หลิวฟางอยากกรีดร้อง!
พี่สาวเธอตั้งใจ ได้ยินคำพูดนี้ก็รู้ว่าตั้งใจ!
หลิวฟางพยายามสำรอกอยู่หลายที และชี้ไปยังหลิวฟาง “พี่เป็บ้าอะไร?”
เหลียงปิ่งอันได้กลิ่นเหม็นเน่าของเศษอาหาร ในใจก็โกรธเกรี้ยวเช่นกัน แต่เขาสุขุมกว่าหลิวฟาง และที่สำคัญที่สุดคือเศษอาหารถังนั้นไม่ได้กระเด็นโดนตัวเขามากเท่าไร ถ้าเหลียงปิ่งอันถูกสาดด้วยเศษอาหารเป็ถังเต็มเปา เวลานี้คงไม่อาจสงวนท่าทีไว้ได้เช่นกัน
“พี่รอง พวกเรารู้ว่าพี่เคือง ทุกคนเป็ญาติสนิทกันทั้งนั้น เป็ครอบครัวเดียวกัน ถึงได้มาเพื่ออธิบายต่อพวกพี่ในคืนนี้ทันทีไม่ใช่หรือ? พี่ดูสิว่าสาดเศษอาหารใส่อาฟางทั้งตัว ปกติเธอรักสะอาดยิ่งกว่าอะไรดี พี่ใจเย็นก่อน มีเื่อะไรทุกคนนั่งลงค่อยๆ คุยกันดีๆ เถอะ”
หลิวฟางตัวสั่นเทา
กลิ่นเหม็นบนร่างกายและความอับอายทางจิตใจทำให้เธออยากพุ่งเข้าไปเอาถังน้ำครอบศีรษะของพี่สาวเธอจริงๆ
คำพูดของเหลียงปิ่งอันเตือนสติเธอ
เพื่อหน้าที่การงานของเหลียงปิ่งอัน เพื่อสถานะของตนเองในตระกูลเหลียงนับจากนี้ไป หลิวฟางบอกตนเองว่าต้องทน
“พี่รอง นี่พี่...”
“แม่ ให้พวกเขาเข้ามาคุยเถอะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานออกคำสั่งมาจากในบ้าน หลิวฟางและเหลียงปิ่งอันจึงสามารถเข้าบ้านได้
ไฟทุกดวงถูกเปิดไว้ เซี่ยเสี่ยวหลานเกรงว่าอีกฝ่ายจะมองเห็นไม่ชัดเจน จึงตั้งใจเปลี่ยนหลอดไฟในสวนเป็กำลังไฟสูงโดยเฉพาะ ไฟทุกดวงเปิดสว่างเช่นนี้ ถ้าไม่ได้ตาบอดทุกคนย่อมเห็นทุกอย่างชัดเจน
หลิวฟางและเหลียงปิ่งอันเห็นเหลียงฮวนบุตรสาวสุดที่รักของพวกเขาโดนมัดติดกับเก้าอี้ สภาพตกระกำลำบาก มีเทปกาวสีดำแปะบนปากอีกด้วย เธอพยายามส่งเสียงร้อง ‘ฮือฮือ’ ในปาก แววตาตื่นตระหนก ใบหน้าเล็กเปรอะเปื้อนมอมแมม คราบน้ำตาจึงชัดเจนยิ่งนัก
“ฮวนฮวน!”
“เหลวไหลเกินไปแล้ว!”
สองสามีภรรยาโมโหเป็อย่างมาก
การโดนสาดเศษอาหารใส่ ยังเข้าใจว่าเป็เพราะหลิวเฟินและเซี่ยเสี่ยวหลานโกรธได้
โกรธก็ส่วนโกรธ ระบายอารมณ์กับเหลียงฮวนไปทำไม?
“รีบปล่อยเหลียงฮวนนะ... ไม่ต้องกลัวนะลูก เดี๋ยวพ่อจะแก้มัดลูกให้”
เหลียงปิ่งอันจะก้าวเข้าไปหา ทว่าเขากลับเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานเดินมาจากด้านหลังและหยุดอยู่ข้างเหลียงฮวน
“ฉันแนะนำให้พวกน้าสองคนยืนอยู่ตรงนั้นดีๆ นะ ตอนนี้ฉันอารมณ์พลุ่งพล่านมาก อาจทำเื่อะไรที่หุนหันลงไปก็ได้”
เหลียงปิ่งอันจะยอมรับการขู่เข็ญทางวาจาของเซี่ยเสี่ยวหลานได้อย่างไร
แต่ในมือเซี่ยเสี่ยวหลานกำลังถือมีดสั้นคมกริบ คมมีดนั่นจรดอยู่บริเวณลำคอของเหลียงฮวน ถัดจากเสื้อตัวบางที่เหลียงฮวนใส่อยู่ไปก็เป็ใบมีดเย็นเฉียบ เธอหวาดกลัวจนร้องไห้อีกครั้ง ทว่าไม่กล้าขยับเขยื้อนบนเก้าอี้อีกต่อไป
ขยับไปแล้ว มีดนั่นแทงเข้ามาในเนื้อเธอจะทำอย่างไร?
เหลียงฮวนถูกเซี่ยเสี่ยวหลานขังในห้องเก็บของมืดสนิทตลอดทั้งบ่าย กว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะปล่อยเธอออกมา ยังไม่ทันได้ดีใจ เธอรู้สึกว่าบริเวณเอวของเธอทั้งเจ็บและชา จากนั้นตัวเธอก็หมดสติไป พอตื่นมาอีกรอบ เธอก็พบว่าตนเองโดนจับมัดเรียบร้อยแล้ว พี่สาววิปริตคนนั้นของเธอกำลังลับมีดอยู่ข้างๆ พร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ
เหลียงฮวนนึกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเตรียมจะฆ่าเธอ จึงกลัวจนปัสสาวะราดกางเกงตรงนั้น
ตอนนี้เธอกล้าขยับเสียที่ไหน เมื่อครู่ไม่ฆ่าเธอ จะเก็บไว้รอพ่อแม่เธอมาถึงค่อยฆ่าสินะ?
เหลียงปิ่งอันกลัวจนหยุดนิ่งเช่นกัน หลิวฟางอยากกรีดร้องโวยวาย เซี่ยเสี่ยวหลานยื่นมีดมาด้านหน้า “ถ้าน้าร้องซี้ซั้ว ฉันจะแทงเธอให้ตายเลย คอยดู!”
หลิวฟางร้องไห้สะอึกสะอื้นหนัก ร้องแล้วก็ปิดปากไว้ ไม่กล้าร้องเสียงดังเกินไป
ลูกสาวเกือบจะไร้ชีวิตแล้ว เธอมีเวลาใส่ใจว่าเหม็นหรือไม่ที่ไหนกัน
“เสี่ยว เสี่ยวหลาน มีอะไรค่อยๆ คุยกันเถอะ ฮวนฮวนเป็น้องสาวเธอนะ พี่รอง พี่พูดอะไรบ้างสิ!”
หลิวฟางมองหลิวเฟินอย่างน่าเวทนา ตอนเด็กเมื่อเธอทำผิด พูดจาอ่อนหวานสองประโยค หลิวเฟินก็จะให้อภัยเธอเสมอ ใครใช้ให้เธอเป็น้องสาวคนเล็กของครอบครัวเล่า เพราะบิดามารดาจากไปเร็ว พี่ใหญ่กับพี่รองย่อมสัญญาว่าจะดูแลเธอเป็อย่างดี
หลิวฟางอยากถาม พี่ดูแลฉันแบบนี้หรือ? ลูกสาวพี่เป็คนเสียสติ พี่ไม่รู้จักควบคุมให้ดีเอาเสียเลย!
หลิวเฟินกลับไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใด ไม่แยแสต่อคำวิงวอนของน้องสาว
เหลียงปิ่งอันระงับความร้อนรนไว้ ลองพยายามเกลี้ยกล่อมเซี่ยเสี่ยวหลาน “หลานข้องใจอะไรก็พูดกับน้าได้ น้องสาวหลานขี้กลัว ถ้าหลานพลั้งพลาดทำร้ายเธอ ในอนาคตหลานเองก็จะเสียใจถูกไหมเล่า?”
เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มเยาะ
“ทำไม ลูกสาวพวกน้าเป็คน ถึงได้รู้ซึ้งรักใคร่เอ็นดู ส่วนลูกสาวคนอื่นเป็ต้นหญ้า สมควรที่ไม่มีใครรักอย่างนั้นหรือ?”
“เสี่ยวหลาน ถ้าหลานหมายถึงการแต่งงานของบ้านฝาน น้าเขยกับน้าหลานทำไปเพื่อให้หลานได้มีชีวิตที่ดี หลานนี่ก็นิสัยระห่ำเหลือเกิน ฟังน้องหลานพูดเพียงไม่กี่คำ ยังไม่ทันฟังหมดเสียด้วยซ้ำ...”
“ฉันฟังครบถ้วนแล้ว ฝานเจิ้นชวนจากเขตเหอตงใช่ไหม เป็บุคคลใหญ่โตในเขตเหอตงของพวกน้า ถ้าเกาะเขาได้ ม้านั่งเย็น [1] ที่น้าเขยนั่งอยู่คงได้ขยับตำแหน่งบ้างสินะ? ฉันคิดว่าพวกน้าคงฟังภาษาคนไม่รู้เื่ และไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ด้วยซ้ำ ฉันจะไม่แต่งงานกับฝานเจิ้นชวน จะอธิบายกับบ้านฝานอย่างไรมันเป็ธุระของพวกน้า เมื่อฉันคนนี้คลั่งขึ้นมาจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น อย่าว่าแต่ลูกพี่ลูกน้อง ต่อให้เป็น้องสาวแม่เดียวกันฉันก็ลงมือได้!”
เหลียงปิ่งอันมีสีหน้าดูไม่ได้
เขาเป็รองหัวหน้าหน่วยงานที่ไม่ถูกให้ความสำคัญ แต่เมื่อสถานะของข้าราชการรัฐไปยังชนบท คนชนบทคนไหนจะกล้าไม่เคารพนนบนอบเขา
เซี่ยเสี่ยวหลานพูดว่าเขานั่งม้านั่งเย็น ทิ่มแทงความทะนงตนของเหลียงปิ่งอันเข้าอย่างจัง
“เสี่ยวหลาน เธอวางมีดลงก่อน...”
หลิวฟางกลัวเซี่ยเสี่ยวหลานจะคุมอารมณ์ไม่อยู่จนพลั้งมือแทงเหลียงฮวนตาย เมื่อถึงเวลานั้นแม้จะด่าทอสาปแช่งเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างไร นั่นก็กอบกู้ชีวิตเหลียงฮวนกลับคืนมาไม่ได้
เซี่ยเสี่ยวหลานหมุนคมมีด “ทำไม พวกน้ากล้าทำไม่กล้ายอมรับหรือ? ทำสัญญาอะไรลับหลังฉันกับบ้านฝาน จับฉันใส่ห่อส่งให้ผู้ชายแก่คนหนึ่ง พวกน้าน่ะไร้ยางอาย ฉันอับอายด้วยซ้ำที่จะยอมรับว่ามีญาติแบบพวกน้า! จะผลักฉันลงนรกไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นฉันจะแทงเหลียงฮวนให้ตายก่อน ค่อยคิดบัญชีกับพวกน้า! ฆ่าคนเดียวก็คุ้มทุนแล้ว ฆ่าสองคนถือว่าได้กำไรด้วย!”
ใจของหลิวฟางราวกับถูกบีบรวมกันเป็ก้อน
ไม่แต่งงานหรือ?
ทำไมบอกว่าไม่แต่งเอาตอนนี้?
หากเซี่ยเสี่ยวหลานไม่แต่งงาน คนแรกที่ฝานเจิ้นชวนจะจัดการก็คือบ้านเหลียงน่ะสิ
แค่คิดถึงวิธีการของฝานเจิ้นชวน หลิวฟางก็ขวัญหนีดีฝ่อแล้ว
เหลียงปิ่งอันค่อยๆ สงบจิตใจ “พูดอย่างอื่นไปก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้หลานฟังไม่เข้าหูหรอก ถ้าอย่างนั้นอาจะบอกสิ่งที่หลานอยากฟังแล้วกัน ฝานเจิ้นชวนถูกใจหลานเอง หลานไม่อยากแต่งกับเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ต่อให้หลานฆ่าตัวตาย บ้านฝานจะแบกศพหลานเข้าบ้านอยู่ดี”
สาเหตุที่ตระกูลฝานมีอิทธิพลเด็ดขาดในเขตเหอตง นั่นก็เป็เพราะความเผด็จการไร้ปรานีของตระกูลฝาน
ฝานเจิ้นชวนรักษาคำพูดเสมอมา เมื่อเขาจะแต่งงานในเดือนพฤษภาคม บางทีผู้คนที่จะร่วมดื่มสุรามงคลล้วนได้รับคำเชิญแล้ว
แม้เ้าสาวพูดว่าไม่แต่ง ฝานเจิ้นชวนก็จะหาทางจับมัดเข้าพิธีให้ได้
เหลียงปิ่งอันเด็ดขาดเหมือนฝานเจิ้นชวนไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องอาศัยฝานเจิ้นชวนช่วยสนับสนุนเขา ไม่ใช่เขาสนับสนุนฝานเจิ้นชวน
“หลานเป็คนฉลาด น้าเจอหลานตอนก่อนตรุษจีนก็รู้ได้เลย ถ้าฮวนฮวนฉลาดเท่าหลานขนาดนี้ น้าก็ยกเธอให้แต่งงานเข้าบ้านฝานไปแล้ว... ตอนนี้หลานเกลียดชังพวกเรา อีกหน่อยจะขอบคุณพวกน้าสองคนแน่นอน!”
เหตุผลของเหลียงปิ่งอันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งรับและโจมตีพร้อมกัน ทั้งอธิบายนิสัยใจคอของฝานเจิ้นชวนและวาดภาพฝันสวยงามให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลาน
หากเป็คนอื่นอาจถูกก่อกวนความคิด แต่เซี่ยเสี่ยวหลานคือคนใจเด็ด
“เช่นนั้นฉันฆ่าเหลียงฮวนดีกว่า ดึงเธอลงนรกไปด้วยกัน ให้พวกน้านึกถึงเมื่อไรเ็ปเสียใจเมื่อนั้น เพิ่งเลี้ยงดูลูกสาวคนนี้ได้ถึงอายุสิบกว่า ก็ต้องตายเพราะพวกน้าสองคน!”
เซี่ยเสี่ยวหลานลงน้ำหนักมือจนคมมีดแทงทะลุิัของเหลียงฮวน
เืสีแดงเข้มไหลลงตามคมมีด หลิวฟางเข่าอ่อน เธอคุกเข่ากับพื้นเรียบร้อย
“เสี่ยวหลาน ลูกน้าเป็น้องสาวเธอนะ... น้าผิดไปแล้ว เธอไม่แต่ง เธอไม่แต่ง!”
หากรู้ว่าจะเป็เช่นนี้ั้แ่แรก เซี่ยเสี่ยวหลานรักจะแต่งงานกับหมูกับหมา เธอก็ไม่ควรจุ้นจ้านเื่นี้เลย!
ตำแหน่งของเหล่าเหลียงเลื่อนขั้นก็สำคัญสู้ชีวิตของเหลียงฮวนไม่ได้ เป็ถึงรองหัวหน้าแล้ว ชีวิตครอบครัวก็ยังคงสามารถดำเนินต่อไปไหว แต่ลูกสาวมีเพียงหนึ่งเดียวนี่นา! เหลียงฮวนคือยอดดวงใจของหลิวฟาง เธออยากให้เซี่ยเสี่ยวหลานแทงเธอเพื่อปล่อยเหลียงฮวนไปเหลือเกิน!
“น้าผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ ! เธอปล่อยฮวนฮวนเถอะ พี่รอง ฉันขอร้องพี่นะ พี่ช่วยฉันพูดที!”
เชิงอรรถ
[1]冷板凳 ม้านั่งเย็น หมายถึง หน้าที่การงานที่ไม่ถูกให้สำคัญหรือการถูกเพิกเฉย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้