ใบหน้าของหลิวต้าฟู่เป็สีดำเหมือนก้นหม้อ
“รู้สิ แต่พี่ชายเ้าจะยุ่งเื่ในบ้านข้าได้หรือ? ข้าจะสั่งสอนเ้าเอง เ้ามันผู้หญิงปีศาจจิตใจอำมหิต กล้ามีความคิดร้ายต่อผู้คนเช่นนี้ คิดทำร้ายลูกชายข้า ลูกสะใภ้ แล้วก็หลานสาวข้า”
หลิวต้าฟู่ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห แล้วก็ฟาดลงไปอีกทีสองที ยิ่งตีก็ยิ่งห้ามมือตัวเองไม่ได้...
เพี๊ยะ! เสียงตบเข้าที่แก้มด้านขวา
หลิวเต้าเซียงมองไปที่ใบหน้าของหลิวฉีซื่อที่ดูเหมือนอ้วนขึ้นมา ยิ่งรู้สึกเสียวไส้แทน
หลิวต้าฟู่เป็เกษตรกรของจริง ฝ่ามือจึงมีพละกำลังไม่น้อย
ในขณะนั้นแก้มด้านซ้ายขวาของหลิวฉีซื่อก็บวมเป่งออกมา
ว่ากันว่า ตบตีได้แต่ห้ามโดนใบหน้า
คราวนี้หลิวฉีซื่อเกิดบ้าคลั่งขึ้นมาของจริง
นางกางนิ้วมือที่มีเล็บยาวแล้วพุ่งไปข่วนเข้าที่ใบหน้าของหลิวเต้าฟู่เต็มแรง
ท่าทางดุร้ายนั้นทำเอาหลิวเต้าเซียงหวาดหวั่นใจชอบกล
“ท่านพ่อ ท่านแม่ เลิกตีกันได้แล้ว”
หลิวเสี่ยวหลันใกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อได้สติอีกทีก็เห็นทั้งสองคนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแล้ว
“ฮือๆ พี่สาม รีบเข้าไปห้ามท่านพ่อกับท่านแม่สิ พี่สาม ฮือๆ อย่าให้ท่านพ่อตีท่านแม่เลย”
ในขณะที่หลิวฉีซื่อกําลังต่อสู้กับหลิวต้าฟู่ นางก็ยังมีเวลาคิดว่าสุดท้ายบุตรสาวของนางก็รักนางมากที่สุด เพราะหัวใจเอนเอียงให้นาง
หลิวเต้าเซียงกะพริบตา เหยียดมือเล็กๆ ออกไปดึงแขนเสื้อของจางกุ้ยฮัวเบาๆ และกระซิบ “ท่านแม่ เราช่วยดึงท่านย่าออกมาเถิด ท่านปู่กำลังโมโห อย่าให้ตีท่านย่าต่อเลย”
จางกุ้ยฮัวได้ยินก็มีรอยยิ้มเผยออกมาจากแววตา จะว่าไปเื่การเข้าข้างฝั่งใดฝั่งหนึ่งเวลาทะเลาะกัน นางก็ชื่นชอบพอสมควร
ดังนั้นนางจึงผลักหลิวซานกุ้ยเล็กน้อยและพูดว่า “โอ้ ท่านพ่อโกรธจริงๆ แล้ว ซานกุ้ยรีบช่วยดึงท่านแม่ออกมาก่อน ท่านพ่อทำไร่นาจนเคยชิน แรงเยอะเหลือเกิน”
หลิวฉีซื่อและหลิวต้าฟู่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
จางกุ้ยฮัวะโว่า “ท่านพ่อ เลิกตีเถิด ท่านแม่จะาเ็ได้” ขณะนั้นหลิวฉีซื่ออยู่ใกล้คู่สามีภรรยาหลิวซานกุ้ยพอดี จางกุ้ยฮัวจึงยื่นมือไปช่วยดึงหลิวฉีซื่อออกมา
หลิวเต้าเซียงฉุกคิดได้ เลยหันไปะโให้หลิววั่งกุ้ย “อาสี่ ยังไม่รีบมาดึงท่านปู่กับท่านย่าอีก อย่าให้ทั้งสองตีกัน”
หลิวซานกุ้ยช้ากว่าจางกุ้ยฮัว เมื่อได้ยินคําพูดของบุตรสาวคนรอง เขาจึงไปดึงมารดาโดยไม่รู้ตัว
เพียงแค่ชั่วขณะนั้น หลิวฉีซื่อจากที่เป็ฝ่ายรุกก็กลายเป็ฝ่ายรับทันที
หลิวต้าฟู่กำลังอยู่ใน่ไฟโมโหครอบงำ อาศัยจังหวะที่หลิวฉีซื่อถูกทั้งสองจับแขนไว้ ง้างมือตบไปที่นางอีกที
เสียงดังฟังชัดยิ่งนัก หลิวเต้าเซียงแอบเหลือบมองใบหน้าด้านซ้ายของหลิวฉีซื่อที่บวมแล้วบวมอีก หืม ปู่ของนางใช้แรงเต็มกำลัง ไม่แ่แม้แต่นิดเดียว
หลิวซานกุ้ยมองมารดาด้วยความผิดหวังปนสงสาร
ส่วนจางกุ้ยฮัวและบุตรสาวทั้งสองกลับรู้สึกสาแก่ใจยิ่งนัก!
ทั้งสามคนอารมณ์ดีมาก!
หลิวฉีซื่อรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ใบหน้าด้านซ้ายของนาง ถัดจากนั้นก็รู้สึกถึงคาวเืในปากจึงพ่นน้ำลายปนเืออกมา นางโมโหจนดวงตาแดงก่ำ แล้วออกแรงสะบัดแขนของจางกุ้ยฮัวกับหลิวซานกุ้ยออก
ในขณะนี้หลิววั่งกุ้ยบัณฑิตผู้อ่อนแอจึงค่อยๆ เขยิบมาข้างกายหลิวต้าฟู่ แล้วเอ่ยโน้มน้าว “ท่านพ่อ ท่านแม่าเ็แล้ว ท่านพ่อได้โปรดอย่าเคืองโกรธ!”
หลิวเต้าเซียงพยายามอดกลั้นอารมณ์ขัน หลิววั่งกุ้ยห้ามปรามศึกไม่เก่งเอาเสียเลย
เมื่อหลิวต้าฟู่สั่งสอนหลิวฉีซื่ออย่างเต็มกำลังเสร็จแล้ว หลิววั่งกุ้ยถึงกล้าเดินเข้ามา
เมื่อมองไปที่หลิวต้าฟู่อีกครั้ง ใบหน้าชราของเขาเต็มไปด้วยรอยเล็บข่วนที่มีเืไหลซิบ ดูอย่างไรก็รู้สึกถึงสภาพอันยับเยิน
“ฮือๆ ไอ้แก่ไม่ตายดี ข้าจะขอหย่ากับเ้า!” หนนี้หลิวฉีซื่อเกลียดหลิวต้าฟู่เข้าไส้แล้ว “ั้แ่ข้าเกิดมา พ่อแม่ข้ายังไม่เคยแตะต้องข้าแม้แต่ปลายนิ้ว เ้าคิดว่าตนเองเป็ใคร กินก็กินของข้า ใส่ก็ใส่ของข้า อาศัยกับข้า แล้วยังทำเช่นนี้กับข้า หลิวต้าฟู่ เ้ามันหน้าไม่อายเกินไปแล้ว”
หลิวต้าฟู่หันกลับไปจ้องเขม็งที่หลิวฉีซื่อ “ไม่มีใครบอกให้เ้าเอาสินเ้าสาวมา ข้าเองก็ไม่เคยใช้เงินสินเ้าสาวของเ้า แต่เ้าใช้ชีวิตลำบากไม่ได้เอง”
ทันใดนั้นหลิวฉีซื่อก็โหยหวน นางนั่งอยู่บนเก้าอี้ ตบโต๊ะน้ำชาข้างๆ แล้วโอดครวญ “์ เหตุใดชีวิตข้าจึงทรมานเยี่ยงนี้ ตอนนั้นข้าอยู่ในวัยดอกไม้แรกแย้ม กลับต้องมาแต่งกับเ้าหน้าเหม็นงี่เง่านี่ เท่านั้นยังไม่พอ เ้าบ้าเฮงซวยยังอยู่ดีไม่ว่าดี ไม่เพียงแต่ไม่ซาบซึ้ง แล้วยังรังแกข้าสารพัด ฮือๆ ข้าไม่ขออยู่ต่อแล้ว”
นางร้องไห้เสียงดังมากและบอกว่าอยากตาย แต่เมื่อนางแอบมองลอดจากผ้าเช็ดหน้า นอกจากหลิวเสี่ยวหลันที่ร้อนใจ คนอื่นๆ ก็ยืนอยู่ที่เดิมและจ้องมองนางอย่างนั้น ไม่มีใครคิดจะเอื้อมมือเข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด
เมื่อนางเห็นเช่นนี้ ยิ่งเปล่งเสียงร้องไห้โศกเศร้าที่หนักกว่าเดิม
“อยากตายก็กลับไปตายบ้านตระกูลฉี ข้า หลิวต้าฟู่ ไม่ได้บังคับให้เ้าไปตาย สาเหตุที่ต้องสั่งสอนเ้าก็เพราะว่าเ้านั้นอำมหิตเกินไป เพียงเพื่อเงินทอง กระทั่งกล้าลงมือกับลูกชายและลูกสะใภ้ตนเอง”
หลิวฉีซื่อได้ยินดังนั้นหางตาก็เผยความเ็า จากนั้นมองครอบครัวหลิวซานกุ้ยตาขวาง แล้วถ่มน้ำลายเต็มแรง บอกว่าหลิวต้าฟู่นั้นโหดร้าย ทุบตีนางอย่างไม่ไว้หน้า นางจึงเอื้อมมือออกไปกอดหลิวเสี่ยวหลัน “ลูกแม่ ข้าไม่อาจทนอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว ฮือๆ แม้ว่าข้าจะเป็สาวรับใช้ที่ออกมาจากจวนตระกูลใหญ่ แต่นับแต่เยาว์วัยข้าก็ใช้ชีวิตที่มีแต่คนประคบประหงมมาตลอด ในบ้านไม่เคยขัดสนเื่เงิน ใครจะรู้ว่าพ่อเ้าที่ไม่เอาไหน นอกจากทำไร่ทำนา ก็ไม่อาจทำอะไรได้เป็ชิ้นเป็อัน ไม่มีปัญญาหาเงินได้ ฮือๆ!”
หลิวเต้าเซียงสงสัยว่าพี่ชายของหลิวฉีซื่อคงไม่ใช่คนดีอะไร แม้รู้ว่าบิดาของตนจะให้น้องสาวแท้ๆ ออกเรือนมายังขุนเขากันดารแห่งนี้ แต่กลับไม่ห้ามปราม คงอยากให้หลิวฉีซื่อแต่งมาอยู่ในที่ไกลๆ นั่นเอง?!
นิสัยของหลิวฉีซื่อไม่ดี เดาว่าคงไม่เป็ที่ชื่นชอบของพี่สะใภ้เท่าไร
ก่อนหน้านี้หลิวต้าฟู่มีไฟสุมอก แต่หลังจากได้สั่งสอนหลิวฉีซื่อไป อารมณ์ก็ดีขึ้น เมื่อได้ยินหลิวฉีซื่อยกเอาเื่หย่าร้างมาพูด ไฟในใจก็เริ่มปะทุอีกครั้ง เขาตวาด “หลิวฉีซื่อ ข้าจะบอกเ้าให้ ทางที่ดีใช้ชีวิตให้สงบ หากเ้า้าหย่าจริง ข้าก็จะไม่ขวางเ้า แต่ข้าจะบอกให้เ้ารู้ชัดเจน ลูกชายลูกสาวแซ่หลิว คือรากเหง้าของตระกูลหลิว เ้าอย่าได้คิดจะพาไปแม้แต่คนเดียว ฮึ ข้าไม่เชื่อลูกไม้นี้อีกแล้ว หากเ้า้าหย่าจริง วันรุ่งขึ้นเราก็ไปทำเื่หย่าที่อำเภอให้รู้แล้วรู้รอด นับจากนี้ เ้ากับข้าไม่ข้องเกี่ยวกัน สินเ้าสาวของเ้าอยากทำอะไรก็ทำ ตามใจเ้า”
หลิวเต้าเซียงมองไปที่ดวงตาของหลิวต้าฟู่ที่ดูไม่เหมือนทุกครั้ง นางมั่นใจว่าเขาไม่เคยคิดอยากสู่ขอภรรยาที่มีเงินคนนี้มาก่อน ในสายตาเขา สามีภรรยาควรจะร่วมทุกข์ร่วมสุข หาเช้ากินค่ำ ข้าทำนาเ้าทำอาหารอะไรเทือกนั้น
ชีวิตที่ธรรมดาและอบอุ่น ไม่ใช่การต้องมาเผชิญหน้ากับเสียงกรีดร้องและก่อเื่ของหลิวฉีซื่อทุกวันอย่างปวดศีรษะ!
หลิวเต้าเซียงเห็นอกเห็นใจหลิวต้าฟู่ที่มีชีวิตอยู่บนความทุกข์ทรมานใจ
“ท่านปู่ หลานรินน้ำให้ดื่ม ท่านนั่งลงให้คลายโมโหก่อน ท่านย่าเพียงแค่พูดด้วยอารมณ์ ไม่ได้คิดจริงหรอก!”
ขณะที่หลิวเต้าเซียงรินน้ำก็ส่งสายตาให้จางกุ้ยฮัว
ลำพังเด็กสาวตัวน้อยคงพูดอะไรมากไม่ได้ จึงต้องขอความช่วยเหลือจากมารดา
จางกุ้ยฮัวได้รับสัญญาณจากบุตรสาว จึงเอื้อมมือออกมาเกี่ยวผมที่สยายมาปรกหน้าไปทัดที่ด้านหลังใบหูอย่างระมัดระวัง
“ท่านพ่อ เต้าเซียงพูดถูก ท่านอย่าโมโหจนทำให้ร่างกายไม่สบาย อีกอย่าง ท่านแม่ก็อยู่บ้านเรามาหลายสิบปี ลูกชายพี่ใหญ่ก็ใกล้จะหมั้นหมายได้แล้ว ท่านว่านึกจะหย่าก็หย่าได้เลยอย่างนั้นหรือ”
ในความเป็จริงจางกุ้ยฮัวอยากให้ทั้งสองหย่ากัน แต่ทำได้เพียงแค่คิด หากทั้งสองหย่ากันจริง นางคงต้องกังวลเื่การหมั้นหมายของบุตรสาวทั้งสามในอนาคตอีกไม่ใช่หรือ?
มีข่าวผู้าุโหย่าร้างกันคงไม่ดีแน่
จางกุ้ยฮัวหันไปพูดกับหลิววั่งกุ้ย “น้องสี่ เ้าเองก็ช่วยเกลี้ยกล่อมท่านแม่หน่อยเถิด ยามปกติท่านแม่เอ็นดูเ้าที่สุดแล้ว”
หลิวเต้าเซียงเผยรอยยิ้มผ่านดวงตา ตามคาด มารดาของนางเองก็ยังคับแค้นใจอยู่ ส่วนปู่ก็คงคิดว่าสั่งสอนย่าไปคงจบเื่
สายตาของนางขยับจากหลิววั่งกุ้ยไปที่ใบหน้าของหลิวเสี่ยวหลัน เป็ไปตามคาดอีกเช่นกัน ใบหน้าของนางดูไม่ชอบใจนัก เห็นทีหลิวเสี่ยวหลันคงเกิดความบาดหมางเล็กๆ ต่อพี่ชายสี่เสียแล้ว
หลิววั่งกุ้ยไม่ได้มีไหวพริบเื่การแก่งแย่งชิงดีในบ้าน อีกทั้งเขาอายุยังน้อย ขณะนี้ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว และรู้สึกว่าจางกุ้ยฮัวพูดมีเหตุผล “ท่านแม่ ท่านอย่าเอะอะก็พูดว่าจะขอหย่าสิขอรับ เกิดพูดไปแล้วท่านพ่ออาจจะทำจริงก็เป็ได้ อีกอย่าง ท่านลองคิดดู แม้ว่าท่านจะหย่าร้างแล้วนำสินเ้าสาวไปด้วย แต่ท่านลุงกับท่านป้าจะดีใจหรือ? ยังไม่ต้องเอ่ยถึงเื่สินเ้าสาว หากหย่าแล้วท่านจะไปอาศัยอยู่ที่ใด? แน่นอนว่าคงไม่มีทางอยู่ที่นี่ได้อีก จะไปจวนตระกูลหวงหรือ? ที่นั่นมีเพียงบ้านท่านลุง พักชั่วคราวคงได้ แต่ระยะยาว ท่านป้าจะชอบใจหรือ? อีกทั้ง หากท่านแม่หย่าร้างกับท่านพ่อจริง ท่านป้าคงเกลียดท่านแม่ยิ่งนัก ท่านแม่อย่าลืมว่า ลูกพี่ลูกน้องที่เป็ลูกของท่านป้าก็กำลังจะถึง่หมั้นหมายแล้ว”
พี่สะใภ้ของหลิวฉีซื่อเป็หญิงสาวที่คลอดลูกเก่ง อึดใจเดียวก็คลอดลูกให้แก่ตระกูลฉีทั้งหมดชายสี่หญิงสาม ลูกชายสองคนและลูกสาวข้างบนต่างก็แต่งงานแล้ว ยังเหลือชายสองหญิงสองที่ยังไม่ได้แต่ง
หลิววั่งกุ้ยพูดอย่างตรงไปตรงมาไม่มีอ้อมค้อมใดๆ
หากหลิวฉีซื่อหย่าจริง ฝั่งมารดาคงไม่มีทางมีพื้นที่ให้นาง เหตุผลข้อหนึ่งคือทำลายชื่อเสียงของตระกูล ข้อสองคือ ในมือของหลิวฉีซื่อมีสินเ้าสาวอยู่ก้อนหนึ่ง เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านป้าจะมุ่งเป้ามาที่ทรัพย์สินเ่าั้หรือไม่
“ฮือๆ เช่นนี้ก็ไม่ได้ เช่นนั้นก็ไม่ได้ ข้าขอตายไปยังดีเสียกว่า” หลิวฉีซื่อไม่พูดถึงเื่หย่าร้างอีก เพียงแต่โหยหวนหนักกว่าเดิม
หลิวต้าฟู่มองบุตรชายคนเล็กด้วยความประหลาดใจ แล้วคิดว่าถึงอย่างไรก็เป็คนมีการศึกษา พูดจาเก่งกว่าเขา จากที่ดู คำพูดเพียงไม่กี่คำก็ทำให้ภรรยาถอดใจได้แล้ว
ฮึ ตระกูลฉีหรือ? ตระกูลฉีในจวนตระกูลหวง จะถึงขั้นมาก้าวก่ายเื่ตระกูลของเขาอย่างนั้นเชียวหรือ?
“ร้องไห้ๆ คร่ำครวญหามารดาเ้าหรือ ช่างอัปมงคลจริง ข้ายังไม่ตาย ขืนยังร้องอีกข้าจะสั่งสอนเ้าอีกรอบ”
ทันใดนั้นหลิวต้าฟู่ก็พบว่าหาก้าให้ภรรยาเชื่อฟัง เขาต้องพึ่งพาการข่มขู่ด้วยกําปั้น
“ท่านแม่ ท่านพ่อ พวกท่านอย่าทะเลาะกันเลย” หลิวเสี่ยวหลันะโเสียงดังพร้อมกับสะอื้นไห้ กลัวจับจิตว่าหลิวต้าฟู่จะโมโหอีก
นางฉลาดกว่าหลิววั่งกุ้ยมากนัก เมื่อเห็นว่าบิดามารดาปฏิบัติตัวราวกับคู่แค้น จึงรีบหันหัวหอกไปทางสามแม่ลูกจางกุ้ยฮัว แล้วเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด “พวกเ้าสมควรตาย ท่านแม่ข้าเกิดในตระกูลหวง เทียบกับพวกเ้าแล้วสูงส่งกว่ามากนัก พวกเ้ากล้ายั่วยุให้ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าทะเลาะกัน ทำให้ท่านพ่อเคืองโกรธ นี่คือสิ่งที่พวกเ้าก่อขึ้น ไสหัวออกไปจากบ้านพวกข้าเดี๋ยวนี้”
อันที่จริงหลิวเสี่ยวหลันอยากกระโจนเข้าไปตบตีสองพี่น้องสักที เพื่อพิสูจน์ต่อหน้าท่านแม่ว่า นางคือบุตรสาวที่อยู่ข้างมารดา ทำให้หลิวฉีซื่อรู้สึกว่าไม่เสียแรงที่รักใคร่เอ็นดูนาง
-----
