หลังจากที่หลี่เสวี่ยหรูปฏิเสธแผนการ ‘ทำข้าวสารให้กลายเป็ข้าวสุก’ แล้ว ซ่งเหม่ยอวิ๋นก็เอาแต่คิดถึงเื่นี้ตลอดทั้งวัน และยิ่งเธอคิดเื่นี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลมากเท่านั้น
หลังจากเลิกงานแล้วเธอก็คว้ากระเป๋าแล้วรีบออกจากโรงงาน เธอรีบขี่รถจักรยานมายังที่ทำงานของหลี่เสวี่ยหรูทันทีเพื่อเตรียมตัวโน้มหล่อนอีกครั้ง
หลี่เสวี่ยหรูเห็นซ่งเหม่ยอวิ๋นมาแต่ไกล เธอยิ้มมุมปากเบาๆ จากนั้นก็โบกมือให้ซ่งเหม่ยอวิ๋นอย่างมีความสุขแล้วจูงรถจักรยานไปทางเพื่อนสาว “ทำไมวันนี้มาเร็วจัง? ฉันจำได้ว่าโรงงานของเธอเลิกงานพร้อมกันกับโรงงานฉันไม่ใช่หรือ?”
ซ่งเหม่ยอวิ๋นตอบ “ฉันรีบมาอย่างไวเลยน่ะสิ”
สหายหญิงทั้งสองคนขี่รถจักรยานของตนเคียงข้างกันไป
ซ่งเหม่ยอวิ๋นถามอย่างทนรอไม่ไหว “พี่เสวี่ยหรู พี่คิดดูแล้วเป็อย่างไรบ้าง?”
หลี่เสวี่ยหรูรู้ว่าซ่งเหม่ยอวิ๋นกำลังถามอะไรอยู่ แต่เธอกลับแกล้งทำเป็ไม่เข้าใจ “อะไรนะ? คิดอะไรกัน?”
“ก็เื่ที่ฉันพูดกับพี่เมื่อเช้านี้ไง!” ซ่งเหม่ยอวิ๋นเอ่ยเตือนอีกฝ่าย “ที่บอกว่าให้พี่กับพี่รองทำข้าวสารให้กลายเป็ข้าวสุกกันอย่างไรเล่า!”
“เธอเบาเสียงลงหน่อย!” หลี่เสวี่ยหรูหัวจะะเิ เธอหันมองไปรอบๆ ด้วยความใ ตอนนี้เป็เวลาเลิกงานแล้วบนถนนเต็มไปด้วยคนที่รู้จักพวกเธอกันทั้งนั้น วินาทีต่อมาเธอก็เห็นว่ามีเพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งกำลังโบกมือลาให้เธออยู่ หลี่เสวี่ยหรูโบกตอบเป็มารยาทกลับไป จากนั้นก็กล่าวอำลาว่าแล้วพบกันใหม่นะ
“อ่อๆๆ” ซ่งเหม่ยอวิ๋นลดเสียงลงอย่างเก้อเขินและเธอก็กล่าวต่อว่า “ขอโทษทีๆ” เื่นี้ไม่ใช่เื่ที่จะเอามาเปิดเผยต่อหน้าสาธารณะชนได้จริงๆ นั่นแหละ หากปล่อยให้คนอื่นได้ยินเข้า ก็คงจะไม่ดีนัก
จากนั้นซ่งเหม่ยอวิ๋นก็ถามขึ้นอีกรอบ “พี่เสวี่ยหรู พี่เต็มใจหรือไม่เต็มใจกันเนี่ย?”
แน่นอนว่าหลี่เสวี่ยหรูต้องปฏิเสธอยู่แล้ว เธอทำท่าทางสับสนและเขินอาย “ไม่ได้ๆ เื่นี้ไม่ได้หรอก ฉันทำไม่ได้จริงๆ...”
“พี่เสวี่ยหรู!” ซ่งเหม่ยอวิ๋นอดไม่ไหวที่จะขึ้นเสียงใส่อีกฝ่ายเป็ครั้งที่สอง “นี่พี่อยากใช้ชีวิตร่วมกับพี่รองของฉันจริงๆ หรือเปล่า?”
หลี่เสวี่ยหรูไม่ได้พูดอะไร แต่เธอกัดริมฝีปากล่างของตนเองแสดงท่าทางลังเลและดิ้นรนขัดขืน
ซ่งเหม่ยอวิ๋นทำตัวเหมือนแม่มดที่กำลังล่อลวงสโนว์ไวต์ให้กินผลแอปเปิล “พี่เสวี่ยหรู พี่ลองคิดดูสิ พี่รองของฉันหน้าตาหล่อเหลาขนาดนั้น พูดได้เลยว่า เขาเป็คนที่หน้าตาดีที่สุดในตรอกของพวกเรา ไม่สิ หน้าตาดีที่สุดในชุมชนของพวกเราเลยต่างหากแถมเขายังเป็นักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่งอีก หลังจากสำเร็จการศึกษาก็คงได้รับราชการ อย่าว่าแต่เข้ากระทรวงเลยฉันว่าพี่เขาจะต้องเข้าสถาบันวิจัยได้อย่างแน่นอน ตอนนี้เขาก็ช่วยงานในห้องวิจัยของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ทุกๆ เดือนห้องวิจัยจะให้เงินอุดหนุนกับเขาด้วยนะ บางครั้งยังให้เงินพิเศษอีกด้วย!”
หลี่เสวี่ยหรูพูดอ้ำอึ้ง “ฉันรู้ว่าพี่รองของเธอน่ะดีมากๆ ผู้อื่นไม่คู่ควรกับเขาหรอก”
“แล้วอย่างไร?”
“โอ้ะ เธอระวังหน่อย ดูทางด้วยสิๆ” หลี่เสวี่ยหรูเห็นว่าซ่งเหม่ยอวิ๋นเกือบจะชนคน ก็รีบเอ่ยเตือนอีกฝ่ายทันที
หลังจากซ่งเหม่ยอวิ๋นเบี่ยงหลบคนผู้นั้นแล้ว เธอก็สบถด่าด้วยความโกรธ “เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะ...พี่เสวี่ยหรู หากพี่ไม่ยินยอมแล้วซย่านีเกิดเปลี่ยนใจกลับมาหาพี่รองของฉันขึ้นมา พี่จะเสียใจทีหลังนะ!”
“แต่...แต่ว่าหากฉันทำเช่นนั้น คนในครอบครัวของเธอจะมองฉันอย่างไรกันเล่า? ฉัน...ชื่อเสียงของฉันอีก แค่จางหวาเฟิงคนนั้นก็ทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียหายมามากพอแล้ว หากซย่านีรู้เื่นี้เข้าแล้วเธอมาสร้างปัญหาให้ฉันอีกรอบ เธอจะต้องกล่าวหาว่าฉันไปแย่งสามีของเธอแน่ๆ...”
ซ่งเหม่ยอวิ๋นกล่าวอย่างเดือดดาล “หากมิใช่เพราะเธอ คนในตรอกมันจะไปรู้เื่จางหวาเฟิงได้อย่างไร?!” หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง เธอก็กล่าวต่อว่า “พี่เสวี่ยหรู พี่วางใจเถอะนะ ซย่านีไม่กล้าสร้างปัญหาหรอก เธอเป็คนพูดต่อหน้าทุกคนเองนะว่าเธอจะหย่ากับพี่รอง เธอมีสิทธิ์อะไรมายุ่งเื่นี้ด้วยเล่า? ทำไม พอเธอหย่ากับคนอื่นเขาแล้ว ยังจะไม่ยอมให้คนอื่นเขาหาคู่ครองคนใหม่เลยหรือไง? อีกอย่างจะว่าไปแล้วเื่นี้ถ้าพี่ไม่พูด ฉันไม่พูด คนอื่นก็คงไม่รู้แน่ๆ”
หลี่เสวี่ยหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ฉันขอลองคิดดูอีกทีนะ”
ซ่งเหม่ยอวิ๋นมองออกว่าหลี่เสวี่ยหรูเริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว เธอจึงกล่าวเสริมต่อว่า “พี่ยังต้องคิดอะไรอีก ฉันบอกเลยนะวันนี้ทั้งวันฉันคิดเื่นี้มาหมดแล้ว ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าจะทำอย่างไรดี”
หลี่เสวี่ยหรูรู้สึกประหลาดใจ เธอคิดไม่ถึงว่าซ่งเหม่ยอวิ๋นจะสมองไวขนาดนี้ แต่เธอก็ยังค่อนข้างเคลือบแคลงในแผนการที่ซ่งเหม่ยอวิ๋นคิดขึ้นมาอยู่ดี เพราะอย่างไรเสีย หญิงสาวผู้นี้ก็ไม่ค่อยจะฉลาดเท่าใดนัก
“จะ...จะทำอย่างไร?”
“พี่รองของฉันกลับบ้านทุกอาทิตย์ไม่ใช่หรือไง ถึงตอนนั้นฉันก็ให้พ่อรินเหล้าให้เขาดื่มสักหน่อย มอมให้เขาเมาไปเลย จากนั้นพี่ก็ถอดเสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงพี่รอง รอจนพี่รองของฉันตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น พี่รองจะต้องรับผิดชอบพี่อย่างแน่นอน”
หลี่เสวี่ยหรูพูดไม่ออก “…”
เธอไร้คำจะกล่าวจริงๆ เธอไม่ควรคาดหวังกับความคิดของซ่งเหม่ยอวิ๋นเลย ซ่งเหม่ยอวิ๋นช่างเป็คนที่ไร้สมองจริงๆ แผนการหยาบกระด้างเช่นนี้ก็ยังอุตส่าห์คิดออกมาได้อีกนะ!
ซ่งเหม่ยอวิ๋นยังคงภูมิใจในแผนการของตน “เป็อย่างไรบ้างๆ? แผนของฉันใช้ได้ไหม?”
หลี่เสวี่ยหรูหัวเราะแห้งๆ สองที เธอไม่สามารถเอ่ยชมซ่งเหม่ยอวิ๋นได้จริงๆ
ซ่งเหม่ยอวิ๋นกับหลี่เสวี่ยหรูเติบโตมาด้วยกันั้แ่เด็ก มีอย่างที่ไหนที่เธอจะดูความอึดอัดใจของหลี่เสวี่ยหรูไม่ออก เธอเบะปากพลางกล่าวว่า “ทำไม แผนของฉันไม่ดีหรือไง?”
“เหม่ยอวิ๋นเอ๋ย” หลี่เสวี่ยหรูพูดอย่างจริงใจ “เธอได้ลองคิดดูบ้างไหม ว่าทำไมจู่ๆ ฉันถึงต้องไปบ้านเธอและยังไปนอนบนเตียงของพี่รองเธออีก? หลังจากพี่รองของเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นแล้ว หากเขาเห็นฉันอยู่ที่นั่นเขาจะคิดอย่างไรเล่า? เขาจะคิดว่าฉันจงใจวางแผนจับเขาหรือเปล่า?”
“เอ่อ?” ซ่งเหม่ยอวิ๋นมึนงงไปแล้ว “พวกเราก็วางแผนใส่เขาไม่ใช่หรือไง?”
หลี่เสวี่ยหรูสูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะอดกลั้นไว้ไม่หลุดคำด่าออกมา “เธอคิดว่าด้วยนิสัยของพี่รองของเธอ หากเขารู้ว่าฉันวางแผนจับเขา เขายังจะรับผิดชอบฉันอีกไหม? นอกจากนี้...”
ซ่งเหม่ยอวิ๋นถามขึ้น “นอกจากนี้อะไร?”
นอกจากนี้พวกเขาสองคนยังถอดเสื้อผ้าหลับนอนด้วยกันหนึ่งคืนแต่หากไม่ได้ทำอะไรกันขึ้นมา ซ่งหานเจียงก็จะปฏิเสธได้อย่างหมดจด! แต่หลี่เสวี่ยหรูกลับต้องเสียหน้าแทนอย่างไรเล่า ทว่าเธอไม่อาจพูดเื่นี้กับหญิงสาวที่ยังไม่เคยมีความรักอย่างซ่งเหม่ยอวิ๋นได้
“ไม่มีอะไร ก็ตามที่ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ เธอคิดว่าพี่รองของเธอจะยอมรับผิดชอบฉันงั้นเหรอ?”
ซ่งเหม่ยอวิ๋นถามหลี่เสวี่ยหรู “แล้วทำไมจะไม่รับผิดชอบเล่า? ตอนนั้นพี่รองของฉันก็ยอมแต่งงานกับซย่านีเพื่อรับผิดชอบหล่อนไม่ใช่หรือไง? ตอนนั้นเขาเพียงแต่ปั๊มหัวใจกับผายปอดช่วยชีวิตคนก็เท่านั้น แค่ปากแตะกันนิดๆ หน่อยๆ แต่คราวนี้พี่รองฉันเห็นพี่หมดทั้งตัวแล้ว อย่างไรเขาจะต้องรับผิดชอบพี่อย่างแน่นอน ”
หลี่เสวี่ยหรูพูดไม่ออก “…”
หากมิใช่เพราะเห็นว่าซ่งหานเจียงเป็พี่ชายของซ่งเหม่ยอวิ๋นล่ะก็ หลี่เสวี่ยหรูคงไม่มีทางเป็เพื่อนกับผู้หญิงคนนี้อย่างเด็ดขาด
“เธอไม่เคยคิดเลยหรือ ตอนนั้นพี่รองของเธอเป็คนไปช่วยซย่านีด้วยตนเอง ในสายตาของพี่รองเธอซย่านีนั้นไร้เดียงสาแต่หากฉันทำอย่างที่เธอพูดขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ พี่รองของเธอจะต้องคิดว่าฉันวางแผนจับเขาแน่ๆ เธอก็รู้ว่าพี่รองของเธอมีนิสัยเช่นไร หากเขาคิดว่ามันเป็เื่ที่ผิดเขาไม่มีทางยอมรับโดยเด็ดขาด” หลี่เสวี่ยหรูนึกสงสัยขึ้นมา ซ่งเหม่ยอวิ๋นเป็น้องสาวแท้ๆ ของซ่งหานเจียงแต่ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจนิสัยของพี่ตัวเองบ้างเลย!
ซ่งเหม่ยอวิ๋นย่นจมูก หวนนึกถึงนิสัยของพี่รอง จะว่าไปแล้วที่พูดมาก็มีความเป็ไปได้สูงมาก
“เช่นนั้นฉันขอให้พ่อแม่ออกหน้าให้ก็ได้นี่ หากเขาไม่ยอมเราก็ต้องบีบบังคับให้เขายอม!” ซ่งเหม่ยอวิ๋นหัวเราะหึๆ แล้วยื่นแขนออกไปตบไหล่หลี่เสวี่ยหรูพลางกล่าวว่า “พี่เสวี่ยหรู พี่วางใจเถอะนะ พ่อกับแม่ของฉันน่ะสนับสนุนเื่ที่พี่จะมาเป็ลูกสะใภ้ของพวกเขาอยู่แล้ว”
หลี่เสวี่ยหรูคิดในใจ ‘ฉันไม่วางใจหรอกย่ะ!’
