ตระกูลเติ้งส่งคนมาทั้งหมดเจ็ดคนผู้าุโชั้นเบิกนภาขั้นหกคนหนึ่งนามว่า เติ้งว่านชวน อีกหกคนที่เหลือเป็ชั้นเบิกนภาขั้นห้าสองคนชั้นเบิกนภาขั้นสี่สองคน ชั้นเบิกนภาขั้นสามสองคน
คนเหล่านี้เป็เพียงกำลังพลหน่วยเล็กๆ ของตระกูลเติ้งเท่านั้นแต่จากคนที่ส่งมาดูแล้ว หากจะกำจัดตระกูลขั้นเก้าตระกูลหนึ่ง ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือพลังห่างกันหนึ่งขั้น ระดับพลังก็ห่างกันไกล เทียบกันไม่ได้โดยสิ้นเชิง
นอกจากผู้ฝึกยุทธ์ทั้งเจ็ดของตระกูลเติ้งผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิว เฉิงจางที่หนีไปที่ตระกูลเติ้งก็ส่งตัวแทนของตัวเองมาตระกูลละหนึ่งคนทุกคนพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่ง
เจ็ดคนของตระกูลเติ้งรวมกับตระกูลหนิว เฉิงจางตระกูลละคน จำนวนรวมทั้งหมดสิบคนพอดี
กลุ่มของเติ้งว่านชวนเดินทางโดยใช้ม้ากิเลนดำทั้งหมดตอนเช้าออกจากอำเภอหนานเหย่ กลางวันก็ข้ามทุ่งม้าป่าเข้ามาในเขตอำเภอเป่ยโม่ หลังจากนั้นอย่างมากหนึ่งชั่วโมงก็จะมาถึงหมู่บ้านหวงปั้ว
คนของตระกูลเติ้งเพิ่งก้าวเข้ามาในเขตอำเภอเป่ยโม่พิราบสื่อสารตัวหนึ่งก็ร่อนลงมาถึงมือเ้าตระกูลหวงหย่วนเฉิงที่ตระกูลหวง ณหมู่บ้านหวงปั้ว
ม้ากิเลนดำแม้จะฝีเท้าเร็ว แต่ก็เร็วไม่เท่านกบินบนฟ้า
หวงหย่วนเฉิงในฐานะอดีตเ้าตระกูลขั้นห้าการต่อสู้ระหว่างตระกูลใหญ่ก็เคยผ่านมาแล้วการต่อสู้ระหว่างตระกูลเล็กขั้นแปดขั้นเก้า ในสายตาของเขาก็เหมือนเด็กเล่นหลังจากปักหลักในอำเภอเป่ยโม่ก็รู้นานแล้วว่าหากวันหนึ่งตระกูลหวงเข้าแทนที่ตระกูลหนิว เฉิง จางสามตระกูลย่อมต้องสร้างความสัมพันธ์เชิงผลประโยชน์กับตระกูลเติ้งแห่งอำเภอหนานเหย่
ดังนั้นจึงวางสายสืบไว้ที่อำเภอหนานเหย่ก่อนหน้านี้นานแล้ว ตอนนี้ ในที่สุดก็ถึงเวลาใช้ประโยชน์
ตามรายทางมีข่าวสารส่งมาไม่ขาดกำลังพลของตระกูลเติ้งตรงมาที่หมู่บ้านหวงปั้วโดยมีคนของตระกูลหนิว เฉิง จาง นำทาง
หลังจากกวาดโอสถทิพย์จำนวนหนึ่งมาจากตระกูลหนิวเฉิง จางได้ หวงหย่วนเฉิงกินเข้าไป สีหน้าก็ดีกว่าก่อนหน้ามากเขารีบจัดคนของตระกูลหวงในหมู่บ้านหวงปั้ว เตรียมพร้อมทันที
ตอนนี้ตระกูลหวงแบ่งออกเป็สองส่วนหนึ่งก็คือที่หมู่บ้านหวงปั้ว ที่แห่งนี้เป็จุดตั้งต้นของตระกูลหวงตระกูลหวงยังคงใช้หมู่บ้านหวงปั้วเป็ศูนย์กลางชั่วคราว
อีกส่วนหนึ่งคือเมืองหลักของเป่ยโม่ที่นั่นเป็ศูนย์กลางของอำเภอเป่ยโม่ ง่ายต่อการคุมทั้งอำเภอตำแหน่งชัยภูมิแข็งแกร่งกว่าหมู่บ้านหวงปั้ว ต่อจากนี้ หากตระกูลหวง้าเติบโตศูนย์กลางต้องค่อยๆ ย้ายมายังเมืองหลักของอำเภอเป่ยโม่ตอนนี้หวงิซานนำกำลังคนส่วนหนึ่ง ไปจัดการทุกอย่างในเมืองหลักของอำเภอเป่ยโม่ให้ตระกูลหวงจวนที่อาศัยก็คือจวนเก่าของตระกูลหนิวนั่นเอง
ตระกูลหวงในหมู่บ้านหวงปั้วมีหวงฉีซานกับหวงคุนซานผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหกสองคนก็เพียงพอกดดันผู้ฝึกยุทธ์ของตระกูลเติ้งที่มาเยือนแล้ว
เติ้งว่านชวนและคนอื่นๆมาถึงด้านนอกจวนของตระกูลหวงในหมู่บ้านหวงปั้ว ไม่เห็นว่าหน้าประตูมีคนเฝ้าประตู อีกทั้งประตูก็เปิดกว้างแต่เดิมพวกเขาคิดว่ามาถึงตระกูลหวง จะพังประตูตระกูลหวงหักขาสองข้างของคนเฝ้าประตู หลังจากนั้นก็โยนเข้าไปแสดงอำนาจข่มตระกูลหวงเสียหน่อย ตอนนี้ดูแล้วคงไม่มีโอกาส
จากด้านนอก มองตรงผ่านประตูใหญ่ตระกูลหวงก็เห็นลานกว้างขวางด้านใน เ้าตระกูลหวงหย่วนเฉิงพร้อมกับหวงฉีซานหวงคุนซานและผู้ฝึกยุทธ์ภายใต้การนำของตระกูลหวงจำนวนหนึ่งเตรียมพร้อมรบอยู่ด้านใน รู้ว่าคนของตระกูลเติ้งจะมานานแล้ว
หวงหย่วนเฉิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สีดำตัวใหญ่หวงฉีซาน หวงคุนซานยืนอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาของท่านผู้เฒ่า คนที่เหลือยืนอยู่ด้านหลังท่านผู้เฒ่า
สิ่งที่เติ้งว่านชวนคิดคำนวณมาก่อนล้วนเสียเปล่าได้แต่นำคนเดินเข้ามาในลานกว้างของจวนของตระกูลหวง
“ขอถาม แขกผู้ทรงเกียรติเป็ผู้ใดมีธุระใดกับตระกูลหวง?” พอเติ้งว่านชวนเดินเข้ามาในลานกว้างหวงหย่วนเฉิงก็ยืนขึ้น ประสานหมัดเอ่ย แม้ว่าในสายตาของอดีตเ้าตระกูลขั้นห้าตระกูลขั้นแปดเป็เพียงปลาซิวปลาสร้อย แต่เขารู้ดียามนั้นคือยามนั้น ยามนี้คือยามนี้ตระกูลหวงคิดตั้งหลักในอาณาจักรเสินเตา ต้องผูกสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้านรอบข้างต่อสู้รบราไม่เป็ผลดีกับตระกูลหวง
แม้ว่าที่แห่งนี้จะเป็แดนเหนืออันห่างไกลห่างจากเขตอำนาจของตระกูลเสวียนในแดนตะวันตก ไกลนับแสนลี้แต่เสวียนจีเคยสั่งวาดภาพเหมือนของเสวียนหง รวมถึงประกาศจับคนของตระกูลหวงในหมู่กลุ่มอำนาจขั้นสามหลายแห่งของแดนเหนือที่ตระกูลหวงเคยหลบหนีไปเสวียนจีติดต่อไว้หมดแล้ว มอบรูปเหมือนของเสวียนหงไว้ แล้วประกาศตามจับ
ถึงอาณาจักรเสินเตาจะเป็เพียงผืนดินเล็กเท่าขนวัวเส้นหนึ่งในแดนเหนืออันกว้างใหญ่ไพศาลแต่เป็เื่ใหญ่โตขึ้นมาแล้วแพร่ออกไป ก็เกรงจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นวิถียุทธ์น้อยนักจะออกไปนอกดินแดนของตัวเองผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาก็มีน้อยที่จะออกไปนอกอาณาจักรต่อให้ออกไปก็ไปเพียงอาณาจักรข้างเคียงไม่กี่แห่งเท่านั้นท่องเที่ยวไปไม่ได้ไกลนัก มีแค่จอมยุทธ์ชั้นปฐีถึงจะเดินทางไกล ในอาณาจักรเสินเตานอกจากในสำนักใหญ่ทั้งสี่ที่มีจอมยุทธ์ชั้นปฐีอยู่ไม่กี่คนน้อยนักจะมีคนนอกเข้ามา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีจอมยุทธ์ชั้นปฐีจากข้างนอกเข้ามาเลยตระกูลหวงเพื่อป้องกันไว้ก่อน ทำเื่ใหญ่เป็เื่เล็กทำเื่เล็กเป็ไม่มีได้ ไม่ก่อเื่ให้มากอย่างแน่นอน
“ตาเฒ่า มีตาหามีแววไม่นี่คือผู้าุโเติ้งว่านชวนจากตระกูลเติ้งแห่งอำเภอหนานเหย่วันนี้มาเยือนเพื่อทวงถามความยุติธรรมให้แก่ตระกูลหนิว เฉิง จางสามตระกูลพวกเ้าโจรชั่วสมควรตายทั้งหลายยังไม่รีบคุกเข้ายอมรับผิดอีก? ผู้าุโเติ้งมีเมตตา อาจจะปล่อยให้เ้ามีศพครบชิ้นไม่เช่นนั้นจะให้คนตระกูลหวงทุกคนตายไร้ดินกลบหน้า”
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งของตระกูลหนิวเฉิง จาง แต่ละคนโกรธจัดเหลือทน ะโออกมา
“ที่แท้เป็ผู้าุโเติ้งว่านชวนจากตระกูลเติ้งแห่งอำเภอหนานเหย่เสียมารยาทแล้ว ขออภัย ขออภัย!”
หวงหย่วนเฉิงขยับยิ้มบางให้เติ้งว่านชวนคำพูดท่าทางนอบน้อม พูดจบสายตาก็เลื่อนไปหยุดที่ผู้ฝึกยุทธ์ของตระกูลหนิว เฉิง จางน้ำเสียงเปลี่ยนมาดุดัน พูดว่า “เ้าพวกชั่วทั้งสาม กล้ามาเหยียบถึงประตู พูดจาโอหังวันนี้ทิ้งชีวิตสุนัขของพวกเ้าไว้ที่นี่เสียเถอะ”
“สารเลว!”
เติ้งว่านชวนะโเสียงดังขึ้นคำหนึ่งผู้ฝึกยุทธ์ของตระกูลหนิว เฉิง จาง แม้ว่าจะไม่สลักสำคัญอะไรแต่ก็เป็คนที่มากับเขาเติ้งว่านชวน ตีหมาต้องดูเ้าของหวงหย่วนเฉิงเปิดปากก็จะเอาชีวิตพวกเขา ทำให้เติ้งว่านชวนโกรธขึ้นในพริบตานี่ช่างไม่เห็นเขาในสายตา
เติ้งว่านชวนพูดขึ้นเสียงดัง “ในเมื่อรู้ว่าข้าเป็ผู้าุโแห่งตระกูลเติ้งยังไม่คุกเข่ายอมรับผิด ต่อหน้าข้ายังแหกปากโวยวาย นี่เป็ท่าทีอันใด บังอาจนัก!”
หวงหย่วนเฉิงหน้าขรึม พูดขึ้น “ผู้าุโเติ้งข้าให้เกียรติท่านเป็แขก ไว้หน้าท่านแล้วสามส่วน ยอมลงให้แล้วอย่าได้ใจนักเอาความคิดตัวเองเป็ใหญ่กล้ามาวางอำนาจบาตรใหญ่ที่ตระกูลหวง ท่านสิบังอาจนัก!”
บางครั้งถอยให้ก็ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดอันจะทำให้เื่สงบ เผยคมเขี้ยวกรงเล็บพอควรแสดงท่าทีแข็งกร้าวก็ทำให้อีกฝ่ายเก็บไม้เก็บมือได้
แน่นอน ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ว่ามีพลังถึงขั้นไม่อย่างนั้น สิ่งที่ต้องเผชิญตามมาย่อมเป็หายนะ
บรรดาผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเติ้งสีหน้าตกตะลึงไปชั่วครู่เ้าตระกูลของตระกูลชั้นเก้าแห่งหนึ่งกลับพูดกับผู้าุโเติ้งเช่นนี้เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ไม่้าชีวิตแล้วใช่ไหม?
ทุกคนแทบจะคิดว่าตนเองได้ยินผิดไปมองไปที่หวงหย่วนเฉิงด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งของตระกูลหนิวเฉิง จางก็ตกตะลึงไปเหมือนกัน แต่ในใจกลับยินดี ครั้งนี้ตระกูลหวงทำเติ้งว่านชวนโกรธต้องตายจริงแท้ ไม่ต้องสงสัยแล้ว
ทั้งสามคนแสร้งทำเป็เจ็บแค้นแทนโดดออกมาร้องตวาดเสียงดังว่า “เ้าเฒ่า เ้านับเป็สิ่งใด กล้าพูดจาเช่นนี้กับผู้าุโเติ้งผู้าุโเติ้งฐานะอะไร? อย่างเ้าคุณสมบัติคุกเข่าเป็แท่นเหยียบให้เขายังไม่มีกล้าบังอาจต่อหน้าผู้าุโเติ้ง ผิดสาหัสไม่อาจอภัย ตายหมื่นครั้งก็ไม่พอชดใช้ชีวิตของพวกเ้าตระกูลหวงทุกคนเทียบไม่ได้กับขนของผู้าุโเติ้งเส้นหนึ่งพวกเ้าโทษสูงเทียมฟ้า สมควรตาย สมควรตาย!”
เติ้งว่านชวนที่แต่เดิมก็โกรธอยู่แล้วได้ยินคำพูดของผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิว เฉิง จางก็ยิ่งเดือดดาลขึ้นไปอีกชี้ไปที่หวงหย่วนเฉิง พูดขึ้นเสียงเย็น “จับโจรเฒ่าคนนี้มาให้ข้า ให้มันคุกเข่าโขกหัวชดใช้ความผิดให้ข้า!”
“รับคำสั่ง ผู้าุโ!”
เห็นว่าหวงหย่วนเฉิงพลังวัตรเพียงชั้นเบิกนภาขั้นสองผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสี่คนหนึ่งของตระกูลเติ้งก็รีบร้อนพุ่งออกมา
ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเติ้งไม่พูดพร่ำทำเพลงฟาดฝ่ามือหนึ่งเข้ามาหาหวงหย่วนเฉิง
หวงหย่วนเฉิงไม่ขยับแม้สักนิด ทันใดนั้นฝ่ามือข้างหนึ่งก็โจมตีมาจากด้านหลังร่างของเขาประกบเข้ากับฝ่ามือของผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเติ้งที่ฟาดออกมา
พรูด!
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสี่ของตระกูลเติ้งพ่นเืออกมาคำหนึ่งร้องโอดโอย ร่างกายฉับพลันกระเด็นถอยหลังออกไป ตกลงบนพื้นไกลออกไปสิบกว่าเมตราเ็ไม่น้อย
คนที่ลงมือคือหวงฉีซานมือขวาเขาถือศาสตราวิเศษดาบยาวมือซ้ายโจมตีออกมาก็กระแทกผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเติ้งผู้นั้นาเ็หนัก
หืม! บรรดาผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเติ้งล้วนตกตะลึง ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิว เฉิง จางก็สีหน้าตื่นตะลึง
ตระกูลหวงเป็เพียงตระกูลขั้นเก้าจะมียอดฝีมือร้ายกาจขนาดนี้ได้อย่างไร?
เติ้งว่านชวนสายตาเครียดขึ้นผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิว เฉิง จางล้วนแต่บอกว่าตระกูลหวงเป็ตระกูลขั้นเก้าหลังจากเข้ามาในลานกว้างของตระกูลหวง หวงฉีซานกับหวงคุนซานทั้งสองไม่ได้ขยับความสนใจของเขาจึงอยู่ที่ตัวหวงหย่วนเฉิงเ้าตระกูลเห็นหวงหย่วนเฉิงเป็แค่เพียงผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองไม่มีอะไรต้องสนใจนัก
ตอนนี้หวงฉีซานลงมือ เติ้งว่านชวนถึงสังเกตเห็นใพูดขึ้นว่า “นี่มันยอดฝีมือชั้นเบิกนภาขั้นหก?”
ระหว่างที่พูดสายตาก็กวาดไปที่ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิวเฉิง จาง ความโกรธในใจพอจินตนาการได้ ครั้งนี้กลับไปสามคนนี้คงไม่ได้อยู่ดีนัก
ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิว เฉิง จาง น้ำท่วมปากทุกข์ใจพูดไม่ออก ตระกูลหวงเดิมทีก็เป็แค่ตระกูลขั้นเก้าไหมเล่า มีแค่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามสองคนทำไมอยู่ดีๆ ถึงมียอดฝีมือชั้นเบิกนภาขั้นหกคนหนึ่งออกมาได้?
ความโกรธที่เติ้งว่านชวนมีต่อตระกูลหนิว เฉิงจาง ตอนนี้ไม่สะดวกแสดงออกมา จึงมองหวงฉีซานสายตาเย็นทีหนึ่งพูดว่า “กล้าทำร้ายคนตระกูลเติ้งของข้าเอาชีวิตเ้ามาชดใช้!”
พูดพลางกระบี่ยาวก็พลันออกมาจากแขนเสื้อหนึ่งกระบี่แทงมาหาหวงฉีซาน รัศมีกระบี่เจิดจ้าสายหนึ่งขยับมาถึงอย่างรวดเร็ว
กระบี่ยาวมีประกายเคลื่อนไหวเป็ศาสตราวิเศษ
ดาบวิเศษในมือของหวงฉีซานฟันออกมารัศมีดาบเจิดจ้าบาดตาพอกัน หนึ่งดาบปัดกระบี่ในมือของเติ้งว่านชวนออกเสียงเย็นกล่าวขึ้นว่า “กลัวแต่เ้าจะไม่มีความสามารถนั้น!”
“ฮึ!” เติ้งว่านชวนแค่นเสียงหยัน อีกหนึ่งกระบี่โจมตีเข้าหาหวงฉีซาน
ในใจของเขาคิดออกคำสั่งให้ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเติ้งรุมเข้าไปฆ่าล้างตระกูลหวงเสีย แต่อีกฝ่ายกลับมีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหกทำให้เขาเกรงอยู่บ้าง หากอีกฝ่ายหนีไปได้ตระกูลต้องมีศัตรูที่มีหนี้เืชั้นเบิกนภาขั้นหกเพิ่มขึ้นมาคนหนึ่งเื่นี้เป็เื่น่ากลัวเื่หนึ่งทีเดียว
ทว่าเติ้งว่านชวนไม่ออกคำสั่งหวงหย่วนเฉิงออกคำสั่งมาหนึ่งประโยค ชี้นิ้วไปที่ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิว เฉิง จางตวาดว่า “เด็ดชีวิตสุนัขชั่วสามตัวนั้นมา!”
“ทราบแล้ว ท่านพ่อ!”
หวงคุนซานะโรับคำศาสตราวิเศษหอกยาวในมือแทงออกไปรัศมีหอกเจิดจ้าถึงที่สุดสายหนึ่งฉับพลันก็ะเิพุ่งออกไปในพริบตาแทงหอกต่อเนื่องสามครั้ง แต่ละหอกส่องประกายแทงตรงเข้าที่ผู้ฝึกยุทธ์ของตระกูลหนิว เฉิง จาง
“อะไรกัน? ยังมีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหกอีกคน?”เติ้งว่านชวนในใจเย็นวูบ
ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นของตระกูลเติ้งยิ่งคิดไม่ถึง
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหกลงมือ รวดเร็วถึงขั้นไหนกันเล่า?
ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเติ้งลงมือช่วยเหลือไม่ทันแม้สักนิดผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิว เฉิง จางก็หลบไม่ทัน คอของทั้งสามมีรูเืเพิ่มขึ้นมาถูกศาสตราวิเศษหอกยาวดับลมหายใจ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้