
ในความทรงจำ อิ๋งปิงนั้นสมชื่อจริงๆ บุคลิกของนางแทบจะสรุปได้ด้วยคำว่า 'ยัยก้อนน้ำแข็ง' การปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นคงเป็เื่ยากที่ต้องใช้เวลา แต่ผลตอบแทนนี้อย่างไรก็ต้องเก็บเกี่ยวให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม นี่คือ ลิขิตฟ้าสีแดง เชียว! หากพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว ต่อให้เกิดใหม่อีกแปดชั่วคนก็ไม่มีทางเจอวาสนาเช่นนี้อีกเป็แน่
"พ่อบ้านสวี!"
"คุณชายน้อยมีเื่อะไรขอรับ?" พ่อบ้านรีบเข้ามาทันทีอย่างไม่รอช้า
หลี่โม่ลดเสียงลงเอ่ยถาม
"อิ๋งปิง มีของที่ชื่นชอบเป็พิเศษบ้างหรือไม่?"
พ่อบ้านนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ครุ่นคิดแล้วตอบว่า
"ไม่น่าจะมีขอรับ คุณหนูอิ๋งไม่ค่อยมีอารมณ์อยากอาหารนักในยามปกติ"
"แล้วมีสิ่งอื่นใดที่นางโปรดปรานบ้าง?"
"เอ่อ... กระผมก็ไม่ทราบเหมือนกันขอรับ" พ่อบ้านทำหน้าเหลอหลา คุณชายน้อยวันนี้กำลังวางแผนอันใดกันแน่? ปกติแล้วท่านมักจะสั่งคนรับใช้ให้จงใจสร้างความลำบากใจแก่คุณหนูอิ๋ง จะมีหรือที่ท่านจะใส่ใจความชอบของนางเช่นนี้
หลี่โม่พลันนึกย้อนไปถึงอดีต ก็อดรู้สึกละอายใจไม่ได้
พ่อบ้านกำลังจะก้าวจากไป ทว่าเมื่อเดินถึงประตู พ่อบ้านพลันนึกบางอย่างขึ้นได้ว่า
"จริงด้วยขอรับคุณชายน้อย นายท่านสั่งไว้ว่าเมื่อไปถึงเมืองที่เชิงเขาสำนักชิงเยวียนแล้ว ให้พาคุณหนูอิ๋งไปหาหมอขอรับ"
"แล้วก็ยังให้เงินค่ารักษามาสองร้อยตำลึงด้วยขอรับ ท่านจะว่าอย่างไรขอรับ?"
"ไปเถอะ! ถ้าเงินไม่พอ ก็เบิกจากเงินเก็บส่วนตัวของข้าได้เลย" หลี่โม่โบกมืออย่างไม่ลังเลใจ หากแค่ใช้เงินแล้วได้รางวัลตอบแทนกลับมามากมายเช่นนี้ อย่างนั้นก็ถือว่าคุ้มค่าเกินจะบรรยายแล้ว
"พรุ่งนี้เช้าต้องรีบออกเดินทางแล้ว พักผ่อนแต่เนิ่นๆ เถอะ"
"ขอรับ..."
พ่อบ้านเกาหัว หงึกหงักรับคำด้วยความไม่เข้าใจ คุณชายน้อยเป็อันใดไปนะ ่นี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนนิสัยไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่สุภาพกับเขามากขึ้น ทัศนคติที่มีต่อคุณหนูอิ๋งก็เปลี่ยนจากมืดครึ้มเป็สดใสราวกับฟ้าหลังฝน พ่อบ้านคิดว่าคงเป็เพราะได้ออกเดินทาง เห็นโลกกว้าง เลยเติบโตขึ้นแล้วกระมัง?
รุ่งอรุณถัดมา
แสงแรกแห่งยามเช้าสาดส่องลงมา เกล็ดน้ำแข็งที่เกาะตัวอยู่บนขอบหน้าต่างของห้องปีกนั้นส่องประกายระยิบระยับ หญิงสาวกอดเข่าซุกตัวอยู่บนเตียงดุจภูตน้ำแข็งที่กำลังหลับใหลอยู่กลางหิมะ
อิ๋งปิงฝันไป
ฝันถึงชีวิตชาติก่อนของนาง
ในตอนแรก นางถูกตรวจพบว่ามี 'ชีพจรดับสนิท' ทว่าหลังจากนั้นครึ่งปี นางก็ได้รับวาสนาอันน่าอัศจรรย์ จึงสามารถเปิดเส้นชีพจรได้ในที่สุด ต่อมานางก็เผยพร์อันร้ายกาจดุจปีศาจออกไป ทิ้งห่างเพื่อนร่วมรุ่นไปไกลสุดกู่ เมื่ออายุได้สิบแปดปี เ้าสำนักชิงเยวียนก็มิอาจทัดเทียมกับนางได้อีกแล้ว นางจึงก้าวออกจากแดนบูรพา เพื่อััโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลยิ่งกว่า เก้าฟ้าสิบพิภพนั้นกว้างใหญ่เกินประมาณนัก มีทั้งศิษย์สืบทอดจากสำนักลึกลับ, อัจฉริยะจากแดนโบราณ, ยอดฝีมือแห่งราชวงศ์ หรือแม้กระทั่งอดีตจอมมารที่กลับชาติมาเกิดใหม่ เหล่าผู้กล้าต่างผุดขึ้นดุจดอกเห็ดหลังฝนพรำ นั่นคือยุคสมัยอันรุ่งโรจน์และเจิดจรัส ทว่า… นางก็ยังคงเป็ผู้ที่เจิดจรัสที่สุดในกระแสธารแห่งยุคสมัยนั้นอย่างไม่มีผู้ใดเทียบ!
อันดับหนึ่งในทำเนียบัหลับ, อันดับหนึ่งในทำเนียบมนุษย์, อันดับหนึ่งในทำเนียบเร้นลับ, อันดับหนึ่งในทำเนียบปฐี, อันดับหนึ่งในทำเนียบ์... นางก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในทุกทำเนียบ ในที่สุดนางก็ขึ้นเป็หนึ่งใน 'เก้าฟ้า' เทียบชั้นกับ 'ไท่จู่หวู่ตี้' แห่งราชวงศ์ต้าอวี้ในจงโจว และได้รับสมญานามว่า 'หวงเทียน'
'เก้าฟ้า' หมายถึงกลุ่มบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในเก้าฟ้าสิบพิภพ แน่นอนว่าเหนือ 'เก้าฟ้า' ขึ้นไป ยังมี 'ขอบเขตสูงสุด' ในตำนานอีกระดับหนึ่ง
อิ๋งปิงลืมตาขึ้นอย่างแ่เบา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนย้ำเตือนว่านางได้ย้อนกลับมายังอดีตอย่างแท้จริง และยังได้พบกับบางสิ่งที่ไม่เคยปรากฏในชาติก่อนเลย
"มันยังอยู่สินะ?"
เบื้องหน้านางคือกลุ่มตัวอักษรแปลกประหลาด ตัวอักษรเหล่านี้มีเพียงนางเท่านั้นที่มองเห็น ราวกับว่าตราบใดที่นางยังไม่ทำการเลือก ตัวอักษรเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ตลอดไป
ระบบ... ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาติภพนี้ นางก็ไม่เคยพบเห็นสิ่งเช่นนี้เลย
"เก้าฟ้าสิบพิภพนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเกินหยั่งถึง ข้าเองก็ยังมิอาจกล่าวได้ว่ารอบรู้ทุกสิ่ง"
"นี่อาจเป็พลังที่ข้าไม่เคยััมาก่อนในชาติภพก่อนกระมัง?"
อิ๋งปิงยังคงสีหน้าเรียบนิ่ง มิได้แสดงปฏิกิริยาอันใดมากนัก
เส้นทางสู่ความไร้เทียมทานงั้นหรือ? นางเคยเหยียบย่ำเส้นทางนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง เส้นทางแห่งการผงาดขึ้นของนาง เดิมทีก็คือเส้นทางแห่งความไร้เทียมทานอันรุ่งโรจน์ ดุจดั่งวีรบุรุษผู้เจิดจรัสท่ามกลางหมู่ดาว ไม่มีผู้ใดจะโดดเด่นไปกว่านางได้อีก ชาติก่อน แม้แต่ 'จักรพรรดิอวี้' ก็ยังต้องอาศัยกลวิธีพิเศษ จึงจะสามารถเทียบเคียงกับนางได้อย่างสูสี ใน่รุ่งโรจน์สูงสุดของนาง คงต้องค้นหาคนในหน้าประวัติศาสตร์เท่านั้น จึงจะพอหาคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อได้ ชาติภพนี้ นางจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมเป็แน่!
ในตอนนั้น ระบบก็พลันปรากฏข้อมูลขึ้นอีกหนึ่งข้อความ
【รางวัลแห่งการพิชิต จะทำให้ท่านได้รับโอกาสในการบรรลุถึงการเป็เซียนขอรับ】
อิ๋งปิงลมหายใจสะดุดไปครู่หนึ่ง
เซียน! นี่คือถ้อยคำที่ดำรงอยู่ในตำนาน!
เล่าขานกันว่าในแต่ละยุคสมัย เก้าฟ้าสิบพิภพจะปรากฏ 'เซียน' ผู้เป็หนึ่งเดียวเท่านั้น ผู้ที่ยืนอยู่เหนือสรรพชีวิต เป็การหลุดพ้นอย่างแท้จริง เป็ะอย่างแท้จริง และไร้ซึ่งขีดจำกัด ทว่านับั้แ่ราชวงศ์ต้าอวี้สถาปนาแผ่นดิน การบรรลุถึงการเป็เซียนก็กลายเป็เพียงตำนาน ราวกับว่าเส้นทางนี้ถูกปิดตายโดยสมบูรณ์ และยิ่งเพิ่มมนต์ขลังอันลึกลับให้แก่ตำนานเ่าั้ นี่คือความลับอันยิ่งใหญ่ที่สุดของเก้าฟ้าสิบพิภพ ที่เหล่า 'เก้าฟ้า' แห่งทุกยุคสมัยต่างเฝ้าตามหาและ่ชิง เส้นทางสู่การเป็เซียนนั้นไร้ซึ่งประตู นางผู้เปี่ยมด้วยความมั่นใจจึงเลือกเส้นทางที่ยากลำบากที่สุด ซึ่งเป็เส้นทางที่น้อยคนนักจะเคยประสบความสำเร็จมาั้แ่โบราณกาลจนถึงปัจจุบันนี้ แต่สุดท้าย นางก็ยังคงขาดไปเพียงก้าวเดียว… ระบบที่ว่านี้ มีโอกาสให้บรรลุถึงการเป็ 'เซียน' ได้ด้วยหรือ?
"การท้าทายหมายถึงสิ่งใด?" อิ๋งปิงสงบจิตใจลง แล้วเอ่ยถาม
【ระบบนี้จะรวบรวมยอดฝีมืออัจฉริยะรุ่นเดียวกันทั้งหมดภายในขอบเขตที่กำหนด และทำการจัดอันดับ เดือนละครั้งขอรับ】
【หลังจากประกาศอันดับแล้ว จะมีการมอบรางวัลตามอันดับที่ท่านเ้าของได้รับขอรับ】
【ขอบเขตการจัดอันดับปัจจุบัน: เขตแดนบูรพาขอรับ】
ในห้วงความคิดของอิ๋งปิง พลันมีชุดความทรงจำจำนวนมากเพิ่มขึ้นในพริบตา ไม่เพียงแค่กฎของระบบเท่านั้น แต่ยังมีข้อจำกัดนานัปการที่ระบุไว้ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น ห้ามใช้ปัจจัยภายนอกใดๆ เข้ามาแทรกแซงการท้าทาย, ไม่อนุญาตให้เปิดเผยการมีอยู่ของระบบ, หรือให้อีกฝ่ายจงใจยอมอ่อนข้อให้ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วได้ปิดกั้นเส้นทางในการใช้กลอุบายทั้งหมด
แต่…
การจัดอันดับยอดฝีมืออัจฉริยะ?
ชาติก่อน นางเองก็เป็คำนิยามของสุดยอดอัจฉริยะดุจปีศาจแห่งเก้าฟ้าสิบพิภพอยู่แล้ว และในปัจจุบัน นางยังมีทั้งความทรงจำจากชาติก่อน การกลับมาเดินบนเส้นทางยุทธ์นี้ ย่อมแข็งแกร่งกว่าเดิมเป็แน่! หากสิ่งที่ระบบกล่าวเป็ความจริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะช่วยร่นระยะเวลาให้นางกลับคืนสู่จุดสูงสุดได้เร็วขึ้นอย่างมหาศาล และอาจถึงขั้นทำให้นางก้าวเข้าสู่ขอบเขตที่เหนือกว่าที่เคยจินตนาการไว้
มีบทลงโทษของผู้พ่ายแพ้กระนั้นหรือ?
ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาติภพนี้ นางก็ยังไม่เคยััรสชาติของการเป็ผู้พ่ายแพ้มาก่อนเลย แม้แต่จงเสินโจว ดินแดนที่ขึ้นชื่อเื่แหล่งรวมอัจฉริยะ ทว่าหลังจากที่นางไปถึง ยอดฝีมือรุ่นใหม่ต่างก็ตกอยู่ภายใต้เงามืดของนาง เพียงเอ่ยถึงชื่อ “อิ๋งปิง” ทุกคนล้วนสีหน้าเปลี่ยนไปเลยทีเดียว กระทั่งอดีตจอมมารบางตน เพื่อ้าบั่นทอนความฮึกเหิมของนาง ถึงขั้นปลอมแปลงโฉมหน้า, ปรับลดระดับพลังยุทธ์ลง, และแสร้งทำเป็ยอดฝีมือหน้าใหม่มาท้าทาย ทว่าสุดท้ายก็ถูกบีบให้เผยร่างจริงออกมา และผลลัพธ์ก็ยังคงเป็ความพ่ายแพ้อยู่ดี
【แจ้งเตือน: ท่าน้าเปิดใช้งานกลไกบทลงโทษหรือไม่ขอรับ?】
【หากเปิดใช้งานแล้ว รางวัลจะยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ทว่าท่านจะต้องทำภารกิจบทลงโทษของผู้พ่ายแพ้ต่อผู้ที่ได้อันดับหนึ่งให้สำเร็จ หลังจากมีการประกาศอันดับแล้วขอรับ】
"ข้าปรารถนายิ่งนัก"
การตัดสินใจของอิ๋งปิงนั้นไม่ต้องสงสัยเลย นางจะต้องเป็อันดับหนึ่งอย่างแน่นอนที่สุด บทลงโทษนี้ สำหรับนางแล้ว เท่ากับว่าไม่มีอยู่จริง นี่มิใช่ความหลงตัวเองแต่อย่างใด หากแต่เป็ความมั่นใจในตนเอง ในเมื่อเป็เื่ที่ตนเองสามารถทำได้อยู่แล้ว การทำให้รางวัลเป็ไปได้สูงสุด จะไม่ทำไปได้อย่างไรกันเล่า?
【บทลงโทษของผู้พ่ายแพ้ เปิดใช้งานสำเร็จแล้วขอรับ!】
อิ๋งปิงผลักประตูออกไป
"อรุณสวัสดิ์"
ไม่ไกลออกไป เด็กหนุ่มก็บังเอิญเปิดประตูออกมาพอดี สายตาทั้งสองประสานกัน หลี่โม่ยิ้มกว้าง เผยรอยยิ้มที่อบอุ่นดุจสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
เมื่อเทียบกับเมื่อวาน ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะปราศจากความหม่นหมอง กลับเพิ่มความสง่างามและหล่อเหลาขึ้นมาหลายส่วน เพียงชั่วข้ามคืน เขากลับกลายเป็เด็กหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยแสงตะวันอย่างน่าประหลาด ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปจากที่นางเคยจดจำได้เลือนรางในความทรงจำอันไกลโพ้นเสียแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้