เวลานี้ในเกมนอกจากอาชีพที่มีอยู่มากมายแล้ว ขณะนี้ได้มีอาชีพใหม่ที่เพิ่งจะมีขึ้น นั่นก็คือ ''นักล่า'' ซึ่งเกิดขึ้นจากความ้าของสังคมนักล่านั้นดำรงชีพอยู่ด้วยการรับจ้างทำภารกิจต่างๆและคอยขจัดความกังวลให้กับประชาชน หรือพูดง่ายๆ ก็คือพวกเขารับเงินจากผู้คนเพื่อขจัดภัยอันตรายให้
ภารกิจของนักล่านั้นมีที่มาจาก3 แหล่งด้วยกัน หนึ่งก็คือได้รับโดยตรงจากสหพันธ์ทหารรับจ้างซึ่งจะมีภารกิจมากมายทุกวัน ทำให้พวกนักล่าไม่จำเป็ต้องเสียเวลาเพื่อค้นหาภารกิจแต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่ถ้าทำงานไม่สำเร็จเงินมัดจำก็จะถูกหักบางส่วน แต่ต่อให้งานสำเร็จเงินบางส่วนก็ต้องโดนหักอยู่ดีหรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ ติดต่อโดยตรงกับผู้เล่นที่เชื่อถือได้โดยวิธีนี้จะมีการเรียกเก็บเงินมัดจำั้แ่แรก เพราะต่อให้ทำงานล้มเหลวก็ยังไม่ถึงกับสูญเสียสักทีเดียวแต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่ตรงที่ผู้เล่นจะยอมจ่ายให้กับนักล่าที่มีชื่อเสียงเท่านั้นทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสให้กับนักล่าที่ยังไม่ดัง หรือไม่ค่อยมีชื่อเสียงจึงมีโอกาสได้รับงานน้อยลงไปด้วย นอกเสียจากเป็คนคุ้นเคย และอย่างสุดท้ายก็คือล่าค่าหัวตามคำสั่งของกิลด์์ ไม่จำเป็ต้องรับภารกิจมาก่อนไม่ต้องจ่ายเงินมัดจำ ผู้เล่นทุกคนสามารถทำได้ไม่จำเป็ต้องลงทะเบียนหมายเลขงานของนักล่า แค่ทำงานให้สำเร็จตามคำสั่งล่าคุณก็จะสามารถรับเงินจากกิลด์์ได้โดยตรงกิลด์์เองก็เป็กลุ่มที่ทรงอิทธิพล ไม่อาจทำผิดสัญญากับผู้เล่นได้โดยง่ายดังนั้นผู้เล่นไม่จำเป็ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับเงินโดยภารกิจนี้ให้อิสระเป็อย่างมาก ซึ่งเป็ที่ชื่นชอบของนักล่าส่วนใหญ่อย่างไรก็ตามภารกิจประเภทนี้โดยปกติจะไม่ค่อยมีให้เห็นมากนักเฉพาะพวกที่มีเงินมากมายจนไม่มีที่จะให้เผาเล่น
ฉินโจ้วนั้นโชคไม่ดีเอาเสียเลยเขาเจอกับนักล่าั้แ่่กลางทาง มีนักล่ามาด้วยกันห้าคนและยังเป็นักล่าระดับหนึ่งดาวทั้งหมด โดยปกติแล้วเราจะแบ่งนักล่าออกตามระดับเลเวลเมื่อลงทะเบียนกับสหพันธ์ทหารรับจ้าง ก็ต้องรับภารกิจระดับ G 10 ชิ้น และอัตราการทำภารกิจผ่านต้องไม่ต่ำกว่า 80%จึงจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นักล่าระดับครึ่งดาวได้ ขั้นต่อไปก็คือ ภารกิจระดับ F10 ชิ้น และเมื่อทำภารกิจสำเร็จไม่ต่ำกว่า 80%จึงจะได้เลื่อนขั้นเป็นักล่าระดับหนึ่งดาว เมื่อเป็ได้แล้วเราก็จะเรียกว่านักล่าอาชีพ นักล่าที่มาถึงระดับขั้นหนึ่งดาวล้วนแล้วแต่ทรงพลังยิ่งนัก
นักล่าทั้งห้าที่ดึงดูดสายตามากที่สุดก็คือเมจธาตุไฟ ที่สวมผ้าคลุมเวทสีแดงที่ดูร้อนแรงคล้ายกับไฟส่วนคนที่สูงสุดนั้นเป็นักรบชื่อว่า วัวแดงและดูเหมือนยังมีผู้เล่นอีกคนที่ไม่ได้ซ่อนชื่อไว้ เมจธาตุดิน ตัวเตี้ย รูปร่างหน้าตาไม่น่าสนใจและมีขโมยอีกคนหนึ่งในมือถือมีดสั้นส่องประกายแสงสีทองดูแล้วคงน่าจะเป็อาวุธระดับทองคำ ซึ่งในตอนนี้อาวุธระดับทองคำยังมีค่อนข้างน้อยและคนที่นำอุปกรณ์ทองคำออกมาใช้ได้ ถ้าไม่แข็งแกร่งมากก็คงจะต้องรวยมากเป็แน่ส่วนคนที่ยืนอยู่ห่างไกลที่สุดก็เป็นักธนูที่ดวงตาเฉียบคมคล้ายกับนกเหยี่ยว
ดูจากท่าทางการแสดงออกแล้วทั้งห้าคนนั้นไม่ได้มาจากทีมเดียวกัน คงเพิ่งจะเคยพบหน้ากัน
ไม่มีอะไรต้องพูดคุยบนถนนแคบๆ ผู้ชนะคือคนที่กล้าหาญที่สุด ตำแหน่งที่แตกต่าง ดูแล้วไม่ค่อยสมเหตุสมผลเพื่อความไม่ประมาท ฉินโจ้วจึงเรียกทหารโครงกระดูกห้าตัวออกมาดูเหมือนว่านักล่าทั้งห้าจะมีความคิดเดียวกัน พวกเขาไม่พูดพร่ำทำเพลงตรงเข้าโจมตีอย่างรุนแรงในเวลาเดียวกัน แสงจากดาบเวทรวมกันก่อนจะไหลพุ่งออกมา
นักธนูที่อยู่ไกลสุดเข้ามาโจมตีได้อย่างรวดเร็วที่สุดลูกธนูทั้งสามดอกพุ่งตรงมาราวกับอุกกาบาต ทั้งยังรวดเร็วดุจสายฟ้าก่อนจะพุ่งตรงใส่ศีรษะ หัวใจ และท้องของฉินโจ้วตามลำดับแสดงให้เห็นถึงทักษะในการยิงขั้นสูง
ฉินโจ้วเองก็ไม่ใช่เมจระดับทั่วไปความเร็วและทักษะทางร่างกายของเขานั้นเร็วกว่าขโมยเสียอีกเขาสะบัดศีรษะก่อนที่ลูกธนูดอกแรกจะพุ่งผ่านไป เขาออกคำสั่งในใจทหารโครงกระดูกพุ่งเข้ามาขวางหน้าด้วยความเร็วปานสายฟ้าและผ่าแยกลูกธนูทั้งสองที่ตามหลังมา เป็การทำลายการโจมตีของนักธนูได้อย่างง่ายดาย
ส่วนทหารโครงกระดูกตัวอื่นก็จับกลุ่มต่อสู้อย่างร้อนแรงระหว่างเมจทั้งสองคนกับหนึ่งนักรบ
ส่วนโจรคนที่สองผู้ซึ่งสามารถเข้าถึงตัวของเขานั้นเขาสามารถฝ่าการป้องกันของทหารโครงกระดูกและตรงเข้ามาโจมตีฉินโจ้วได้ในชั่วพริบตาทันทีที่เข้ามาถึงตัวฉินโจ้ว ดาบของเขาก็มาจ่อถึงคอหอยเสียแล้ว ดูท่าทางเ็าและดาบก็ส่องประกายเย็นเยียบ เต็มไปด้วยรังสีแห่งการฆ่าฟัน
ฉินโจ้วสูดลมหายใจเข้าในขณะที่ในใจสงบราวกับน้ำนิ่ง ในบรรดาผู้เล่นทั้งห้าถ้าไม่นับนักธนูแล้วก็มีแค่ขโมยเท่านั้นที่สามารถคุกคามเข้ามาได้ส่วนความเร็วของคนอื่นนั้นเขาไม่สนใจแม้แต่น้อย
ไม้เท้าเพลิงดำสั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่ ''ดีเลย์'' และ ''หน่วง'' ขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยเวท ''หน่วง'' สิบสายได้พุ่งออกไปทักษะเวททั้งสองนี้ได้มาถึงในระดับเลเวลที่เกือบจะเต็มแล้วเมื่อเวทได้แผ่พุ่งออกไป ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เร็วเท่ากับเวทอุกกาบาตแต่มันก็ยังไร้สีและยังสังเกตได้ยาก คงจะมีแต่ผู้เล่นที่สายตาดีมากจึงจะสังเกตเห็นร่องรอยแห่งแสงนี้ดูแล้วขโมยคนนี้คงไม่ได้เป็คนประเภทดังกล่าวก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มหนักอย่างอธิบายไม่ได้ร่างกายที่คล่องแคล่วของเขาดูคล้ายกับได้ผ่านการวิ่งตลอดทั้งวันและคืนมาอย่างยาวนานความอ่อนแออย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งร่างจนมีดสั้นที่ถืออยู่เริ่มสั่นไหว
"หนามกระดูก"
โดยปราศจากการลังเลหลังจากเวทสนับสนุนทั้งสอง ''หนามกระดูก'' ก็ถูกร่ายตามไปติดๆ หนามกระดูกยี่สิบชิ้นพุ่งปรากฏขึ้นในอากาศรวดเร็วดุจลูกธนู ในระยะห่างอันใกล้แค่นี้ ขโมยไม่สามารถหลบหนีได้อย่างแน่นอนและเขาเองตอนนี้ก็ไร้สิ้นเรี่ยวแรงอีกด้วย
ขณะที่ขโมยก้าวขาเข้ามาได้หนึ่งก้าวกระดูกหนามก็แทงทะลุร่างเขาจนคล้ายเป็รังผึ้ง ก่อนที่เขาจะตายท่าทางของเขายังคงรู้สึกสับสนไม่เข้าใจ ก่อนที่เขาจะดรอปมีดสั้นที่ถืออยู่ในมือช่างเป็ขโมยที่โชคร้ายเสียจริง ในความคิดของฉินโจ้ว ก็เหมือนช้อนดวงจันทร์ด้วยมือ(ดีใจเก้อ... นั่นเอง)
มีดสั้นวายุ: อาวุธระดับทองคำ พลังโจมตี +350 พละกำลัง +3 ความเร็ว +3 ทักษะเสริม : มึนงงมีโอกาส 55% ที่ทำให้ศัตรูมึนงง เป็เวลา 3 วินาที ระยะเวลาใช้ : 1 ชั่วโมง อาชีพที่้า: นักฆ่า,ขโมย
ฉินโจ้วรู้สึกใมีโอกาสมึนงง 55% เป็เื่ยากที่จะมีทักษะที่เกิน 55%หรือเรียกได้ว่าสูญเสียการเคลื่อนไหวสมบูรณ์แบบ และยังนานถึง 3 วินาทีแค่สามวินาทีก็เพียงพอที่จะทำอะไรหลายอย่างได้สำเร็จ และทักษะ ''มึนงง'' ยังสามารถขัดจังหวะการใช้ทักษะอื่นได้อีกมันเป็อาวุธที่จำเป็ต้องมีสำหรับการสังหาร ลอบเร้นหรือจัดการบอสเป็อาวุธระดับสุดยอด เสียแต่ว่าจำกัดอาชีพผู้ใช้
ขโมยคนนั้นถูกสังหารต่อหน้าต่อหน้าทั้งสี่คนที่เหลือต่างตกตะลึง ก่อนที่นักรบวัวแดงจะะโใช้ทักษะด้วยเสียงอันดัง ''ผ่าน้ำตก'' พลังชี่สีเหลืองอร่ามรวมตัวกันก่อนจะพุ่งออกจากดาบโจมตีไปที่ทหารโครงกระดูก แคร๊ก! เสียงขาซ้ายของทหารโครงกระดูกหัก ก่อนที่ร่างกายจะเสียสมดุลจนล้มลงไปกองกับพื้น
วัวแดงะโเสียงดังอีกครั้งก่อนจะกระทืบเท้าทั้งสองและะโขึ้นไปบนอากาศดูแล้วน่าจะสูงไม่ต่ำกว่าสองเมตรเลยทีเดียวเลยข้ามทหารโครงกระดูกเพื่อเข้ามาโจมตีฉินโจ้ว ด้วยความแข็งแรงระดับนี้ผู้ที่สามารถะโสูงได้ไม่ต่ำกว่าสองเมตรคงต้องเป็ระดับผู้เชี่ยวชาญเป็แน่นักรบจับดาบด้วยสองมือ ยกมือขึ้นเหนือหัว ก่อนจะฟาดฟันลงมาอย่างรุนแรงและหนักหน่วงแต่อย่างไรนี่ก็เป็ทักษะศิลปะการต่อสู้ที่มีมาอย่างช้านานแล้ว
ทั้งทรงพลังและน่าหวาดกลัว
ต่อให้การโจมตีของวัวแดงจะรุนแรงแค่ไหนฉินโจ้วเองก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะตราบใดที่เขาไม่เข้าประชิดตัว เขาก็ไม่เกรงกลัวผู้ใดก่อนอื่นเขาโยนะเิซากศพออกไปก่อกวนนักธนูจากนั้นยกไม้เท้าเพลิงดำขึ้นและเวทสายฟ้า ไฟและดินรวมห้าสายถูกส่งออกมา
"เขย่าิญญา"
"อ่อนแรง"
"อ่อนแรง"
"หนามกระดูก"
"หนามกระดูก"
ทันทีที่ร่างกายของวัวแดงหยุดนิ่งทักษะถูกขัดจังหวะแล้ว และหลังจากที่ถูกเวทสองสาย ''อ่อนแรง''ก็ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนแอลงเป็อย่างมากความรุนแรงกลับกลายเป็เหมือนเกล็ดหิมะ ก่อนร่างจะร่วงหล่นลงสู่พื้นก่อนที่ร่างจะถึงพื้น เขาก็ถูกโจมตีด้วยหนามกระดูกกว่ายี่สิบชิ้นแต่อย่างไรก็ดีพลังป้องกันของเขานั้นน่าทึ่งเป็อย่างมากเขาก็มีเืเพียงพอที่จะทนรับการโจมตีได้ถึงแม้การโจมตีของหนามกระดูกนั้นไม่สูงมากนัก แต่มดสามารถกัดช้างตายได้ก่อนที่พลังชีวิตจะหมดและกลายเป็แสงสีเทา
เกือบจะเป็เวลาเดียวกันกับที่ฉินโจ้วจัดการปัญหาของวัวแดงเวทัไฟของเมจธาตุไฟก็ทำลายทหารโครงกระดูกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยและทหารโครงกระดูกอีกตัวก็ติดอยู่ใน ''หลุมกับดักดิน''ของเมจธาตุดิน
หลังจากจัดการทหารโครงกระดูกแล้วทั้งสองก็ส่ายไม้เท้าเวทก่อนจะร่ายเวทเตรียมโจมตีใส่ฉินโจ้ว
"หนามกระดูก"
"หนามกระดูก"
หนามกระดูกถูกยิงใส่ผู้เล่นทั้งสองเมื่อทักษะนั้นเข้าใกล้ระดับเลเวลสูงสุดจึงทำให้ความเร็วของหนามกระดูกนั้นรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อซึ่งเวลานี้ก็อยู่ต่อหน้าพวกเขาแล้ว
"ร่ายเวทต่อเนื่องเป็ไปได้อย่างไรกัน"
เมจธาตุไฟและเมจธาตุดินต่างร้องะโขึ้นในใจพวกเขาหวาดกลัวจนหัวแทบจะหลุดออกมาด้วย ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวการร่ายเวทต่อเนื่องเป็ความปรารถนาสูงสุดของอาชีพเมจเลยซึ่งฉินโจ้วเพิ่งแสดงมันออกมา
หนามกระดูกนั้นพุ่งมาเร็วเกินกว่าที่พวกเขาจะหลบได้ด้วยความเร็วอันน้อยนิดที่พวกเขามีพวกเขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะเปลี่ยนคำร่ายโล่ป้องกันมาตรฐานยังไม่มีเวลาแม้จะเรียกมันออกมาพวกเขาก็ถูกแทงด้วยหนามกระดูกจนกลายเป็รังผึ้งไปเสียก่อนและก็ถูกสังหารในเวลาเดียวกัน
ช่างง่ายดายเสียจริงศัตรูทั้งสี่คนถูกสังหารเรียบ ฉินโจ้วคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะไม่เกิน 20 วินาทีเขาค่อนข้างพอใจกับตัวเลขนี้
"ทหารม้าโครงกระดูก"
ฉินโจ้วอัญเชิญทหารม้าโครงกระดูกออกมาเพราะนักธนูนั้นมีความเร็วค่อนข้างสูง ทหารโครงกระดูกคงไม่สามารถไล่ทันเป็แน่จึงต้องปล่อยให้ทหารม้าโครงกระดูกเป็คนจัดการ
นักธนูโจมตีใส่ทหารโครงกระดูกที่เหลืออยู่น้อยนิดเป็ครั้งสุดท้ายก่อนปลิดชีวิตมันให้เหมือนว่าวที่หลุดลอยไปเขาสามารถจัดการทหารโครงกระดูกในเวลาอันสั้นสำหรับนักธนูแล้วด้วยความเร็วแบบนี้ถือว่าเร็วมากแสดงให้เห็นถึงพลังโจมตีที่ค่อนข้างมากเป็พิเศษของนักธนูแต่ในใจของนักธนูนั้นกลับไม่มีความรู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามสีหน้าของเขากลับดูน่าเกลียดอย่างไม่มีอะไรเทียบได้
เป็เพราะฉินโจ้วนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากในชั่วเวลาไม่กี่อึดใจนักล่าทั้งสี่ที่พละกำลังก็ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไรนักถูกสังหารจนหมดสิ้นด้วยความเร็วที่ทำให้ถึงกับขยาดไม่กล้าโจมตีฉินโจ้วอีกในตอนนี้ความคิดของเขามีเพียง้าจะหลบหนีออกจากที่นี่โดยเร็วเพื่อรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้
แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็เพียงแค่ความคิดเท่านั้นแต่ความเป็จริงกลับโหดร้ายนักทหารม้าโครงกระดูกเริ่มพุ่งทะยานใส่ด้วยความรวดเร็วจนเห็นเป็เพียงแค่เงาสีขาวก่อนจะหยุดยืนอยู่ต่อหน้านักธนูในทันที เมื่อเข้าถึงตัวได้นักธนูก็ไม่ต่างอะไรกับเมจเลย เพียงแค่เมจนั้นยังมีทักษะโล่คอยป้องกันแต่กับนักธนูแล้วไม่มีทักษะอื่นใดป้องกันเลยทหารม้าโครงกระดูกใช้การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็สามารถส่งนักธนูกลับสู่จุดเซฟได้อย่างปลอดภัย
ทันใดนั้นฉินโจ้วก็หันหลังกลับก่อนจะร่ายเวทส่งสองทักษะออกอย่างต่อเนื่อง
"หน่วง"
"หนามกระดูก"
ห่างจากฉินโจ้วไปแค่สามฉื่อในอากาศเกิดร่องรอยการกระเพื่อมของน้ำ ก่อนจะปรากฏร่างของนักฆ่าขึ้นในอากาศมีดสั้นของเขาแทบจะััถูกตัวฉินโจ้วแล้ว แต่ระยะห่างที่ว่ากลับดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดดวงตานักฆ่าเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวและเสียดาย อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะสังหารฉินโจ้วได้และรับเงินรางวัล 600 เหรียญทองเขาไม่คาดคิดเลยว่าการพรางตัวอย่างสมบูรณ์ของเขาจะถูกค้นพบได้ไม่มีใครตอบคำถามเขาได้ในเื่นี้ ก่อนที่เขาจะถูกส่งกลับจุดเซฟไปอย่างไม่เข้าใจในใจนั้นเต็มไปด้วยความเสียดาย
ชายคนนี้คิดว่าตนเองนั้นพรางตัวได้อย่างมิดชิดดีแล้วแต่ไหนเลยจะหลบซ่อนการค้นหาจากสายตา ''เนตรเซียนพญายม''ของฉินโจ้วไปได้ เขาเองไม่อยากเปิดฉากสังหารก่อนเพราะไม่อยากทำให้อีกฝ่ายประหลาดใจ เขาแค่อยากเก็บไพ่ตายของเขาเอาไว้ซึ่งนั่นก็คือ ''เนตรเซียนพญายม'' กับ ''ฝ่ามือวชิระเทวราช'' ในส่วนของ ''เนตรเซียนพญายม'' ทำให้เขาไม่เคยกลัวการซุ่มโจมตีของนักฆ่าเลยแม้แต่น้อยส่วน ''ฝ่ามือวชิระเทวราช'' นั้นทำให้เขาสามารถรับมือกับการต่อสู้ระยะประชิดได้ซึ่งเป็การแหกกฎเกณฑ์ของเมจที่ไม่สามารถต่อสู้ในระยะใกล้ทิ้งไป
หลังจากที่นักฆ่าได้ถูกจัดการไปก็ปรากฏเหรียญเงิน 30 เหรียญตกอยู่ มันค่อนข้างน้อยไปหน่อยส่วนนักธนูก็ไม่ได้ดีกว่ากันเสียเท่าไร ได้มา 60 เหรียญเงินส่วนนักรบหนุ่มผู้ใจกว้างก็ให้มาแค่ 2 เหรียญทองเมจธาตุดินก็ดรอปยาน้ำเงินมาชุดหนึ่ง ส่วนเมจธาตุไฟก็ดรอปไข่มุกิญญาธาตุไฟมาดูแล้วน่าจะเป็ของหายากอยู่
ไข่มุกิญญาธาตุไฟ: สมบัติหายาก สามารถสวมใส่ไว้ในร่างกาย เพิ่มพลังเวทธาตุไฟ +20%เพิ่มพลังป้องกันธาตุไฟ +50% เพิ่มพลังป้องกันธาตุน้ำและน้ำแข็ง +20%
ว้าว...สมบัติหายาก ไข่มุกนี่อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 1,000 เหรียญทองแล้วแถมยังไม่มีขายในตลาดอีกด้วย เมจธาตุไฟได้สมบัติแบบนี้มาไว้แสดงว่าต้องเป็คนที่โชคดีอยู่พอสมควร เป็เขานี่คงแทบนอนไม่หลับเลยในส่วนของพลังโจมตีธาตุไฟ +20% นั้นไม่มีประโยชน์สำหรับฉินโจ้วแต่คุณสมบัติสองอย่างหลังนี่สิเป็สิ่งที่เขา้าเพราะพลังป้องกันเวทของเขานั้นต่ำเตี้ยมาก ด้วยไข่มุกิญญาธาตุไฟนี้อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลมากนัก เมื่อต้องเจอกับเมจธาตุไฟ น้ำ และน้ำแข็งอีก
ดูเหมือนว่าการสังหารผู้เล่นนั้นอุปกรณ์จะหล่นได้เร็วกว่าไล่จัดการกับมอนสเตอร์เสียอีก มูลค่าของไข่มุกิญญาธาตุไฟและมีดสั้นเองก็ไม่ต่ำกว่า1,500 เหรียญทองแล้ว ตีเป็เงินก็ราวๆ 1.5 ล้านหยวนได้ซึ่งบางคนหาเงินทั้งชีวิตยังไม่ได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขานั้นขาดประสบการณ์
เมื่อได้รู้ว่ามีบางคนคอยส่งเงินมาให้ใช้ฉินโจ้วจึงไม่กังวลในการเดินทางกลับเมืองัแม้แต่น้อย เขาค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้า มองซ้ายทีขวาทีพร้อมกับชื่นชมทัศนียภาพสองข้างทางอย่างรื่นรมย์ การเดินทางเพียงลำพังชมทิวทัศน์ไปด้วยก็เป็สิ่งที่ดีไม่น้อย ได้เห็นูเาเขียวขจี ท้องฟ้ากระจ่างดอกไม้มีใบสีแดงสลับเขียว มีแม่น้ำไหลผ่าน เสียงนกร้องไปทั่วขาดแค่สาวงามที่เดินร่วมทางก็เท่านั้น
ระยะทางยังไม่ถึง20 ลี้ ฉินโจ้วนั้นถูกโจมตีไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง มีทั้งมาเดี่ยว บางทีก็มาเป็กลุ่มส่วนผลน่ะหรือทั้งหมดส่วนใหญ่ก็โดนสังหาร ด้วยความช่วยเหลือของ ''เนตรเซียนพญายม'' และเหล่าทหารโครงกระดูกฉินโจ้วสามารถจัดการศัตรูได้สำเร็จเรียบร้อยและเดินทางกลับเมืองัโดยปราศจากอันตรายใดๆเวลานี้อุปกรณ์ต่างๆ ที่ฉินโจ้ว หาพบนั้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,300 เหรียญทองก็คงพูดได้ว่าได้โชคลาภเล็กๆ น้อยๆ ติดมือ
ในเมืองันั้นห้ามต่อสู้กันมันคงจะปลอดภัยกว่าถ้าจะกลับไปที่เมืองั
กิลด์์ตั้งค่าหัวเอาไว้แต่ฉินโจ้วกลับเลือกเดินทางกลับเมืองัในทางหลักนี่ก็ไม่ต่างจากการตบหน้ากิลด์์เลยทีเดียว
ถึงแม้ยังไม่หายสงสัยว่าทำไมกิลด์์ถึงไม่ส่งคนมาลอบสังหารแต่ตราบเท่าที่ยังมีนักล่าออกมา มันก็ไม่ต่าง จากกิลด์์ส่งมาอยู่ดีซึ่งเกมนี้นั้นจบลงด้วยกิลด์์เป็ฝ่ายพ่ายแพ้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้