สถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่เกือบๆ จะสามารถกำบังลมและน้ำฝนได้ แต่สำหรับสัตว์ป่าแล้ว อาจไม่สามารถเป็เกราะกำบังที่มั่นคงถึงเพียงนั้น หากสัตว์ป่าจู่โจมเข้ามาอย่างกะทันหัน สถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่จะกลายเป็กองไม้กระดานภายในพริบตา!
ร่างกายของหลินกู๋หยู่สั่นสะท้าน อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้าใกล้โต้ซา
เมื่อมองไปที่ฉือหาง ในขณะที่หลินกู๋หยู่กำลังจะเอ่ยปากพูดก็เห็นฉือหางทำท่าบอกเป็นัยให้เงียบเสียง
ศีรษะของนางหดอยู่ใต้ผ้าห่ม มองไปที่ฉือหางด้วยความประหลาดใจ จากนั้นนอนเงียบๆ อย่างเชื่อฟัง ดวงตาทั้งสองข้างของนางมองไปรอบด้านด้วยความหวาดกลัวระคนประหม่า
มือของฉือหางแตะคันธนูข้างเตียง ดวงตาของเขาเบิกกว้างและมองไปยังสภาพแวดล้อมรอบๆ
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ฉือหางก็ดึงมือออกและลดเสียงลงเนื่องจากกลัวโต้ซาตื่น "ไม่เป็ไรแล้ว"
“ข้าได้ยินเสียงของหมาป่าตัวนั้นเหมือนจะอยู่ใกล้ๆ” หลินกู๋หยู่พูดด้วยความกลัวหลายส่วน “มันจะกลับมาอีกไหม?”
ในสถานที่แห่งนี้ หลินกู๋หยู่ไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเอง สิ่งเดียวที่นางสามารถพึ่งพาได้คือฉือหาง
"ไม่มาแล้ว” ฉือหางพูดด้วยความมั่นใจ "หมาป่าตัวนั้นได้อาหารแล้ว"
หลินกู๋หยู่กลืนน้ำลายอย่างร้อนรนกระวนกระวาย เงยหน้าขึ้นมองฉือหางโดยไม่เอื้อนเอ่ยวาจา
หลินกู๋หยู่นอนอยู่บนนั้นอย่างกระวนกระวายและไม่กล้าหลับตาลง ในระหว่างนั้นนางมองไปรอบๆ ฉายแววกระวนกระวายใจในสายตา
หลินกู๋หยู่ใช้สมาธิอย่างมากในการเพ่งมองรอบด้าน ทว่าท้ายที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่จะผล็อยหลับไปด้วยความสะลึมสะลือ
เมื่อหลินกู๋หยู่ตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้ยินเสียงสิ่งของถูกทุบด้านนอก
นางสวมเสื้อผ้าก่อนจะคลานออกไป สวมรองเท้าและดูฉือหางกำลังทำราวกั้น
"เช่นนี้จะได้ผลหรือไม่?” หลินกู๋หยู่ช่วยฉือหางพยุงของ เฝ้าดูเขาทุบมันด้วยค้อนแล้วเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจเล็กน้อย
“พวกมันะโเข้ามาไม่ได้” ฉือหางพูดขณะตอกราวกั้น
มีช่องว่างเพียงเล็กน้อยระหว่างราวกั้นแต่ละอัน เขาไม่ลืมที่จะผูกมันด้วยเชือกเป็อย่างดี
“ข้าจะไปทำอาหาร” หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหางและพูดเสียงต่ำ “อีกเดี๋ยวโต้ซาน่าจะตื่นแล้ว”
"เ้าไปทำงานของเ้า ข้าจะทำงานส่วนของข้าเอง” ฉือหางยกมือขึ้นปาดเม็ดเหงื่อที่หน้าผาก ง่วนกับงานของตนเองต่อไป
หลินกู๋หยู่เก็บหยดน้ำจากใบไม้ลงในชามและรวบรวมได้มากมายภายในเวลาอันสั้น
ที่นี่ไม่มีแม่น้ำ ดังนั้นหาก้าดื่มน้ำก็สามารถทำได้เท่านี้
หลินกู๋หยู่ต้มน้ำแล้วตักน้ำออกพร้อมที่จะเริ่มทำอาหาร
ตอนนี้ไม่มีปัจจัยเท่าที่เคยมีอีกต่อไป สิ่งที่หลินกู๋หยู่ทำได้คือต้มน้ำแกง โดยคิดว่าอีกสักพักจะต้มบะหมี่ เช่นนั้นมันน่าจะสะดวกกว่า
หลังจากปรุงอาหารเสร็จแล้ว หลินกู๋หยู่ได้ยินเสียงลุกขึ้นนั่งบนเตียงของโต้ซา
นางเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะช่วยโต้ซาชำระล้างและแต่งตัว
“พี่ฉือหาง ได้เวลาทานข้าวแล้ว” พอหลินกู๋หยู่จัดแจงทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นางก็เรียกฉือหาง
ฉือหางเดินไปด้านหน้าหลินกู๋หยู่ ล้างมือแล้วเตรียมที่จะทานอาหาร
เขาเป็ช่างฝีมือดี ตอนนี้เขาสร้างราวกั้นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งเสร็จแล้ว
หลังจากทานอาหารเช้า ฉือหางก็ทำงานต่อไป โต้ซากำลังเล่นกับสิ่งต่างๆ ด้านข้าง ในขณะที่หลินกู๋หยู่กำลังจัดข้าวของ
พอถึงตอนเที่ยง ทุกอย่างก็ถูกเก็บเข้าที่พอสมควรแล้ว สองคนนำเอาอาหารทั้งหมดไปไว้ในห้องนอนแล้วลงกลอนด้วยกุญแจ
ทั้งสองคิดจะย้ายของที่บ้าน จึงวางโต้ซาลงในอ่างอาบน้ำ
น้ำด้านล่างดูเหมือนจะไม่ลดลงเลย หลินกู๋หยู่และฉือหางลากอ่างน้ำลงไปในน้ำโดยตรง
เมื่อมาถึงบ้านก็พบว่ากำแพงด้านหนึ่งพังทลายลงมาแล้ว
ทั้งสองคนเก็บข้าวของที่สามารถใช้ได้ทั้งหมดก่อนที่จะเตรียมตัวออกเดินทาง
ในขณะที่สถานการณ์ในบ้านหลังใหญ่ของสกุลฉือก็ไม่ดีเท่าใดนัก ตัวบ้านพังไปกว่าครึ่งแล้ว
แววตามองเห็นหญ้าฟางที่อยู่ไม่ไกล นางเอาไปกองไว้บนกระดานไม้ หลินกู๋หยู่จัดระเบียบหญ้าฟางอย่างเรียบร้อยมาก
นอกจากนี้ยังมีกองขนห่าน หลินกู๋หยู่คิดว่าสิ่งนี้สามารถเย็บผ้านวมได้ ถึงเวลานั้นมันจะทำให้ผ้านวมอุ่นขึ้นได้
หลินกู๋หยู่นำสิ่งของภายในบ้านเกือบทุกอย่างที่พอจะสามารถใช้ได้
“เ้าสาม” ฉือซู่ยืนอยู่ที่ลานบ้านฝั่งนั้น ดูสิ่งของของฉือหางและเอ่ยถามด้วยความงุนงงว่า “ทำไมพวกเ้าไม่อยู่บ้าน ตอนนี้บ้านยังอยู่ได้”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือซู่พูด ฉือหางก็ยิ้มจางๆ "ข้าไม่รู้ว่าอีกสองวันมันจะเป็เช่นนี้อีกหรือไม่ ขึ้นไปอยู่บนูเาย่อมปลอดภัยกว่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าบนนั้นไม่มีน้ำขังมากถึงเพียงนี้"
เมื่อฉือหางพูดจบ เขาก็เห็นคนสามถึงห้าคนยืนอยู่ที่ประตู
หลินกู๋หยู่มองคนเ่าั้ด้วยความงงงวยและกล่าวทักทาย คนเ่าั้ก็ตอบอย่างสุภาพเท่านั้น
ขณะที่รอให้หลินกู๋หยู่และฉือหางเดินขึ้นูเา คนเ่าั้ก็เดินตามพวกเขาไปไม่ห่าง
เมื่อพวกเขาขึ้นไปบนูเา คนเ่าั้ก็มองไปที่บ้านของหลินกู๋หยู่และสร้างเลียนแบบ
หลินกู๋หยู่ไม่สนใจคนเ่าั้ ยังคงยุ่งอยู่กับเื่ของตนเอง
หลังจากผ่านไปสามวัน ฉือหางก็สร้างบ้านด้วยไม้เสร็จแล้ว พวกเขาไม่ต้องนอนในห้องที่ทั้งเล็กและแคบอีกต่อไป
ขนาดบ้านไม่ใหญ่มาก แต่วางเตียงได้พอดี ใส่ของในบ้านได้ นอกจากนี้ยังสามารถวางเตาได้
้าของบ้านเป็รูปทรงสามเหลี่ยมซึ่งสะดวกต่อการระบายน้ำ เขาใช้เสื้อฟางกันฝนจำนวนมากวางไว้บนกระดานไม้ด้านในและนำหญ้าฟางทั้งหมดที่นำมาในตอนแรกวางไว้บนนั้นด้วย
ไม่รู้ด้วยสาเหตุใด คนเ่าั้สุภาพกับฉือหางและหลินกู๋หยู่อย่างมากและช่วยพวกเขาสองคนทำทุกอย่าง
บ้านของพวกเขาเ่าั้สร้างขึ้นโดยเปรียบเทียบรูปลักษณ์ของบ้านของฉือหาง
จ้าวซื่อและหลินเสี่ยวหานก็มาด้วย เมื่อเห็นทั้งสองคน มุมริมฝีปากของหลินกู๋หยู่ก็อดไม่ได้ที่จะโค้งขึ้น
“ท่านแม่ ท่านรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราอยู่ที่นี่?” หลินกู๋หยู่มองไปที่สิ่งของทั่วไปที่จ้าวซื่อและหลินเสี่ยวหานกำลังถืออยู่ เอ่ยถามด้วยความงุนงง
"ถามคนในครอบครัวของแม่สามีของเ้าแล้ว พวกเขาบอกว่าพวกเ้าอยู่ที่นี่ บ้านของเราก็น้ำท่วมทั้งหมดแล้วด้วย ดังนั้นข้าจึงมาหาพวกเ้า" จ้าวซื่อกล่าว สายตาของนางจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินกู๋หยู่ ลูกสาวของนางไม่ใช่ลูกสาวคนเดิมอีกต่อไป ลูกสาวคนปัจจุบันมีความคิดเป็อิสระและมีความฉลาดเฉลียว การติดตามลูกสาวคนนี้ย่อมไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน
หลินกู๋หยู่ได้ยินสิ่งที่จ้าวซื่อพูดและพูดต่อว่า "เดิมทีข้าจะไปหาพวกท่านหลังจากสร้างบ้านที่นี่เสร็จ แต่ไม่คิดว่าพวกท่านจะมาที่นี่"
เมื่อมองไปที่บ้านไม้ของฉือหางและหลินกู๋หยู่ จ้าวซื่อรู้สึกตัวสั่นเล็กน้อย หลังจากคิดเกี่ยวกับเื่นี้แล้ว มันก็ไม่เลวเลยที่จะได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้
ในตอนบ่ายฉือหางช่วยหลินเสี่ยวหานสร้างบ้านหลังเล็กข้างๆ เพื่อที่จะได้ดูแลจ้าวซื่อและหลินเสี่ยวหาน
บ้านสำหรับสองแม่ลูกไม่จำเป็ต้องใหญ่โตมาก เขาสร้างออกมาอย่างเรียบง่าย ขอแค่สามารถกำบังลมและกำบังน้ำฝนได้ก็เพียงพอแล้ว
ไม่รู้ด้วยสาเหตุใด หลินกู๋หยู่มักจะรู้สึกเสมอว่าคนเ่าั้ดูแลพวกเขาเป็พิเศษ ยามที่พวกเขาช่วยจ้าวซื่อสร้างบ้าน คนเ่าั้ก็จะอาสาช่วยโดยไม่เรียกร้องอะไร แม้แต่เมื่อหลินกู๋หยู่เรียกเชิญให้พวกเขาทานอาหาร พวกเขาก็กล่าวปฏิเสธอย่างสุภาพ
ในวันที่สี่ ในที่สุดท้องฟ้าก็แจ่มใสขึ้น
ใน่ที่ผ่านมานี้หลินกู๋หยู่เก็บไม้เปียกทุกวัน ยามนี้เป็เวลาที่เหมาะสมที่จะตากไม้เ่าั้ให้แห้ง
อากาศชื้นไม่ดีต่อสุขภาพของผู้คน พวกเขายังคงชอบแสงแดด
พอเห็นแสงแดด ทุกคนก็รีบเอาของไปตากแดด
ทว่าน่าเสียดายที่เวลาดีๆ อยู่ได้ไม่นาน ในวันที่ห้าฝนก็ตกหนักอีกครา
หลินกู๋หยู่นั่งอยู่บนเตียง เย็บผ้านวมด้วยมือพลางยัดขนเป็ดลงไปด้านใน
ได้ยินเสียงดังของฝนที่ตกกระทบหลังคาบ้านอย่างแรงเป็พิเศษ
หลินกู๋หยู่แหงนหน้ามองขึ้นไปบนหลังคา โชคดีที่ไม่มีน้ำรั่ว
พวกเขาที่อาศัยอยู่บนูเาโดนฝน แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ฝนตกหนักเช่นนี้ราวกับไม่สามารถหยุดได้ มันตกลงมาอย่างเหิมเกริม
ผู้คนจำนวนมากอพยพขึ้นมาบนูเา
พื้นที่เปิดโล่งนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยผู้คนจากหมู่บ้าน
ภายใต้คำแนะนำของหลินกู๋หยู่ ทุกคนได้เตรียมถังไม้สำหรับใส่อุจจาระเป็พิเศษ เมื่ออากาศดี พวกเขาก็ขุดหลุมและเทอุจจาระทั้งหมดลงไปเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะเน่าเสีย
ในตอนกลางวัน
ในขณะที่ฝนกำลังตกอย่างเหิมเกริมข้างนอก และหลินกู๋หยู่กำลังทำอาหาร จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงมาจากข้างนอก
“ลูกเอ๋ย เ้าอยู่ที่ไหน?”
เสียงนี้ฟังดูคุ้นเคย แต่หลินกู๋หยู่จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินเสียงนี้จากที่ใด
หลินกู๋หยู่โผล่ศีรษะออกมาดูด้วยความประหลาดใจ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งในสภาพผมกระเซอะกระเซิงเปียกน้ำ สวมชุดสีเขียวยืนอยู่ที่ประตู
ใบหน้าของนางเป็สีดำจ้ำหนึ่งและสีแดงอีกจ้ำหนึ่ง ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าดั้งเดิมของนางได้เลย
หลินกู๋หยู่มองไปที่สตรีผู้นั้นด้วยความฉงน แต่ก่อนที่จะได้ทันตอบสนองก็เห็นว่าสตรีผู้นั้นเข้ามาแล้ว
"ลูกเอ๋ย ลูกชายของข้า" สตรีผู้นั้นร้องเรียกและรีบวิ่งไปอุ้มโต้ซา
เมื่อได้ยินเสียงของสตรีผู้นั้น หลินกู๋หยู่ยิ่งขมวดคิ้ว เอ่ยถามด้วยความงุนงงว่า "เ้าเป็ใคร?"
"นี่คือลูกชายของข้า ทำไมหรือ ข้าไม่สามารถเจอลูกชายของข้าหรือไง?" จ้าวหยางที่เปียกไปทั้งตัว อุ้มโต้ซาขึ้นมา ทำให้โต้ซาพลอยเปียกน้ำฝนไปด้วย
เมื่อฉือหางได้ยินเสียงนั้น เขาก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น ใบหน้าของเขาฉายแววความกระวนกระวายใจอย่างเต็มเปี่ยม "ใครให้เ้ามาที่นี่?"
หลินกู๋หยู่มองดูท่าทีของจ้าวหยางและกำลังจะคว้าตัวของโต้ซา แต่จ้าวหยางก็หลบหลีกปกป้องโต้ซาอย่างเต็มที่
"ทำไมหรือ?" ดวงตาของจ้าวหยางเปิดกว้าง ลูกตาสีดำดูเหมือนใกล้จะหลุดออกมาอย่างรอมร่อ "ทำไมข้าจะมาดูลูกชายของข้าไม่ได้?"
“ท่านแม่!” โต้ซาผลักจ้าวหยางออกไปอย่างเต็มแรง วิ่งไปหาหลินกู๋หยู่อย่างว่องไว ก่อนที่จะกอดต้นขาของหลินกู๋หยู่
หลินกู๋หยู่ยิ้มขณะลูบศีรษะของโต้ซาอย่างอ่อนโยน
“เ้าทำของอะไรใส่ลูกชายของข้า?” จ้าวหยางชี้ไปที่ปลายจมูกของหลินกู๋หยู่ด้วยความโมโห “นั่นคือลูกชายของข้า ไม่ใช่ลูกชายของเ้า!”
“นี่คือบ้านของข้า ไม่ใช่บ้านของเ้า ออกไป!” หลินกู๋หยู่ชี้ไปข้างนอกด้วยความโกรธ
ข้างนอกฝนตกเสียงดังมาก
จ้าวหยางไม่เคยยอมให้ตนเองลำบากมาั้แ่ไหนแต่ไร นางจะออกไปอยู่ข้างนอกในเวลานี้ได้อย่างไร?
"นี่คือบ้านของลูกชายของข้า!" จ้าวหยางทรุดตัวลงนั่งลงบนพื้น ไม่สนใจก้อนหินบนพื้นแต่อย่างใด
“เ้ามีสามีใหม่แล้ว” ดวงตาของหลินกู๋หยู่จับจ้องไปที่ใบหน้าของจ้าวหยาง คิ้วของนางขมวดแน่นขึ้นขณะพูดอย่างโกรธๆ “เกิดอะไรขึ้น เ้าอยากอยู่บ้านของพวกเรางั้นหรือ?”
จ้าวหยางกลอกตานั่งลงบนพื้นด้วยใบหน้าไร้ยางอาย