เพียงแค่เื่เล็กน้อย เขาก็สามารถนึกถึงนางได้
“อืม พักผ่อนเหมือนจะไม่เลว ่นี้นางกำลังทำอะไรหรือ?” โจวอ้าวเสวียนสนใจขึ้นมา
“เื่นี้หรือ ข้าต้องถามพวกอาฝูจึงจะรู้ คิดไปแล้วคงทำงานอยู่ในเรือน ่นี้ครอบครัวลุงของนางกำลังทำอาหารตุ๋นดูเหมือนกิจการจะเจริญมาก คุณชาย ความจริงแล้วโรงเตี๊ยมของพวกเราสามารถเอาอาหารตุ๋นของพวกเขาเข้ามาได้นะขอรับข้าเคยชิมอาหารของพวกเขาแล้ว รสชาติไม่เลวเลย กิจการโรงเตี๊ยมของพวกเราที่นี่มีคนชอบดื่มสุราไม่น้อยบางทีอาจจะนำเข้ามาสักหน่อย?” อู่เอ๋อร์ตามคุณชายออกไปทำงาน เื่การค้าใน่หลายปีนี้เขาล้วนเรียนรู้มาจากการคอยสังเกตอีกทั้งยังช่วยออกความคิดเห็น
ที่เสนอความคิดขึ้นมาในตอนนี้ เพียงเพราะเขาคิดว่าจะทำอาหารในโรงเตี๊ยมให้มีมากกว่านี้สักหน่อยอย่างไรคนที่ดื่มสุราต่างชอบให้นำอาหารกับแกล้มมาขึ้นโต๊ะ
“อืม คำแนะนำนี้ไม่เลว อู่เอ๋อร์ ตอนนี้เ้าเรียนรู้การใช้สมองแล้วเื่นี้เ้าให้ลูกน้องไปทำเสีย แต่อย่าให้เฉินจื่อิรู้ว่าเป็โรงเตี๊ยมของพวกเราโรงเตี๊ยมนี้ แม้จะเป็คนในจวน ข้าก็ไม่อยากให้พวกเขารู้”
ครอบครัวของเขาอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าต้องมีกิจการอยู่ที่นี่และโรงเตี๊ยมห่ายเทียนที่เป็โรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดคือโรงเตี๊ยมที่เขาแอบบริหารดูแลอยู่ที่นี่ไม่เพียงแค่โรงเตี๊ยม ยังมีบ่อนพนัน สถานบันเทิงอีกเช่นกัน
ขอแค่เป็คนรวยมีเงิน เพียงพูดถึงโรงเตี๊ยมห่ายเทียน มีผู้ใดบ้างไม่รู้ ผู้ใดบ้างที่ไม่เข้าใจ
โรงเตี๊ยมห่ายเทียน สามารถทำให้เ้าได้เจอ์ในหนึ่งคืน และยังสามารถทำให้เ้าเจอกับนรกในชั่วพริบตาไม่เพียงแค่คนในพื้นที่จะชอบมาที่แห่งนี้ แม้แต่คุณชายมีเงินจากที่ใกล้ๆพ่อค้าที่เดินทางมาจากหลายถิ่นล้วนยอมมา เพียงเพราะว่าภายนอกมองเห็นเป็โรงเตี๊ยมธรรมดาทว่าข้างในนั้นลึกล้ำกว่ากันมาก
ในที่แห่งนี้มีทั้งอาหาร ความบันเทิง การพนัน ไม่ด้อยไปกว่าสถานพนันในเมืองหลวงเลยวิธีเล่น...ทุกสิ่งต่างดึงดูดกิจการอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ นี้มา
ไม่ใช่คำกล่าวเกินความเป็จริงเลยสักนิดว่าเป็เพราะโรงเตี๊ยมห่ายเทียนผู้คนที่เดินทางไปมาที่ท่าเรือจึงยิ่งคึกคัก...
“ขอรับคุณชาย กิจการโรงเตี๊ยมห่ายเทียนให้ลุงฟางบริหารมาตลอดตอนนี้ชื่อเสียงของลุงฟางคนธรรมดาเทียบไม่ได้แล้วนะขอรับ”อู่เอ๋อร์เมื่อคิดถึงเื่นี้จึงรีบรายงาน
“จริงสิ ลุงฝูที่อยู่บนูเาลงมาเพื่อรายงานขอรับ”
“ให้เขาเข้ามา” อู่เอ๋อร์ยังไม่ทันพูดอะไร โจวอ้าวเสวียนก็รับคำ
เื่นี้ทำให้อู่เอ๋อร์ยิ้มตาหยี ดูเหมือนว่า คนที่อยู่บนเขานั้นยังคงส่งผลกระทบต่อคุณชายอยู่มากเลยนะเฮ้อ แม้จะเป็บุรุษที่ดีเพียงใดก็หนีไม่พ้นความรัก
***
“ไม่อยู่?ไปเยี่ยมญาติ?” ได้ยินข่าวนี้คิ้วของโจวอ้าวเสวียนขมวดเข้าหากัน
“ขอรับ ่นี้ภรรยาของข้าเข้าไปสอบถามมา เด็กทั้งสองคนอยู่ที่เรือน และยังมีบุรุษคนนั้นคอยดูแลที่นากับป่าบนูเาที่ซื้อมา”เหล่าฝูไม่กล้าเงยหน้ารายงาน แม้เ้านายจะใจดี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขามักรู้สึกไม่เป็ตัวเอง
“ออกไปเถิด”
หลังจากเหล่าฝูออกไปแล้ว เสี่ยวอู่จึงค่อยๆ เข้ามาใกล้ “คุณชายเื่ที่พักร้อนของคุณชาย?”
โจวอ้าวเสวียนค่อยๆ หันไปมองเขา “่นี้งานข้าคงมากเกินไปแต่ดูเหมือนเสี่ยวอู่จะว่างมากเกินไปนะ ข้าคาดว่า ่นี้เ้าสมควรไปดูทุ่งเลี้ยงสัตว์ทางตะวันออกเฉียงใต้ได้แล้วกระมัง”
เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าของเสี่ยวอู่เปลี่ยนเป็ขาวซีดทันทีเขาส่ายหน้า “คุณชาย ไม่ต้องหรอกขอรับ งานของเสี่ยวอู่มากพอแล้วทางตะวันออกเฉียงใต้ คุณชายจะต้องส่งคนอื่นไปแทนเสียแล้วขอรับ” ์การประจบของเขาในครั้งนี้ทำได้ไม่ดีทั้งยังจะเอาตัวเองไปไว้ที่ตะวันออกเฉียงใต้ด้วย แม้ที่นั่นทิวทัศน์จะไม่เลว แต่คนพื้นเมืองที่นั่นน่ากลัวเกินไปคนที่ไม่ใช่คนท้องถิ่น อาจไปทำให้กลุ่มคนที่นิสัยรุนแรงไม่พอใจได้ คนพวกนี้แม้จะเป็เ้านายก็สามารถฟันดาบใส่ได้โดยไม่พูดอะไร สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการมาทำงานกับคุณชายห้า คือการถูกส่งไปดูแลทางตะวันออกเฉียงใต้
“ไปเถิด กลับมาข้าจะตบรางวัลให้เ้าอย่างงาม”โจวอ้าวเสวียนยิ้มอย่างมีเลศนัยแต่เสี่ยวอู่กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนี้มีความมาดร้ายอยู่
“ขอรับ ข้าไปแล้ว ส่วนรางวัลนี่ คุณชายเก็บไว้เถิดขอรับ”ล้อกันเล่นหรือไร ่นี้ดูเหมือนว่าหากคุณชายไม่ทำสิ่งใดก็มักพูดว่าจะยกสตรีเป็รางวัลให้แก่เขาเขาจะหาสตรีหน้าตางดงามที่ตนเองชอบเท่านั้น จะยอมปล่อยให้คุณชายมอบเป็รางวัลได้อย่างไร
หลังจากอู่เอ๋อร์ออกไปแล้ว โจวอ้าวเสวียนมองออกไปนอกหน้าต่าง คนคนนั้นไปที่ใดกัน?
จากที่เขารู้ นางไม่มีญาติที่ใดแล้ว
เมื่อคิดถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มดีใจ ริมฝีปากของเขาก็ยกขึ้นพร้อมทั้งลูบถุงเงินในมือเบาๆ ถุงเงินนี้เขาหยิบออกมาตอนที่เฉินเนี้ยนหรานนอนหลับอยู่ในโรงเตี๊ยมคราวก่อนนั้นตอนนั้นเขาไม่คิดอะไรมาก แค่เห็นก็หยิบไปเลย
ว่ากันตามตรง ฝีมือการเย็บของเฉินเนี้ยนหรานไม่ค่อยดีเท่าใดแต่หลังจากเขามีถุงเงินใบนี้ กลับไม่เคยเปลี่ยนอีกเลย
“แม่นาง...” พูดออกมาก่อนจะถอนหายใจยาว ั์ตาของเขากลับมานิ่งสงบราวกับว่าเมื่อครู่ไม่เคยปรากฏอารมณ์มาก่อน
***
“เย้ สำเร็จแล้ว” เมื่อเห็นว่าโก่วจื่อถูกมัดอยู่ในตาข่ายเชือก น้องหกจึงลากอาเซิงวิ่งหนีไป
ระยะนี้ ในห้องเรียนโก่วจื่อมักจะพูดจาเหน็บแนมน้องหก นาง้าสั่งสอนเ้าเด็กนี่มานานมากแล้ววันนี้ถือว่านางได้ทำตามความปรารถนาเสียที
“ผู้ใด ผู้ใดกัน อ๊ากก ผู้ใดกัน ์ นี่มันอะไร ยังมีอึหมาอีก อ๊ากกกถุยๆ...” โก่วจื่อมองเม็ดสีดำที่ร่วงลงมาเพราะตนดิ้นรนขัดขืนเขาโกรธจนปอดแทบจะะเิ กับดักนี้ช่างไร้มนุษยธรรมนักเอาตาข่ายมาห่อเขาขึ้นไปไม่พอ บนต้นไม้ยังใส่อึหมาเอาไว้ไม่น้อย ขอแค่เขาดิ้นอึหมาเม็ดกลมๆ ที่อยู่บนตาข่ายจะหล่นลงมา...ขยะแขยง กลิ่นเหม็นนั้นขยะแขยงเสียจนน้ำย่อยในท้องของเขาขย้อนออกมา
“อาเซิง น้องหกเป็พวกเ้าใช่หรือไม่...อ๊ากก ทุเรศเอ๊ย....”
ขณะที่เขาอ้าปากด่า น้องหกก็จูงมืออาเซิงวิ่งไปไกลแล้ว
น้องหกกลิ้งอยู่บนพื้นหญ้าพร้อมหัวเราะลั่น
“ยอดมากเลย ยอดมาก เย้ อาเซิง เหตุใดเ้าถึงได้ฉลาดเช่นนี้ทำตาข่ายมาจับเขาได้ ทั้งบนต้นไม้ก็ยังใส่อึหมาเอาไว้อีก ฮ่าๆ โก่วจื่อเขากับหมานี่มีดวงสมพงศ์กับจริงๆ”
เด็กหญิงหัวเราะได้ใจ อาเซิงทำแค่กอดอกยืนเท่อยู่ด้านข้างเพียงแต่ริมฝีปากของเขายกขึ้น ทั้งยังแฝงไปด้วยความภาคภูมิใจ
“เฮ้ อาเซิง เ้าว่าเขาจะแก้แค้นพวกเราหรือไม่?” เมื่อหัวเราะจนพอใจแล้วน้องหกจึงคิดถึงปัญหานี้
“ไม่กลัว เขาไม่มีหลักฐาน อาจารย์หลินพิจารณามากที่สุดคือต้องมีหลักฐานเขากล้าทำอะไรพวกเรา อาจารย์หลินไม่มีทางนั่งมองอยู่เฉยๆ โดยไม่ช่วยแน่”อาเซิงวิเคราะห์อย่างใจเย็น
น้องหกอ้าปากหัวเราะลั่น “ฮี่ๆ อาเซิง เ้านี่เก่งกาจจริงๆ นะ ใช่แล้ววันนี้ตอนทานข้าวอาจารย์หลินมาหาข้า เขาถามถึงพี่สาวข้าด้วย จริงสิ่นี้เขาถามข้าห้าครั้งแล้วนะ เ้าว่า เหตุใดเขาถึงใส่ใจเื่ของพี่สาวข้าถึงเพียงนั้น?”
พูดถึงอาจารย์หลิน คิ้วของน้องหกก็ขมวดเข้าหากันแน่น แม้อาจารย์หลินจะเคยช่วยชีวิตนางเอาไว้ แต่เมื่อเทียบกับพี่สาวแล้ว แน่นอนว่าพี่สาวสำคัญกว่า ระหว่างที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าอาจารย์หลินคิดอย่างไรกับพี่สาวเด็กน้อยจะต้องปกป้องพี่สี่ของตนเอาไว้ก่อน
“อืม จริงด้วย เหตุใดอาจารย์จะต้องถามเื่ของนายหญิงกัน? มีเื่ของนางที่พวกเราไม่รู้แน่ชัด รู้แค่ว่านางไปเยี่ยมญาติต่อไปอาจารย์หลินถามเช่นนี้อีก พวกเราก็พูดตามความจริง อย่างไรพวกเราล้วนไม่รู้แน่ชัดจริงๆแต่แม่ตัวแสบ เ้าว่านายหญิงไปที่ใดกันแน่? ท่านแม่ของข้าเช่นกันได้ยินท่านพ่อพูดว่านางจะคลอดแล้ว ไม่รู้ครั้งนี้ท่านแม่จะคลอดน้องชายหรือน้องสาว!”
“วางใจเถิด ท่านแม่ของเ้าอยู่กับพี่สาวของข้า พวกนางไม่มีทางเป็อะไรแต่ท่านแม่ของเ้าไปคลอดลูก แล้วท่านพี่ของข้าไปทำสิ่งใด? เฮ้อ คิดถึงวันเวลาที่ท่านพี่สี่อยู่บ้านจัง” เมื่อพูดถึงเฉินเนี้ยนหรานสายตาของน้องหกก็หม่นลง แม้พี่ห้าจะดี แต่นางชอบวันที่มีพี่สี่อยู่ด้วย
ขอแค่มีพี่สี่อยู่ วันเวลาล้วนไม่เหมือนกัน
“ช่างเถิด ไม่คิดแล้ว กลับเรือนเถิด เดี๋ยวพี่ห้าจะรอจนร้อนใจ”อาเซิงคว้ามือน้องหก เมื่อเห็นบนตัวของนางมีใบหญ้าติดอยู่จึงยกมือขึ้นไปปัดหญ้าให้“ลิงทโมน”
แม้จะถูกเขาตำหนิ แต่น้องหกกลับหัวเราะแหะๆมีอาเซิงเป็ห่วงแล้วรู้สึกสบายใจมาก น้องหกมองอาเซิง“อาเซิงเ้าจะดีกับข้าเช่นนี้ตลอดไปหรือไม่? แม้หลังจากเ้ามีน้องชายหรือน้องสาวจะดีกับข้าเหมือนกับในตอนนี้หรือไม่?”
อาเซิงถูกคำถามยิงใส่จนนิ่งไป ขมวดคิ้วมองค้อนใส่นาง “ไปสิ แม่ทโมน”
น้องหกเมื่อไม่ได้รับคำตอบที่ตนเอง้าก็ยู่ปากถลึงตามองเขาด้วยความไม่พอใจ “อาเซิงหน้าเหม็น เ้าจะต้องพูดความจริงข้าให้เ้าพูดใจจริงของเ้าออกมา ว่าจะเมินข้าหรือไม่!”
เมื่อถูกนางมองอย่างดื้อรั้นเช่นนี้ อาเซิงยอมถอย ยกมือขึ้นไปจับใบหน้าเรียวเล็กของนางขึ้น“เ้ามันคนบื้อ ไม่ว่าอย่างไร เ้าก็คือแม่ทโมนที่ข้ายอมรับแน่นอนว่าข้าจะต้องดีกับเ้าอยู่แล้ว น้องสาวน้องชายเกิดออกมาแล้ว ข้าล้วนต้องปกป้องพวกเขา”
น้องหกขมวดคิ้ว “อาเซิงหน้าเหม็น ข้ายังรู้สึกไม่พอใจข้าอยากให้เ้าดีกับข้าที่สุด แต่เ้าแค่ดูแลข้าเหมือนกับน้องสาวเ้า ไม่ได้ๆข้าจะต้องทำเช่นไรเ้าจึงจะดีกับข้ามากกว่าล่ะ เอ๋ มีสิข้าเห็นครอบครัวของข้าเมื่อมีภรรยามักจะลืมมารดา ฮี่ๆ อาเซิงหน้าเหม็นข้ายอมให้เ้าได้เปรียบเชียวนะ ต่อไปข้าจะออกเรือนกับเ้า เป็ฮูหยินของเ้าไปเช่นนี้แม้เ้าจะมีน้องสาวแต่เพราะว่ามีข้าเป็ภรรยา เ้าจึงจะไม่ดีกับน้องสาวมากไปกว่าข้าฮ่าๆ ดูสิ ข้าฉลาดเพียงใด อาเซิง ั้แ่วันนี้ไป เ้าคือคนของข้า”
อาเซิงส่ายหน้า คิดว่านางแค่พูดเล่นเท่านั้น
***
“อ๊า อ๊า...” แม้จะเคยคลอดลูกมาแล้วสองคน แต่ตอนที่กำลังจะคลอด หนิวซื่อยังนอนร้องครวญครางด้วยความเ็ปบนเตียง
หมอตำแยยืนสงบนิ่งอยู่ด้านข้าง “หนึ่ง สอง สาม เบ่ง ดี เห็นหัวเด็กแล้วเบ่งแรงอีก...”
ด้านนอกห้อง หวงเต๋ออันเดินไปเดินมาไม่หยุดทำเอาเฉินเนี้ยนหรานมองเขาอย่างรำคาญ “หวงเต๋ออัน เ้ารีบไปดูน้ำร้อนเถิด” ์หากเขาเดินต่อไปอีก นางจะต้องตาลายเป็แน่
