ตอนที่หลงอวี้ปรากฏตัวออกมานั้น ทำเอาผู้คนทั่วบริเวณต่างตะลึงงันไป!
เฟิงอวิ๋นลุกขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น
หลงอวี้กลับมาแล้ว เช่นนั้นหลีชงเล่า? ไหนจะพวกเฟิงฉางสิงและเฟิงเทียนเสียงที่ตามไปช่วยอีก หรือหลงอวี้จะไม่ได้มาจากทางนั้น แต่อ้อมมาอีกทางอย่างนั้นหรือ
ไม่มีทางที่พวกนั้นจะสกัดไอ้สวะนี่ไม่ได้!
“ฮ่าๆๆ ประมุขตระกูลเฟิงช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”
หลงอวี้หัวเราะ มองปราดเดียวก็เห็นเฟิงอวิ๋นในชุดขาวและถานเยวี่ยที่นั่งข้างๆ รวมถึงทุกคนที่อยู่ในห้องโถงของคฤหาสน์ตระกูลเฟิง
“ตระกูลถาน!”
ชายชราผมขาวผู้หนึ่งพาคนของตระกูลถานนับสิบมานั่งร่ำสุราที่สวน เห็นคนของตระกูลนี้แล้ว ทำให้หลงอวี้นึกถึงถานเจียนที่เขาฆ่าตายในป่าโสมโบราณ
น่าเสียดายที่คนของตระกูลไม่มีใครรู้ว่าถานเจียนถูกหลงอวี้สังหาร!
คนของตระกูลถานมองหลงอวี้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ปู่ทวดตระกูลถาน พอเห็นหลงอวี้แล้ว จิตสังหารพลันปรากฏขึ้นในดวงตา
เขารู้ว่าเหลนสาวสุดที่รักของเขาถานเยว่นั้น เพิ่งเข้าลัทธิสยบฟ้าได้ไม่ทันไรก็ถูกหลงอวี้รังแก หักขาไปข้างหนึ่ง
เื่นี้ก็ทำให้ปู่ทวดตระกูลถานถึงขั้นคิดจะเอาชีวิตของหลงอวี้!
หลานสาวเป็อย่างไรปู่ของมันย่อมไม่ต่างกัน เพราะปู่ทวดตระกูลถานรักและให้ท้ายถานเยว่ขนาดนี้ นางถึงถูกตามใจจนเคยตัว จึงกลายเป็โรคเ้าหญิงเอาแต่ใจแบบนี้
“ตระกูลฉิน!”
หลงอวี้มองไปอีกทาง เห็นฉินหยงเอ๋อร์ที่ก่อนหน้านี้คิดจะชิงเน่ยตานของราชันแห่งอสรพิษจากเขา นางนั่งอยู่ข้างชายวัยกลางคนผู้หนึ่งสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
ชายวัยกลางคนผู้นั้น คือบิดาของฉินหยงเอ๋อร์และฉินเทียนเชวี่ยที่ถูกหลงอวี้สังหาร
ประมุขตระกูลฉิน ‘ฉินต้วน’!
ในดวงตาของฉินต้วนที่มองหลงอวี้ตอนนี้ พลันมีเพลิงแห่งความโกรธแค้นลุกโชน
ฉินหยงเอ๋อร์ถูกขับไล่ออกจากลัทธิแล้ว ฉินต้วนย่อมรู้แล้วว่าฉินเทียนเชวี่ยถูกหลงอวี้ฆ่าตาย พอเห็นหลงอวี้ก็ย่อมทนไม่ไหวอยู่แล้ว
ความแค้นที่มันฆ่าบุตรชายของตน วันนี้ต้องชำระ!
“ตระกูลหลัว!”
หลงอวี้เห็นแม้กระทั่งตระกูลหลัวที่ไม่เคยข้องเกี่ยวอะไรกับเขามาก่อนด้วย ตระกูลหลัวค่อนข้างจะถ่อมตัวมาโดยตลอด ในบรรดาสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองอวี้กวน ตระกูลหลัวเป็ตระกูลที่ข้องแวะกับตระกูลอื่นน้อยที่สุด
แม้จะเป็เช่นนั้น แต่ตอนที่เฟิงอวิ๋นได้ขึ้นเป็ประมุขตระกูลเฟิง ตระกูลหลัวก็อุตส่าห์มาร่วมงานด้วย
“เฟิงเหยา หลิ่วอวี้!”
สองแม่ลูกคู่นี้ก็อยู่ในห้องโถงเช่นกัน สีหน้าตื่นตะลึงสุดขีด คาดไม่ถึงว่าหลงอวี้จะกลับมาในเวลานี้
แต่กลับไม่เห็นเฟิงฉางเกออยู่ในห้องโถงนี้ด้วย!
“ได้ยินว่าพ่อบุณธรรมถูกเฟิงอวิ๋นทำร้ายจนาเ็ แต่พวกเ้าสองแม่ลูกกลับมานั่งแสดงความยินดีให้กับเฟิงอวิ๋น ช่างระยำต่ำช้าเสียจริง”
หลงอวี้ตาเผยประกายเ็า แต่ยังไม่เอาเื่กับเฟิงเหยาและหลิ่วอวี้ สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือต้องหาตัวเฟิงฉางเกอให้เจอก่อน!
“เฟิงอวิ๋น พ่อบุญธรรมข้าอยู่ที่ใด?”
หลงอวี้มองไปทางเฟิงอวิ๋นแล้วถามด้วยน้ำเสียงดุร้าย
หลังสิ้นเสียง ชายวัยกลางคนข้างๆ เฟิงอวิ๋นก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองมาทางหลงอวี้ด้วยสายตาเย้ยหยัน
“วันนี้เป็วันที่บุตรชายข้า ‘เฟิงอวิ๋น’ ได้ขึ้นเป็ประมุขตระกูลเฟิง ไอ้สวะอย่างเ้ามีสิทธิ์อะไรมาะโโวยวาย เสียมารยาทกับประมุขเยี่ยงนี้!”
ชายวัยกลางคนผู้นี้คือบิดาของเฟิงอวิ๋นและเฟิงลั่ว ‘เฟิงฉางเทียน’!
ภายในห้องโถงนี้มีคนของตระกูลเฟิงนั่งอยู่ทุกคน เช่น เฟิงลั่ว เฟิงหยาง เป็ต้น น่าเสียดายที่เฟิงชิงชิงถูกอวี่เชียนหนิงฆ่าตายในป่าโสมโบราณแล้ว ไม่มีโอกาสได้เห็นเหตุการณ์วันนี้
เฟิงลั่วและเฟิงหยางมองมาทางหลงอวี้ด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความชิงชัง ใครใช้ให้พวกเขาหยามเกียรติหลงอวี้ก่อนเล่า?
“ประมุข?”
หลงอวี้หัวเราะเ็า
“ไอ้สวะอย่างเฟิงอวิ๋นมันมีสิทธิ์เป็ประมุขตระกูลเฟิงด้วยหรือ น่าหัวเราะให้ฟันร่วง!”
หลังพูดจบ ผู้คนที่อยู่รอบๆ ก็เริ่มเปิดฉากด่าทันที
“เฟิงอวิ๋นเป็ถึงยอดฝีมือขั้นเก้า ใช่คนที่ไอ้สวะอย่างเ้าจะด่าทอลบหลู่ได้ตามใจปากที่ไหน?”
“ตระกูลเฟิงได้พี่เฟิงอวิ๋นเป็ประมุขนับเป็โชคดีของตระกูลอย่างหาที่สุดไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เขา หรือจะให้สวะอย่างเ้าเป็?”
“กล้ามาก่อเื่ในเวลาแบบนี้ ไม่รู้จักเจียมตัวเลยจริงๆ!”
หลังจากสิ้นคำด่าประโยคสุดท้าย ก็มีเงาร่างสายหนึ่งลุกขึ้นท้าทายหลงอวี้ทันที
“ข้าเฟิงหลินจะสั่งสอนเ้าให้รู้ซึ้งเองว่า สวะอย่างเ้ามันไม่เจียมตัวเพียงใด!”
ชายหนุ่มคนนั้นมีนามว่า ‘เฟิงหลิน’ เป็อัจฉริยะของตระกูลเฟิงเช่นกัน บัดนี้มีวรยุทธ์ขั้นหกแล้ว ฝีมือไม่ธรรมดา!
พอเห็นเฟิงหลินออกโรง ผู้คนที่อยู่รอบๆ จำนวนไม่น้อยก็เผยรอยยิ้มสนุกสนาน ไอ้สวะนี่บุกเข้ามาโวยวาย ทำให้เฟิงอวิ๋นต้องขายหน้าเช่นนี้ มันต้องโดนสั่งสอนให้หลาบจำ!
ทว่าเพียงครู่เดียวเท่านั้น รอยยิ้มของคนพวกนี้พลันหายวับไป
“คนที่ไม่รู้จักเจียมตัวน่ะ มันน่าจะเป็เ้ามากกว่านะ”
หลงอวี้หัวเราะเ็า จากนั้นก็ชกหมัดข้างหนึ่งโดยไม่แม้แต่จะขยับตัว!
เฟิงหลินที่คิดว่าหลงอวี้ยังเป็แค่ไอ้สวะเหมือนสมัยก่อน พอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็หัวเราะดูแคลน ชกหมัดข้างหนึ่งออกไปหมายจะปะทะกับหลงอวี้ตรงๆ!
เปรี้ยง!
เกิดเสียงะเิดังสนั่น แขนข้างหนึ่งของเฟิงหลินถูกพละกำลังมหาศาลขยี้พร้อมกับที่ตัวเขาที่กระเด็นไปไกลหลายจ้างก่อนจะตกลงพื้นโดยที่ไม่รู้ว่าเป็หรือตาย!
ทั่วบริเวณพลันเงียบกริบ พวกคนที่อยากจะดูหลงอวี้ถูกสั่งสอนนิ่งอึ้งไปตามๆ กัน
มีเพียงพวกที่รู้อยู่แล้วว่าหลงอวี้มีฝีมือไม่ธรรมดาเท่านั้นที่ไม่ประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างเช่น ประมุขตระกูลฉิน ฉินต้วน เฟิงอวิ๋น และหลิงเลี่ย เป็ต้น
ฉินต้วนรู้ว่า หลงอวี้เป็คนฆ่าบุตรชายของตน ฉินเทียนเชวี่ย เฟิงหลินไม่มีทางจัดการมันได้อยู่แล้ว
“ช่างโอหังอะไรอย่างนี้”
เฟิงอวิ๋นมองไปทางหลงอวี้พร้อมพูดเสียงเรียบ
“บังอาจทำร้ายคนในตระกูลเฟิงเช่นนี้ ไม่เกินไปหน่อยหรือ!”
“เ้าหมายความว่า ข้าควรยืนอยู่เฉยๆ ให้เ้าตีตายอย่างนั้นหรือ”
หลงอวี้กระแทกเสียงเ็า
“ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียว”
สีหน้าเฉยชาของเฟิงอวิ๋นเปลี่ยนเป็รอยยิ้มเ็า
“ตระกูลเฟิงจะมีใครเป็ประมุข สวะอย่างเ้าก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาแส่ ก่อนหน้านี้เป็สวะ หลังจากนี้ก็ยังเป็สวะเหมือนเดิมไม่มีวันเปลี่ยน! ในเมื่อเ้าทำร้ายคนของตระกูลเฟิงจนาเ็ หากวันนี้ข้าไม่สั่งสอนเ้าสักครา ข้าก็ไม่ได้รับความนับถือจากคนของตระกูลเฟิงน่ะสิ?”
“พวกนั้นจะนับถือเ้าหรือไม่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า?”
หลงอวี้ตอกหน้ากลับ
“แต่วันนี้ ข้าจะลงมือสั่งสอนเ้าแทนพ่อบุญธรรม ให้เ้าได้รู้ว่าความเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่มันเป็เช่นไร!”
หลังพูดจบ ดวงตาของหลงอวี้พลันปรากฏจิตสังหารขึ้นมาแวบหนึ่ง
เ้าเฟิงอวิ๋นกล้าทำร้ายพ่อบุญธรรมของเขาจนาเ็ วันนี้เขาไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไปง่ายๆ แน่!
วรยุทธ์ขั้นเก้าแล้วทำไม?
หลงอวี้มั่นใจว่าตัวเองจัดการกับเฟิงอวิ๋นได้อย่างแน่นอน!
ต้องโค่นเฟิงอวิ๋นให้ได้ก่อนเพื่อทำให้ผู้คนที่นี่หวาดกลัว วิธีนี้เท่านั้นถึงจะทำให้เฟิงฉางเกอสามารถดำเนินการหลังจากนี้ได้อย่างราบรื่น!
พอเห็นว่าความขัดแย้งระหว่างหลงอวี้และตระกูลเฟิงกำลังจะปะทุ คนของตระกูลฉินและตระกูลถานที่เกลียดชังหลงอวี้ก็พากันอดกลั้นความใจร้อนไว้
รอดูคนของตระกูลเฟิงกัดกันเองก่อน จากนั้นพวกเขาค่อยฉวยโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทีหลัง แบบนี้ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว!
เฟิงอวิ๋นบรรลุวรยุทธ์ขั้นเก้า ได้ขึ้นเป็ประมุขของตระกูลเฟิงแล้ว ทำให้อีกสามตระกูลที่เหลือเกิดความระแวง หากเฟิงอวิ๋นบุกยึดตระกูลอื่นเช่นนั้นเมืองอวี้กวนไม่กลายเป็ของตระกูลเฟิงทั้งหมดหรือ
ที่พวกเขามาในวันนี้ไม่ใช่เพื่อฉลองให้กับเฟิงอวิ๋นเพียงอย่างเดียว!
ในเมื่อมีหลงอวี้มาช่วยโหมโรงให้แบบนี้ พวกเขาก็จะยอมอดใจรอไปก่อน
“ศิษย์พี่เฟิงอวิ๋น ไอ้กระจอกอย่างมันไม่จำเป็ต้องถึงมือท่านหรอก”
ในตอนนั้นเอง หลิงเลี่ยที่อยู่ข้างๆ เฟิงอวิ๋นก็ลุกขึ้น มองหลงอวี้ด้วยสายตาดูแคลน
“ให้ข้าหลิงเลี่ยผู้นี้ออกโรงจัดการแทนเถอะ”
“ก็ดี”
เฟิงอวิ๋นพยักหน้า
หลิงเลี่ยมีวรยุทธ์ขั้นเก้าแล้วเช่นกัน แม้จะแข็งแกร่งไม่เท่าเฟิงอวิ๋น แต่แค่จัดการหลงอวี้คนเดียวก็เกินพอ
ในตอนที่หลิงเลี่ยก้าวเท้าออกมา หลงอวี้ก็หรี่ตามอง
“เ้าชื่อหลิงเลี่ยเหรอ เป็อะไรกับหลิงหาน?”
หลงอวี้ถาม
“หลิงหานเป็น้องชายแท้ๆ ของข้า”
หลิงเลี่ยตอบกลับไปก่อนจะพูดจาดูถูก
“ความตายรออยู่ตรงหน้าแล้ว จะมาถามเื่ที่ไม่เกี่ยวกับเ้าไปเพื่ออะไร”
“ในเมื่อเ้าเป็พี่ชายของหลิงหาน เช่นนั้นวันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเ้า”
หลงอวี้พูด
ทุกคนรวมถึงเฟิงอวิ๋นพอได้ยินคำพูดนี้ก็ตะลึงไป จากนั้นก็หัวเราะลั่น
“หลิงเลี่ยเป็ยอดฝีมือวรยุทธ์ขั้นเก้าเชียวนะ อย่างเ้ามีสิทธิ์พูดว่าจะไว้ชีวิตเขาด้วยหรือ เ้าไม่รู้สึกว่ามันน่าขันบ้างเลยหรือ”
เฟิงเหยาพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจากอีกฝั่ง
พอนางส่งเสียงพูดอ หลงอวี้ก็พลันหันไปมองนางก่อนจะหัวเราะ
“น่าขัน น่าขัน! เฟิงเหยา เ้าน่ะเป็บุตรสาวแท้ๆ ของพ่อบุญธรรม ตอนนี้เฟิงอวิ๋นชิงตำแหน่งประมุขไปจากบิดาของเ้าแท้ๆ แต่เ้ากลับมานั่งแสดงความยินดีให้เฟิงอวิ๋น เ้าไม่รู้สึกเลยหรือว่าการกระทำของตัวเองมันไร้ยางอายแค่ไหน”
“ท่านพี่เฟิงอวิ๋นแข็งแกร่ง ทั้งข้าและบิดาล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
เฟิงเหยาตอบกลับเสียงเรียบ
“หรือว่าเขาไม่ควรขึ้นเป็ประมุขตระกูลเฟิง”
“พูดได้ดี พอแข็งแกร่งแล้วก็เป็ประมุขตระกูลเฟิงได้อย่างนั้นสินะ!”
หลงอวี้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงดูแคลน
“ตอนนี้บิดาเ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ เ้ากลับพูดปกป้องเฟิงอวิ๋น หรือนี่จะหมายความว่า นับจากนี้ไป เ้าเฟิงเหยาจะตัดขาดกับบิดาของเ้าแล้วไปรับใช้เ้าเฟิงอวิ๋น?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยก็มองเฟิงเหยาด้วยสายตาแปลกๆ ทันที
เฟิงเหยาสีหน้าแข็งเกร็งไปเล็กน้อย แต่มารดาของนางหลิ่วอวี้ที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้พูดเสียงแหลมสูงออกมา
“ไอ้สวะอย่างเ้าอย่ามาบิดเบือนความจริงนะ เฟิงอวิ๋นได้ขึ้นเป็ประมุขตระกูล พวกเราในฐานะที่เป็คนของตระกูลเฟิง มาร่วมแสดงความยินดีมีอะไรเสียหายกัน? เป็ไอ้สวะไร้การศึกษาอย่างเ้าต่างหากที่ชอบก่อเื่ตามอำเภอใจ!”
“ไม่ต้องเสียน้ำลายกับมันแล้ว รอข้าจัดการมันก่อนค่อยว่ากัน”
ในดวงตาของหลิงเลี่ยเต็มเปี่ยมไปด้วยความหงุดหงิด ตัวเขาเป็ถึงลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับที่สามสิบสาม ฝีมือแข็งแกร่งสุดขีด แต่เ้าหลงอวี้กลับพูดว่าจะไว้ชีวิตเขา ประโยคนี้ทำให้เขาหงุดหงิดมากจริงๆ
“ข้าล่ะอยากเห็นจริงๆ ว่าสวะอย่างเ้ามีสิทธิ์อะไรจะมาไว้ชีวิตข้า!”
ในคำพูดของหลิงเลี่ยแฝงความดูแคลน เขาก้าวเท้ามาเผชิญหน้ากับหลงอวี้
เมื่อทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน ผู้คนรอบข้างก็พากันเปิดทางให้ทันที เพื่อจะได้ไม่โดนลูกหลง
‘หลิงเลี่ยที่มาจากูเาตระกูลหลิงเหมือนกัน วิทยายุทธ์ระดับพิเศษที่เลือกฝึกก็น่าจะเป็ปราณขาวไพศาล’
หลงอวี้คิดในใจ จ้องเขม็งไปทางหลิงเลี่ย เริ่มโคจรลมปราณทั่วร่าง
“เท้าท่องเมฆา!”
สองเท้าของหลิงเลี่ยถีบพื้นอย่างหนักหน่วง ตัวเขาพลันพุ่งสู่ท้องฟ้า บินสูงจากพื้นนับสิบจ้าง!
วิชาเท้าท่องเมฆา เป็วิทยายุทธ์สายท่าร่างขั้นสูงของลัทธิสยบฟ้า กล่าวกันว่าหากฝึกถึงขั้นสมบูรณ์แล้วจะสามารถขึ้นไปบนเมฆได้ สามารถใช้คู่กับวิทยายุทธ์ต่างๆ มากมาย
“วายุปราณทะลวง!”
หลิงเลี่ยที่อยู่บนฟ้าสูงขยับสองมือไปมา จากนั้นรวบรวมลมปราณสีเขียวไว้บนมือ ก่อนจะฟาดมาทางหลงอวี้!
หลิงเลี่ยที่พุ่งลงมาจากฟ้าทำให้กระบวนท่านี้มีอานุภาพน่าสะพรึงสุดขีด ที่สำคัญคือเขายังสามารถปล่อยจินตภาพสยบฟ้าสะกดหลงอวี้ตอนไหนก็ได้ด้วย และจะทำให้เขาเอาชนะหลงอวี้ได้ในกระบวนท่าเดียว แสดงให้ผู้คนทั้งหมดเห็นถึงความสามารถอันร้ายกาจของตัวเอง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้