บทที่ 51 การปะทะกันของกระบี่
"ควั่บ ควั่บ!"
ทันใดนั้น ในตอนที่มีดใบไม้แข็งเพลิงมรกตของฉู่เฟยกำลังจะเข้ามา
จู่ๆ ม่านกระบี่แสงดาวอันสุกใสก็ปรากฏขึ้นรอบๆ ฉู่อวิ๋น ปราณกระบี่สามสิบหกมรรคาหมุนวนอย่างรวดเร็ว ปิดกั้นแสงมีดเปลวไฟสีเขียวที่ร้ายแรงโดยไม่แม้แต่จะรั่วไหลออกมา
"ตึง!"
มีดใบไม้แข็งที่เดิมทีดุร้ายและว่องไวนั้น ถูกกระตุ้นด้วยปราณเพิ่มเข้าไปในทันที คลื่นอากาศอันทรงพลังก็กระจายออก กวาดล้างไปทุกทิศทุกทาง
“นี่มันกระบวนท่าอะไรกัน?!” ฉู่เฟยถูกคลื่นกระบี่พัดปลิวจนต้องก้าวถอยหลังด้วยความประหลาดใจ
“กระบวนท่าที่เอาชนะเ้าได้” ฉู่อวิ๋นกล่าวอย่างเคร่งขรึม
"ผายลม!"
ทันใดนั้น ดวงตาคู่งามของฉู่เฟยก็หรี่ลงเล็กน้อย นางใช้ทักษะร่างกายที่เหมือนกับนกนางแอ่นที่ยืดหยุ่นเพื่อโจมตีสายลม ประเฉือนมีดใบแข็งเข้าหากันด้วย้าโจมตีฉู่อวิ๋นต่อ
แต่ฉู่อวิ๋นที่จับตำแหน่งของฉู่เฟยได้แล้ว เขาหันกลับมาพร้อมกระบี่ชื่อยวน เหวี่ยงมันออกไปราวกับสายฟ้าด้วยแสงกระบี่อันพร่างพราว
“ชิ้ง!”
กระบี่และมีดใบไม้แข็งปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังจนหนวกหู
ฉู่อวิ๋นตั้งรับการโจมตีนี้ไว้จนเกือบจะกดกระบี่ของเขาลงได้ เขารีบลุกขึ้นยืน ทำให้เวทีประลองใต้ฝ่าเท้าของเขาะเิเสียงดังปัง เกิดรอยร้าวจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้น!
“สารเลว เ้ารับมีดของข้าได้อย่างไร?” ดวงตางามของฉู่เฟยแปรเปลี่ยนเป็เ็า รอยยิ้มอันน่ากลัวปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง มีดเล่มเย็นเฉียบกดลงด้วยกำลังทั้งหมด ราวกับว่ามันกำลังจะหักกระบี่ชื่อยวนที่อยู่ในมือของฉู่อวิ๋น ทำให้เขาต้องออกแรงต้านอย่างสุดกำลัง
ความแข็งแกร่งของฉู่เฟยนั้นค่อนข้างโดดเด่นในหมู่นักรบระดับเจ็ดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ ความแข็งแกร่งอันบริสุทธิ์ของนางมีน้ำหนักเกินกว่าสีพันจินมานานแล้ว
แต่ฉู่อวิ๋นนั้นไม่รู้ดีร้าย ถึงได้กล้ารับมีดของนางเอาไว้ เช่นนั้นนางก็จะบดขยี้เขาเสีย
“เ้าคนต่ำตมระดับห้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณกล้ายืนถือกระบี่ต่อหน้าข้าหรือ? ช่างไม่รู้จักถนอมชีวิตเสียจริง” ฉู่เฟยยิ้มเยาะอีกครั้ง แขนหยกอันเรียวยาวของนางดูเหมือนจะมีพลังที่ไม่มีสิ้นสุดทะลักออกมา กดมีดใบไม้แข็งลงหนักขึ้น สร้างแรงกดดันอย่างล้นหลามต่อกระบี่ชื่อยวน
“หึ ใช่หรือ? ในความคิดของข้า เ้าไม่สมควรพูดถึงคำว่า 'กระบี่' ด้วยซ้ำ!”
ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นซึ่งแต่เดิมดูเหมือนจะเสียเปรียบ จ้องมองกลับด้วยความโกรธและกัดฟันจนแทบแตก ปรากฏิญญายุทธ์ที่ไร้จุดสิ้นสุดบนร่างกายของเขา พลังปราณฮุ่นหยวนไหลบ่าอย่างบ้าคลั่ง
กล้ามเนื้อทุกส่วนแข็งตึง กระดูกทุกข้อกระชับขึ้นทันที และแม้แต่เส้นเืบนิัก็มองเห็นได้ชัดเจน!
"ย๊า--"
พลังปราณค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และฉู่อวิ๋นเองก็ดูเหมือนเทพซิวหลัว[1]ที่เพิ่งกลับมาจากนรก ด้วยใบหน้าที่โกรธแค้นพร้อมด้วยเจตนาเข่นฆ่าเต็มเปี่ยม!
"ย๊า!"
ด้วยเสียงะโอย่างโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง กระบี่ชื่อยวนที่ถูกปรามไว้จากแรงกดดันก็ค่อยๆ มีแรงดันขึ้น ราวกับัโกรธที่เริ่มตื่น
ในเวลานี้ ฉู่เฟยสะดุ้งอีกครั้งและคิดกับตัวเองว่า "ไม่มีใครสามารถต้านกำลังโจมตีทั้งหมดของข้าได้ เ้าขยะตัวนี้สามารถหยุดมันไว้ได้นานขนาดนี้ได้อย่างไร? แถมยัง... คิดจะโต้ตอบด้วย? ไม่ เป็ไปไม่ได้!”
ในความเป็จริง ความแข็งแกร่งของฉู่เฟยสูงถึงห้าพันจิน ซึ่งยังเหลืออีกหนึ่งพันจินก็จะถึงนักรบระดับแปดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ
เมื่อประกอบกับความสามารถทางิญญายุทธ์ของนาง การเคลื่อนไหวที่แ่เบา การหลบหลีกที่ยอดเยี่ยม และเปลวไฟมรกตที่รุนแรง เป็การยากที่จะหาคู่ต่อสู้ในหมู่คนรุ่นใหม่ได้ และนางเองก็ไม่เคยล้มเหลวมาก่อนในหลายปีมานี้
แต่ยามนี้ ฉู่เฟยที่เห็นฉู่อวิ๋นนักรบระดับห้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ สามารถต้านทานการโจมตีเต็มกำลังของนางได้ นางจึงอดใไม่ได้
“น่าชังนัก! เ้าขยะอย่าได้ใจไปหน่อยเลย เ้า...เ้าเป็คนแรกที่ทำให้ข้าต้องใช้ลายสลักกลรบของใบไม้แข็ง! เ้าทำให้ข้าหงุดหงิดได้สำเร็จแล้ว!”
ฉู่เฟยจ้องเขม็งและควบคุมพลังปราณให้ไหลเข้าสู่มีดยาวใบไม้แข็ง เพิ่มพลังการโจมตีขึ้นหนึ่งพันจินในทันที กลายเป็หกพันจิน!
“วิ้ง!”
กระบี่ชื่อยวนค่อยๆ จมลงอีกครั้ง ทำให้ฉู่อวิ๋นเริ่มเหงื่อไหลมากขึ้น
“ฮ่าๆ เ้าใช้พลังของอาวุธได้ แล้วเหตุใดข้าจะใช้ไม่ได้กัน!”
ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นก็เปิดใช้ลายสลักกลรบยี่สิบกลบนกระบี่ชื่อยวน ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นสองพันจินในทันที!
ในเวลานี้ กระบี่ชื่อยวนก็เหมือนกับัที่โจมตีท้องฟ้า เร็วราวสายฟ้า โจมตีมีดใบไม้แข็งของฉู่เฟยโดยตรง ทำให้นางใถอยหลังไปหลายก้าว
"วึ้ง!"
ชั่วครู่หนึ่ง ใบหน้าของฉู่เฟยเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เหล่าผู้ชมทั้งหมดก็อ้าปากค้างด้วยความใ ดวงตาของพวกเขาก็มืดมน ราวกับว่าศีรษะถูกกระแทกอย่างรุนแรง
“ไม่...ไม่มีทาง! ฉู่อวิ๋นนั่นถูกปรามเสียขนาดนั้นแล้ว ยังสามารถพลิกกลับมาโจมตีฉู่เฟยได้อีกหรือ?”
“พลังของฉู่เฟยแข็งแกร่งเสียขนาดนั้น! เ้าเด็กคนนี้น่าทึ่งเกินไปแล้ว!”
ทุกคนไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อยู่นาน หายใจติดขัด แต่ก็ไม่กล้าละสายตาด้วยกลัวจะพลาดฉากการต่อสู้บนเวทีประลอง
“เ้า...ฉู่อวิ๋นคนนี้ อุกอาจเกินไปแล้ว! นักรบระดับห้าแห่งขอบเขตควบแน่นพลังปราณที่ไม่มีพร์ทางิญญายุทธ์ สามารถเอาชนะฉู่เฟยได้จริงหรือ?” มู่หรงเจี๋ยลุกขึ้นจากที่นั่งของเ้าเมือง ใบหน้าเต็มไปด้วยความใ
“ท่านพ่อ ลูก...ลูกบอกท่านไปแล้ว ท่านไม่เชื่อเอง” มู่หรงซินตกตะลึง
ในความเป็จริง นางไม่คิดว่าฉู่อวิ๋นจะต้านทานกระบวนท่านี้ได้ ควรรู้ว่า ตอนที่พวกเขาอยู่ในสุสานของบรรพบุรุษ ฉู่อวิ๋นกับฉู่ป้าต่อสู้กัน และฉู่อวิ๋นเองที่เกือบจะถูกฆ่า
ในเวลาเพียงครึ่งวัน ความแข็งแกร่งของเขาก็พัฒนาขึ้นอีกครั้ง ช่างน่ากลัวมากๆ
แน่นอนว่าการที่ฉู่อวิ๋นสามารถสลัดฉู่เฟยออกไปได้ จะขาดกระบี่ชื่อยวนในมือเล่มนี้ไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้น ด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายในตอนนี้ของเขา ยังคงมีช่องว่างระหว่างเขากับฉู่เฟยอยู่ แม้ว่าจะฝืนต้านทานได้ แต่ก็ไม่อาจทำให้ถอยไปได้
ในค่ายตระกูลฉู่ ผู้าุโทุกคนต่างโกรธเคือง ฝ่ามือของพวกเขาสั่นด้วยความตื่นเต้น พวกเขารู้สึกว่าตระกูลหลักดูเหมือนจะพลาดนักรบิญญาที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าฉู่เฟยไปแล้ว!
แต่ทว่าดวงตาของผู้าุโหกกะพริบถี่ แววตาเ็าของเขาจ้องมองที่กระบี่ชื่อยวนในมือของฉู่อวิ๋นไม่ละไปไหน เผยให้เห็นท่าทีสงสัย
ยามนี้บนเวทีประลอง ฉู่อวิ๋นยืนตัวตรง ส่ายกระดูกยืดเส้นยืดสาย และพูดด้วยรอยยิ้มโกรธๆ "นี่ต่างหากที่เหมาะจะเป็การอุ่นเครื่อง!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้างามของฉู่เฟยก็เ็าและเต็มไปด้วยคำถาม นางอดไม่ได้ที่จะถามว่า "เหตุใดเ้าถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?! นอกจากนี้ เมื่อครู่ที่เ้าแสดงคือทักษะกระบี่อะไร? แล้วกระบี่เล่มนั้นเ้าไปได้มาจากไหน?"
แม้ว่าฉู่เฟยจะมีความรู้เพียงเล็กน้อย แต่นางก็ยังสามารถมองเห็นพลังที่พิเศษของกระบี่ชื่อยวนได้
เพราะหากสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้สองพันจินในคราวเดียว อาวุธนั้นก็จะต้องมีลายสลักอย่างน้อยยี่สิบกล และจะต้องเป็อาวุธลึกลับ
“หยุดพูดไร้สาระ วันนี้เ้าตายไม่สงบแน่!” ฉู่อวิ๋นจ้องมองด้วยความโกรธ เพราะความเย่อหยิ่งของฉู่เฟย ในใจยังจำได้ถึงญาติของเขาที่เสียชีวิตอย่างอนาถด้วยกรงเล็บของสัตว์ปีศาจ ไม่เหลือซากศพที่สมบูรณ์ ความโกรธก็พุ่งพรวดพราดขึ้นมา
กระบี่ชื่อยวนทะลุผ่านอากาศด้วยเสียงอึกทึก ฉู่อวิ๋นวางกระบี่ในแนวนอน ไม่สามารถควบคุมพลังปราณได้อีกต่อไป เขาเปิดใช้งานลายสลักยี่สิบกลอย่างรวดเร็ว และใช้วิชากระบี่ดาวตกพุ่งเข้าหาฉู่เฟย
"ควั่บ!"
แสงกระบี่สีแดงเข้มฟาดพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับัพิโรธที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้าด้วยพลังอันท่วมท้น
“เชอะ เริ่มโจมตีมาก่อน หาเื่ตาย!” ฉู่เฟยยกมีดยาวใบไม้แข็งของนางขึ้นสู่ท้องฟ้า เปลวไฟสีเขียวล้อมรอบตัวมีด แผดเผาลุกโชน
นางพรางตัวเป็เงาลวงตา เดินข้ามเวทีอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครมองเห็นได้ชัด
"ตาย!"
ทันใดนั้น ฉู่เฟยก็ปรากฏตัวขึ้นจากจุดอับสายตาของฉู่อวิ๋น มีดยาวใบไม้แข็งพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและฟันไปที่มือซ้ายของเขา
“ข้าเห็นจุดอ่อนของพร์ทางิญญายุทธ์ของเ้าแล้ว อย่าหวังว่าจะสำเร็จอีกเลย!” ฉู่อวิ๋นะโ และการโจมตีของเขาก็ราวกับสายฟ้า การโจมตีของกระบี่ชื่อยวนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและกลายเป็กระแสดารา
“ชิ้ง!”
มองเห็นกระบี่ชื่อยวนต่อต้านการโจมตีอันดุร้ายของมีดใบไม้แข็งได้ ราวกับเสือที่ดุร้ายกัดกินเหยื่อด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัว
“ทำไม!?” ฉู่เฟยใ รู้สึกเจ็บง่ามมืออย่างรุนแรงจนอยากจะถอยกลับ
แต่ฉู่อวิ๋นไม่ละทิ้งโอกาสที่จะไล่ตาม เขาใช้ดาราจรัสแสงอย่างต่อเนื่อง แสงกระบี่แสงดาวหลายสิบลูกกระจายออกไป กดดันฉู่เฟยอย่างหนัก ทำให้นางไม่อาจหลบหนีได้
“ติ๊ง ติ๊ง ตั๊ง ตั๊ง!”
หลังจากการต่อสู้หลายสิบกระบวนท่า ทันใดนั้น แสงกระบี่ก็ทะลุออกมาเหมือนดาวตกและกระทบไปที่ใบหน้าของฉู่เฟย นางใจนหน้าซีดเผือดและหลบอย่างรวดเร็ว ฉู่อวิ๋นคว้าโอกาสนี้แทงเข้าไปทันทีด้วยกระบี่ของเขา
“วิ้ง——”
กระบี่ชื่อยวนปล่อยดาวดวงเล็กๆ ออกมาเฉี่ยวเข้ากับศีรษะของฉู่เฟย!
“เ้าอย่าคิดจะทำสำเร็จเลย!” ใบหน้าของฉู่เฟยเปลี่ยนเป็เ็า ถึงขั้นยืนกระต่ายขาเดียว เหยียดขาขวาและยกร่างกายส่วนบนให้เอนราบเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ร้ายแรงนี้
ทันใดนั้น นางก็สะบัดมืออันบอบบางออก มีดใบไม้แข็งก็กลายเป็แสงสีเขียวที่คมกริบ มีไฟลุกโชน และเหวี่ยงฟันไปในทันที
“เป็การตอบโต้ที่เลวร้ายจริงๆ!”
เมื่อฉู่อวิ๋นเห็นมีดฟันมา เขาก็สะดุ้งและหันหลังเพื่อหลบ
ในทางกลับกัน ฉู่เฟยเองก็สามารถหลบหนีจากการโจมตีที่รุนแรงและต่อเนื่องของฉู่อวิ๋นได้จนหันหลังและถอยกลับได้เช่นกัน
ทั้งคู่อยู่ฝั่งตรงข้ามของเวทีประลอง สีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด แต่ ณ สถานที่ที่พวกเขาเพิ่งต่อสู้ไปเมื่อครู่ มีร่องรอยของเส้นผมปลิวว่อน
มองเห็นผมครึ่งหนึ่งของฉู่เฟยร่วงลงมาทางด้านขวาของใบหน้า
“เ้าสารเลว ถึงกับ...ถึงกับกล้าตัดผมของข้า?!” ฉู่เฟยพูดอย่างเ็าด้วยมือที่สั่นเทา เผยสีหน้าตกตะลึง
“เชอะ ครั้งต่อไปข้าจะตัดร่างกายเ้า เชื่อหรือไม่?” ฉู่อวิ๋นยืนตัวตรงด้วยสายตาที่เขม็งเครียด
แต่ฉู่เฟยกลับเต็มไปด้วยความสับสน เหตุใดฉู่อวิ๋นถึงสามารถรู้ทิศทางที่นางจะปรากฏตัวได้ทุกครั้ง?
เหมือนมีตาคู่หนึ่งอยู่ที่ด้านหลังศีรษะ
เมื่อมองดูท่าทางสับสนของฉู่เฟย ฉู่อวิ๋นก็ยกกระบี่ชี้ไปข้างหน้าและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "อย่าคิดว่าพร์ทางิญญายุทธ์ระดับหกนั่นจะล้มไม่ได้สิ พร์ทางิญญายุทธ์ของเ้ามีจุดอ่อนร้ายแรงอยู่!"
“จุดอ่อนหรือ?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉู่เฟยก็เงยหน้าขึ้นมอง
นางอาศัยเพลิงมรกตลวงตาที่แปลกประหลาดและคาดเดาไม่ได้นี้เอาชนะคู่ต่อสู้มาโดยตลอด
แต่ตอนนี้ฉู่อวิ๋นกลับบอกว่าเขาค้นพบจุดอ่อนของนางเช่นนั้นหรือ? สิ่งนี้สำหรับฉู่เฟยผู้หยิ่งผยองแล้ว ไม่อาจยอมรับได้โดยแท้
“เ้าคนต่ำตม เ้าพูดจาเพ้อเจ้อ! อยากใช้คำพูดตีโจมตีข้าหรือ? เ้าฝันไปเถอะ!” ฉู่เฟยไม่มั่นใจ
“ฮ่าๆ โจมตีเ้าหรือ? ข้าก็แค่พูดความจริง” ฉู่อวิ๋นยิ้มประชดราวกับว่าเขาได้ค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่ของฉู่เฟย ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง "ข้าพบว่าทุกครั้งที่เ้าใช้เพลิงมรกตพรางตาก็จะมีเปลวไปสีเขียวปะทุขึ้นมาก่อน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ...มีดของเ้าจะต้องเปลี่ยนอุณหภูมิไปอย่างแน่นอน!”
“ขอเพียงแค่ััได้ถึงจุดที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากที่สุด นั่นคือจุดที่เ้า้าโจมตี!”
ฉู่อวิ๋นอธิบายอย่างเย้ยหยัน ทำให้ฉู่เฟยตกตะลึง ในขณะเดียวกันก็ทำให้ทุกคนตะลึงงันตามไปด้วย และคิดได้ทันที
“เหมือนว่า...จะจริงนะ! ฉู่อวิ๋นพูดถูก ทุกครั้งที่ฉู่เฟยใช้เพลิงมรกตพรางตา ก็จะเกิดเปลวไฟสีเขียวอย่างแน่นอน!”
“เช่นนี้นี่เอง! ถ้าเช่นนั้น ถ้าในอนาคตพวกเราได้ประมือกับนางขึ้นมา ตราบใดที่มุ่งความสนใจไปที่มัน เราก็สามารถเข้าใจการโจมตีของนางได้?”
เสียงเซ็งแซ่จากทั่วทุกมุมของลานดังไปถึงหูของฉู่เฟยอย่างท่วมท้น นางทั้งอับอายและโกรธแค้น
--------------------
[1] เทพซิวหลัว หรือเทพชูรา ว่ากันว่าเป็เทพอสูรที่มีหลายใบหน้าและหลายแขน แม้จะปรากฏกายคล้ายมนุษย์หากแต่ขนาดร่างกายจะใหญ่กว่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้