เมื่อเห็นท่าทีของโจวซื่อเช่นนี้ ไม่ต้องบอกหลินกู๋หยู่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จะต้องเป็เพราะเงินเ่าั้อย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ทำให้นางสงสัยคือเงินของโจวซื่อยังอยู่หรือไม่
ด้วยหลักของเหตุผล เงินของครอบครัวพี่ใหญ่และฉือเย่สูญหายไปแล้ว เงินของโจวซื่อก็อาจหายไปด้วยเช่นกัน
แต่ตามที่ฉือหางและฉือเย่พูด ในวันนั้นโจวซื่อไม่ได้ออกมาโวยวาย กล่าวคือโจวซื่อน่าจะมีเงินอยู่ในมือ
หลังจากทำตามหลักจารีตประเพณี กล่าวคำอวยพรปีใหม่ให้กัน หลินกู๋หยู่ก็ไม่ลืมที่จะมอบเงินนำโชคให้ฉือิและฉือซง
ในวันปีใหม่นี้แค่เดินไปตามถนน กล่าวทักทายและกล่าวคำอวยพรวันปีใหม่ระหว่างเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน
ระหว่างทาง โต้ซาได้รับของกินได้มากมาย แต่เงินนั้นได้ไม่มากนัก
เช้านี้ทั้งเช้า หลินกู๋หยู่รู้สึกเหนื่อยมาก ในที่สุดก็กล่าวคำอวยพรปีใหม่ให้กันเสร็จแล้ว นางจึงกลับบ้านพร้อมกับฉือหาง
ได้ยินมาว่าฉือเย่กำลังจะสอบคัดเลือกข้าราชการระดับท้องถิ่นในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึง ตอนนี้เขาจึงเรียนอย่างหนักอยู่ที่บ้านของพวกเขา เพราะในบ้านของพวกเขาอบอุ่น
เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน โต้ซาวิ่งไปที่เตียงเล็กของตนเพื่อเล่น ขณะที่หลินกู๋หยู่และฉือหางก็เริ่มต้มเกี๊ยว
"น้องสี่?" ฉือหางมองไปที่ฉือเย่ซึ่งทานเกี๊ยวอย่างเหม่อลอย เอ่ยถามด้วยความสับสนเล็กน้อย "เ้าเป็อะไรไปหรือ?"
ฉือเย่ขมวดคิ้ว ทอดถอนหายใจด้วยความหนักใจ "ไม่มีอะไร"
"ทานอาหารเถอะ วันนี้เป็วันปีใหม่" ฉือหางพูดด้วยรอยยิ้ม "แม้ว่าปีที่แล้วจะมีเื่แย่ๆ อยู่บ้าง แต่ตอนนี้ก็เป็ปีใหม่แล้ว"
"พี่สาม" ฉือเย่มองไปที่ฉือหางอย่างลังเล พูดอย่างกังขา "วันนี้ข้าไม่ได้ออกนอกบ้าน ข้าได้ยินเสียงะโเอะอะที่นั่น เมื่อข้าเข้าไปใกล้ ข้าก็เห็นกลุ่มคนแปลกหน้าจากไปทันที"
“คนแปลกหน้าอะไรหรือ?” หลินกู๋หยู่เอ่ยถามลอยๆ ในขณะรับประทานอาหาร
"ข้าไม่รู้จักพวกเขา ดูเหมือนว่าเขากำลังตามหาพี่รอง" ฉือเย่ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น "เดิมทีข้าไม่เชื่อว่าพี่รองเป็คนเอาเงินไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะมีความเป็ไปได้”
เว้นแต่จะเป็หนี้เงินด้านนอก ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ขโมยเงิน
เมื่อพวกเขาแยกครอบครัวกัน พวกเขามีเงินห้าสิบตำลึงอยู่ในมือ
“นี่” ฉือหางหยุดชั่วคราว เงยหน้าขึ้นมองหลินกู๋หยู่และหยุดพูด
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองฉือหาง และเม้มริมฝีปากเบาๆ “นี่เป็เื่แปลก แต่กระนั้นก็อาจจะไม่ใช่ก็เป็ได้ บางทีอาจจะเป็คนที่มาขอความช่วยเหลือจากพี่รอง”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด ฉือเย่ก็ก้มหน้าลงช้าๆ ไม่พูดจา
ในวันที่สามของต้นปี หลังจากทุกคนรับประทานอาหารกลางวันแล้ว ฉือเย่อ่านหนังสือในมือ ขมวดคิ้วราวกับว่าเขายังคงคิดเื่เงินเ่าั้อยู่
"พี่ฉือหาง ที่บ้านมีฟืนไม่มากแล้ว พี่ไปเอาเข้ามาหน่อย!" หลินกู๋หยู่หันหน้าไปมองฉือหางด้วยรอยยิ้ม
ฟืนอยู่ที่ประตู เมื่อฉือหางยกเข้ามา เขาก็วางฟืนไว้ข้างๆ เตา พลางพูดเสียงเบา "เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียงจากฝั่งนั้น ดูเหมือนจะทะเลาะกัน"
"นี่ก็เพิ่งวันที่สามของปีใหม่ พวกเขาทะเลาะกันได้อย่างไร?" หลินกู๋หยู่ยิ้ม วางฟืนลงในเตา และพูดอย่างลอยๆ
"จริงๆ เป็การทะเลาะกันจริงๆ" ฉือหางพูดอย่างเคร่งขรึม ลดเสียงเบาลง "ข้ายังได้ยินเื่คืนเงินด้วย!"
“คืนเงิน?” หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วขณะใส่ฟืนทั้งหมดลงในเตา “เราไปดูกันเถอะ!”
"อืม" ฉือหางเดินเข้าไปข้างในหยิบเสื้อคลุม จากนั้นส่งเสื้อผ้าของหลินกู๋หยู่ให้นาง
ตอนแรกฉือเย่กำลังอ่านหนังสือ เมื่อเห็นพี่สามและพี่สะใภ้สามกำลังแต่งตัว จึงมองทั้งคู่ด้วยความประหลาดใจ
"เกิดอะไรขึ้น?" ฉือเย่ลุกขึ้น เอ่ยถามด้วยความสงสัย "พี่สาม พวกพี่จะไปทำอะไร?"
การแสดงออกบนใบหน้าของฉือหางหยุดชะงักชั่วคราว
"พวกเราจะออกไปข้างนอกสักพัก" หลินกู๋หยู่ดึงฉือหางเข้ามา นางรู้ว่าฉือหางไม่พูดโกหกอย่างแน่นอน "เ้าอยู่บ้านคอยดูโต้ซาดีหรือไม่?"
ฉือเย่ผงกศีรษะ
หลังจากคุยกับโต้ซา หลินกู๋หยู่และฉือหางก็ออกไป
ทันทีที่เดินออกมา สายลมเหนือก็พัดโชยมา ััได้ถึงความหนาวเย็น
“คืนเงินมา ถ้าไม่คืนเงิน เราจะทุบบ้านพวกเ้าทิ้ง!”
“อย่าคิดว่าพวกเ้าจะร่นเวลาไปได้ตลอด ข้าจะบอกเ้าให้ ไม่มีทาง!”
“เ้าคิดว่าข้าไม่กล้าถีบเ้าจริงๆ หรือ ข้าแนะนำให้เ้าคืนเงินข้าให้ดีๆ อย่าคิดเล่นแง่ ่เทศกาลปีใหม่ข้าเองก็ไม่อยากก่อเื่!”
.....
ดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงร้องไห้จากทางฝั่งนั้นอย่างคลุมเครือ
"่ปีใหม่ ทำไมถึงเกิดเื่เช่นนี้ได้?" ฉือหางพูดเสียงเบามองหลินกู๋หยู่อย่างสงสัย "เราไปดูกันเถอะ"
"รู้แล้ว"
ตอนนี้หลินกู๋หยู่มั่นใจแล้วว่าเงินถูกครอบครัวของเ้ารองเอาเงินไป ส่วนคนพวกนั้นเป็หนี้ได้อย่างไร นางก็ไม่รู้แล้ว
เมื่อทั้งสองคนมาถึงเรือนใหญ่ พวกเขาก็เห็นชายร่างสูงห้าคนะโใส่ฉือเทาและฟางซื่ออย่างดุเดือด
พอเห็นหลินกู๋หยู่ใกล้เข้ามา ซ่งซื่อก็รีบพาหลินกู๋หยู่และฉือหางกลับไปที่ห้อง
“พี่สะใภ้ใหญ่ เกิดอะไรขึ้น?” หลินกู๋หยู่มองไปที่ซ่งซื่ออย่างสงสัย
"ฮึ่ม ข้าบอกแล้วว่านางต้องเอาเงินไปอย่างแน่นอน ตอนแรกนางไม่ยอมรับ!" ซ่งซื่อชำเลืองมองฟางซื่ออย่างเหยียดหยาม นางลดเสียงลง "สองคนนั้นปล่อยเงินกู้"
เมื่อฟังซ่งซื่อพูดเช่นนี้ หลินกู๋หยู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พูดด้วยรอยยิ้มว่า "ในเมื่อปล่อยเงินกู้ เช่นนั้นก็ไม่เป็ไรสิ"
การปล่อยเงินกู้ ก็คือพวกเขาขึ้นราคาและให้คนอื่นยืม ตัวอย่างเช่น ถ้าพวกเขาให้ยืมสามตำลึง คนลูกหนี้จะต้องคืนเงินห้าตำลึงให้พวกเขา
“มันจะไม่มีอะไรได้อย่างไร?” ซ่งซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย “เ้าไม่รู้อะไร คนพวกนั้นให้นักพนันเ่าั้ยืมเงิน!”
นักพนัน?
ก่อนที่หลินกู๋หยู่จะประหลาดใจ ซ่งซื่อก็ยังคงพูดอย่างใจเย็นว่า "แต่คนเ่าั้ไม่มีเงินจ่ายคืนพวกเขา"
“คนเ่าั้เป็นักพนันหรือ?” เมื่อมองไปที่คนห้าคนข้างนอก หลินกู๋หยู่รู้สึกว่าพวกเขาดูไม่เหมือนนักพนันเลย
"คนพวกนั้นไม่ใช่นักพนัน แต่เป็คนจากร้านแลกเงิน!" ซ่งซื่อพูด ราวกับจำอะไรบางอย่างได้ นางตบมือด้วยอาการปวดศีรษะ "พวกเขาปล่อยเงินกู้นอกระบบไม่พอ แต่เพื่อ้าเงินเพิ่ม พวกเขาไปยืมเงินที่ร้านแลกเงิน พอไม่มีจ่ายพวกเขาจึงมาทวงหนี้”
กู้เงินจากร้านแลกเงินเพื่อปล่อยเงินกู้
ทันใดนั้น หลินกู๋หยู่ก็รู้สึกว่าคนเ่าั้ค่อนข้างมีความคิดเป็นักธุรกิจ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะรู้วิธีหาเงินจากตรงนี้
เพียงแต่เงินทั้งหมดนั้นพวกเขาให้นักพนันยืม เงินนั้นย่อมไม่ง่ายเลยที่จะเอาคืนมาได้
เช่นเดียวกับที่หลินกู๋หยู่คิด นางได้รู้จากปากของซ่งซื่อว่า ครอบครัวของเ้ารองยืมเงินเพื่อนำเงินไปปล่อยกู้ แต่ไม่มีนักพนันคนใดที่สามารถคืนเงินให้ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะเรียกร้องมากเพียงใด แต่กระนั้นพวกนักพนันเ่าั้ก็ไม่สามารถคืนให้ได้
การปล่อยเงินกู้นั้นเป็สิ่งที่ไม่อนุญาตเด็ดขาด คนในครอบครัวเ้ารองไม่กล้าไปแจ้งความ จึงผัดวันประกันพรุ่งจนถึงวันปีใหม่ ครอบครัวของเ้ารองจึงคิดขโมยเงินเพื่อนำเงินไปจ่ายคืน
นั่นเป็สาเหตุที่เงินของครอบครัวของพี่ใหญ่และฉือเย่สูญหายทั้งหมด
เมื่อโจวซื่อกลับมาจากข้างนอก เห็นท่าทางน่ากลัวของคนเ่าั้ ใบหน้าของนางยิ่งอัปลักษณ์ นางก้าวไปข้างหน้า "พวกเ้าเป็ใคร ใครขอให้พวกเ้ามาที่บ้านของพวกเรา?"
เมื่อคนเ่าั้เห็นโจวซื่อ พวกเขาแต่ละคนต่างหันศีรษะไปมองโจวซื่อ
ลูกตาของฟางซื่อกระตุก ร้องไห้ราวกับดอกสาลี่ต้องหยาดฝน วิ่งไปหาโจวซื่อพูดพลางร้องไห้ไปพลาง "ท่านแม่ พวกเราอยู่ไม่ได้แล้ว"
“เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเห็นว่าฟางซื่อกำลังร้องไห้ โจวซื่อก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างเป็ห่วง “เ้ายังตั้งท้องลูกอยู่ เ้าจะร้องไห้ได้อย่างไร?”
ฟางซื่อยื่นมือไปกุมหน้าท้อง พูดอย่างเจ็บใจว่า "ท่านแม่ ท่านไม่รู้อะไร เป็เพราะเ้ารองทำเื่ดีไว้ ในตอนแรกข้าก็ไม่เห็นด้วย แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาไปก่อเื่ลับหลังข้า ตอนนี้ไม่อาจปกปิดได้แล้ว"
ซ่งซื่อได้ยินจึงเดินเร็วเบื้องหน้าฟางซื่อ พูดด้วยใบหน้าเ็า "น้องสะใภ้รอง ข้าว่าเ้าพูดเช่นนี้ไม่ถูกกระมัง ข้าได้ยินมาว่าเ้าเป็คนลากน้องรองไปทำด้วยกัน!"
“เหลวไหล ข้าจะทำเื่เช่นนี้ได้อย่างไร?” ฟางซื่อชี้ไปที่ปลายจมูกของซ่งซื่ออย่างโมโห “ปกติข้าอยู่บ้านทั้งวัน ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าการปล่อยเงินกู้จะทำเงินได้?”
“ปล่อยเงินกู้?” ใบหน้าของโจวซื่อตกตะลึง มองไปที่ฟางซื่อด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะขมวดคิ้วพูดด้วยความโกรธว่า “บอกข้าสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
"เ้าเป็ผู้าุโของสกุลฉือใช่หรือไม่?!" ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าก้าวไปข้างหน้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ข้าถูกส่งมาจากร้านแลกเงินเพื่อทวงหนี้!"
"ทวงหนี้?" โจวซื่อมองซ่งซื่ออย่างสงสัย เห็นสิ่งผิดปกติบนใบหน้าของซ่งซื่อ นางพูดอย่างเ็า "บอกข้าเดี๋ยวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"
เมื่อใกับเสียงของโจวซื่อ ฟางซื่อก็หดคอมองไปที่ซ่งซื่ออย่างระมัดระวัง
"รีบพูดมาสิ!"
เมื่อเห็นฟางซื่อเช่นนั้น ฟางซื่อก็รู้สึกอึดอัดมากขึ้น
“เป็เช่นนี้ขอรับท่านป้า” ชายหนุ่มที่กำลังทวงหนี้พูดด้วยรอยยิ้ม “ลูกชายคนรองและลูกสะใภ้รองของท่านยืมเงินสามร้อยตำลึงจากธนาคารของเรา พวกเขาคืนมาแล้วหนึ่งร้อยตำลึง ยังขาดอีกสองร้อยตำลึง!"
จู่ๆ โจวซื่อก็รู้สึกถึงความมืดมิดเบื้องหน้า ยกมือขึ้นแตะที่ขมับของตัวเอง
ซ่งซื่อรีบพยุงโจวซื่อด้วยความว่องไว ร้องอย่างเป็กังวลว่า "ท่านแม่ ท่านเป็อย่างไรบ้าง?"
หลังจากทรงตัวยืนนิ่งได้ในที่สุด โจวซื่อก็เอียงศีรษะเพื่อเหลือบมองซ่งซื่อ จากนั้นขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้นมองฟางซื่อ เอ่ยถามด้วยความไม่เชื่อ "สิ่งที่พวกเขาพูดเป็ความจริงหรือไม่?"
เดิมทีฉือเทาขดตัวอยู่ข้างหลังฟางซื่อ แต่เมื่อเห็นว่าการแสดงออกของโจวซื่อแปลกไป เขาก็วิ่งไปข้างหน้าโจวซื่อและคุกเข่าลงโดยไม่ลังเล
ฟางซื่อเป็คนมีไหวพริบ เมื่อเห็นฉือเทาทำเช่นนั้น นางก็คุกเข่าลงเช่นกัน
“ท่านแม่” ฉือเทาพูดทั้งน้ำตา “ทั้งหมดเป็เพราะลูกไม่ดี ลูกสำนึกผิดแล้ว ตราบใดที่ข้าได้เงินของข้าคืน ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหาแล้ว!”
ปล่อยเงินกู้ ปล่อยเงินกู้
ทันทีที่นึกถึงเื่นี้ สีเืบนใบหน้าของโจวซื่อก็ค่อยๆ หายไป นางผลักซ่งซื่อออกไป พรวดเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ง้างมือตบหน้าฉือเทาโดยไม่ลังเล
“ใครบอกให้เ้าทำ ใครบอกให้เ้าทำเช่นนี้!” โจวซื่อน้ำตาไหลพรากลงมาอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อมองไปที่ฉือเทา นางก็แทบจะหายใจไม่ทัน
โจวซื่อยกมือขึ้นจับหน้าอกของนาง กระหืดกระหอบอย่างหนัก
เมื่อคนทวงหนี้เห็นท่าทางของโจวซื่อ จึงเอ่ยพูดอย่างใจเย็นว่า "ข้าคิดว่า... ท่านป้า ท่านบอกข้าเดี๋ยวนี้เลยดีกว่าว่า ท่านคิดจะจ่ายเงินคืนอย่างไร?"
“ไม่ก็ขายลูกชายกับลูกสะใภ้เสีย หรือท่านเอาเงินทั้งหมดมาคืนตอนนี้!” คนทวงหนี้พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “นี่เป็่เทศกาลปีใหม่ เราควรจัดการให้เสร็จเร็วๆ จะดีกว่า จะได้เฉลิมฉลองในเทศกาลปีใหม่ต่อไป!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้