ขณะเดียวกัน บนเกาะศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโลก เกาะที่ปกคลุมไปด้วยม่านหมอกหนาทึบ สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยน้ำวนขนาดมหึมาที่บิดเกลียวราวกับเป็เกราะคุ้มกันป้องกันตามธรรมชาติ ทำให้เกาะแห่งนี้ไม่มีผู้ใดสามารถบุกรุกเข้ามาได้โดยง่าย
บนเกาะแห่งนี้มี พระราชวังสีทองขนาดมหึมา ตั้งตระหง่านอยู่กลางศูนย์กลางของดินแดน ตัวเมืองทั้งเมืองถูกสร้างขึ้นจากทองคำแท้ ผนังอาคารเปล่งประกายเจิดจ้า ประดับด้วยอักษรศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าั ทุกตรอกซอกซอยมี รูปปั้นันับพันที่ตั้งเรียงรายอยู่ บ้างกางปีกสะบัดกลางอากาศ บ้างส่งเสียงคำรามสะท้อนทั่วแผ่นดิน
ที่แห่งนี้เป็บ้านของ เผ่าั ที่มิใช่สัตว์ร้ายธรรมดา แต่คือเผ่าพันธุ์ัที่วิวัฒนาการจนสามารถอยู่ในร่างมนุษย์ได้ พวกเขาทุกคนล้วนมี เขาัอันทรงพลังงอกขึ้นบนศีรษะ เขาัเ่าั้มีลักษณะแตกต่างกันไปตามสายเืและพลังของแต่ละตระกูล
ภายในพระราชวังสีทอง ใจกลางบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์
ชายผู้หนึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์สูงสุด เบื้องล่างของเขาเต็มไปด้วยขุนพลเผ่าัที่อยู่ในร่างมนุษย์ แต่ละคน มีออร่าทรงพลังระดับจักรพรรดิเป็อย่างต่ำ พลังของพวกเขาพุ่งทะยานออกมาเป็ระลอกคลื่นเพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ เท่านั้น
ทุกคนในที่นี้ ล้วนแสดงความเคารพสูงสุดต่อชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ชายชราในชุดคลุมสีทองเข้มที่ดูเหมือนเป็ที่ปรึกษาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวอย่างนอบน้อม
“ท่านองค์จักรพรรดิ บัดนี้พลังงานของโลกพุ่งสูงขึ้นอีกแล้ว ขอรับ พวกเราจะทำการเปิดม่านพลังเลยหรือไม่?”
ชายหนุ่มบนบัลลังก์ไม่ได้ตอบกลับในทันที เขาใช้สองนิ้วเคาะเก้าอี้ที่พิงเบาๆ ราวกับกำลังครุ่นคิด
แต่แล้ว…
เสียงของเครื่องกลอิเล็กทรอนิกส์อันเ็าก็ดังก้องขึ้นในใจของเขา
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ให้กำเนิดลูกคนที่ 187 และมีศักยภาพ 10 ดาว ได้รับกล่องของขวัญระดับ SSS +1 กล่อง]
ชายหนุ่มบนบัลลังก์เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวอย่างราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“เปิดม่านพลังซะ เพื่อต้อนรับลูกคนที่ 187 ของข้า”
ทันใดนั้น ทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรงแสดงความตื่นเต้นสุดขีด พวกเขารู้ดีว่าคำพูดนี้มีความหมายว่า ลูกขององค์จักรพรรดิได้กำเนิดแล้ว และบางทีเด็กที่เกิดมาอาจจะเป็ลูกของตระกูลพวกเขาก็เป็ได้
ทุกคนในที่นั้น รวบรวมสติ ก่อนที่จะคุกเข่าลงไปกับพื้นพร้อมกัน
“รับทราบขอรับ ฝ่าา!”
จากนั้นพวกเขาก็พุ่งทะยานออกจากท้องพระโรงด้วยความเร็วเหนืุ์ เสียงกระแสพลังทำให้ท้องฟ้าเหนือเกาะสั่นะเื
ขณะเดียวกัน ณ ทวีปแห่งป่าลึกลับ หนึ่งใน เจ็ดทวีปใหญ่ ที่ถูกปกครองโดย เผ่าสัตว์ร้าย
ใจกลางทวีปแห่งนี้มี ต้นไม้ขนาดมหึมา ที่สูงเสียดฟ้า รากของมันปกคลุมพื้นดินราวกับอาณาจักรของตัวเอง
ใต้ร่มเงาของต้นไม้นี้เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนับร้อยล้านตัว มีทั้งม้าเพลิง ัสายฟ้า หมูโลหิต กระทิงเขาศักดิ์สิทธิ์ วัวทองคำ งูมรกต หนูพิษ มดดวงดาว ตั๊กแตนอสูร และสัตว์ร้ายพันธุ์อื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน
ระดับพลังของพวกมันั้แ่ จักรพรรดิไปจนถึงสัตว์เหล็กดำ ทันใดนั้น ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ขยับกิ่งก้านของมัน และส่งเสียงออกมา
“ข้าจะดึงพลังิญญาบางส่วนขึ้นมา ให้พวกเ้าได้ดูดซับ จงเตรียมตัวให้พร้อม… สำหรับโลกใหม่ที่กำลังจะมาถึง”
เสียงของมันดังกึกก้องะเืไปทั่วทั้งป่า สัตว์ร้ายทุกตัวพยักหน้า ก่อนจะส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกัน
ทันใดนั้น ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ดึงพลังิญญาอันมหาศาลจากพื้นโลกขึ้นมา
พลังงานิญญาบริสุทธิ์ไหลเวียนไปทั่วอาณาจักรแห่งสัตว์ร้าย แผ่กระจายออกไปราวกับคลื่นพายุ ทุกชีวิตที่อยู่ด้านล่างเริ่ม ดูดซับพลังงานเ่าั้อย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้นเอง สัตว์ร้ายมากมายเกิดการวิวัฒนาการในทันที! ับางตัวกลายเป็ัอัสนีศักดิ์สิทธิ์ ัเพลิง์ ัแห่งความว่างเปล่า งูพิษบางตัวเปลี่ยนเป็งู์เจ็ดเศียร งูสายรุ้ง ัดำ กระทิงเขาศักดิ์สิทธิ์บางตัววิวัฒนาการเป็มิโนทอร์เทพแห่งา สัตว์ร้ายบางตัวกลายเป็ไดโนเสาร์พันธุ์ดึกดำบรรพ์ วิลอซิแรปเตอร์ สไปโนซอรัส หรือแม้กระทั่งสัตว์อสูรในตำนานที่ไม่สามารถระบุเผ่าได้
เสียงคำรามและเสียงกรีดร้องของพวกมันดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า ราวกับเป็สัญญาณแห่งยุคใหม่
ณ ทวีปแห่งความตาย หนึ่งในเจ็ดทวีปใหญ่ที่ถูกปกครองโดยสัตว์ร้าย ดินแดนแห่งนี้เป็สถานที่ที่แม้แต่มนุษย์ผู้แข็งแกร่งยังไม่กล้าเหยียบย่างเข้าไปโดยง่าย ทุกตารางนิ้วเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความโเี้และพลังแห่งความตาย
บนยอดเขาที่สูงเสียดฟ้า ท่ามกลางสายลมกระโชกแรง เสียงคำรามอันดุดันดังกึกก้องไปทั่วผืนฟ้า
“โฮกกกกกกกกกก!!”
เสียงคำรามของเสือขาวตัวหนึ่งดังก้องไปทั่วทั้งทวีป เสียงสะท้อนของมันแผ่พลังอำนาจไปทั่วดินแดน ทำให้สัตว์ร้ายทุกตัวที่อยู่ในบริเวณนั้นพุ่งตัวเข้ามารวมกันอย่างรวดเร็ว
ใต้เชิงเขา กองทัพสัตว์ร้ายมากมายรวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง เหล่าสัตว์ร้ายที่ทรงพลังนับไม่ถ้วนต่างคุกเข่าลงด้วยความเคารพ มีทั้งสุนัขจิ้งจอกสีขาวที่มีดวงตาแห่งสัจธรรม อินทรีั์ที่มีปีกกว้างเทียบเท่าูเา และ งูเพลิงสีแดงที่มีลำตัวยาวนับหมื่นกิโลเมตร
ท่ามกลางหมู่สัตว์ร้าย ยังมี มนุษย์อีกาดำ ที่สวมชุดเกราะดำทะมึน ยืนก้มศีรษะอย่างเคารพ ถัดไปคือ ั์ร่างมหึมาที่สวมเกราะนักรบโบราณ และเผ่าพันธุ์สัตว์ร้ายอื่นๆ นับล้านตัว
ทุกตัวคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะเปล่งเสียงออกมาดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่า
"พวกเราได้พบองค์าาแล้ว!!"
ท่ามกลางบรรยากาศที่เคร่งขรึม เสือขาวตัวหนึ่งเดินออกมาจากเงามืด มันมีรูปร่างที่ดูธรรมดา แต่แววตาของมันกลับเต็มไปด้วยความลึกลับและทรงอำนาจ
มันกระโจนขึ้นไปบนยอดเขาสูงสุด ก่อนจะคำรามกึกก้องอีกครั้ง
“โฮกกกกกกกกกก!!”
แรงสั่นะเืจากเสียงคำรามทำให้ท้องฟ้ารอบด้านสั่นะเื พลังมหาศาลแผ่ขยายออกไปทั่วทั้งดินแดน
เสียงของมันดังก้องไปทั่วทวีปอีกครั้ง
“พวกเ้าจงเตรียมตัวให้พร้อม าแห่งการสลับขั้วอำนาจของโลกกำลังจะเริ่มต้นขึ้น”
สัตว์ร้ายทุกตัวเงยหน้าขึ้นมององค์าาของพวกมัน แววตาของพวกมันเต็มไปด้วยแรงฮึกเหิม
"พวกเราจะไม่ทำให้ท่านาาผิดหวัง!!"
เสียงของพวกมันดังสะท้อนทั่วผืนป่า เหมือนเป็เสียงของกองทัพที่พร้อมจะออกไปรบ
ในขณะเดียวกัน ทุกทวีปบนโลกต่างกำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย
ณ ทวีปสายรุ้ง ในมิติพิเศษที่ไม่มีใครรู้จัก มันเป็ดินแดนที่ราวกับถูกตัดขาดจากกาลเวลา ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงามที่สุด สภาพอากาศบริสุทธิ์ พลังิญญาไหลเวียนทั่วอากาศอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังนอนหลับอยู่ ท่าทางของเขาดูสงบนิ่งราวกับไม่สนใจสิ่งใด
แต่แล้ว กิเลนเพลิงตัวหนึ่งบินทะยานลงมา มันเปล่งออร่าศักดิ์สิทธิ์ทั่วร่าง ก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็มนุษย์ ชายวัยกลางคนที่มีออร่าระดับจักรพรรดิระดับสูงสุดออกมาก่อนที่มันจะคุกเข่าลงเบื้องหน้าชายหนุ่มคนนั้น
“นายน้อย ท่านบรรพบุรุษเรียกตัวขอรับ”
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นช้าๆ แววตาของเขาเต็มไปด้วยแสงสว่างที่ดูเหมือนจะสามารถมองทะลุทุกสิ่ง
“มันเริ่มขึ้นแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า
“ใช่แล้วขอรับ”
ชายหนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนทันที พลังิญญาที่ถูกกดไว้มานานแผ่กระจายออกไปจนทำให้หุบเขาสั่นะเื เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะถามในใจ
“ระบบ เมื่อไหร่ที่ตระกูลของฉันจะถึงระดับที่หก?”
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในหัวของเขา
[เงื่อนไขของตระกูลระดับที่ 6 โฮสต์ต้องมีคนในตระกูลที่มีระดับตำนาน 0/10 คนและ ระดับจักรพรรดิ 621/1000 คน]
ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มที่ดูเต็มไปด้วยความมั่นใจ “สบายๆ”
ขณะเดียวกัน ณ ทวีปแห่งจันทรา
ทวีปแห่งนี้เป็ดินแดนของ เผ่าพันธุ์วานรโบราณ นับล้านสายพันธุ์ พวกมันแข็งแกร่งขึ้นจากการวิวัฒนาการในทุกยุคทุกสมัย บนยอดูเาที่สูงที่สุด วานรตัวหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนก้อนหินั์
มันดูเหมือนจะไม่ใส่ใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว มันกำลังแคะจมูกอย่างเกียจคร้าน แต่ในดวงตาของมันกลับสะท้อนภาพของโลกที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แววตาของมันฉายแววแห่งความสนุกสนาน