ในทุกๆ ปี เมื่อนาฬิกาแห่งโชคชะตาหมุนเวียนไปถึงจุดสำคัญ เด็กหนุ่มและเด็กสาววัย 15 ปี แห่งหมู่บ้านจิ่วอันจะต้องเผชิญหน้ากับ่เวลาที่อาจเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตของพวกเขาการทดสอบวัดระดับพร์
โอกาสของสามัญชน หนทางสู่อนาคตที่สดใสสำหรับเด็กชาวบ้านธรรมดา นี่คือโอกาสเดียวในชีวิต
เด็กที่เกิดมาในตระกูลธรรมดามิได้มีสิทธิ์ได้รับการตรวจสอบระดับพร์ั้แ่แรกเกิดเช่นเดียวกับเหล่าคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์ ในขณะที่ลูกหลานของขุนนางและยอดตระกูลสามารถเข้าถึงทรัพยากร พลังปราณ และการฝึกฝนมาั้แ่ยังเยาว์วัย แต่สำหรับเด็กชาวบ้านพวกเขามีเพียงการทดสอบนี้
หากพวกเขามีพร์ที่สูงส่ง พวกเขาอาจได้รับโอกาสเข้าเรียนในโรงเรียนฝึกตนชื่อดัง อาจได้ก้าวออกจากชีวิตที่ต่ำต้อย ได้รับการฝึกฝน และพลิกชะตาของตนเองชายและหญิงในชุดของสำนักฝึกตน เดินทางมาถึงหมู่บ้านจิ่วอันในเช้าวันนั้น พวกเขาเป็ผู้ส่งสารจากโลกภายนอก เป็ตัวแทนจากสำนักหนึ่งในสำนักที่รวบรวมอัจฉริยะทั่วแผ่นดิน
พวกเขามีหน้าที่ตรวจสอบระดับพร์ของเด็กๆ และคัดเลือกผู้ที่คู่ควรเข้าสู่การฝึกตนเมื่ออาจารย์จากสำนักใหญ่ปรากฏตัว บรรยากาศทั่วทั้งหมู่บ้านก็เต็มไปด้วยความคึกคักเด็กหนุ่มและเด็กสาวต่างพากันเดินทางไปยังลานกลางหมู่บ้านด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
บางคนมาพร้อมกับความฝันที่จะก้าวข้ามชะตากรรมบางคนมาพร้อมกับความทะเยอทะยานที่จะเป็ผู้แข็งแกร่งบางคนมาด้วยความหวาดหวั่น กลัวว่าตนเองจะถูกตัดสินว่าไร้ค่า
เสียงพูดคุยตื่นเต้นดังไปทั่ว ทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองแต่มีเพียงหนึ่งเดียว…ที่มิได้สนใจแม้แต่น้อย
ขณะที่เด็กคนอื่นๆ กำลังรอคอยการทดสอบด้วยใจที่เต็มไปด้วยความหวังและความกังวล ไป๋เสวี่ยหรงกลับยังคงอยู่ที่บ้าน
เงียบสงบ เยือกเย็น และปราศจากความตื่นเต้นใดๆ ภายในกระท่อมเล็กๆ นางกำลังช่วยมารดาของนางทำงานบ้านตามปกติ
"ลูกไม่อยากที่จะไปทดสอบระดับพร์กับเขาหรือ?"
เสียงของ ไป๋จิงซู อ่อนโยนเช่นเคย ขณะที่นางหันมามองเด็กสาวตรงหน้า นางมิได้บังคับ แต่เพียงแค่สงสัย
การทดสอบระดับพร์เป็สิ่งที่เด็กทุกคนรอคอย แต่บุตรสาวของนาง… ดูเหมือนจะมิได้สนใจมันแม้แต่น้อย
"คงไม่จำเป็..."ไป๋เสวี่ยหรงตอบกลับเรียบๆ ขณะช่วยปัดกวาดพื้นไม้
"สิ่งเหล่านี้มิได้ทำให้ข้ารู้สึกสนใจอะไรมากนัก" น้ำเสียงของนางสงบนิ่ง เยือกเย็นและเต็มไปด้วยความแน่วแน่
เหตุใดนางต้องพิสูจน์ตนเอง? เด็กหนุ่มเด็กสาวในหมู่บ้านอาจ้าการทดสอบ พวกเขา้าให้โลกรับรู้ถึงศักยภาพของตนเอง้าเปลี่ยนแปลงชีวิต ้าออกจากกรอบของสามัญชนแต่ไป๋เสวี่ยหรง...
นางมิใช่คนที่้าการยืนยันจากใครเพราะนางรู้อยู่แล้ว ว่าตัวนางคือสิ่งใด เพราะนางรู้อยู่แล้ว ว่าพลังของนางมิอาจถูกวัดด้วยเครื่องมือของมนุษย์ธรรมดา ในโลกแห่งการฝึกตน ทุกคนล้วนต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ต้องผ่านบททดสอบ ต้องรับการชี้แนะจากอาจารย์ ต้องมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าคอยสั่งสอน แต่ไป๋เสวี่ยหรงมิใช่หนึ่งในนั้น
เสียงของอาจารย์จากโลกภายนอกดังก้องไปทั่วลานกลางหมู่บ้าน หลังจากการทดสอบวัดระดับพร์เสร็จสิ้น เด็กหนุ่มและหญิงสาวที่เฝ้ารอคอยโอกาสสำคัญในชีวิตต่างแสดงสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยินดี
"ข้าผ่านแล้ว! ข้าผ่านแล้ว!" เด็กบางคนะโกอดกันด้วยความตื่นเต้น พวกเขารู้ดีว่า นี่คือโอกาสเดียวที่จะเปลี่ยนชะตาของพวกเขาจากชาวบ้านธรรมดา สู่เส้นทางของผู้ฝึกตนจากผู้ไร้อำนาจ สู่ผู้ที่มีสิทธิ์ต่อรองกับ์เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของพวกเขาดังก้องไปทั่ว ล้อมรอบด้วยพ่อแม่พี่น้องที่ต่างภาคภูมิใจ
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
แต่ในขณะที่บางคนสมหวัง บางคนกลับถูกทิ้งไว้เื้ั
"มิใช่ว่าข้าฝึกฝนมาตลอดหรอกหรือ? เหตุใดพร์ของข้าจึงต่ำต้อยเช่นนี้?""ข้า... ข้าต้องอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ไปตลอดชีวิตงั้นหรือ?" เด็กที่ล้มเหลวในทดสอบสีหน้าซีดเผือด บางคนทรุดลงกับพื้น บางคนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ พวกเขาฝันว่าจะได้ออกจากที่แห่งนี้แต่ความเป็จริงกลับโหดร้ายเกินไปพวกเขาถูกกำหนดให้เป็สามัญชนตลอดชีวิต
หลังจากผ่านไปสองถึงสามวัน รายชื่อของผู้ที่ได้รับคัดเลือกก็ถูกประกาศอย่างเป็ทางการกลุ่มเด็กที่ได้รับเลือกเตรียมตัวออกเดินทาง พวกเขาจะถูกส่งไปยัง โรงเรียนผู้ฝึกตนที่เมืองหลวงในเช้าวันเดินทาง ทั่วทั้งหมู่บ้านเต็มไปด้วยบรรยากาศของการจากลา
พ่อแม่ร่ำไห้ขณะที่กอดบุตรหลานของตน"เ้าต้องฝึกฝนให้หนักนะ อย่าลืมบ้านเกิดของเรา""หากเ้ากลายเป็ยอดฝีมือ อย่าลืมกลับมาเยี่ยมครอบครัวของเ้าล่ะ!" สำหรับเด็กที่กำลังออกเดินทาง นี่คือก้าวแรกของพวกเขาสู่โลกกว้างขณะที่เด็กหนุ่มหญิงสาวกำลังเดินทางออกจากหมู่บ้าน มีเพียง หนึ่งเดียว ที่ยังคงอยู่ในเงามืด
ไป๋เสวี่ยหรงนางยืนอยู่ภายใต้เงาไม้ มองดูขบวนของเด็กเ่าั้ที่กำลังออกเดินทางด้วยสายตาสงบนิ่ง
นางมิได้อิจฉา นางมิได้เศร้าเสียใจ เพราะนางรู้ดีว่า…
เส้นทางที่พวกเขากำลังก้าวเดินไปนั้น มันยังเล็กเกินไปสำหรับนาง!
แม้ว่าภายในใจของ ไป๋เสวี่ยหรง นางจะมิได้ใส่ใจต่อผลลัพธ์ของการทดสอบพร์ของผู้อื่นมากนัก แต่นางก็ยังคงรู้สึกดีใจที่มี เด็กๆ หลายคนสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตนเองได้ด้วยความสามารถของตนเอง
เพราะสุดท้ายแล้ว ชีวิตของผู้คนล้วนถูกกำหนดด้วยกำลังของตนเองไม่มีผู้ใดสมควรต้องถูกลิขิตให้ต่ำต้อยตลอดไป หากพวกเขามีความสามารถพอที่จะก้าวไปข้างหน้า
ขณะที่สายลมพัดผ่าน และเสียงของผู้คนค่อยๆ เงียบหายไปตามระยะทาง...ไป๋เสวี่ยหรงสามารถััได้ถึงบางสิ่งที่ไม่น่าไว้วางใจ "สัตว์อสูรงั้นหรือ?" ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย ขณะที่ััของนางกระจายออกไปไกลกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะรับรู้ได้มันมิได้อยู่ใกล้...แต่มันอยู่ที่ขอบเขตของข่ายอาคมที่นางสร้างไว้รอบหมู่บ้าน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้